ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ

~ แตกใจความมหาเสน่ห์ ~

[คัดลอกลิงก์]
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 08:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มหานิยมที่ผมเคยเจอ คือโด่ดเด่นแล้วเป็นเป้ามหาเสน่ห์ของสาวๆครับ แต่ปัญหาคือเพศเดียวกันมันจะหมั่นไส้เอา ไม่รู้ขาดตกบกพร่องอะไรไปหรือเปล่า จึงออกมาอิหรอบนั้น

ถูกต้องครับแสดงว่ามีคนเข้าใจ คือจริตธรรมชาติของสังคมเพศหญิงกับมหานิยมจะเป็นอย่างนี้ สังเกตุอาการเวลาเขาเจอดารานักร้อง เอาย้อนอดีตเลยนะอย่างสมัยเอววิสเพสลี้เลยไปดูยูถูปจะรู้ และที่เพศเดียวกันหมั่นไส้ต้องเข้าใจนะว่าเขาไม่เข้าใจว่าไอ้หมอนี่เป็นใครว่ะไม่เห็นจะวิเศษกว่าเขาตรงไหน และแถมเป็นความปกติที่คนต้องอิจฉาแม้เราจะเป็นดาราก็ตาม ผมถึงมีแต่งองค์เป็นอย่างน้อยให้ดูเหมาะแก่ผล ระวังครับเพราะจะเจ็บตัวหรือวุ่นวาย เล่นแล้วห้ามมีบุคคลที่สามเฝ้ามอง ตรงนี้แก้ไม่เป็นได้แค่ระวังให้ดี เอางี้ไหมมาช่วยกันคิดว่าอะไรที่จำเป็นหรือขาดหายแล้วมาประมวลกัน
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 09:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ทำให้ผมต้องพิจารณาสาระลึกขึ้นไปอีกด้วยความเหมาะสมของขั้นต่อไปคล้ายหลวงปู่มาสะกิดไว้ ขืนถ่ายทอดตามน้ำใจโดดๆจะไม่ดีแน่ ไม่ต้องสงสัยกันครับว่าอะไรแต่ผมพอเข้าใจ
อันนี่นะลือแบบพิเศษหน่อยคือมีต่อจากทั่วไป มีคำต่างๆที่ให้ความกระจ่างในการวางจิตจะเป็นตัวเสริมขึ้นไปอีกนอกเหนือความศักดิ์สิทธิ์ที่ได้อยู่แล้วเมื่อเล่นขึ้น เช่นลือ ลั่น สนั่นโลกา ชื่นชมภิรมย์หรรษา มหานิยม นี่ถือว่าครบซะไม่รู้คิดกันมาได้ไง ชื่นชมนี่ก็เป็นอาการที่ดีมากๆเลยมีภิรมย์หรรษาอีกแถมตบท้ายตรงๆมหานิยมอีกเห็นว่าพิเศษจึงลงเพราะถ้าพิจารณาก็จะเห็นว่าสุดของเขาเหมือนกันและจะทำให้วางจิตได้ชัดแจ่มๆจะเน่นอย่างนึงคือประโยชน์ของลือนี่แนวโฆษณาแล้วถือว่าดีมาก
ทำให้เล่าปากต่อปากคุยกันได้อรรถรสทั้งระหว่างคนรู้จักเราในกลุ่มหรือแตกออกไปนอกกลุ่ม ถ้าค่าขายก็มาแล้วต้องบอกต่อเพราะเฉยไม่ได้ร้านจะแย่จะห่วยก็ชอบมา แต่มหานิยมนี่โดดๆเคยสวดให้ร้านๆนึงครับ สวดที่บ้านแล้วไปดูผล สังเกตุได้ว่ามากันจัง คุยให้จ้อแต่ดันไม่ซื้อซะส่วนใหญ่มีคนมาไม่ซื้อแต่ไม่เหงาไงแต่ไม่เป็นทุกคน มหาเสน่ห์ก็อาจจะเหมือนกันยกเว้นซื้อแก้เขินกันดูน่าเกลียด ลือนี่คล้ายแต่ออกไปทางชวนกันแบบน่ามานะจะซื้อไม่ซื้อก็มีคนมา ดูนู้นดูนี่วันหลังจะซื้อก็มาเอง
ได้มาแล้วอดบอกต่อไม่ได้ด้วยฤา ส่วนดีคือไม่เหงาให้เซ็ง
เอาเคล็ดได้พลังงานคนเข้าออกพลังงานนี่สำคัญทำให้มีเสน่ห์ดึงดูดคน ส่วนที่ชัดที่สุดคือถ้าอยู่ที่ๆขายของชนิดเดียวกันทั้งแถบ คนทีจะมาซื้อมากมายก็มาที่เรา แต่ร้านทั่วไปก็ใช่ได้เช่นทำเลไม่ดีแต่ที่เหลือทำให้ดีเข้าไว้แล้วมานั่งท่องยามสะดวกประกอบสมาธิแล้วแผ่เมตตา รับรองว่าจะเห็นเองแต่จะสะดวกทำหรือเปล่าแค่นั้นส่วนมากสวดเสริมของดีกันแค่นั้นครับ
คือว่ากันด้วยการสวดเสริมถูกเหตุ ไม่ใช่การสร้างของเพราะการสร้างของจะว่าด้วยของเสริมวิชาวิชาเสริมของจิปาถะ

อิติปิโสภะคะวา ฦาชาติโลกะมะหิตัง ฦาชาติกุเรยยะสัญจะ ฦาโสภัคคัญจะ สะรีรัง ฦาธัมมะเทสะนังวะรัง ฦามะหันตังนะมามิหัง นะฦา โมลั่น พุทสนั่นทั่วโลกา ธาชื่นชมภิรมย์หรรษา ยะมหานิยม อิติปิโสภะคะวาปะนะ ฦาฦา
แปลกครับ คอมมีปัญหาตลอดหลังจากโพสเรื่องนี้ บอกกันไว้เฉยๆอาจจะเป็นสิ่งที่ผมไว้คุยกับหลวงปู่ก็ได้แต่ผมดันมาเผย จริงๆแล้วมีต่ออีกแต่ขึ้นอยู่กับความสมควรผมไ่ม่หวงแต่ต้องคิดให้ละเอียดมากๆ ถามมาได้ ออกความคิดเห็นมาได้ เราเปิดรับ(จอมพระ)ขอเน้นว่าถ้างงถามมาได้ไม่จำกัด เปิดอกตอบไปเลย
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 09:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เอาเืรื่องอานุภาพคาถาพระปััจเจกก่อนนะครับแล้วอาจจะมีรายละเอียดความเป็นมา บทนี้เมื่อเล่นขึ้นผมค้นพบอย่างนึงนะ คือสามารถทำให้เจอเพศตรงข้ามที่นำมาซึ่งความเจริญต่อยอดอีก ตอนแรกที่ผมค้นพบข้อนี้ก็ได้สอนน้องคนนึงที่เชื่อทางนี้และมีปัญหาส่วนตัวเพิ่งเลิกกับแฟน เขาว่าวิธีเดียวที่จะทำให้ทำใจได้คือมีอะไรมาทดแทน ผมฟังแล้วถือว่าแปลกและดีจึงสอนให้ และได้ผลจริงมากจึงนำมาบอกต่อให้เป็นความรู้ เคล็ดก็แค่ถือศีลห้าให้มั่น ที่เหลือคือมีกิจประจำากับการสวดคาถานี้เสมอไม่ว่ามีอะไรก็ถือบทนี้เป็นพื้น ส่วนบทอื่นแทรกได้และชัดขึ้นด้วย ทว่าถ้าแทรกแนวเสน่ห์เงินอาจจะหดลงเพราะเพศตรงข้ามคือลาภอย่างนึงครับ ถ้าเน้นลาภโดยบทนี้ลาภมาสองอย่าง การเงิน  และคู่สร้างทรัพย์  แต่รายละเอียดแล้วแต่คน เอาแค่นี้ก่อนครับ
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 09:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ผมเคยคุยเรื่องนี้กับอาจารย์สรายุทธแต่มีผมจำได้คนเดียวคือคือตอนจะสร้างขุนแผนนาคเกี้ยวหลวงปู่บอกว่าท่านจะเอามนต์จินดามณีใหญ่เสกด้วย แค่่นั้นที่ผมจำได้จนขณะบวชผมได้หยิบยกเรื่องนี้มาถามขณะท่านปูเสื่อนั่งริมสระสบายอารมณ์ ท่านได้้บอกบทนี้และผมจำได้ว่ามีในตำราหนังสือจึงไม่ได้ใคร่จะเห็นความสำคัญ ขนาดมองข้ามไปเลยเพราะอะไรที่มีอยู่ในตำราทั่วไปผมจะคิดว่าใกล้ตัวไปเห็นง่ายเอาแปลกๆดีกว่าแต่พอมาตรวจสอบก็มีท่อนอื่นๆแปลกตาไปอีกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่สิ่งนึงที่ท่านเน้นคือท่านว่ามนต์นี้แก้ขัดข้องขัดสนจนใจคือเอาไว้ใช้แก้ลำบากในโลกคนเรานี้ เมตตามีเสน่ห์ได้ฯลฯนะท่านว่าทำใจให้แจ่มใสยิ้มได้อย่าเกลียดอย่าโกรธรอบๆแจ่มใสและใจสนุกบันเทิง
ผมว่าเหมือนเงาะป่าทัดดอกชบาใช่ไหมครับ ท่านมองแล้วว่าไม่รู้หรอก
จากวันนั้นถึงจะมาเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ โดยมีข้อมูลจากคศชเป็นพื้นให้ผมสงสัยมาตั้งนาน
เช่นเรื่องอานุภาพที่ทำให้อะไรๆลงตัวสบายหัวใจตามที่จะเป็นได้ในแต่ละท่าน
ผมลองฝึกจิตอารมณ์แบบนั้นในสมาธิและได้พบความแปลกคือเย็นในอกในท้องคล้ายเอาแป้งตรางูหรือยาหม่องมาทาแต่เป็็็นมาจากข้างในและคล้ายๆจะจั๊กกะจี๋ด้วย
จึงเริ่มฝึกอารมณ์นี้จดจำไว้เพราะมีผลในภาพกว้างๆนอกเหนือที่ผ่านมาทั้งหมด
ช่วงสั้นๆที่ลองก็เจอจริงๆ(เรียกว่าสารพัดนึก) เบาใจ ผมว่านี่คือเคล็ดการใช้มนต์จินดามณีทุกบท(จึงออกฤิทธ์เต็มที่) เมื่อสิ่งใดจำเป็นที่จะต้องได้จะได้คือไม่มีโลภนักแต่รู้ชัััััััดว่าจำเป็นและอาศัยมนต์นี้้้้้ประกอบกับสมาธิแนวนี้โดยชำนาญ คุณก็จะเห็นเองใครทำได้ทั้งวันจรดคืนประจำผมว่ามหาปาฏิหารย์แน่ๆ ครับพูดๆนี่ก็บทนี้นะจะบทใหญ่บทเล็กเป็นแค่ชื่อครับ
มนต์จินดามณีใหญ่
มณีจินดา ปิยังปันจะธะนังยะสังทาสีทาสา โกมังปะสันติทิดสะวา มาตาปุตตังวะโอระสา สัพเพชะนาพาหุชะนามะหาจินดา เอหิพุทธังปิโยเทวะมนุสสานังมะหาจินดา  เอหิธัมมังปิโยพรัมมานะมุตตะโมมะหาจินดา  เอหิสังฆังปิโยนาคะสุปันนานังปิยินซียัง นะมามิหัง พุทโธโสภะคะวาธัมโมโสภะคะวาสังโฆโสภะคะวา อินทะเศรษฐัง(เศรษฐังอ่านว่าเสดถัง)พรัมมะเศรษฐัง  เทวะเศรษฐังอะสุราเศรษฐัง ราชาเทวี มณีรักขัง จิตตะมะระนังจิตตังมะมะ
อุปเท่ห์สารพัดใช้ อันนี้ยังเป็นคำตอบอีกที่ผมหาว่าเมื่อเจอคู่อริอิจฉาหมั่นไส้ขณะใช้มหาเสน่ห์ควรทำยังไง ผมว่าจินดามณีทุกบทเหมือนกันแม้ดูเพี้ยนคำก็ตาม เหตุจากจำปากต่อปาก(แต่ขลัง)สำคัญที่จิตชื่นบานไม่เกลียด อบอุ่นด้วยอารมณ์ที่เหมือนมีความรักเมื่อพ่อแม่อยู่กับเราในวัยเด็ก (อะไรประมาณนั้นแหละครับ)แต่เอาอารมณ์นั้นแปรเป็นทุกที่ทุกคนทุกเวลาที่เรามีแม้อะไรรอบๆตัวก็ต้องให้รู้สึกคงอยู่อย่างนั้น หนักเข้าก็นำมาใช้กับวัตถุที่ไม่มีชีวิตได้แล้วมันจะมาไม่ว่าเงินสมบัติ แปรปัญหาให้คลายเป็นประโยชน์หรือเพื่อนร่วมเดินทางแก้เหงา คนดูแลฯลฯ
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 09:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มาถึงตรงนี้จะขอเล่าอะไรเสริมกันซะหน่อยนะครับคือการเล่นคาถาหมวดนี้บ่อยครั้งจะมีจุดหนึ่งคือเราถูกสนใจมากถ้าดีก็ดีไปแต่จะมีคนพวกหนึ่งที่อาจจะน่ารำคาญไม่น้อยคือคล้ายรังควาญเราเหตุเพราะนิสัยเขาประกอบกับความถูกดึงดูดที่มาจากตัวเรา มีการอยู่ไม่สุขด้วยอาการต่างๆนาๆสำรวมยากและวุ่นวาย (คาถานะหน้าทองเมื่อเล่นถึงจุดหนึ่งจะมีฤิทธิ์ทางสุภาพชนจากฝ่ายตรงข้ามด้วยแม้เขาจะมีนิสัยหยาบๆกระด้างๆ) ผมเองได้คลุกคลีนำมาใช้ในสังคมทางนี้สารพัดหมวดหมู่เสมอ ไม่ใช่แค่หาคุณแต่หาจุดโหว่ด้วยเช่นกัน บางสถานการณ์เราจะเป็นคนอยู่จุดศูนย์กลางของกลุ่มชน เสน่ห์อาจเป็นเหตุให้กระตุ้นความเป็นลิงเป็นค่างความอิจฉาฯลฯชวนให้ใครบางคนออกอาการสร้างเรื่องได้ ผมได้เจอบทนึงที่เป็นเมตตามหาเสน่ห์และเป็นที่ย้ำเกรงในเวลาเดียวกัน โดยตอนแรกพยายามไขอุปเท่ห์นานมากจนมั่นใจ แต่พอนำมาใช้ยิ่งน่อัศจรรย์ใจกว่า คือเป็นเสน่ห์เป็นเมตตากับคนปกติคนสุภาพคนที่ไม่มีพิษภัยใดๆแต่กับคนกักขฬะที่แฝงโทษจะอ่อนน้อมหรือเงียบๆย้ำเกรง คือถ้าเอาคนต่างบุคลิคสองคนนี้มาคุยอยู่ตรงหน้าจะเห็นอานุภาพของคาถาบทนี้ที่ให้คุณคนละแบบในทีเดียวณ.วินาทีนั้นเลย และเมื่อลองนำไปใช้พูดกับคนรั้นๆในการสั่งงานแบบว่าเราไม่มีสิทธิอำนาจทางตำแหน่งแต่จำเป็นด้วยกรณี ฝ่ายตรงข้ามก็ฟังด้วยดี!!!!

คาถามหาวิเศษ(อิติปิโสมหาวิเศษ)
อิติปิโสภะคะวา  อิติมันตา สุขาวะหา
อิติปิโสภะคะวา  อิติพุทธะ สุขาวะหา  
อิติปิโสภะคภวา อิติ

บทนี้ถือเป็นแนวพิศดารบทหนึ่งที่ออกการคลุมรายละเอียดสูงมากในแต่ละกรณีแทนที่จะต้องเป็นไปในทางนั้นๆโดดๆแล้วคอยคุมเชิง ที่ผมเขียนมาในกระทู้นี้ทั้งหมดขอให้แยกแยะกันเอาเองตามความเหมาะสมความชอบใจคือโดนใจเพราะอะไรก็เอาแนวนั้น อ่านๆไปจะรู้ หรือถ้าจะเอาแบบรวมๆก็เอาเถิดแต่จำแนกโอกาสการใช้ให้ดี
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 12:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
จะมาแตกใจความพิศดารของ pheromonesมหาเสน่ห์ให้ฟัง
ใครรู้จัก pheromones เชิญเข้ามาอธิบายแทนข้าพเจ้าก่อนเป็นประเดิม
แล้วจะเริ่มเปิดเผยแนวทางของ sacred pheromones


ครับฟีโรโมนเป็นอะไรที่สัมผัสผ่านโพรงจมูกจะว่าเป็นกลิ่นก็ไม่ใช่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมสัมผัสมาตั้งแต่เด็กๆเหตุจากบ้านไม่มีผู้ชายมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมดมีแต่คนรักใคร่เพราะเป็นเด็กสิ่งหนึ่งที่ผมจดจำคือสัมผัสไอคล้ายกลิ่นที่ผมเรียกว่าสาปสาวนั้นเอง จำได้แม้ทุกวันนี้ก็ไม่ชอบคือรู้สึกอึดอัดแต่ไม่ถึงกับถอยเพราะโตแล้ว สาปสาวนี้จะออกมาเน้นๆด้วยเวลาเขามีความสุขเช่นสาวๆทำกิจกรรมร่วมกันตามประสาของเขา หรือเวลาเขารักเราแล้วเราอยู่ใกล้ๆไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแฟนกันนะครับ เช่นเราอยู่ใกล้แม่เอาใจแม่หอมแก้มกอดบอกรักแม่นวดให้ท่าน สารนี้ก็จะติดกับเราแบบพิเศษและศักดิ์สิทธิ์กว่าธรรมดาเป็นตัวส่งผ่านเพศตรงข้ามในด้านเข้าหาเราแบบไม่ขวางกั้นด้วยเหตุใดๆ
ผู้หญิงกับผู้หญิงจะมีสารนี้เพื่อบ่งบอกความเป็นมิตรในการเข้ามาตามประสาเขา
แต่ถ้าชายได้ส่วนนี้มาจะกลายเป็นเสน่ห์ในชายชนิดหนึ่งที่จะเพิ่มความกันเองในเพศตรงข้ามแบบนานา เคล็ดบางประการคือหัดอยู่ใกล้ๆสาวๆเวลาเขามีความสุขใจ(แต่แก่ๆก็ได้) และอีกอย่างคือการทำให้ใครก็ได้มีความสุขเมื่อเราอยู่ใกล้ผ่อนคลายและเป็นกันเองด้วยประการนานา ส่วนอีกแบบคือเลือกคือหมายถึงเลือกคบผู้หญิงที่มีแต่คนรักเป็นที่รักกับผู้หญิงด้วยกันมาก(อันนี้ต้องสังเกตุ)แล้วจึงฝึกทำอะไรดีๆใกล้เขาเข้าไว้ หมั่นอยู่ใกล้ญาติผู้หญิงที่รวมกลุ่มทำกิจกรรมของเขาก็ได้ เสน่ห์เพศชายมาจากธรรมชาติในเพศหญิงครับ คือเมื่อมาอยู่กับชายก็กลายเป็นอีกอย่างได้ จะหวีผมให้ก็ได้ถ้าสนิทกันดีแล้ว เมื่อมือเราสัมผัสสารนี้ติดมาจึงเริ่มด้วยการเสกมือลูบไล้ตัวเราไปเรื่อยด้วยคาถา จึงเป็นที่มาของฟีโรโมนศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากแม่(sacred pheromones) ฟีโรโมนมหาเสน่ห์(จากคนทั่วไป)
เอาแค่นี้ก่อนครับเริ่มมึนแล้ว


 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 12:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
  คาถาการเสกมีดั่งต่อไปนี้ฝึกนั่งภาวนาคาถาก่อน ให้สมาทานศีลห้าแล้วหาประคำมาภาวนาไปเรื่อยๆว่า

จิเจรุนิ จิตตังภะคินิเม จิตอยู่ที่ปากหลับตาด้วย เมื่อครบร้อยแปดจบลืมตาขึ้นแล้วแบมือมองมือสองข้าง ให้มองแล้วหลับตามองแล้วหลับตาหลายๆทีคราวนี้จึงหายใจเข้าแล้วกลั้นใจว่าคาถา
จิเจรุนิ จิตตังภะคินิเม ซัก 9เก้าจบแล้วเป่าที่มือที่แบอยู่นึกเอาว่าคาถาเข้าสู่มือ
ทำอยู่อย่างนี้ 3o ครั้งจึงเอามือลูบแขนลูบหน้าหัวตัวไปเรื่อยๆพร้อมบริกรรมคาถาเดิม
(ถ้าจะให้เร้าใจก็เสริมเคล็ดคือตอนลูบให้ยิ้มหยิกแขน ลูบอก ตบก้น กระโดดเหยงๆเป็นกลเม็ดทางจิตชนิดนึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามเร้าใจนอกเหนือกว่านั้นอย่าทำครับเช่นตีลังกา ตบหน้าตัวเอง หรือถอดเสื้อมาควงหมุนส่ายอกไปมาขำๆ)นี้คือแต่งองค์หรือปลุกเสกอานุภาพทางนี้โดยมีที่ให้คาถาลงชัดๆ ให้ทำจนชิน เมื่อได้สารฟีโรโมนจึงทำแบบกรรมวิธีเป่าใส่มือลูบไล้นี้อีกตามเวลาอำนวยฝึกจนรู้สึกว่าจิต-คาถา-กรรมวิธีเป็นหนึ่งหมดดูไม่วอกแวก ก็จะสามารถนำคาถาเดิมมา
เสกอะไรทาตัวก็ได้หรือเสริมขุนแผนเข้าสังคม(ทอมก็ใช้ได้)หนักเข้าทำแบบกำหนดได้คือเอาไอสะสารของเราปะปนไปกับอากาศใครสูดเข้าให้ชื่นอกชื่นใจกันถ้วนหน้าเปิดใจรับฉมังนักแล มึนตึ้บแล้วครับขอไปปลีกตัวนั่งหาความวิเวกซักหน่อย
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 12:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ในช่วงที่ผ่านมานั้นโดนเต็มๆครับถึงต้องผ่อนการเข้ามาเขียนหน่อย คือเสน่ห์ขึ้นโดยไม่ได้ใช้วิชาใดๆเลยและแรงมาก คงจะมาจากองค์ครูเพราะเผยแพร่ด้วยกุศลจิตไม่ได้คิดล่อแหลมใดๆ นัยว่าให้ความกระจ่างและสืบสานศาสตร์เท่านั้น ปลีกตัวไปเก็บตัวไม่ให้ใครมาเจอเฉยๆก็เลยปฎิบัติธรรมมากขึ้น จนปล่อยวางอะไรๆได้ระดับนึงทำให้เห็นสภาวะอีกว่าถ้าเราปล่อยวางได้จริงแล้วกำหนดสิ่งนั้นๆอีก อานุภาพก็แรงขึ้นปราณีตขึ้นไม่ว่ามหาลาภหรือมหาเสน่ห์ จึงเรียนมาให้ทราบ


ค้นหาอะไรอยู่ไม่รู้ไปเก็บไว้ที่ไหน เอาข้อความนี้ไปอ่านกันก่อนนะครับ
มหาเสน่ห์.....หลวงพ่อฤาษีฯ(พระราชพรหมยาน)
1.เว้นจากการฆ่าหรือทรมานสัตว์ทุกประเภท(ศีลข้อ 1)
2.ไม่ถือเอาทรัพย์สินของผู้อื่น(ศีลข้อ 2) 3.ไม่ละเมิดความรักของผู้อื่น(ศีลข้อ 3)
(1-2-3 คือ กายสุจริต 3 ในกุศลกรรมบถ10)
4.ไม่ดื่มสุราและเมรัย(ศีลข้อ 5)5.ไม่พูดคำไม่จริง(ศีลข้อ 4)
6.ไม่พูดคำหยาบ 7.ไม่นินทาว่าร้ายคนอื่น 8.ไม่พูดวาจาที่ไม่มีประโยชน์(5-6-7-8 คือ วจีสุจริต 4 ในกุศลกรรมบถ 10)
9.ไม่คิดจะเอาทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งหมด
10.พยายามข่มใจไม่คิดประทุษร้ายใคร คิดให้อภัยไว้เสมอ
11.เข้าใจตามความเป็นจริงว่า ถ้าปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วทั้ง 10 ข้อนั้นครบถ้วน จะมีความสบายใจมากกว่าความลำบากใจ ตายเมื่อไรจะมีความสุข(9-10-11 คือ มโนสุจริต 3 ในกุศลกรรมบถ10)
รวมความแล้ว มีความเข้าใจตามความจริงว่า อาการ 10 อย่างตามที่กล่าวมา เป็น"มหาเสน่ห์" (กุศลกรรมบถ10-ดีพร้อมด้วยกาย-วาจา-ใจ) คือ คนรักในปัจจุบัน แม้สัตว์ก็รัก เมื่อมีคนรักมาก สัตว์รักมาก เราก็มีความสุขมาก เมื่อมีชีวิตอยู่มีความสุข ตายไปแล้ว ความสุขก็ตามไป ทำให้เราไปเกิดเป็นมีความสุข(ถ้ายังเกิดอยู่).....

 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 12:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เจอแร้วครับไดอารี่เล็กๆที่เขียนคำบอกเล่าหลวงปู่ชื่นของเคล็ดลับบางอย่าง
ของขุนแผนชมตลาดอ่านแล้วขำชอบใจ



คือเรื่องมีอยู่ว่าหลายปีต่อมาเมื่อผมได้เจอหลวงปู่อีกครั้งและเป็นครั้งสุดท้ายตอนนั้นหลวงปู่ออกมาจากโบสถ์ถือไม้เท้า(ผมไม่เคยเห็นท่านใช้ไม้เท้ามาก่อน)ผมมองท่านแล้วแปลกใจที่ท่านดูผ่องราษีจับมากแต่ก็อดภูมิใจกับโบสถ์ไม่ได้ที่สร้างเสร็จ ท่านเดินผ่านหน้าผมอมยิ้มผ่านไป คือปกติท่านทำอะไรผมจะมองตลอดท่านเองคงชิน วันนั้นไม่ได้คุยเลยมีคุณนายมาคุยจากไหนไม่รู้ ก็เลยรอจนกลางคืน คุยเรื่องสนุกๆยกตัวอย่างอานุภาพอาถรรพณ์แคล้วคลาดกับอาถรรพณ์คลาดแคล้ว โดนท่านสอนว่าอันนึงไม่โดนอันนึงไม่เจอ ว่าแล้วก็หัวร่อคงรู้ว่าผมงง ท่านจึงยกตัวอย่างให้ฟัง ผมจึงเริ่มของผมเรื่องขุนแผนไปเดินตลาดนี่คนเต็มเลยแต่เด่นที่สุด หลวงปู่ว่าขุนแผนเดินไปสาวเดินสะดุดขาตัวเองแต่ตายังมองขุนแผน อย่าให้ขุนแผนหัวเราะเชียวสาวๆจะทำเป็นดีอกดีใจบ้างทำตลกบ้างทำทะลึ่งให้ขุนแผนดูเลย ผมฟังแล้วก็อ้าปากค้าง ชวนให้ท่านขำเข้าไปใหญ่ ท่านลองภูมิทันที "รู้มั้ยล่ะทำยังไง" ท่านว่า
"วางจิตครับผนวกกับคาถา "ผมตอบ
ยังไงล่ะ?ท่านกล่าว
ผม"คือรู้ว่าเราต้องเด่นแรงๆเนื้อหอมน่ากิน"
ท่านว่่า หว่ะ! มียิ่งกว่านี่อีกน่ะ ไอ้ผมก็เลยหูผึ่งนึกว่าพูดถึงวิชาใหม่ ท่านว่าบทเดิมนี่แหละใช้กับพระก็ได้ เอาจิตรวมกับพระขุนแผนโดดๆเดินไปตลาดเอาที่คนมากๆแล้วทำเหมือนเราไปให้ความสุขเวลาเขาเห็นเราเหมือนกับว่าเขาเหงาใจอยู่ แล้วเราทำให้เขาสุขสนุกสนานเป็นร้อยมีรอยยิ้มเป็นร้อยๆพันๆคน.. ณ วินาทีนั้นเองที่ผมได้มากระจ่างแต่ไม่เคยฝึกได้ซะที เพิ่งจะมาเข้าใจพอทำได้บ้างก็เมื่อไม่นานนี่เอง ท่านว่าอย่างนี้ตลาดต้องขอบใจขุนแผนที่ไปเดินเพราะคนเห็นก็แทบจะรำวงกันได้เลย


 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-3 12:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องช้าร์ตพลังที่หลวงปู่สอนเหตุจากมีคนมาสนทนากับท่านแลกเปลี่ยนวิชา แล้วจะแถมความรู้อื่นๆอีก


อันนี้เป็นเรื่องราวของบุคคลคนนึงแวะมาคุยกับหลวงปู่ในเช้าตรู่ขณะอากาศหนาว
หน้าตาคล้ายๆผมและเคยบุกไปเขาหิมาลัยเป็นโยคีสำเร็จศาสตร์ทางจิตสูงส่งพอสมควร
แต่เพิ่งจะสนใจอาถรรพณ์พุทธเวทย์สายหลวงปู่ชื่นจากคนๆนึงที่นำของๆหลวงปู่ไปให้ดูแล้ว
อานุภาพหายไปซะเฉยๆเมื่อกำลังจะตรวจสอบ แต่เมื่อคนนำไปอาราธนาห้อยกลับมีพลังปรากฏให้เห็นทางตาในและเมื่อจะำทำการรวมพลังตนกับพลังของสิ่งๆนั้นเพื่อดูดพลังอานุภาพเข้ามา ก็เกิดพลังชนิดนึงขึ้นมา แกใช้นิยามนั้นว่าถูกถีบและซวยต่างๆนาๆตลอดฯลฯ
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้