ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ

>> ชัยมหานาถ ๒ สนองพระราชประสงค์แห่งองค์ ศรีราชาเวท <<

[คัดลอกลิงก์]
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-2 15:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รายการวัตถุมงคล
รุ่นชัยมหานาถ ๒
(ยังไม่สมบูรณ์)



รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดบูชา            
จัดสร้างขึ้นจำนวน .... องค์



รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ช่อ เนื้อสำริด         
จัดสร้างขึ้น จำนวน 101 ช่อ
รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อสำริด
จัดสร้างขึ้น จำนวน .... องค์
รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อทองแดง
จัดสร้างขึ้น จำนวน 1,000 องค์




รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อทองทิพย์ (ทองเหลือง)
จัดสร้างขึ้น จำนวน 4,000 องค์





รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อชนวนล้วน
จัดสร้างขึ้น จำนวน 124 องค์
รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อชนวนเก่ารุ่น 1
จัดสร้างขึ้น จำนวน 65 องค์
รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อสัตตะราชา
จัดสร้างขึ้น จำนวน .... องค์
รูปหล่อพระเจ้าศรีราชาเวท (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ขนาดห้อยคอ เนื้อชิน (ชนะชัย)
จัดสร้างขึ้น จำนวน 69 องค์



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-2 16:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พระแสงขรรค์ชัยศรี
อาวุธอันเรืองฤทธานุภาพคู่พระหัตถ์พระเจ้าศรีชัยวรมัน
ไม่เคยมีอริศัตรูผู้ใดรอดชีวิต

จากพระแสงอาวุธนี้ได้เลยแม้แต่ผู้เดียว
เป็นที่ระย่อเดชแก่ศัตรูไปทั่วทั้งสุวรรณทวีป


เมื่อมาลงอยู่ในตะกรุด จะเกิดอะไรขึ้น...??!!






ผอกมวลสารเดียวกับรูปหล่อ โรยด้วยผงตะไบมีดหมอ
สร้างไว้เป็นเคล็ดวิชาไม่เกิน 40 ดอก

เป็นที่ระลึกให้แก่ผู้มาร่วมงานเทวาภิเษก

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
โพสต์ 2013-9-2 19:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sritoy เมื่อ 2013-9-2 19:38

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องราว
ที่เป็นมงคลยิ่งในงานประพิธีแต่
ละคราวครั้งนั้นสัมฤทธิ์ผลเป็นที่
น่ายินดี ล้วนเกิดจากความสามัคคี
ของผู้ใจบุญทุกท่าน ได้ช่วยงานกัน
คนละเล็กคนละน้อยที่เสริมประสาน
กันได้อย่างลงตัว ขอบคุณท่าน
อาจารย์สรายุทธเป็นที่สุดในฐานะ
ผู้นำทีเป็นแกนหลักให้คณะลูกศิษย์ที่
ศรัทธาในองค์หลวงปู่ชืน..มารวม
กลุ่มกันสร้างบุญใหญ่ในครั้งนี้ครับ.....
พิธีครั้งนี้ใช้เวลาอธิฐานจิตไม่นาน
อาจารย์ท่านบอกว่าครูบาอาจารย์
ท่านมาประสิทธิ์ให้เต็มที่แล้ว...
หลังพิธีนอนเฝ้าสำนักคนเดียวกะว่า
จะดูเวลาที่เทียนชัยดับสักหน่อย
นาฬิกาปลุกเวลาตี 4 ลุกมาดู
แสงเทียนได้ดับไปนานแล้ว.
ผิดกับครั้งแรกที่ต้องรอเกือบถึง
บ่ายโมงของอีกวันหนึ่งเทียนชัย
ถึงจะดับ..อันนี้ก็แปลกดีครับ..


โพสต์ 2013-9-3 07:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-9-3 08:01

องค์พ่อศรีชัยวรมัน

พระเจ้าอโศก แห่งอุษาคเนย์




พ.ศ.๑๗๒๑ชัยวรมันที7 พระองค์ทรงรวบรวมกองทัพจัดเตรียมกำลังพลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในการศึกทางเรือ ทรงพิชิตจามปาอย่างเหี้ยมโหดและสามารถสังหารกษัตริย์ และกองทัพจามปา ด้วยธนูโกฏิดอก
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นพุทธราชาของพระองค์ทรงยอมสละพระองค์ เพื่อขจัดทุกข์ของประชาราษฎร์โดยโปรดให้สร้างถนนตลอดทั่วราชอาณาจักร ถนนเหล่านี้เป็นหลักฐานแห่งความเมตตากรุณาของพระองค์
จากจารึกบอกว่า..


“พระองค์ทรงเป็นทุกข์เกี่ยวกับความเดือดร้อน ของราษฎรมากกว่าเรื่องส่วนพระองค์

ความเจ็บปวดทางร่างกายสำหรับ มนุษย์เป็นความเจ็บปวดทางจิตรวิญญาณ

สำหรับพระองค์ ดังนั้นการสร้างถนนหนทางวัดวาอาราม ที่พักการเดินทาง สระน้ำ และอโรคยาศาลา นับแต่ขึ้นครองราชย์ไปจนถึงช่วงปีหลังๆแห่งรัชกาล ปรากฏว่าอาคารเหล่านี้ หลายหลังสร้างอย่างลวกๆ
อย่างไรก็ตาม การสร้างอโรคยาศาลาสามารถให้บริการรักษาโรคแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงมากถึง ๘๓๘ หมู่บ้านจุดพักการเดินทางทุกระยะ ๑๖ กิโลเมตร ตลอดถนนสายหลักๆของกัมพูชา เช่นบนเส้นทางระหว่างเมืองพระนคร กับเมืองหลวงของจามปา มีที่พัก ๕๗ แห่ง และอีก ๑๗แห่งระหว่างเมืองพระนคร กับ ปราสาทเมืองพิมาย




( สัณนิษฐานว่า พระเจ้าศรีชัยวรมันที7ทำสงครามชิงอำนาจในหมู่พี่น้อง เครือญาติและกู้ชาติจากการยึดครองของจามปา ขยายดินแดนไปจดพม่าและยูนนาน ทำให้พลเมืองและผู้คนบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมหาศาล เพราะองค์น่าจะกลับสติใด้ในที่สุดว่าการเอาชนะตนเองนั้นคือการชนะสูงสุดตามหลักพุทธศาสนา ดังเช่นองค์คุลีมารทีสามารถกลับสติใด้และหยุดการฆ่ามนุษย์ พระเจ้าศรีชัยวรมันที7 มีประวัติชีวิตคล้ายๆอโศกมหาราชที่เปลี่ยนจากศาสนาฮินดู (GOD KING )มานับถือพุทธศาสนา( BUDDHA KING )โดยมีพระมเหสีศรัทธาในพุทธศาสนามาก่อนและมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง )


คำแปล” ฉันทลักษณ์ 49 บท ของจารึกประจำอโรคยาศาลแบบสมบูรณ์ของจารึกกู่คันธนาม อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยคุณชะเอม แก้วคล้าย มีดังนี้





ด้านที่ 1

(บทที่ 1) ขอความนอบน้อม จงมีแก่พระพุทธเจ้า ผู้มีนิรมาณกาย ธรรมกาย และสัมโภคกายผู้ล่วงพ้นภาวะและอภาวะทั้งสอง ผู้มีอาตมันเป็นสองผู้หาอาตมันมิได้
(บทที่ 2) ข้าพเจ้าขอนมัสการพระชินะ ผู้เป็นราชาแห่งรัศมีคือพระไภษัชยคุรุไวฑูรยะ เพราะพระองค์ จึงเกิดความเกษมและความไม่มีโรค แก่ประชาชนผู้ฟังอยู่แม้เพียงชื่อ
(บทที่ 3)พระศรีสูรยะไวโรจนจันทโรจิและพระศรีจันรไวโรจนโรหิณัศะผู้ขจัดความมืดคือโรคของประชาชน ขอจงชนะที่เชิงเขาคือพระพุทธเจ้า
(บทที่ 4) ได้มีพระเจ้าแผ่นดินนามว่า ศรีชัยวรมันผู้เป็นโอรสของพระเจ้าศรีธรณีนทรวรมัน ผู้ประสูติแต่เจ้าหญิงแห่งเมืองชยาทิตยปุระ ผู้ได้รับราชสมบัติเพราะพระจันทร์อันยอดเยี่ยมบนท้องฟ้าคือพระเวท (ปี พ.ศ. 1724)
(บทที่ 5) พระองค์ผู้มีพระบาทเหมือนดอกบัวเป็นเครื่องประดับเหนือเศียรของพระราชาทั้งหมด ผู้มีศัตรูอันพระองค์ทรงชนะแล้วในสงคราม ได้รับแล้วซึ่งสตรีคือแผ่นดินอันเป็นภาระแห่งเกียรติยศของพระองค์ผู้มีรัตนะคือคุณความดีเป็นเครื่องประดับ
(บทที่ 6) ผู้มีสายน้ำคือทานอันพระองค์ให้เพิ่มขึ้นแล้วด้วยความเพลิดเพลินในกาลทุกเมื่อผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติคือทานและความเจริญรุ่งเรืองผู้เป็นที่รักแห่งศัตรูของเทพ ที่พระองค์ทรงให้ลำบากแล้วด้วยเครื่องสังเวยผู้แม้เหมือนพระกฤษณะแต่มีวรรณะขาว

(บทที่ 7) พระองค์ยังนางลักษมีผู้อันพระราชาทั้งหลายปรารถนาแล้ว. ซึ่งได้โดยยาก ผู้ทรงอุเบกขาซึ่งเข้ามาใกล้แล้ว และยังนางกีรตี ผู้แล่นไปในทิศทั้งหลายให้ยินดีแล้วน่าอัศจรรย์หนอ ความงามอันวิจิตรแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย






ด้านที่ 2

(บรรทัดที่) 1 – 2 โรคทางร่างกายของประชาชนนี้ เป็นโรคทางใจที่เจ็บปวดยิ่ง เพราะว่าความทุกข์ของราษฎร แม้มิใช่ความทุกข์ของพระองค์ แต่เป็นความทุกข์ของเจ้าเมือง
3 – 4 พระองค์พร้อมด้วยแพทย์ทั้งหลายผู้แกล้วกล้าและคงแก่เรียนในอายุรเวทและอัสตรเวทได้ฆ่าศัตรูคือโรคของประชาชนด้วยอาวุธคือเภษัช.
5 – 6 เมื่อพระองค์ได้ชำระโทษของประชาชนทั้งปวงโดยรอบแล้วได้ชำระโทษแห่งโรคทั้งหลาย เพราะโทษแห่งยุค
7 – 8 พระองค์ได้สร้างโรงพยาบาล และรูปพระโพธิสัตว์ไภษัชยสุคตพร้อมด้วยรูปพระ ชิโนรสทั้งสองโดยรอบ เพื่อความสงบแห่งโรคของประชาชนตลอดไป
9 – 10 พระองค์ได้สร้างโรงพยาบาลหลังนี้และรูปพระโพธิสัตว์ไภษัชยสุคต พร้อมด้วยวิหารของพระสุคตด้วยดวงจันทร์คือพระหฤทัยในท้องฟ้าคือพระวรกายอันละเอียดอ่อน (ปีพ.ศ.1729)
11- 12พระองค์ได้รูปจำลองของพระไวโรจนชินเจ้าที่ขึ้นด้วยสูรยะและจันทระอันงดงามนี้ให้เป็นผู้ทำลายโรคแห่งประชาชน ผู้มีโรคทั้งหลายในที่นี้
13 – 14 เพื่อการรักษาพยาบาล ในที่นี้ จึงให้มีผู้ดูแลสี่คน แพทย์สองคน บรรดาคนทั้งสามคือจะเป็นบุรุษหนึ่งคนหรือสตรีสองคนเป็นผู้ให้สถิติ

โพสต์ 2013-9-3 13:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ิน่าเสียดายเป็นที่สุด
ที่ไม่ได้ไปร่วมงาน
โพสต์ 2013-9-3 15:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เหมือนกันครับเมธ
โพสต์ 2013-9-3 20:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ปกติผมจะห้อยพระสามองค์ให้รู้สึกว่าครบที่อยากแขวน
แต่ตอนนี้ เดี่ยวองค์พ่อรุ่นนี้ รู้สึกพอมากๆ เลยครับ ไม่รู้คิดไปเองคนเดียวป่าว ตั้งแต่วันแรกที่แขวนรวมกับองค์อื่นๆ ก็มีความรู้สึกประหลาดๆ ว่า องค์เดียวพอแล้ว ซึ่งพอลองดูก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ยังไม่เห็นอะไรชัดเจน แต่การงานเรียบร้อยดี จะลองแขวนไปเรื่อยๆ อาจสลับกับชุดเดิมด้วยเพราะรักมากเหมือนกัน
โพสต์ 2013-9-4 11:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ยังไม่ได้เลี่่ยมห้อยคอเลยครับ
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-4 11:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ยังไม่ได้รับองค์พ่อมาเลยครับ
โพสต์ 2013-9-4 14:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ยังไม่ได้รับเนื้อชนวนมาเหมือนกันเลย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้