ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2705
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ภพของพญานาคราช

[คัดลอกลิงก์]
ภพของพญานาคราช


เรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคยังปรากฏในพุทธประวัติอีกตอนหนึ่ง บ่งบอกให้ทราบถึงที่อยู่ของพญานาค
เมื่อกรุงเวสาลีนครหลวงแห่งแคว้นวัชชี เคยเป็นเมืองมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ เนืองแน่นไปด้วยอาณาประชาราษฎร์เกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง สมัยนั้น กรุงเวสาลีเกิดฝนแล้งติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ข้าวกล้าแห้งตายเพราะแดดแผดเผา ผู้คนอดยากล้มตายเป็นจำนวนมาก คนยากจนตายก่อน ซากศพไร้คนจัดการถูกทิ้งเกลื่อนนคร พวกอมนุษย์ได้กลิ่นซากศพก็พากันเข้าสู่พระนคร ทำอันตรายแก่หมู่มนุษย์ ทำให้คนตายเพิ่มจำนวนมากขึ้น เมื่อความไม่สะอาดปฏิกูลแพร่กระจายไป โรคระบาดก็เกิดขึ้นทำให้ผู้คนล้มตายเหลือที่จะนับได้
นครเวสาลีที่เคยเป็นเมืองมั่งคั่งผู้คนพลุกพล่านไปมาขวักไขว่ทักทายกันจอกแจกจอแจ ได้ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง ๓ ประการ คือ ข้าวยากหมากแพง (ทุพภิกขภัย)๑ ภูตผีปีศาจทำอันตราย (อมนุสภัย) ๑ เกิดโรคระบาดคร่าชีวิตผู้คน (โรคภัย) ๑
ชาวเมืองรวมตัวกันไปร้องทุกข์ต่อพระราชาว่า ในเมืองนี้ไม่เคยมีภัยทั้ง ๓ ประการนี้เกิดขึ้นมา ๗ ชั่วคนแล้ว เห็นทีผู้ปกครองรัฐจะประพฤติไม่ชอบด้วยทำนองคลองธรรม
พระราชาโปรดให้ชาวเมืองประชุมกันที่ศาลากลางเมือง เพื่อตรวจสอบความผิดของพระองค์ ก็ไม่เห็นความผิดประการใด จึงปรึกษากันว่าทำอย่างไรภัยทั้ง ๓ นี้จะสงบลงได้ ผลของการปรึกษาได้ตกลงที่จะเชิญเสด็จองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากแคว้นมคธสู่กรุงเวสาลี ด้วยได้ยินกันมาว่า องค์สมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก พระองค์ทรงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่ง ทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่หมู่สัตว์ มีมหิทธานุภาพ พระองค์เสด็จไปที่ไหนก็จะมีแต่ความสงบสุข หากพระองค์เสด็จสู่กรุงเวสาลีภัยพิบัติทั้งปวงจักสงบระงับลงไป
คราวนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์แคว้นมคธ ตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าพิมพิสารผู้ถวายเวฬุวันให้เป็วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ชาววัชชีจึงส่งเจ้าลิจฉวี ชื่อมหาลิ และมหาอำมาตย์ผู้หนึ่งเป็นราชฑูตเดินทางเข้าสู่แคว้นมคธ ทูลขอร้องพระเจ้าพิมพิสาร เพื่อขอพระราชทานวโรกาสกราบทูลเชิญเสด็จองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปกรุงเวสาลี
พระบรมศาสดาทรงพิจารณาว่า หากพระองค์เสด็จไปกรุงเวสาลี ประโยชน์ ๒ อย่างจักเกิดขึ้น คือ พระองค์จะแสดงรัตนสูตร เป็นเหตุให้ชาววัชชีได้ดวงตาเห็นธรรมบรรลุมรรคผลเป็นอันมาก และภัยพิบัติจะสงบไป จึงทรงรับนิมนต์
พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับนิมนต์แล้ว จึงโปรดให้ตกแต่งเส้นทางเสด็จพระพุทธดำเนินตั้งแต่กรุงราชคฤห์ถึงฝั่งแม่น้ำคงคาอันเป็นพรมแดนของแคว้นทั้งสอง รับสั่งให้ปราบพื้น ถมดินทำทางให้เรียบเสมอ ให้ปลูกที่ประทับแรมทุกโยชน์ เตรียมให้เสด็จวันละโยชน์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกจากกรุงราชคฤห์พร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ รูป สู่ฝั่งแม่น้ำคงคาสิ้นทาง ๕ โยชน์ ใช้ระยะเวลาเดินทาง ๕ วัน
ฝ่ายกรุงเวสาลีก็ได้ตกแต่งเส้นทางจากฝั่งแม่น้ำคงคาถึงกรุงเวสาลีเป็นระยะทางถึง ๓ โยชน์ เตรียมการรับเสด็จพระพุทธองค์ที่ฝั่งแม่น้ำคงคาอย่างยิ่งใหญ่
ขณะที่เรือส่งเสด็จที่พระเจ้าพิมพิสารจัดถวายใกล้ถึงฝั่งนครเวสาลี มหาเมฆตั้งเค้าขึ้นทั้ง ๔ ทิศ พอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงย่างพระบาทแรก เหยียบดินที่ฝั่งแม่คงคาบนแผ่นดินแคว้นวัชชี ฝนโบกขรพรรษได้ตกลงมาอย่างหนัก ทุกแห่งน้ำไหลไปแค่เข่า แค่สะเอวพัดพาเอาสิ่งโสโครกต่างๆ ลงแม่น้ำลำคลองไปสิ้น พื้นดินชุ่มเย็นและสะอาดทั่วไปในแดนวัชชี
พระพุทธองค์เสด็จจากฝั่งแม่น้ำคงคาถึงกรุงเวสาลีสิ้นระยะทาง ๓ โยชน์ เป็นเวลา ๓ วัน ครั้นเสด็จถึงกรุงเวสาลี พระอินทร์พร้อมด้วยเทพบริวารเป็นอันมากก็มา ณ ที่นั้น เมื่อเทวดาซึ่งเป็นใหญ่กว่ามากันมากพวกอมนุษย์ก็ถอยร่นหลีกไปเป็นอันมาก
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืนที่ประตูพระนครเวสาลี รับสั่งให้พระอานนท์เรียนรัตนสูตร กล่าวสัจจะอันอาศัยคุณของพระรัตนตรัยกำจัดอุปัทวันตรายทั้งหลายภัยพิบัติทั้งปวง พระอานนท์เดินสวดรัตนสูตรพลางพรมซัดน้ำพระพุทธมนต์ไปทั่วพระนคร
พอพระอานนท์ขึ้นบท "ยังกิญจิ วิตตัง" พวกอมนุษย์ที่แอบอยู่ตามที่ต่างๆ ทนอยู่ไม่ไหวชิงกันหนีออกทางประตูเมืองทั้ง ๔ ประตู แน่นยัดเยียด บางพวกทนรอออกท างประตูไม่ไหว ช่วยกันพังกำแพงเมืองหนีกระเจิงไปหมดสิ้น พอพวกอมนุษย์ออกไป โรคในตัวมนุษย์ก็หาย ผู้ที่หายจากโรคก็ลุกออกมาบูชาพระเถระเจ้าด้วยเครื่องบูชาต่างๆ
ภายในพระนครเวสาลี ชาวเมืองตกแต่งศาลากลางเมืองเป็นที่ประทับของพระพุทธองค์ เมื่อพระพุทธองค์เสด็จเข้าสู่ที่ประทับแล้ว เหล่าภิกษุสงฆ์ และเจ้าลิจฉวี ตลอดจนอาณาประชาราษฎร์ก็ไปเฝ้าที่นั่น แม้ท้าวสักกเทวราชก็ทรงพาเทวดาทั้งปวงมาเฝ้าที่นั่นด้วย พระอานนท์เที่ยวทำการรักษาทั่วกรุงเวสาลีแล้วได้มาเฝ้าพระพุทธองค์ที่นั่น ชาวพระนครเวสาลีติดตามมาเฝ้าด้วยเป็นอันมาก ที่ประชุมนั้นได้กลายเป็นมหาสมาคม
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสรัตนสูตรซ้ำในมหาสมาคมนั้น เมื่อจบเทศนาลง อุปัทวันตรายภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวงได้สงบลง ความสุขสวัสดีแผ่ไปทั่วแคว้นวัชชี แต่นั้นฝนก็ตกต้องตามฤดูกาล พืชพรรณธัญญาหารกลับอุดมเหมือนเดิม
พระพุทธองค์เสด็จกลับกรุงราชคฤห์ เหล่าเจ้าลิจฉวีตามส่งเสด็จพร้อมด้วยเครื่องสักการะเป็นอันมาก จนถึงฝั่งแม่นำคงคา เหล่านาคราชทั้งหลายในแม่น้ำคงคาคิดกันว่า หมู่มนุษย์ทำการสักการะพระพุทธองค์เป็นอันมาก จึงได้ทูลวิงวอนให้พระพุทธองค์อนุเคราะห์พวกตน พระผู้มีพระภาคเจ้ารับคำนิมนต์ เหล่านาคราชนำเสด็จพระพุทธองค์พร้อมด้วยหมู่ภิกษุสู่นาคภิภพ พระองค์แสดงธรรมโปรดเหล่านาคราชตลอดราตรี รุ่งขึ้นเหล่านาคราชถวายสักการะและภัตตาหารอันเป็นทิพย์ พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนาเสร็จแล้วเสด็จออกจากนาคภิภพ เหล่าภุมมเทวดาและเทวดาทั้งหลายก็ได้กระทำสักการะต่อจากนี้เช่นเดียวกัน

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้