ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 6802
ตอบกลับ: 18
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

จิตสำนึกเพื่อส่วนรวม

[คัดลอกลิงก์]


จิตสำนึกเพื่อส่วนรวม




                การที่มนุษย์ได้พัฒนาตนเองจากความเป็นสัตว์โลกที่ป่าเถื่อนและเห็นแก่ตัวมาเป็นสัตว์สังคมทั้งยกระดับเผ่าพันธุ์เป็นสัตว์สังคมชั้นสูง และสัตว์ประเสริฐอันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ดำรงเผ่าพันธุ์ได้อย่างแพร่หลาย ไม่สูญพันธุ์ไปเหมือนกับสัตว์บางชนิดก็เพราะมนุษย์มีคุณสมบัติพิเศษนั่นก็คือ การมีจิตสำนึกที่ดีเพื่อส่วนรวม





                จิตสำนึกเพื่อส่วนรวมโดยทั่วไปนั้น หมายถึงการมีความรับผิดชอบต่อสังคมหรือการให้ความสำคัญกับส่วนรวมหรือสิ่งอันเป็นสาธารณะสมบัติ เช่น ป่าไม้ แม่น้ำลำธาร ทางสาธารณะ สวนสาธารณะไฟฟ้าสาธารณะ ทางหลวง ตลอดจนของหลวงและประเทศชาติบ้านเมือง เป็นต้นไม่เห็นแก่ตัวทำลายล้างให้จนเสียหายเสื่อมโทรม สูญสิ้น ในทัศนะของพระพุทธศาสนานั้นจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมหมายถึง จิตที่ประกอบด้วยความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล หรือความคิดที่มุ่งที่จะทำแต่ประโยชน์เกื้อกูลทั้งแก่ตนและผู้อื่นตลอดจนสาธารณะทั่วไป โดยมีเมตตาจิต (ปรารถนาดี) และกรุณาจิต(ความคิดร่วมด้วยช่วยแก้ปัญหา) เป็นพื้นฐานผู้ที่ปลูกจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมให้เจริญงอกงามในจิตใจได้มากเพียงใดย่อมสามารถแก้วิกฤตปัญหาความเห็นแก่ตัว ทำให้เป็นคนเสียสละ อุทิศตนทุ่มเททำงานเพื่อผลประโยชน์ต่อส่วนรวมได้มากเพียงนั้น




                การปลูกจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมตามวิถีแห่งพุทธธรรม แนวทางหนึ่งก็คือ การประพฤติปฏิบัติตาม “หลักสังคหวัตถุธรรมหรือ หลักแห่งการสงเคราะห์ ๔ ประการ” กล่าวคือ



                ๑.ทาน คือการให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละแบ่งปันสิ่งของ ตลอดถึงให้ความรู้และแนะนำสั่งสอนซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการแย่งอาหารกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันสังวาสและแย่งอำนาจกันครอบครอง ในสังคมส่วนรวมได้




                ๒. ปิยวาจา การกล่าวคำสุภาพ ไพเราะอ่อนหวานสมานไมตรี และคำที่มีแต่ประโยชน์ ซึ่งจะทำให้เกิดความรักความเคารพนับถือซึ่งกันและกันซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง การโต้เถียง บาดหมาง และการทะเลาะวิวาทในหมู่คณะได้



     

           ๓.อัตถจริยา การขวนขวายช่วยเหลือกิจการของหมู่คณะ ดูแลรักษาสาธารณะสมบัติของส่วนรวมและบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์




                ๔. สมานัตตตา ประพฤติตนให้เหมาะสมแก่ฐานะและภาวะที่ดำรงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกของสังคมให้ถูกต้องสมบูรณ์
                มีการกล่าวว่า “วัตถุยิ่งเจริญ คนยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้น” วิกฤตปัญหานี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกจิตสำนึกที่ดีเพื่อส่วนรวม โดยยึดคติที่ว่า “อยู่เพื่อตัว อยู่แค่สิ้นลมแต่ถ้าอยู่เพื่อสังคม จะอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย”





                การช่วยเพื่อนเหมือนช่วยเราเอง                     เมื่อจิตเพ่งเล็งช่วยทวนสหาย
                ย่อมลดความเห็นแก่ตัวลงมากมาย                  ทุกทุกรายอย่าเขวี้ยงขว้างช่างหัวมัน...







http://life1081009.blogspot.com/2012/08/blog-post_6.html



ขอบคุณครับอาจารย์
จิตสำนึกเพื่อส่วนรวม


"ทำความดีต้องใช้ปัญญา"



.
ความดี ที่ทำไว้ในหมู่คนพาลถึงมากมายมหาศาลก็สูญเปล่า

การทำสิ่งดีๆให้แก่คนที่ไม่เห็นคุณค่า ก็ไม่ต่างอะไรกับการเทน้ำลงกองทราย

ถึงเทอย่างไรก็ซึมหายหมด

ดังนั้น จะทำดีกับใคร ควรใช้ปัญญาคิดให้รอบคอบ..



ขอบคุณค่ะ

ว่าแต่..เกิดเป็นคนนี่เหนื่อยเหมือนกันนะคะ
อัปสรา ตอบกลับเมื่อ 2013-5-5 16:22
ขอบคุณค่ะ

ว่าแต่..เกิดเป็นคนนี่เหนื่อยเหมือน ...


เกิดเป็นไร ถึงไม่เหนื่อยครับ
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-5-6 08:15
เกิดเป็นไร ถึงไม่เหนื่อยครับ

มะรู้เหมือนกันนิ
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้