ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3846
ตอบกลับ: 2

กรรมทันตา ทำกรรมกับงู

[คัดลอกลิงก์]
ทำกรรมกับงู

กรรม ที่เกิดกับตนเองอย่างทันตา
...เป็นอุทาหรณ์
หนึ่งในนั้น คือ...คุณ สมพงษ์ รักโคตร
ชาวนา อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี

เมื่อปี 2541 ขณะนั้นอายุ 31 ปี
มีภรรยาและลูกชายฝาแฝด ขวบกว่า ๆ
นอกจากทำนา ก็ยังเลี้ยงไก่ ปลูกผักนิดๆ หน่อยๆ
กลางดึกคืนวันหนึ่ง ต้องตกใจตื่นด้วยเสียงร้องของไก่ที่เลี้ยงไว้
เมื่อวิ่งไปถึงสิ่งที่ได้เห็นคือ...งูเห่า 2 ตัวผัวเมีย
กำลังไล่ฉก และกินไก่อย่างไม่ได้เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
ด้วยความโมโห และบวกกับความกลัวว่าจะเป็นอันตรายกับคนในครอบครัว
คุณสมพงษ์ คว้าได้เสียมขุดดินที่ใกล้มือที่สุดกวัดแกว่งเพื่อไล่ งูเห่า ทั้งคู่
สัญชาติญาณ งูผัวเมีย ก็พยายามทั้งชูแม่เบี้ยขู่ และเลื้อยหนี
งูตัวที่ใหญ่กว่า พยายามขู่ถ่วงเวลาให้อีกตัวหนึ่งหนีไปก่อน
เป็นจังหวะให้เขาใช้เสียมทิ่มเข้าไปหมายจะให้โดนหัวที่แผ่แม่เบี้ยอยู่
แต่มันเบี่ยงหลบ ทำให้เสียมแฉลบไปปักเอา...กลางลำตัว ของงูตัวนั้น

ด้วยความแรง และความคมของเสียมทำให้กระดูกหลังหัก ลำตัวเกือบขาด
งูเห่า โชคร้ายตัวนั้นดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวดทรมาน
มันบิดตัวแล้ว บิดตัวอีก ดิ้นปั๊ดๆ ด้วยความ เจ็บปวดและโกรธแค้น

คนแทงเสียมเองก็ตกใจไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้ สยดสยองต่อสิ่งที่เห็น
แล้วทันใดนั้น งูเห่า เคราะห์ร้ายตัวนั้นก็หยุดดิ้น
พยายามยกหัวแผ่แม่เบี้ย หันมาจ้องคนที่ทำกับมันอย่างอาฆาตแค้น
คุณสมพงษ์ ก็รู้แต่ว่าตีงูเห่าแล้ว ต้องตีให้ตายเพราะมันเป็นสัตว์ที่ อาฆาตรุนแรง
แต่ความรู้สึกที่ถูกมันจ้องมอง ถึงกับ...ขนลุกซู่ตั้งแต่ สันหลังไล่ขึ้นไปถึงกระหม่อมเลย
เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน รู้แต่ว่าสังหรณ์ใจบอกไม่ถูก
อึดใจใหญ่ ๆ มันถึงได้สิ้นฤทธิ์...ขาดใจตาย

ปรกติคนแถวนั้น ถ้าตีงูได้ก็จะเอาไปกินเป็นอาหาร
ยิ่งงูเห่าแล้วยิ่งถือว่าเป็นลาภปากเลยทีเดียว
แต่ด้วยเหตุการณ์ และความรู้สึกสยองในอก
ทำให้เขาตัดสินใจฝังมันแทนด้วยเสียมด้ามนั้นนั่นแหละ
ในตอนเช้า ทุกคนที่รู้เรื่องก็เตือนให้ระวัง งูเห่า อีกตัวที่เป็นคู่ของมัน
มันต้องมาแก้แค้นแน่นอน
เลยต้องเอา จั่น มาดักเอาไว้ และมันก็มาจริงๆ ด้วย
งูเห่า ตัวนั้นติดจั่นดิ้นไม่หลุดไปไหนไม่รอด...
เพื่อนที่ช่วยกันดักมาขอเอาไปกิน

ผ่านไปอีกเดือนกว่า ทุกอย่างก็ถูกลืมเลือนไป
กระทั่งวันนึง ขณะที่ คุณสมพงษ์ กำลังตัดต้นไม้อยู่
ตัดจนใกล้ล้มแล้ว ก็รีบถอยออกมายืนตรงข้ามกับทิศทางที่ต้นไม้ค่อยๆ ล้มลง
แต่จังหวะที่ต้นไม้ต้นกำลังเอนล้มลงเรื่อย ๆ...
มันกระแทกเข้ากับยอดของต้นไม้ที่เตี้ยกว่าอีกต้นหนึ่ง
เป็นเหตุให้เกิด...แรงดีด เหวี่ยงให้ต้นที่กำลังล้ม สวิงมาฟาดเข้ากับตัวเขา
แรงกระแทกมันมากจนกระเด็นไปเกือบ 3 เมตร
...หัวและคอ กระแทกกับเนินดินคันนาอย่างแรง ถึงกับสลบทันที
หลังจากเพื่อนๆ ช่วยกันปฐมพยาบาลฟื้นแล้ว เขาก็พยายามจะลุกขึ้น
แต่ร่างกายมันไม่ตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น
ความรู้สึกมีแค่ที่หัว เท่านั้น
ตั้งแต่คอ ลงมาทั้งตัว...ไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย
เหมือนกับว่าทั้งตัว...มีแต่หัวเท่านั้น
ขณะที่กำลังตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่
ภาพ งูเห่า ที่แผ่แม่เบี้ยจ้องหน้าเขาก่อนตายก็พุดขึ้นมา
แล้วยังมีภาพจำ ที่ไม่เคยนึกถึงตามมาอีก...

ย้อนไปเมื่อ 16 ปี ก่อนขณะที่เขา กับเพื่อนๆ กำลังยิงหนังสติ๊กเล่นกัน
ก็มีคนชี้ให้ดู...งูทางมะพร้าว ที่กำลังเลื้อยอยู่บนต้นไม้ห่างไปเกือบ 10 เมตร
พวกเขาก็เอา งู ตัวนั้นเป็นเป้าซ้อมมือ
คนอื่นยิงไม่ถูก แต่คุณสมพงษ์ ยิงถูกกลางหลังมันอย่างจัง ตำแหน่งเดียวกับ งูเห่า ตัวนั้นเลย
มันตกลงมานอนบิดเป็นเกลียวด้วยความเจ็บปวดเพราะหลังหัก...แล้วพยายามเลื้อยหนีไปจนได้
และ...ยังมีอีกภาพที่แย่งผุดขึ้นมาในหัวอีกเหตุการณ์หนึ่ง
ย้อนไปก่อนหน้านั้นอีก ก่อนเรื่องแรก ประมาณ 2 ปี
ตอนนั้นยังเด็กมาก ซัก 12 ขวบได้ละมั๊ง
ขณะที่เดินกลับบ้าน ลุงของเขาที่แบกจอบมาด้วย เหลือบตาไปเห็น...งูสิง
ซึ่งลักษณะคล้ายงูเห่ามาก กำลังเลื้อยหนีลงไปข้างทาง
ลุงบอกให้ช่วยกันวิ่งไล่กวดเพื่อจับมากิน
คุณสมพงษ์ ซึ่งยังเด็กก็ช่วยถือไม้วิ่งไล่ดักหน้าดักหลังด้วย
จนมันกำลังจะหนีลงรูอยู่แล้ว ลุงก็วิ่งมาทัน
เหวี่ยงจอบฟันฉับเข้าให้กลางหลัง ตำแหน่งเดียวกันไม่มีผิด
ลำตัวขาดกลาง บิดเร่าๆ ด้วยความเจ็บปวดทรมาน

เมื่อรู้สึกตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง...เขาก็กลายเป็นอัมพาต กระดูกไปกดทับเส้นประสาทที่สันหลัง
ประสาทสัมผัสเสียหายตั้งแต่ คอ ลงมา
พูดได้ รู้สึกนึกคิดได้ สติสัมปชัญญะยังมีครบถ้วน ยกเว้น...ความรู้สึกตั้งแต่คอลงมา
ชีวิตที่เหลือหลังจากนั้น...ก็ได้แต่นอนนิ่งๆ อย่างเดียว...เป็นปี

โชคยังดี ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวใหญ่
อยู่กันหมดทั้งพ่อ แม่ พี่ น้อง รวมทั้งคุณสมพงษ์ ที่แต่งงานจนมีลูกแล้ว
ก็ยังไม่ได้แยกเรือนไป
ญาติๆ ก็อยู่บ้านติดๆ กันทั้งนั้น ทุกคนก็ให้ความเป็นห่วงเป็นใยจากใจจริง
พยายามพาไปรักษาตัวทั้งโรงพยาบาล ทั้งสถานที่ต่างๆ
ที่ไหนว่าดี ก็พากันไปหมด ทั้งบีบทั้งนวด
ทั้งยาสมุนไพรสารพัด หากันมามากมาย
แต่ที่สำคัญที่สุด...ภรรยา ที่เอาใจใส่ประคบประหงม
คอยพูดให้กำลังใจ...อย่าคิดมาก ต้องหายได้แน่นอน อีกไม่นานก็หาย ไม่ต้องห่วง
อีกทั้งความที่ห่วงใยลูกแฝด ที่เพิ่งจะขวบกว่าๆ
สิ่งเหล่านี้แหละ ที่ค้ำจุนให้มีกำลังใจอยู่ได้
เขาพบว่ายาวิเศษ ที่ดีที่สุดคือ...ความรัก ความเอื้ออาทร ห่วงใย

แต่ถึงแม้จะมีความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัวคอยหล่อเลี้ยง
ความที่ต้องกลายเป็นคนพิการ นอนหงาย...นิ่ง กระดิกกระเดี้ยอะไรก็ไม่ได้
ต้องเป็นภาระของคนที่รักเขาทั้งหลาย...มันช่างกัดกร่อนจิตใจยิ่งกว่า
หลังจากที่ทุกคนพยายามหาวิธีรักษาสารพัดมา...ปีกว่า
จนลูกแฝดทั้งคู่อายุได้ 3 ขวบ เริ่มพูดเก่งแล้ว
การที่ต้องนอนหงาย ทำอะไรไม่ได้มานาน..น..ทำให้จิตใจทดท้อ
สงสาร พ่อ แม่ และ เมีย ที่ต้องคอยห่วงใย...ต้องคอยอุ้ม แบกไป แบกมา
บวกกับความผิดหวังจากการรักษาสารพัดวิธี แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
มันผิดหวัง มันท้อ....จนคิดอยากตาย
อยากตาย...อยากตาย...ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
จนใจแต่ว่าตัวเอง แม้แต่ความสามารถในการฆ่าตัวตาย...ก็ยังไม่มีปัญญา
ได้แต่บ่นน้อยใจชะตาชีวิตให้ภรรยาฟัง...ฉันอยากตาย จะได้ไม่เป็นภาระคนอื่น
บ่นเข้าหลายครั้ง จนภรรยาก็พลอยเครียดไปด้วย

จนกระทั่งคืนหนึ่ง เขาก็นอนบ่นให้ภรรยาฟังอีกเช่นเคย...
แต่เที่ยวนี้ ความอดทนอดกลั้นของภรรยาก็พังทลาย...ร้องไห้โฮ ออกมา
ความรู้สึกของทั้งคู่ตึงเครียดอย่างที่สุด
ลูกชายฝาแฝด 3 ขวบที่กำลังน่ารัก ที่นอนรับรู้บรรยากาศความรู้สึกอยู่ข้าง ๆ
ก็พูดขึ้นว่า...

 เจ้าของ| โพสต์ 2014-3-11 10:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
...ถ้าพ่อตาย หนูก็จะตายด้วย.ย..
ณ.นาทีที่ได้ยิน ลูกพูดออกมาอย่างนั้น ก็คิดได้ทันที
เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่ตัวคนเดียว...แต่ยังมีอีกอย่างน้อย 3 ชีวิตที่ยึดโยงอยู่ด้วยกันอย่างแนบแน่น
เขาจะตายไม่ได้...ตายไม่ได้...
เขาต้องมีกำลังใจ ต้องรักษาตัวให้หายให้ได้...เพื่อคนที่รักเขา ห่วงใยเขา

ตั้งแต่นั้นมา คุณสมพงษ์ ก็มีพลังฮึดสู้ขึ้นมา...นอนฮึดสู้นี่แหละ
ต้องหาย...ต้องสู้...ต้องมีกำลังใจรักษาตัวให้หาย
เอาเทปธรรมะ มาเปิดบ้าง ฟังรายการธรรมะจากวิทยุบ้าง
ทำให้ได้คิดว่า...มันต้องเป็น กรรม ที่ได้เคยกระทำไว้มาสนองแน่นอน
ต้องหาวิธี...ขออโหสิ...ขอให้เจ้ากรรมนายเวร ยอมยกโทษให้
เขาเริ่มตั้งใจ นอนสวดมนต์ แผ่เมตตา อุทิศกุศลให้ผู้เป็นเจ้ากรรม เจ้าเวร...ตลอดหลาย.ย..เดือน
แล้วปาฏิหาริย์ ก็เกิดขึ้น...
มีโครงการที่เป็นเงินทุนจากประเทศ เยอรมัน เข้ามาที่จังหวัดของเขา
ต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดย...ชุมชน
คุณสมพงษ์ เป็นหนึ่งใน 10 กว่าคนที่ได้รับเลือก
ตลอดเวลาการรักษาหลาย..หลายเดือน เขาก็ยังไม่ทิ้ง...การสวดมนต์ แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม
มันได้ผล...เริ่มมีความรู้สึกเพิ่มขึ้นที่หลังมือ ทั้ง 2 ข้าง
มีกำลังใจมากขึ้น ประสาทสัมผัสก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จนขยับมือได้
และขยับแขนได้บ้างนิดหน่อย
คนที่เข้าโครงการรักษาทั้งหมด...มีเขาคนเดียวเท่านั้น ที่มีอาการดีขึ้น
นอกนั้นไม่ได้ผลเลยซักคน

ที่หมู่บ้านของเขานอกจากทำนาตามฤดูกาลแล้ว
ยังมีการประกอบอาชีพทอผ้า ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้ามัดหมี่
เขาได้ขอให้คนที่บ้านช่วยเอาผ้ามาโยงกับขื่อบ้าน แล้วช่วยพยุงตัวขึ้นนั่ง
โดยเอาผ้าที่ทำเป็นบ่วงไว้ สอดเข้าใต้รักแร้พยุงตัวให้นั่งได้
และขอทำหน้าที่...กรอด้าย
เพราะเห็นว่าน่าจะพอทำได้ พอจะเป็นประโยชน์บ้างแม้นิดหน่อยก็ยังดี
หลังจากพยายามอยู่นาน คุณสมพงษ์ ก็มีหน้าที่ กรอด้าย ให้กับภรรยา และคนในหมู่บ้าน
เขาทำหน้าที่นี้...ด้วยความยินดี ดีใจ พอใจที่ยังทำประโยชน์ได้
คนอื่นๆ ไม่รู้หรอกว่า...ในตอนแรกๆ นั้นเขาต้องพยายามพยุงตัวด้วยความยากลำบาก และอดทนแค่ไหน
ถึงขนาดที่ว่า ผ้าที่ใช้รัดพยุงตัวมันบาดรักแร้ และสีข้างถลอกจนเลือดออกทุกวัน เจ็บปวดมาก
แต่เขาก็ไม่ปริปากบอกใคร...กลัวเขาจะไม่ให้ทำ

คุณสมพงษ์ ใช้งานเป็นการทำกายภาพฯ
ใช้การสวดมนต์ แผ่เมตตา เพื่อขอให้เจ้ากรรมนายเวร บรรเทาโทษให้
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เห็นภรรยามีปัญหาเรื่อง...ลายผ้า
เขาจึงอาสาลอกลายผ้าตัวอย่าง ที่เป็นลายดั้งเดิมของท้องถิ่นลงกระดาษ ถือเป็นการฝึกการใช้มือ
หลังจากลอกลายได้หลายวัน จู่ๆ ก็คิดว่า...เขาเข้าใจความซับซ้อนของลายพวกนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง
มันแปลกมาก เพราะแม้จะเรียนจบ ม.6 กศน.
แต่ก็ไม่เคยมีหัวทางศิลปะเลย ซักนิดเดียว
คิดทบทวนแล้วยิ่งมั่นใจ จนเห็นถึงช่องโหว่ ข้อเสีย ของลายดั้งเดิมแบบนี้
มันเหมาะดีกับ ผ้านุ่ง แบบเดิม..เดิม
แต่ถ้าเอามาใช้กับเสื้อผ้าในปัจจุบัน ควรจะปรับปรุงซะหน่อยน่าจะดีกว่านี้
จากนั้นมาเขาก็ตั้งหน้าตั้งตา ออกแบบลายผ้า ลายมัดหมี่ แบบใหม่ๆ
ถึงจะพิการ...เขาก็นอนหงาย คิดออกแบบลายผ้าอย่างไม่ย่อท้อ
แต่ก็ไม่เคยขาด การสวดมนต์ แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม
ยิ่งโดยเฉพาะวันพระ...จะเพิ่มถือศีล 8 อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
ผลที่เกิดตามมา...ร่างกายค่อยๆ มีความรู้สึกขึ้นมาทีละน้อย...ทีละนิด
จนถึงช่วงเอว

คุณสมพงษ์ ได้คิดค้นออกแบบลายผ้า ลายมัดหมี่ ให้เหมาะสมสวยงาม
พัฒนาจนสามารถเป็นสินค้า โอทอป ประจำจังหวัดอุบลฯ
ปี 2545 กิจการดีขึ้นจนมีเงิน ปลูกบ้านชั้นเดียว หลังเล็กๆ แยกออกมาจากบ้านพ่อ แม่
ปี 2549 เขาได้เริ่มงานอาสาฯ ทำโครงการ…
ชมรมศูนย์การเรียนรู้โดยชุมชน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาคนพิการโดยชุมชน ( CLC )
เคยได้รับเชิญออกรายการ...ยิ้มสู้
ได้เป็นบุคคลตัวอย่าง รับรางวัล และกำลังใจมากมาย
ได้เป็นตัวตั้งตัวตี ในสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย...ต้องมาประชุมสภาฯ ด้วย
ปัจจุบันนี้ คุณสมพงษ์ ยังทำหน้าที่ วิ่ง.ง.ง..ไปให้กำลังใจและช่วยเหลือคนพิการที่ถูกทอดทิ้งทั่วประเทศ
ทำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เท่าที่จะทำไหว...ด้วยทุนส่วนตัว
ด้วยรถโดยสารสองแถว รถบัส รถ บ.ข.ส.

ส่วนลุงที่เอาจอบฟัน งูสิง ขาดกลางหลัง
ทุกวันนี้ก็เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต จากเส้นเลือดในสมองแตก
เพื่อนๆ ที่เคยร่วมทำกรรม ก็มีอันชีวิตล้มเหลวต่างๆ กันไป

คราวหน้า ถ้าคุณไปเดินดูสินค้า โอทอป แถวๆ บู๊ทของจังหวัดอุบลฯ
อาจจะเห็น หนุ่มใหญ่หน้าตาสดใส นั่งรถวิลล์แชร์
คอยพรีเซนต์เสื้อผ้า และอวดลวดลายที่เขาออกแบบเอง
หรือ ถ้าสนใจลองเสริช ชื่อคน...คนนี้ดูซิครับ
โทร.ไปคุย ไปให้กำลังใจกับเขาก็ได้ นะ
082-862-5461

อ้อ...ทุกวันนี้ก็ยังขยัน สวดมนต์ อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม ถือศีล 8 อย่างสม่ำเสมอ
ทำอย่างง่ายๆ นี่แหละ...เปิดทีวีมีรายการทำวัตรเช้า ก็ตั้งจิตสวดตามไป
ก่อนนอนก็สวดบท อิติปิโสฯ บททั่วๆ ไปนี่แหละ
พิเศษก็เฉพาะ วันพระ จะตั้งใจปฏิบัติสมาธิ กรรมฐาน
เอาทุกข์ เอาร่างกายนี่แหละ มาพิจารณา...มันไม่ใช่ของเราเลย จริง จริง
ถ้าไปวัดใกล้บ้านได้ ก็จะไป ถ้าไม่สะดวกก็ตั้งใจปฏิบัติฯ ที่บ้าน
ทำอย่างนี้สม่ำเสมอ...ทู๊ก.ก..วัน
ด้วยความหวังว่า...

...ซักวันนึง เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย คงจะเห็นใจ และให้อภัย...



http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/06/Y10755874/Y10755874.html
โพสต์ 2014-6-29 04:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้