ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 6245
ตอบกลับ: 20
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตำนาน...ความสุขที่หายไป

[คัดลอกลิงก์]
...มารน้อย 3 ตน แอบมาขโมยความสุขของมนุษย์เอาไป แล้วก็ปรึกษากันว่าจะเอาไปซ่อนที่ไหนดี
      
...มารน้อยตนที่ 1 ก็บอกว่า ควรเอาไปซ่อนที่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก

...มารน้อยตนที่ 2 พูดแย้งว่า เพื่อนเอ๋ย มนุษย์นั้น ไม่กลัวความสูง แต่กลัวหายใจไม่ออก เพราะสังเกตได้ว่า ดำน้ำได้นิดเดียวก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้ว เพราะกลัวหายใจไม่ออก แต่บนภูเขาอากาศดี มนุษย์ชอบไปเที่ยวภูเขา เอาไปซ่อนไว้ใต้บาดาลดีกว่า
  
...มารน้อยตนที่ 3 ก็พูดแย้งว่า อย่าเลยเพื่อนเอ๋ย มนุษย์มันเก่ง สร้างเครื่องมือหาของในทะเล ในอากาศได้ เดี๋ยวมันก็หาเจอแต่สังเกตได้ว่า
   
...นัยน์ตามนุษย์มองไปข้างนอก
...หูก็ชอบฟังเสียงข้างนอก
...ใจชอบไปเที่ยวข้างนอก
เราควรแอบเอาไปซ่อนไว้ในใจมันดีกว่า
มนุษย์หาไม่เจอแน่ๆ เพราะว่า
มนุษย์ชอบหาความผิดของคนอื่น
ไม่ชอบขัดใจตัวเอง
ไม่ชอบดูจิตใจของตัวเอง
      
...มารน้อยทั้ง 3 ตน ก็ตกลงความเห็นเป็นเช่นเดียวกัน

...ตั้งแต่นั้นมา มารน้อยก็เอาความสุขของมนุษย์มาซ่อนไว้ที่ใจ มนุษย์ผู้โง่เขลาจึงออกไปหาความสุขที่อื่นจึงหาความสุขไม่พบ โดยหารู้ไม่ว่า ความสุขที่เฝ้าติดตามเฝ้าหา อยู่ที่ใจตัวเองนั่นเอง

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-12 16:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-16 11:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ค ว า ม สุ ข ที่ ห า ย ไ ป ต า ม ก ลั บ คื น ไ ด้ ห รื อ ยั ง?  


หากรู้จักมองชีวิตให้ครบทุกด้าน กาลเวลาที่เราสมมุติว่าเป็นอดีตหรือปัจจุบัน
ย่อมเป็นครูสอนชีวิตให้มีคุณค่า และสามารถฟ้องอนาคตข้างหน้าว่า
จะเป็นเช่นไรได้ด้วยภาวะที่ลงตัว คนเรามักมีภาพของความรู้สึกดีๆ
ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของตัวเองเสมอ อาจเป็นความรู้สึกพึงใจที่เล็กๆ
กระทั่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่เคยสัมผัส แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเพียงใด
แต่ความทรงจำนั้นก็ไม่มีวันเลือนหายไปจากใจซึ่งถูกเก็บไว้ในอดีตของวันวาน
ทว่าอดีตก็เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือร้ายเพียงใด
ก็ชื่อว่าเป็นประสบการณ์ที่ชีวิตได้ล่วงเลยผ่านมา
แต่คนเรากลับชอบที่จะรื้อฟื้นความทรงจำเหล่านั้นเสมอ
จึงเกิดภาพซ้อนที่ทำให้ติดอยู่ในความทรงจำทั้งเรื่องที่ดีและร้ายคละเคล้ากันเรื่อยมา
บ้างก็คิดถึงสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดี บ้างก็จมอยู่กับความหมองเศร้า
ที่ไม่รู้ว่าจะให้สลายไปจากใจได้อย่างไร อดีตจึงมีอิทธิพลสำหรับคนที่รู้เท่าไม่ทัน
ทำให้เจ้าของชีวิตต้องจมอยู่กับความรู้สึกนั้น แต่ปราชญ์ทั้งหลาย
กลับเชิญชวนให้คนเราหันกลับมาทำความเข้าชีวิตในปัจจุบันเป็นหลัก
เพื่อให้มีเวลาทำความรู้จักกับความจริงที่มี และเข้าใจภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรู้เท่าทัน
โดยไม่ยึดติดกับภาพเดิมๆที่มีอยู่อีกต่อไป เพราะอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
ส่วนอนาคตก็เป็นภาวะที่ไปยังไม่ถึง ทุกความคิดและการกระทำจึงควรยุติอยู่ที่ปัจจุบันเป็นสำคัญ
แต่ใช่ว่าความทรงจำที่ผ่านมาจะเลวร้ายเสียทีเดียว เพราะถ้ารู้จักใช้อดีตที่ผ่านมาเป็นครูสอนชีวิต
ให้ฉลาดขึ้น อดีตนั้นก็สามารถก่อเป็นความงามได้เช่นกัน เพราะเมื่อไม่สามารถลบล้างอดีตได้
เราก็ควรเรียนรู้ชีวิตผ่านอดีตนั้น โดยใช้เป็นอุปกรณ์ในการสอนปัจจุบันที่ประสบอยู่แต่ละขณะให้ดีขึ้น
เป็นการใช้ปัจจุบันเป็นตัวการแก้ไขข้อบกพร่องในวันวานที่ผ่านมา เพื่อให้ความทรงจำเหล่านั้น

มีชีวิตจริงขึ้นมาได้ ถ้าอดีตที่ผ่านมาเป็นความทรงจำที่เลวร้าย อาจจะเกิดจากความคิด
และการกระทำที่ไม่เป็นดังใจหวัง เราก็ใช้ปัจจุบันที่มีแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดให้เป็นความถูกต้อง
หากเป็นอดีตที่ดีงามในความทรงจำ ทุกอย่างที่ผ่านมาช่างก่อ ให้เกิดคุณค่าต่อชีวีที่มีอยู่
ก็ให้เอาอดีตเหล่านั้นมาสอนปัจจุบันให้รู้จักต่อยอดสิ่งที่ดีนั้นไว้ มิใช่ทิ้งขว้างให้จากไป
โดยไม่รู้จักใส่ใจ เพราะหลายครั้งจะเห็นได้ว่าคนเราเวลาทำอะไรในปัจจุบันที่ขาดหลัก
และหลงลืมอดีตที่ดีงามของตน สุดท้ายเส้นทางสายใหม่ที่คิดว่าจะไฉไลกว่าเดิม
ก็เต็มไปด้วยขวากหนามที่คอยทิ่มแทงให้เจ็บตัวอยู่เรื่อยมา


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-16 11:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“ ความสุขที่หายไปในชีวิตเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา
เราตามเก็บรายละเอียดเหล่านั้นคืนได้หรือยังในปัจจุบัน ?”


บางคนในอดีตมีปมด้อย แต่ก็ยังยึดปมนั้นมัดใจตัวเองให้หมองเศร้าตราบจนปัจจุบัน
ทำตัวเองให้จมอยู่กับความด้อยค่านั้นตลอดมา บางคนเคยไร้สุขเพราะไร้ทรัพย์
แต่ปัจจุบันมีเพียบพร้อมดั่งที่ใจเรียกหา ทว่าชีวิตที่มีอยู่กลับเต็มไปด้วยความต้องการ
ที่ไม่มีวันจบสิ้น เพราะหวาดผวาจากความจนในอดีต บางคนเคยถูกประทุษร้าย
ด้วยอารมณ์โกรธขึ้งจากคนอื่น ครั้นพอเติบใหญ่และได้อำนาจมาครอบครอง
กลับกลายเป็นผู้ประทุษร้ายผู้อื่นด้วยความรู้สึกต้องการเอาคืน บางคนเคยไร้การยอมรับ
และการให้เกียรติ ครั้นมีโอกาสได้เติบใหญ่ในวิถีแห่งการแสวงหา กลับข่มเหงผู้อื่นให้ยอมรับ
ในคุณค่าที่มาจากความต้องการที่ขาดหายไปของตน บางคนเคยสัมผัสสุข
ที่เป็นภาพความงามในอดีต แต่ครั้นปัจจุบันประสบทุกข์ ก็จมอยู่กับเรื่องราวที่น่าขมขื่นนั้นอยู่เรื่อยมา
สิ่งที่เกิดขึ้นจากภาวะที่ไม่ได้ดั่งหวังเหล่านี้ ล้วนเป็นอดีตที่เราเคยทำหล่นหายไป


แม้ว่าวันนี้สถานะทางความสุขที่ได้รับจะเปลี่ยนไป แต่หัวใจที่เปี่ยมสุขและรู้จักให้อภัย
ในวันวานที่ผ่านมาก็ยังมิได้กลับสู่ใจแต่อย่างใด เป็นความสุขที่หายไปโดยไม่มีการตามกลับคืน
แต่สำหรับผู้ฉลาดในการใช้ชีวิต การเรียกความสุขที่หายไปกลับคืนมา
ถือว่าเป็นการแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้กลับมาอยู่ในภาวะที่ดีขึ้น ทำสิ่งที่สมบูรณ์ให้มีการต่อยอด
ในวิถีที่ทรงคุณ เสมือนหนึ่งว่านำความบกพร่องที่ผ่านมาเป็นครูสอนชีวิตให้ตื่นรู้
และปลุกเร้าให้มีความกล้าที่จะตามเก็บรายละเอียดของชีวิตให้มีความสุขกลับคืนมาในปัจจุบัน จ
ากอดีตที่เคยมีปมด้อย กลับก่อให้มีการพัฒนาให้เกิดเป็นปมเด่น โดยอาศัยอดีตที่ปวดร้าว

เป็นครูสอนใจ จากอดีตที่เคยไร้ทรัพย์ แต่กลับสร้างปัจจุบันให้มั่งมี พร้อมกับเรียนรู้ว่า
จะต่อยอดสิ่งที่ได้มาให้เกิดคุณค่าราคางามอย่างไร จากอดีตที่เคยถูกแสดงออก
ด้วยภาวะที่เกรี้ยวกราดจากผู้อื่น แต่ปัจจุบันกลับรู้จักแก้ไขให้ดีขึ้น และไม่ประสงค์
ที่จะให้ความเกรี้ยวกราดนั้นแผ่ขยายไปสู่ใครที่ได้เจอ จากอดีตที่ไร้การยอมรับ
และการให้เกียรติ ครั้นปัจจุบันได้สิ่งที่เรียกร้องมาครอบครอง ก็ไม่ทำเยี่ยงที่ตัวเองเคยถูกกระทำ
แต่เป็นการใช้ความบกพร่องที่เคยมีมาเป็นครูสอนว่า เราไม่ชอบเช่นไรก็ไม่ควรปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นนั้น
จากอดีตที่เคยมีความสุข ก็รู้จักต่อยอดความสุขนั้นด้วยการแผ่ไมตรีสู่ผองชน
ด้วยความเอื้ออารีที่น่าชม การแก้ไขอดีตเช่นนี้ เป็นเสมือนการตามเก็บรายละเอียดที่เคยทำ
หายไปในชีวิตให้กลับกลายมาเป็นรูปภาพที่เป็นจริง ประหนึ่งการนำจิ๊กซอว์
ชีวิตที่ตกหล่นมาเติมส่วนที่ยังเหลืออยู่ให้กลับมาเป็นความสมบูรณ์

ดังนั้น เมื่อปรารถนาให้ความสุขกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เราจึงต้องเรียนรู้การตามเก็บความสุข
ด้วยความเข้าใจ ใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น และเรียนรู้ที่จะมองความสุขให้รอบด้าน
ด้วยปัญญาที่มาจากความเข้าใจ เพราะหากรู้จักมองชีวิตให้ครบทุกด้าน กาลเวลาที่เราสมมุติ
ว่าเป็นอดีตหรือปัจจุบันย่อมเป็นครูสอนชีวิตให้มีคุณค่า และฟ้องอนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นเช่นไรได้ด้วยภาวะที่ลงตัว
อดีตที่เลวร้ายหากไม่ได้รับการแก้ไข ย่อมฟ้องปัจจุบันว่า
จะประสบกับความหมองเศร้าทวีคูณ ปัจจุบันที่ไร้ค่า ย่อมฟ้องความไร้ค่าในอนาคตเช่นกัน
อดีตที่สวยงามย่อมต่อยอดเป็นความดีได้ในปัจจุบัน ปัจจุบันที่เปี่ยมด้วยคุณค่าแห่งชีวี
ย่อมเป็นอาภรณ์ฟ้องอนาคตที่จะพึงมีให้งดงามตลอดไป

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-16 11:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ด้วยเหตุนี้แม้กาลเวลาจะดำรงอยู่บนความไม่แน่นอนของชีวิตเพียงใด

แต่เราก็สามารถที่จะเลือกได้ว่า ...
จะให้ชีวิตที่ผ่านมาเป็นครูสอนอะไร ?
จะทำปัจจุบันที่มีอยู่ส่งต่อไปสู่อนาคตอย่างไร ?
ความสุขที่หายไปจึงจะกลับคืนมาสู่ชีวิตของเราด้วยความลงตัว



"You can't change the past but you can change the future into a better past!!!"

"คุณไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนอดีตได้ แต่สิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนได้คืออนาคตเพื่อที่จะเป็นอดีตที่ดีกว่า"





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ความสุขอยู่ที่ใจ ลองฝึกดู นั่งหัวเราะคนเดียวก็ยังได้
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-9-16 12:03
ความสุขอยู่ที่ใจ ลองฝึกดู นั่งหัวเราะคนเดียวก็ยังได ...

นั่งหัวเราะคนเดียวมันจะดี หรอครับ
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-9-15 21:09
นั่งหัวเราะคนเดียวมันจะดี หรอครับ ...

มันเป็นความสุขที่ไม่ควรให้ใครมาเห็นครับ
เดี๋ยวเขาถามแล้วตอบไม่ถูก
เป็นการหัวเราะแบบไม่มีที่มาที่ไป
ลองดูซิครับ ระวังติดลม
เยี่ยม
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-20 14:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้