ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2127
ตอบกลับ: 2

" ตะกรุดข้า 500 ทุกดอก ปืนยิงออกไม่ต้องเอาไป "

[คัดลอกลิงก์]
" ตะกรุดข้า 500 ทุกดอก ปืนยิงออกไม่ต้องเอาไป "
หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
ตำนานสิงห์เหนือ เสือใต้ แห่งท่าเรือ ในอดีต
... " ตะกรุดหลวงพ่อนอ มีดหมอหลวงพ่อแจ่ม "
เงิน 500 ในสมัย พ.ศ.2500 ต้นๆ ถือว่าเยอะมาก ก๋วยเตี๋ยวชามละไม่กี่บาท ทองบาทละไม่กี่ตัง คนจะเช่า ต้องมีฐานะพอสมควร
หนึ่งในศิษย์ที่นับถือหลวงพ่อนอ มากๆ ท่านหนึ่งคือ ท่าน
จอมพล ป.พิบูลสงคราม  
จอมพล ป.ท่านนับถือหลวงพ่อนอ มาก ขนาดมาลงทุนดูเรื่องการทำนุบำรุงวัด สร้างโรงเรียนด้วยตัวท่านเอง
หลวงพ่อนอ เป็นอาจารย์ของ หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง จ.สระบุรี ซึ่งหลวงพ่อตาบเอง ก็คือ อาจารย์หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ อยุธยา
ใครไม่มีตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อนอ
  ก็ใช้ตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อตาบแทนได้
ใครไม่มีตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อตาบ ก็ใช้ตะกรุดหนังเสือ  หลวงพ่อเอื้อน แทนได้
ทุกวันนี้ ตำนานตะกรุดหนังเสือ น่าจะหมดลง เพราะมีกฏหมายออกมา
เรื่องการห้ามนำชิ้นส่วนสัตว์ไปทำวัตถุมงคล รู้สึกหลังๆ หลวงพ่อเอื้อน จะไม่ค่อยได้ทำแล้ว ทำแต่ตะกรุดปกติ





 เจ้าของ| โพสต์ 2020-9-15 09:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ตะกรุดข้า ๕๐๐ ทุกดอก ถ้ายิงออกไม่ต้องเอาไป
พระครูประสาธน์วิทยาคม หรือ หลวงพ่อนอ จันทสโร วัดกลางท่าเรือ(พระครูนอ)
ประวัติ หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
พระครูประสาธน์วิทยาคม หรือ หลวงพ่อนอ จันทสโร วัดกลาง เกิดวันอังคารที่ ๓๑ มกราคม ๒๔๓๕ ตรงกับขึ้น ๑๔ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง ณ บ้านศาลาลอย อ.ท่าเรือ เป็นบุตรของ นายสวน นางพุฒ งามวาจา
บรรพชา อายุ ๑๗ ปี ณ วัดกษัตราธิราช
อุปสมบท ปี ๒๔๕๘ ณ วัดศาลาลอย
มรณภาพ วันที่ ๑๖กุมภาพันธ์ ๒๕๒๑ ตรงกับขึ้น ๙ค่ำ เดือน ๓ปีมะเมีย
รวมสิริอายุ ๘๖ ปี ๖๓ พรรษา
โยมบิดาตั้งนามว่า “นอ” อายุได้ ๗ ขวบ ได้เข้าเล่าเรียนอักขระสมัยกับพระสวย ที่เป็นหลวงลุงที่วัดกษัตราธิราช และได้บรรพชาเป็นสามเณรที่นั่น อายุครบบวชจึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดศาลาลอย และได้เล่าเรียนวิชาอาคมกับพระอาจารย์นาค และพระอาจารย์วงษ์ ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่มีอาคมแก่กล้าเป็นที่นับถือในหมู่คนทั่วไป โดยพระอาจารย์วงษ์เก่งทางด้านคงกระพัน พระอาจารย์นาคเก่งทางด้านมหาอุด โดยได้ศึกษามาจากสำนักวัดประดู่ทรงธรรมพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อนอ ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางท่าเรือเพราะญาติโยมที่เคยเห็นสรรพคุณของท่านมาก่อนได้ นิมนต์มาช่วยสร้างวัด เพราะตอนนั้นวัดกลางท่าเรือเป็นวัดที่แทบจะเป็นวัดร้าง หลวงพ่อนอจึงได้ตั้งใจเด็ดเดี่ยวกับกรรมการวัดว่า ไม่เป็นไรหรอก เมื่อไว้ใจให้ฉันมาช่วยสร้างวัด คอยดูนะ ฉันจะจารตะกรุดสร้างวัดให้พวกแกดู การก็เป็นความจริง หลวงพ่อนอลงตะกรุดโทนตะกรุดหนังหน้าผากเสือหาเงินเข้าสร้างโบสถ์และเสนาสนะ ปรากฏว่า ตะกรุดโทนหลวงพ่อนอ ตะกรุดหนังหน้าผากเสือของท่านท้ายิงได้ทุกดอก ยิงออกไม่ต้องเอาเงินทำบุญ
หลวงพ่อนอ








สุดยอดเครื่องราง ตะกรุดหนังเสือ
หนังสือเครื่องรางยุคเก่าจัดลำดับให้หนังหน้าผากเสือหลวงพ่อนอ อยู่ในลำดับ เครื่องรางของขลังยอดนิยมอันดับ ๕ ครับ แต่ปัจจุบันหลวงพ่อนอ น่าจะอยู่ในอันดับที่ ๔ครับ ตามลำดับ ดังนี้…หลวงปู่นาค – หลวงปู่บุญ – หลวงพ่อหว่าง – หลวงพ่อนอ – หลวงพ่อเต๋ – หลวงพ่อตาบ – หลวงพ่อคง จันทบุรี ฯลฯ ฟอร์มมาตรฐาน ถักหุ้มหัวท้าย (หรือเรียกว่าลายกระสอบ)  ราคาทำบุญจากวัดดอกเล็ก ๕๐๐ บาท (ประมาณปี ๒๔๘๐ – ๒๔๙๕ ถือว่าแพงมากในสมัยนั้น และที่สำคัญมีการลองยิงในวัดทีเดียว ขลังมากครับ)
หนังหน้าผากเสือ ดีทางมหาอำนาจสูงมาก แต่ทั้งนี้เสือนั้นมีดี ๓ อย่าง  (๑)…เป็นเจ้าป่า มีตบะเดชะมหาอำนาจ แค่เพียงกลิ่นสาปเสือโชยไปกระทบสัตว์อื่นเป็นต้องหวาดกลัว (๒)…ถึงแม้เสือจะเป็นสัตว์ที่ดุและน่ากลัวแต่คนก็อยากเห็นและอยากเจอเสือ ข้อนี้ท่านว่าเป็นเมตตามหานิยมครับ (๓)…หากินคล่องไม่มีฝืดเคืองเรื่องอาหาร หลวงพ่อนอท่านลงตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ถวายพระเจ้าอยู่หัว ร.๙  เมื่อปี ๒๔๙๕ (จากบันทึกของสำนักราชเลขาธิการ ลงวันที่ถวาย ๑๐ สิงหาคม ๒๔๙๕ และพระเจ้าอยู่หัวทรงร.๙โปรดเกล้าฯให้จัดไตรครองนำมาถวายหลวงพ่อนอ ๑ ชุด ลงวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๔๙๕
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ สนามพระ







แต่เดิมนั้น หลวงพ่อนอ ท่านสร้างจะใช้แต่หนังเสือเพียงอย่างเดียวมาทำการปลุกเสกเมื่อเสร็จ ก็ทำการแจกจ่ายให้ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในละแวกนั้นนำไปใช้พกติด ตัวทำกิจวัตรประจำวัน ทำให้ตะกรุดโดนเหงื่อโดนน้ำโดนฝน ก็ทำให้ตะกรุดเกิดความเสียหาย ยุ่ยเปื่อย เสียรูปทรงง่าย หลวงพ่อคงทราบจากชาวบ้านหรือลูกศิษย์ ก็จึงคิดพัฒนาโดยการนำไม้ไผ่มาเหลาไว้เพื่อใช้เป็นแกนกลางก่อนที่จะนำ หนังเสือมาพันไว้รอบแกนไม้ไผ่อีกทีจากนั้นจึงนำมาถักเชือกลงรัก ซึ่งต่อมายุคหลังๆแกนกลางจะใช้ทองแดง คงไม่มีใครปฏิเสธ เมื่อถ้ามีโอกาสเที่ยวสวนสัตว์ หรือคนสมัยก่อนเมื่อเข้าป่า ก็อยากเห็นหรือเจอเสือ ในทางกลับกันในใจเมื่อเห็นก็กลัวสุดๆ การสร้างตะกรุดต่างๆมีการนำวัตถุหลายๆอย่างหลายประเภทมาสร้าง หนังเสือก็เป็นส่วนหนึ่งเพราะเป็นอาถรรพณ์วัตถุศักดิ์สิทธิ์ในตัวมีทั้ง เมตตามหานิยม พลังมหาอำนาจ และแคล้วคลาด บวกกับขั้นตอนในการบรรจุวิทยาคม ของหลวงพ่อนอซึ่งขั้นตอนในการปลุกเสกไม่มีอาจารย์ท่านใดเหมือนแน่นอน ก่อนปลุกเสกท่านจะใช้เหล้าเพื่อบูชาครู จากนั้นตัวของท่านจะแดงมาก ท่านจะปิดกุฏิปลุกเสกเงียบๆคนเดียวอยู่ในกุฏิ ช่วงเวลาปลุกเสก ลูกศิษย์จะได้กลิ่นสาปเสืออบอวลทั่วทั้งบริเวณตลอดจนเป็นเรื่องเล่าขานสืบ ต่อมาไม่รู้จบของพิธีกรรมปลุกเสกที่เข้มขลังในยุคนั้น ตะกรุดหนังเสือเป็นเครื่องรางที่มองดูผิวเผินก็ดูจะธรรมดาๆ แต่จริงๆแล้วทุกท่านก็คงประจักษ์กันมานักต่อนักแล้วแม้นจะเป็นเรื่องเล่าขาน สืบต่อหรือประสบการณ์กับตนเองในเรื่องของพุทธคุณไม่เป็นรองวัตถุมงคลใดๆเลย โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันตะกรุดหนังเสือสำนักนี้มีราคาค่างวดสูงมากยิ่งขึ้น แรงแซงทางโค้งเนื่องจากเจตนาการสร้างดี พุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ความมาตรฐานนิยม ความหายากและจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจวบจนนิรันดร์
(ขอบคุณข้อมูลจากคุณathaiและพี่เกร็ดเพชร)
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
ศิษย์มีครู
เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์
โพสต์ 2020-10-21 23:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้