ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2147
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ หลวงพ่อกุน(พระครูสุชาตเมธาจารย์) วัดพระนอน

[คัดลอกลิงก์]
ในอดีต ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ หลวงพ่อกุน(พระครูสุชาตเมธาจารย์) วัดพระนอน (ตะกรุดในตำนาน)สุดยอดแห่งความหายาก



ตะกรุดเป็นคำนามหมายถึงแผ่นโลหะที่แผ่แล้วม้วนกลมๆ ลงอักขระเลขยันต์คาถาอาคม ว่ากันว่าตามถนัดของแต่ละเกจิอาจารย์ ใครจะลงอะไรก็ได้ไม่ผิดกติกา นอกจากจะลงในแผ่นโลหะแล้วก็ยังลงในใบลาน ใบตาลหนังหน้าผากเสือ หนังควายเผือกแล้วม้วนกลมๆ ก็ย่อมเรียกว่าตะกรุดได้ทั้งสิ้น
ประโยชน์ของตะกรุดก็คือเป็นเครื่องรางของขลังใช้คุ้มครองตัว แต่ที่ดัดแปลงทำเป็นเครื่องประดับก็มี อย่างเช่น ตะกรุดท่านเจ้าคุณสนิมสมณคุณ วัดท้ายตลาด ทำเป็นสร้อยคล้องคอ เป็นต้น ปัจจุบันหาชมยากครับ และตะกรุดของพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังอีกหลายท่าน เช่น ตะกรุดมหาโสฬสมงคลของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ตะกรุดหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตะกรุดมหาปราบ มหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ตะกรุดใบลานบางปืน หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน ตะกรุดลูกอมหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ตะกรุดลูกอมหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เป็นต้น
ตะกรุดแพงที่สุดในโลกในอดีต ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี ท่านทำตะกรุดสุดขลังตามตำราโบราณในสมุดจีนปกเขียว จากมหากาพย์รามเกียรติ์ ตอนหนุมานถวายแหวน ขั้นตอนพิถีพิถัน ใช้ฤกษ์เสาร์ ๕ ลงอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกในป่าช้า ๗ แห่ง รอถึงคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง ใช้ลูกสะบ้ามอญลบรอยเหล็กจารเอาเคล็ดถึง ๓ ครั้ง ๓ วาระ เท่ากับว่าใช้เวลา ๓ ปี ก่อนแจกลูกศิษย์ สมัยก่อนใครอาราธนาตะกรุดโยนข้ามหลังคาบ้าน คนทั้งบ้านหลับใหลไม่รู้ตัว
“”วัดพระนอน เพชรบุรีนอกจากจะมีพระพุทธรุปสำคัญให้ได้สักการะกราบไหว้แล้ว

“”ยังมีพระเกจิอาจารย์ที่เลื่องชื่อในอดีต ได้แก่พระครูสุชาตเมธาจารย์ หรือ หลวงพ่อกุน วัดพระนอนครับ
พระครูสุชาตเมธาจารย์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อกุน วัดพระนอน พระคณาจารย์ชื่อดังในอดีตของจังหวัดเพชรบุรี ที่แก่กล้าในเวทย์วิทยาคม ตะกรุดของท่านโด่งดังมีมหิทธานุภาพมาก

   หลวงพ่อกุน ท่านเกิดเมื่อวันพุธ เดือน 6 ปีวอก พ.ศ.2403 บ้านหนองกาทอง ตำบลโรงเข้ จังหวัดเพชรบุรี มารดาชื่อ ม่วง มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน
   ในวัยเด็กท่านเป็นคนเรียบร้อย สนใจเรื่องธรรมมะ ต่อมาครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปอยู่ย่าน วัดวังบัว ซึ่งห่างจากบ้านเกิดประมาณ 2 กิโลเมตร และได้บรรพชาเป็นสามเณร กระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ พำนักจำพรรษาที่วัดวังบัว
   ท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนมีความแตกฉานด้านพุทธาคมและสรรพวิชาอื่น ๆ ได้เดินทางไปศึกษาจากหลายพระอาจารย์ เช่น อาจารย์แจ้ง ซึ่งเป็นฆราวาสขมังเวทย์ พระอาจารย์มุ่ย วัดใหญ่สุวรรณาราม ศึกษาทางด้านศิลป์ หลวงพ่อฤทธิ์ วัดพลับพลาชัย เกี่ยวกับหนังใหญ่ และอื่น ๆ อีกหลายท่าน
   ท่านพำนักอยู่ที่วัดวังบัว ประมาณ 3 พรรษา จากนั้นย้ายมาอยู่วัดพระพุทธไสยาสน์ หรือวัดพระนอน ขณะนั้นท่าน พระครูสุวรรณมุนี (เกษ) เป็นเจ้าอาวาส ภายหลังมรณภาพ หลวงพ่อกุน จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน
   ภายหลังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระนอน ท่านเพียรพยายามบูรณปฏิสังขรณ์วัดจนเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌาย์ และต่อมาท่านก็ได้รับพระราชธานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ พระครูสุชาตเมธาจารย์
   เมื่อว่างเว้นจากภารกิจในวัด ท่านจะออกธุดงควัตรเสมอ แต่ละครั้งมีลูกศิษย์ออกตามปฏิบัตรธรรมเป็นจำนวนมาก ด้วยเชื่อว่าถ้าไปกับท่านแล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันอันตรายทั้งปวง

เครื่องรางที่ขึ้นชื่อของหลวงพ่อกุน คือ ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ




ตะกรุดไมยราพสะกดทัพของหลวงพ่อกุนเป็นตะกรุดโทน ที่มีจำนวนการสร้างไม่มากนัก สัณนิฐานว่าประมาณ ๓๐๐ ดอก
ปัจจุบันเป็นตะกรุดในตำนานที่หายากยิ่ง  พุทธคุณโดดเด่นทางคงกระพัน กันเขี้ยวงา และเป็นสะกดผู้คนให้หลับใหล
ได้เคยฟังเรื่องราวอานุภาพของตะกรุดไมยราพสะกดทัพ จากหลวงพ่อครูชาอาจารย์ที่เคารพนับถือ ได้บอกเล่าเรื่องราวไว้ว่า
เคยเห็นเหมือนกัน ตอนนั้นยังไม่ค่อยได้สนใจทางนี้ มุ่งแต่เรียนทางธรรม  ไปบิณฑบาต บ้านโยมคนหนึ่ง ยินรอสักพักเห็นเงียบผิดปกติ
มารู้ตอนหลังว่า หลับหมดทั้งบ้าน เพราะเมื่อคืนมีคนเอาตะกรุดของหลวงพ่อกุนไปแขวนไว้ที่รอดของบ้าน  ขึ้นไปหุงข้าวต้มแกงกิน
ไม่มีใครรู้สึกตัว แต่ท่านห้ามไม่ให้หยิบของมานะ ผิดครู กินได้อย่าเอาของเขา  คนโบราณเขาถือสัจจะมั่นคง ของถึงได้ขลัง
“จากนั้นก็สนใจด้านนี้เรื่อยมา ”
ท่านผู้เล่าบอกว่า  “ตะกรุดหลวงพ่อกุน สะกดคนได้จริงๆ”
ตะกรุดชุดนี้จะจารเป็นทั้งอักขระยันต์และรูปในเรื่องรามเกียรติ์ครับ ภาพประมาณ หนุมานถวายแหวน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ตะกรุดวันเพ็ญ”
ยันต์ที่กล่าวถึง มีเค้ารางมาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนเอาเค้าเรื่องมาผูกเป็นยันต์ขึ้น เป็นยันต์รูปทศกัณฐ์ผูกผมกับนางมณโฑ มาจากเค้าเรื่องตอนพิธีเผารูปเทวดาชุบหอกกบิลพัท ซึ่งตามท้องเรื่องว่าถ้าหากทศกัณฐ์ทำสำเร็จจะมีฤทธิ์เหนืออาวุธใด ๆ ในสามโลก ไม่ว่าพระรามหรือใคร ๆ ก็เอาชนะไม่ได้ จึงได้ให้เหล่าเสนายักษ์ ไปตั้งโรงพิธีที่ใกล้เชิงเขาพระเมรุ แล้วทำพิธีปั้นรูปเหล่าเทวดาที่มาเป็นพยานคราวที่ท้าวมาลีวราชว่าความและเผารูปเหล่านั้น ทำให้เหล่าเทวดานั้นรุ่มร้อนคล้ายถูกไฟบัลลัยกัลป์
เมื่อพระอิศวรรู้ข่าวจากพระอินทร์ จึงได้ให้เทพบุตรพาลีลงไปทำลายพิธีจนสำเร็จ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทศกรรฐ์คิดว่าการที่ตนทำพิธีใดก็ถูกทำลายหมด เป็นเพราะพิเภกบอกการแก้กลจากข้าศึก จึงจะออกไปรบและหมายที่จะฆ่าพิเภกด้วยหอกกบิลพัท พิเภกรู้ว่าทศกรรฐ์คิดว่าตนบอกกลลวงไปทำลายพิธีเผารูปเทวดาและชุบหอกกบิลพัทและจะตามมาฆ่าทิ้งเสีย ก็ทูลแก่พระราม พระรามให้พระลักษมณ์คอยเฝ้าดูแลพิเภก ขณะที่พระรามกำลังสู้รบกับทศกรรฐ์ ฝ่ายทศกรรฐ์รบพลางคอยมองลู่ทางสังหารพิเภกไปด้วย เมื่อมีช่องทางก็พุ่งหอกหมายฆ่าพิเภก
พระลักษมณ์ปัดได้ แต่หอกได้กลับมาปักอกตนเองแทนจนสลบไป พิเภกทูลพระรามว่าวิธีแก้หอกกบิลพัทชื่อว่า “ต้นสังกรณีตรีชวา” อยู่ที่ภูเขาสัญชีพสัญญี มูลวัวพระอิศวรที่ถ้ำอินทกาล และใช้หินรองบดยาที่เมืองบาดาล แต่ว่าหินแท่งบดยานั้นทศกรรฐ์ใช้เป็นหมอนหนุนนอน พระรามจึงได้สั่งให้หนุมานไปนำของทุกอย่างมา
หนุมานได้มาทุกอย่างแล้ว เว้นหินบดยา จึงตามไปยังเมืองลงกา และร่ายพระเวทสะกดให้เหล่ายักษ์หลับ แล้วลอบเข้าไปในปราสาท เห็นทศกรรฐ์นอนอยู่กับนางมณโฑ ก็เลยได้โอกาสแกล้งเอาผมนางมณโฑผูกติดกับเศียรทศกรรฐ์ พร้อมกับเขียนคำสาปไว้ที่หน้าผากทศกรรฐ์ว่า หากจะแก้ผมให้หลุดต้องให้นางมณโฑตบหัวสามที พอทศกรรฐ์ตื่นขึ้นมาเห็นผมนางผูกติดกับเศียรตน และหินบดยาหายไป ก็รู้ว่าศัตรูมาสะกดแล้วลักไปและไม่ว่าจะทำอย่างไรผมก็ไม่หลุด จึงให้เสนาไปนิมนต์ฤาษีโคบุตรมา ฤาษีเห็นคำสาปจารึกไว้ ก็บอกให้ทำตามคำสาป ดังนั้นเมื่อนางมณโฑตบหัวทศกรรฐ์สามครั้งผมก็หลุด จากเค้าเรื่องอันนี้แหละครับ พระเวทภาคกลางที่นับถือหนุมานตามคติไวษณพนิกาย (นิกายศาสนาพราหมณ์ที่นับถือพระนารายณ์) ดังที่เราเรียกพระมหากษัตริย์ว่าพระรามาธิบดี เรียกเมืองหลวงว่าอยุธยาหรืออโยธยาก็ดี ล้วนได้อิทธิพลมาจากวรรณคดีเรื่องรามายณะทั้งนั้น
คาถากำกับตะกรุดเวลานำติดตัว (นะโม3จบ)สัพพะ สิทธิ ภะวันตุเม…สัพเพพุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยังพะลัง อรหันตานัญจะเตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส//คาถาอิติปิโสสะกดไตรภพ อิติ ติวา ปิ คะ โสภะ ภะโธ คะ พุท วานังอะสา ระนุส หัง มะสัม วะมา เทสัมถาพุท สัต โธ ถิ วิช ระชา สาจะมะระทัมณะ สะ สัม ริ ปัน ปุโน โรสุ ตะคะ นุต โตอะโลทูกะวิ///
บทความทั้งหมดนี้ลูกใคร่จะขอ ขยายกิตติศัพท์ให้กับหลวงพ่อกุน(พระครูสุชาตเมธาจารย์) วัดพระนอนให้เผยแพร่พระเดชพระคุณให้ลูกหลานได้รู้ถึงในคุณงามความดีของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน สืบต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ
โดย…อ้วนลอยฟ้า  (คุณพระคุ้มครอง)
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-10-16 07:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เป็นอันดับหนึ่งมาก่อนหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงนะครับ ด ถ้าพูดถึงความหายากเเล้ว ว่ากันว่าหาโสฬรมงคลหลวงปู่เอี่ยมได้สิบดอกยังหาไมยราพณ์สะกดทัพพ่อกุนดอกเดียวไม่ได้ซึ่งตอนนี้กลายเป็นตำนานไปเเล้ว
สำหรับโสฬรมงคลนั้นผมได้ไปกราบรูปหล่อหลวงปู่เอี่ยมที่วัดสะพานสูงมาครับ อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาก็มีโอกาสเจอตะกรุดของท่านเเท้ๆ เป็นของคุณพ่อเพื่อน  เสียดายในส่วนที่รักร่อนออกทองเเดงกรอบจนยันต์ลอกออกมาบ้าง ถ้าได้เป็นกรรมสิทธิ์ของผมเมื่อไหร่จะเอามาให้ชมครับ ส่วนใหญ่ที่เห็นกันในเวป รักเเดงเเปลกๆ ของปลอมฝีมือๆมีทำขายอยุ่ดอกละหมื่นสองหมืน


ดอกนี้ม้วนสามรอบครับ ยาวสามนิ้วเศษ เนื้อเงิน อยากได้มาหลายปีเเล้ว หลวงพ่อกุนท่านเพิ่งจะมาโปรดวันนี้ สังเกตุว่าเเผ่นเงินจะหนาเปนพิเศษเเละมีร่องรอยขรุขระเนื่องจากการลบถมยันต์ด้วยลูกสะบ้า ซึ่งตามตำราท่านว่าจะทำในป่าช้า
จะมีทั้งเเบบจารนอกเเละจารใน  ส่วนที่จารในเพียงอย่างเดียว มีคนบอกว่าอาจจะทำโดยเจ้าอาวาสรูปต่อมาจากหลวงพ่อกุน คือ หลวงพ่อเทพ เเละ หลวงพ่อโต๊ะ วัดท่อเจริญธรรม ศิษย์ของท่าน

พี่ท่านนึงสอบถามคนในพื้นที่ ที่อายุเจ็ดสิบอัพที่ยังใช้ตะกุดหลวงพ่อกุนอยู่ ปรากฎว่าเป็นจริงเรื่อ
งที่ สามารถขึ้นไปกินนอนบนบ้านได้เลยโดยเจ้าของบ้านหลับไม่รู้เรื่องเลยจึงเป็นที่มาของชื่อไมยราพสะกดทัพบางท่านในพื้นที่เรียกตะกุดจันทรเพ็ญก็เพราะว่าท่านจะจารในคืนพระจันทร์เต็มดวงจาร 7 ป่าช้า 1 ป่าช้าจารเสร็จแล้วจะลบด้วยลูกสะบ้าและจารซ้ำป่าช้าต่อไปจนครเจ็ดป่าช้าจึงเสร็จ(ข้อมูลคนพื้นที่จากการสอบถาม)

รอยจารที่ปรากฎในตะกรุดนี้เป็นเนื้อราวบางส่วนของมหากาพย์เรื่องรามเกียรต์ ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด ตอนนี้เป็นตอนต่อจากท้าวมาลีวราชว่าความ เรื่องมีว่า ทศกัณฐ์มีความแค้นเทวดาที่เป็นพยานให้แก่พระราม จึงทำพิธีปลุกเสกหอกกบิลพัทที่เชิงเขาพระสุเมรุ และทำพิธีเผารูปเทวดา พระอิศวรจึงมีเทวบัญชาให้เทพบุตรพาลีมาทำลายพิธี ทศกัณฐ์พุ่งหอกกบิลพัทหมายสังหารพิเภก พิเภกหลบไปอนยู่หลังพระลักษณ์ พระลักษณ์ต้องหอกกบิลพัทสลบไป พิเภกทูลพระรามให้หายามาแก้ไขพร้อมแม่หินบดยาที่เมืองบาดาล และลูกหินบดยาที่ทศกัณฐ์หนุนนอน พระรามจึงให้หนุมานไปหายาพร้อมแม่หินและลูกหิน หนุมานลอบเข้าเมืองลงกาเพื่อไปนำลูกหินบดยามา และได้ผูกผมทศกัณฐ์กับผมนางมณโฑไว้ด้วยกัน พระฤาษีโคบุตรต้องมาช่วยแก้ผมให้
มีเรื่องเล่าโม้ๆให้ฟัง เคยมีการซื้อขายตะกรุดของท่านในพื้นที่ครับ เจ้าของท้าให้คลี่ ไม่งั้นก็ยิงไปเลย คนที่ลองยิงเเล้วปืนเเตกลูกวิ่งเข้าหาตัว

คาถากำกับตะกรุดเวลานำติดตัว


สัพพะ สิทธิ ภะวันตุเม...สัพเพพุทธา พะลัปปัตตา

ปัจเจกานัญจะ ยังพะลัง อะระหันตานัญจะ

เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส


คาถาอิติปิโสสะกดไตรภพ

อิติ ติวา ปิ คะ โสภะ ภะโธ คะ พุท วานัง

อะสา ระนุส หัง มะสัม วะมา เทสัมถา

พุท สัต โธ ถิ วิช ระชา สาจะมะระทัม

ณะ สะ สัม ริ ปัน ปุโน โรสุ ตะคะ นุต โต

อะโลทูกะวิ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-10-16 07:14 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้