|
วัดทุ่งเศรษฐี ตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น-กาฬสินธุ์ บนพื้นที่รวม 73 ไร่ ของ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2542 ซึ่งหลวงตาอ๋อยย่ามแดง ได้นำรถแบคโฮมาปรับพื้นที่ก่อนขุดพบพระขรรค์โบราณ ซึ่งเป้นพระขรรค์สำริดเก่ายาวประมาณฟุตกว่า จึงฉุดคิดได้ว่าที่ดินแหล่งนี้นั้นไม่ธรรมดา และเมื่อได้กำหนดจิตดูจึงรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เป็นแผ่นดินสามโลกธาตุ เป็นจุดบรรจบกันของสามโลก คือแดนมนุษย์ สวรรค์และบาดาล (นาคพิภพและนิรยภูมิ) เป็นช่องทางสำคัญที่เหล่าเทวดาทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างสัญจรติดต่อถึงกันจึงได้ทำการจัดสร้างวัดทุ่งเศรษฐีขึ้นในปีเดียวกัน  นายมานะ จิระนภากุล คณะกรรมการวัดวัดทุ่งเศรษฐี เปิดเผยว่า คณะศิษยานุศิษย์ในหลวงตาอ๋อย จึงร่วมกันสร้างวัดทุ่งเศรษฐีแห่งนี้ขึ้น โดยเริ่มจากการก่อสร้างมหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ หรือ มหาเจดีย์รัตนะ เจดีย์ที่สร้างขึ้นตามความเชื่อที่ว่าพื้นที่ที่ก่อสร้างมหาเจดีย์รัตนะแห่งนี้ เป็นรอยต่อของสามโลก ภายในมีการจัดสร้างมหาเจดีย์องค์สำคัญสามองค์ในสามโลก คือเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นาคเจดีย์ในนาคพิภพ และมหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ ที่ผ่านการออกแบบให้แฝงแนวคิดเรื่องภพภูมิในพุทธศาสนาไว้ตามองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และเครื่องตกแต่งของมหารัตนเจดีย์ฯ อยู่โดยทั่วองค์เจดีย์ ขณะที่ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนีลวรรคโณศีโลทรัพยอุดม หรือ หลวงปู่ดำ ขนาดหน้าตัด 145 นิ้ว หรือประมาณ 3.63 เมตร ขณะที่ใต้มหารัตนเจดีย์ แห่งนี้ยังคงจัดเป็นห้องแสดงปริศนาธรรม มีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถใช้เป็นสถานที่อบรมสมาธิ อบรมจิตภาวนาแก่ศาสนิกชนโดยทั่วไป  “ นอกจากนี้โดยรองของมหารัตนเจดีย์ฯ ยังคงเป็นที่ตั้งของมณฑปองค์ปฐม ศาสนสถานแห่งแรกของวัด ภายในประดิษฐานพระพุทธสิกขีทศพล หรือพระพุทธเจ้าองค์แรกของจักรวาลและรูปหล่อบูรพาจารย์สามองค์ ประกอบด้วย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค,หลวงปู่สา อาภัสสโร วัดสวนมอนและหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง โดยรอบองค์มณฑปนั้น ซึ่งแสดงถึง ศีล-ทานและภาวนา ที่รวมเอาคำสอน ที่เข้าใจง่ายสอดแทรกเนื้อหาสาระที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ผ่านปูนปั้นรูปเด็กที่รายล้อมองค์มณฑป ขณะที่ฝั่งทิศตะวันออกของมหารัตนเจดีย์ฯ ยังคงเป็นที่ตั้งของแท่นแว่นฟ้าจุฬามณี ใช้สำหรับเป็นแท่นและแท่นน้ำสำหรับการลอยโคมและประทีปบูชาแด่มหาเจดีย์ฯในอีกสององค์ในสองภพ”
  นายมานะ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความสนใจของเหล่าชาวพุทธ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ขณะนี้ทางวัดได้เปิดให้มีการเที่ยวชมในเวลากลางคืน คือ สวนนรกภูมิ หรือลานนรกกลางคืนสถานที่ที่เตือนสติชาวพุทธทุกคนที่ต้องยึดมั่นในศีล 5 และดำรงตนตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ด้วยการจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงรูปปั้นเรื่องนรกขุมต่างๆ จากผลกรรมที่ล่วงละเมิดศีล 5 โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เที่ยวชมทั้งกลางวันและกลางคืนโดยภายในลานนรกนั้น ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 8 ส่วน ประกอบด้วย ลานนรกศีล 5 หรือนรก 5 ขุม,ลานพญายม,ลานพญานาค เป็นรูปปั้นพญานาคตนใหญ่ อยู่ในท่าทางที่กำลังเลื้อยขึ้นมาจากสระน้ำใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง และลานพระหิน ซึ่งผู้ที่เข้าเยี่ยมชม สามารถที่จะเรียนรู้เรื่องศีลธรรม บาปบุญคุณโทษต่างๆตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่มาแล้วไม่ควรที่จะกลับมาอีก
จักรพันธ์ นาทันริ / ขอนแก่น
| 
โพสต์ 2019-6-29 11:23
เจ้าของ
