ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 17465
ตอบกลับ: 111
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> ผ้ายันต์ปัตโตเมตัง รุ่น "อันตะรายาปิ" <<

[คัดลอกลิงก์]
>> ผ้ายันต์ปัตโตเมตัง รุ่น "อันตะรายาปิ" <<

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
>>ผ้ายันต์ปัตโตเมตัง<<
++รุ่นอันตรายาปิ++

                   ผ้ายันต์ปัตโตเมตังหรือผ้ายันต์ท้าวพญายมราช ขนาด 5x5  จัดสร้างโดยอ.สรายุทธพำนักติคญาโณ
ท้าวพญายมราชหรือพระยม มีลักษณะใบหน้าดุดัน พระวรกายสีแดงทรงเครื่องอย่างกษัตริย์มีอิทธิฤิทธิ์มากทำหน้าที่พิพากษาและปกครองดวงวิญญาณทั้งหลายในนรกภูมิ
ผ้ายันต์นี้ตรงกลางจะเป็นท้าวพญายมล้อมด้วยพระคาถา ปะโตเมตัง (ซึ่งเป็นพระคาถาของพระยม ใช้สวดภาวนาป้องกันภัยพิบัติต่างๆใช้ช่วยคนที่อยู่ในภาวะใกล้ตายหรือป่วยหนักที่ยังไม่สิ้นอายุขัย)
ผ้ายันต์นี้ใช้ทางด้านเสริมดวงเสริมบารมี เมตตา ปกป้องคุ้มครองแคล้วคลาด กันสิ่งไม่ดี กันผีป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ช่วยเหลือต่อชีวิต หรือใช้ล้างอาถรรพ์ท่านอธิฐานจิตให้ผ้ายันต์นี้ไม่แพ้ใครอีกทั้งยังมีองค์ท้าวพญายมราชเป็นผู้ดูแลคุ้มครองผ้ายันต์นี้อยู่ทำให้ผ้ายันต์นี้ดีไม่แพ้พระเครื่องชนิดใดๆ
     อ.สรายุทธ ท่านเป็นศิษย์เอกหลวงปู่ชื่นติคญาโณซึ่งสามารถเชิญเทวดามารักษาที่วัตถุมงคลได้ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นไปอีกเพราะนอกจากจะมีพลังจากตัวผู้อธิฐานจิตแล้วก็จะมีเทวดาที่คอยช่วยเหลืออยู่โดยตรงคือพระยม และท่านมีวิชาป้องกันการคัดถอนของทำให้ผ้ายันต์นี้ไม่เสื่อมและไม่แพ้ใคร (มีคนเคยมาลองวิชาโดยเอาวัตถุมงคลของอ.สรายุทธ ไปคัดถอนวิชาแต่ไม่สำเร็จ ถ้าไม่เก่งจริงไม่สามารถทำได้ หากมีใครมาลองก็จะรู้ทันที
       ท่านว่าเวลาทำวัตถุมงคลออกมาต้องทำให้ดีไม่งั้นเสียชื่อครู        บาอาจารย์และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆวัตถุมงคลแต่ละอย่างก็ใช้มีประสบการณ์กันมากมายพลังของผ้ายันต์นี้ถือว่าแรงเลยทีเดียว ใครปฏิบัติสัมผัสพลังได้ก็ลองดูเถิด
เอาไปติดบ้านต้องจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนด้วยนะแล้วบอกกล่าวที่ผ้ายันต์อีกทีว่า..เจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือวิญญาณญาติกุมารทองก็ดีที่เราเลี้ยงอยู่ขอให้เขาเข้านอกออกในได้
เคยให้คนไปนำไปติดหน้าบ้าน แกว่าหมาหอนทั้งคืนเลย ไปหาหมอดู ท่านว่าผีปู่ย่าตายายเข้าบ้านไม่ได้
วาระแรกบรวงสรวงที่ศาลพญายมราช(ติวานนท์)
วันเสาร์ที่..19 มีนาคม 2559  ฤกษ์ยามที่ใช้   พิธีบวงสรวงผ้ายันตปัตโตเมตัง   อันตรายาปิ
วันเสาร์ยามที่ 4ยามยายี   ยามสุริชะ (10:30-12:00) สุริชะ ลักพาบิดาหนี  ข้ามคีรีห้วยธารละหานผา
ไม่รอรั้งตั้งแต่จะรีบมา   ยามนี้พากันหนีดีสุดใจ   เป็นยามดีเหมาะแก่การหลบหนี
วันเสาร์ยามที่ 5ยามนคร   ยามศุกระ (12:00-13:30) ศุกระ มาปะแม่น้ำกว้าง  ยืนอยู่ข้างมหาชลาไหล
เป็นยามดีหนีรอดตลอดไป   ไม่มีภัยแผ้วพาลสำราญกาย   เป็นยามดี หนีรอดปลอดภัย

คาถาบูชา
ปะโตเมตังปะระชีวินัง สุขะโตจุติ
จิตตะเมตะนิพพานัง สุขะโต จุติ

( พำนักนี้....มีมากกว่าความ“ขลัง” )
ขอขอบคุณข้อมูลจาก...เวปฯบ้านจอมพระและ อ.สรายุทธ
สนใจบูชา
โทร/ไลน์ id:0890240386
หรือทางข้อความ....พี่จ้อ
ขอบคุณค่ะ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
รีบหามากันไว้นะครับ

บูชาติดกระเป๋าเสื้อตลอดครับ...กันโควิค19






องค์หลวงปู่ผาง โกสโล ละสังขารแล้วด้วยอาการสงบเมื่อเวลา
ประมาณ ๒๓.๔๐ น. วันจันทร์ที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘
ที่วัดป่าสว่างอารมณ์ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ สิริอายุรวม ๑๐๔ ปี พรรษา ๕๘
ขณะนี้สรีระสังขารหลวงปู่ผาง โกสโลได้เคลื่อนมายัง วัดภูหินปูน บ.หินแตก อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
โดยจะมีงานถวายเพลิงสรีระสังขาร
ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘
ณ วัดภูหินปูน บ.หินแตก อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยองค์หลวงปู่ได้มีคำสั่งห้ามเก็บสรีระไว้เกิน ๗ วัน

สมัยก่อนบวชหลวงปู่ท่าน เคยมีครอบครัวมาก่อน แต่รู้สึกเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้บอกภรรยาว่าจะขอสละเรือนออกบวช ภรรยาท่านบอกว่า ถ้าจะไปขอให้ช่วยสร้างบ้านให้ก่อน ท่านใช้เวลาอยู่ ๑ ปี จึงแล้วเสร็จ แต่ด้วยเหตุแห่งทุกข์มาเยือนโดยไม่ได้เตือนล่วงหน้า ภรรยาของท่านได้มาสิ้นใจลง ท่านเองจึงต้องอยู่เลี้ยงดูลูกเอง เมื่อลูกท่านเติบใหญ่ดูแลตนเองได้แล้ว ท่านก็ได้ไปเป็นตาปะขาวติดตามรับใช้หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม ธุดงค์ไปในที่ต่างๆทั้งภาคอีสาน และฝั่งลาว แต่ก่อนหน้านี้หลวงปู่ผาง ท่านก็ประกอบอาชีพเป็นหมอยาหาสมุนไพรตามป่าอยู่แล้ว ท่านจึงเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ชีวิตรอนแรมอยู่ตามป่าเขา







หลวงปู่ผาง ท่านบวชเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม อยู่ที่วัดป่าดานศรีสำราญ อยู่ ๕ พรรษา จากนั้นจึงได้ออกวิเวกไปในที่ต่างๆ ก่อนไปท่านเล่าว่า หลวงปู่คำตัน ก็ห้าม ไม่อยากให้ไปไหน อยากให้อยู่ภาวนาเสียด้วยกัน ท่านว่าหลวงปู่ผาง เคยเกิดเป็นลูกท่านอยู่ในอดีตชาติ หลวงปู่ผาง ได้เคยไปอบรมธรรมกับหลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ ท่านว่าหลวงปู่จวน เป็นพระที่ดุดัน เอาจริงเอาจัง

ท่านเล่าว่าสมัยหนึ่งหลวงปู่จวน มาเยี่ยมหลวงปู่คำตัน มาก็ไม่พูดอะไรกัน มองกันนิ่งเงียบ ก่อนจากก็ปรารภธรรมกันเพียงไม่กี่ธรรม ก็เป็นที่รู้กัน หลวงปู่ผาง ท่านสงสัย จึงได้ไตร่ถาม หลวงปู่จวน ได้ยินเข้าจึงดุ “หา..ของอย่างนี้ถามกันได้หรอ อยากได้อยากรู้ก็ปฏิบัติเองซิ ถ้าถามกันแล้วได้ อย่างนี้เขาก็เป็นเศรษฐีกันทั่วโลกแล้วซิ” หลวงปู่ผาง ได้ออกรุขมูลอยู่ตามป่าเขา ทั้งฝั่งไทย และฝั่งลาว










ปี พ.ศ.๒๕๓๘ ท่านมาอยู่ที่ภูหินแตก (ภูหินปูน) ท่านเล่าว่าที่นี่ภาวนาได้ดี สงบสงัด ทำความเพียรได้ดี แต่มีภูมิเจ้าที่เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มีรูปร่างเป็นยักษ์ดุร้าย ท่านเล่าว่า เขาพยายามจะมาไล่อยู่บ่อยๆ บางทีก็ถือค้อนใหญ่มาไล่ แต่หลวงปู่ผาง ก็บอกว่า เรามาที่นี่ เราไม่ได้มายึดมาเอาของเธอ เราแค่มาขออาศัยทำความเพียรภาวนาเท่านั้น ไม่ได้คิดจะมาแย่งที่ๆของเธอ แต่อย่างไร เขาจึงเย็นลง เมื่ออยู่ๆไป ตัวเขาเองก็ได้รับพลังเมตตาจากหลวงปู่ผาง เกิดความชุ่มเย็น หลวงปู่ผาง ได้ถามยักษ์ตนนั้นว่า เธอมาอยู่นี่ได้อย่างไร ทำไมไม่ไปผุดไปเกิดเสีย เขาตอบว่า “เขาเฝ้าไหสมบัติอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว ไม่กล้าไปไหน กลัวจะมีคนมาขุดไป” หลวงปู่ผาง จึงสอนเขาว่า “แล้วจะมาหลงมาไหลอะไรกับทรัพย์สมบัติ ดูซิ ตายแล้วจะไปไหนก็ไม่ได้ มาเฝ้า มาหวงไว้ เอาไปใช้ก็ไม่ได้ ใครจะมาขุดมาเอาก็ปล่อยเขาไปซิ เราตายไปแล้วนี่ จะมายึดมาหวงให้เป็นทุกข์ทำไม” หลวงปู่ผาง ท่านเล่าว่า ที่ภูหินแตกนี้ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นภูหินปูน เพราะชื่อไปซ้ำกับวัดบ้าน) ใครจะมาขออยู่ภาวนา ไม่ว่าพระเณร หรือแม่ชี ถ้าหากย่อหย่อนความเพียร กลางคืนก็มักจะโดนดึงขา ลากขาตกกุฏิไป และสถานที่แห่งนี้เองที่หลวงปู่ผาง โกสโล ท่านได้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ บรรลุคุณธรรมขั้นสูง ที่วัดภูหินปูน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต

ลูกหลานกราบขอขมาหลวงปู่ผาง โกสโล ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี หากเคยประมาทพลาดพลั้ง ด้วยความขาดสติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งต่อหน้าหรือลับหลัง ทั้งอดีตหรือปัจจุบัน ลูกหลานกราบขอขมา ขอหลวงปู่ผาง โกสโล โปรดอโหสิกรรม และงดโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อความสำรวมระวังในการณ์ต่อไป และธรรมอันใดที่ท่านได้รู้แจ้งแล้ว ขอลูกหลานได้รู้ธรรม เห็นธรรมอันนั้นด้วยเทอญ...สาธุ



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2020-3-30 07:44

"เฮาเสื่อร้อยเปอร์เซ็นต์"


ขอเล่าเรื่องที่มาของผ้ายันต์เพิ่มเติม เสริมสักนิดนึงครับ

   นานมาแล้วตอนเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายปีประมาณ


2541 กลับบ้านสงกรานต์และไปทำบุญที่วัดต่างหมู่บ้านกับคณะของคุณอา



ช่วงเช้าใส่บาตรพระเสร็จก่อนฉันจังหันหลวงปู่ผาง

ท่านเทศน์เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ในกาลข้างหน้า



แล้วหยิบหนังคำทำนายให้กระผมเป็นผู้อ่านให้ญาติโยมที่มาทำบุญฟังกันอย่างทั่วถึง


ด้วยเสียงอันดังพอควร


อ่านจบหลวงปู่ผางบอกว่า


"เฮาเสื่อร้อยเปอร์เซ็นต์"


ว่าจะเกิดมหันภัยอันร้ายแรง แล้วหลวงปู่ท่านก็ดำริให้ลูกศิษย์ที่เขียนตัวคาถา

ได้เขียนคาถาลงบนจึวรแล้วหลวงปู่เป็นคนอธิษฐานจิตก่อนจะแจกญาติโยมผู้ศรัทธา



ผมก็ได้รับมาจำนวนหนึ่ง

แล้วส่งผ่านมาถึงอาจารย์


หลวงปู่ท่านย้ำตลอดไม่ให้ประมาท และให้ปฎิบัติศีล ทานให่สม่ำเสมอ



กาลได้ล่วงมาหลายปีแล้ว

จนหลวงปู่ท่านก็มรณภาพไปแล้ว คงต้องขอพึ่งบุญ


บารมีของอาจารย์และชาวคณะศิษย์ผู้ศรัทธาร่วมกัน


สถาปนาผ้ายันต์ให้สำเร็จ


เพื่อยังประโยชน์แก่สาธารณชนต่อไปครับ


"สีต้อย"



อยากได้เพิ่มสัก 20 ผืน
เพราะตอนแรกที่ได้มา ก็แจกไปเยอะ
ตอนนี้เหลือน้อยแล้ว
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้