ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 38382
ตอบกลับ: 46
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ด้วยรักและศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น

[คัดลอกลิงก์]
1#
โพสต์ 2013-7-2 18:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:40

   จากวันเวลาที่ผ่านมา  กว่า 4 ปี  ที่ได้มาเป็นศิษย์ของอาจารย์และหลวงปู่ชื่น  ได้พบเหล่าพี่ๆน้องๆ  ค.ศ.ช หลายๆท่าน  ทั้งที่เป็นรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ๆ  จากวันนั้นจนถึงวันนี้  บ้านจอมพระแห่งนี้ เปิดต้อนรับแก่เหล่าผู้ที่มีจิตศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น  ที่เข้ามามากขึ้นทุกๆปี  ตลอดเวลาที่ผ่านมา  มีทั้งผู้ที่เข้ามาใหม่และผู้ที่ลาจากไป  จะเป็นด้วยเหตุผลส่วนตัวบ้าง   เข้าใจจิตเจตนากันผิดๆบ้าง  แต่จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่  สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใด  คือความศรัทธา   พวกเรา เหล่า ค.ศ.ช  ได้มารวมตัวกัน  ณ. ที่แห่งนี้  ก็ด้วยความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่และครูบาอาจารย์   ประกอบกับผลบุญที่พวกเราได้สั่งสมกันมา  รึ...อาจจะเป็นเมื่อชาติก่อนได้ร่วมบุญกับอาจารย์และหลวงปู่ชื่นกันไว้  ทำให้พวกเราได้มาเจอกันและพบกันอีกในชาตินี้
    วันเวลาที่ผ่านมาหลายคน  ได้เข้ามาสัมผัส  ได้ใกล้ชิดพูดคุยกัน  ทั้งท่านอาจารย์และศิษย์พี่หลายๆท่าน  แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถเข้ามาได้บ่อยๆ  ก็อาจจะไม่ทราบว่าที่  สำนักติคญาโณ  นั้นเป็นอย่างไรบ้าง  ทำอะไรกันบ้าง  สำนักนี้...ก่อตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ใด  มีผลประโยชน์  ในทางธุระกิจส่วนตัวกันหรือเปล่า  หรือจะว่ากันง่ายๆ  หลอกหาเงินจากความศรัทธาของผู้คนหรือไม่   อย่างที่เราหลายๆคนเคยเจอกันมาแล้ว  ในหลายรูปแบบของวิธีการ  หาเงินในสังคมปัจจุบันนี้  (เราจะไม่ขอ  เอ่ยถึงสำนักอื่นๆ)
     อยากจะขอกล่าวถึง  ความตั้งใจของหลวงปู่และอาจารย์สรายุทธ   กับเหล่าพี่ๆน้องๆ ค.ศ.ช  ที่เข้าใจและรับทราบถึงจุดมุ่งหมาย  ของพวกเราและอาจารย์ท่าน   
     สำนักนี้...เกิดจากความศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น  จากพวกเราผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไป  แล้วบังเกิดผลสำเร็จตามคำขอ   จากการได้อาราธนาพกติดตัว  วัตถุมงคงของหลวงปู่ท่าน ดังด้วยประสปการณ์จากผู้ที่นำไปใช้จิงๆ  หลังจากหลวงปู่ได้มรณะภาพลง พวกเราต่างก็มีความเสียใจกันอย่างมาก  ด้วยความศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่นของหลายคน  จึงได้รวมตัวกันบอกเล่า   แลกเปลี่ยนถึงประสบการณ์พระเครื่องของท่าน   ในเวปฯเล็กๆเป็นการบูชาครู  จากพวกเรากลุ่มเล็กๆ  โดยการนำของอาจารย์สรายุทธ  ศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและเป็นท่านเดียวที่หลวงปู่ครอบครูให้ แบบเต็ม  ตามพิธีการของท่าน  อีกทั้งพระเครื่องหลายต่อหลายรุ่นของหลวงปู่  อาจารย์ก็เป็นคนทำ  ตามที่หลวงปู่ท่านสั่ง ตั้งแต่การหามวลสาร   บดมวลสาร   กดพิมท์พระ  ล้วนแต่ผ่านมือของอาจารย์มาแล้วทั้งนั้น
     จากพวกเราที่เคยกระจัดกระจาย  ก็ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง  ได้มาเจอกันพบประพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน  จนเป็นที่มาของหลายสิ่ง  หลายอย่าง   เริ่มตั้งแต่รูปหล่อองค์ยืนของหลวงปู่   พระอาถรรพย์ธม  ที่ท่านอาจารย์จัดสร้างบูชาหลวงปู่ครูบาอาจารย์ของท่าน  หลวงปู่เคยกล่าวกับอาจารย์ไว้ตอนท่านยังอยู่ว่า    ".....หลังจากท่านมรณะภาพไป 5 ปี   อนุญาติให้นำผงพุทธคุณและมวลสารต่างๆที่ท่านปลุกเสกทิ้งไว้ให้   จัดสร้างวัตถุมงคลได้  ท่านจะลงมาช่วย   เพราะอีกหน่อยลูกหลานท่านจะมากันเยอะ  วัตถุมงคลของท่านที่ผ่านมาจะมีไม่เพียงพอ..."    นั้นจึงเป็นที่มาของพระอาถรรพย์ธม  พระรุ่นแรกที่ศิษย์ท่านสร้างถวาย  บูชาครูบาอาจารย์  ที่พวกเราเหล่า ค.ศ.ช  นำไปใช้แล้วมีประสบการณ์ต่างๆกันออกไป   

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
โพสต์ 2013-7-2 19:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:41

   จากวันนั้นเป็นต้นมา  อาจารย์ก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคลออกมาอีกหลายต่อหลายรุ่น   แต่ละรุ่นทำยากๆทั้งนั้น  แต่สิ่งที่จะกล่าวถึงนั้น   วัตถุมงคลหลายๆชิ้นที่จัดสร้างออกมา  ก็นำมาให้พี่ๆน้องๆพวกเราได้ใช้  แทนวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่เล่นหากันแพงมากเท่านั้น  ซึ้งก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน   ส่วนเงินที่ได้มา  หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วก็นำเข้า  กองทุนหลวงปู่เป็นหลัก เพื่อเป็นทุนในการจัดสร้างวัตถุมงคลต่อไปในอนาคต  และที่สำคัญเพื่อไว้ใช้จ่ายในงานไว้ครูของทุกปีที่พวกเรารู้ๆกัน   ซึ่งในแต่ละปี  ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง(ปีหนึ่งหลายหมื่นบาท)  แต่ด้วยความรักที่ อาจารย์สรายุทธ มีให้แก่ลูกศิษย์ ลูกหานั้น  ส่วนใหญ่วัตถุมงคลที่จัดสร้างออกมา  ท่านบอกว่าต้องเป็นราคาที่พอสมควร  พอที่จะเช่าหากันได้  อาจารย์เคยกล่าวกับผมไว้ว่า  "ไม่อยากให้พวกเราต้องเสียเงินกันมากมาย  ยิ่งในยุคสมัยนี้หาเงินกันยาก" แต่ในความเป็นจริงแล้ว   มวลสารบางอย่างก็หากันมาได้ยากยิ่ง  อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียออกไปอีกมากโข   บางอย่างทำออกมาก็ยังไม่ได้ทุนคืนเลยก็มี  ทั้งยังมีค่าเดินทางในการปลุกเสกอีกด้วย  ในแต่ละครั้งก็เป็นเงินมิใช่น้อยๆ  แต่ท่านอาจารย์ก็ยังยืนการ  ให้ทำมาให้แก่พวกเราได้บูชากัน
    พวกเราเคยสังเกตุไหม...วัตถุมงคลที่ท่านอาจารย์ทำออกมาบางอย่าง   ทำไมถึงทำกันออกมาน้อยๆ  บางทีก็ไม่ถึงร้อยองค์  ด้วยอาจารย์เป็นคนพูดน้อย  บางครั้งท่านมีอะไรในใจ   ก็ไม่ค่อยจะบอกเล่า หรือชี้แจง  ให้พวกลูกศิษย์ได้รับทราบกันมากนัก  กลัวพวกเราบางคนจะเข้าใจไปในทางที่ผิดๆ   โชคดีที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปหาท่านได้บ่อยในช่วงก่อนวันไหว้ครู   จึงได้รับรู้ความคิดของอาจารย์ท่าน  ท่านบอกว่า "วัตถุมงคลบางอย่างที่ทำออกมาน้อย  ก็เพราะท่านคิดไปถึงอนาคตแทนพวกเรา  เหล่าลูกศิษย์ไว้ว่า  ที่ทำออกมาน้อยก็เพราะ  เผื่อในอนาคตวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น  อาจจะพอช่วยเหลือเหล่าลูกศิษย์  ที่อาจจะขัดสนในช่วงเวลานั้นๆ   จะได้มีทุนสำรอง(ปล่อยให้เช่าต่อ)ต่อไปได้" ได้ฟังแล้วอดปลื้มใจแทนเหล่า ค.ศ.ช ไม่ได้  ว่าอาจารย์ของเรายังรักและเป็นห่วงพวกเราถึงขนาดนี้  ก็ถ้ามองด้วยเหตุและผลแล้วคิดกันดีๆ  ก็จริงอย่างที่ท่านว่าไว้  วัตถุมงคลที่ท่านทำออกมา  ราคาก็ขยับขึ้นไปมากเหมือนกันนะ ซึ้งของบางอย่างก็หาไม่ได้แล้วด้วย  ที่นำมาบอกเล่าก็เพราะได้รับรู้ถึงความคิดอาจารย์  จึงอยากนำมาบอกเล่าต่อให้  พี่ๆน้องๆเราได้ทราบกันบาง  ไม่อยากให้บางคนเข้าใจไปกันผิด  ซึ้งอาจจะทำให้เข้าใจอาจารย์ไปแบบผิดๆได้  บางอย่างท่านไม่ค่อยบอกเล่าอะไรหรอกคับ  เราต่างหากที่ต้องเข้าไปหาคำตอบเอาเอง  
   

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
โพสต์ 2015-7-24 14:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
    ดันขึ้นมาให้ผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่ได้อ่านบ้าง    ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา  ว่างๆจะเข้ามาบันทึกใหม่คับ
ตอนนี้ดันกระทู้ให้ผู้เข้ามาศึกษาใหม่ได้อ่านกันก่อน  เคยอ่านเจอในเวปฯ   ว่าไว้....คนไทยปัจจุบันนี้   
เฉลี่ยนอ่านหนังสือกันไม่เกิน  8  บรรทัด   แต่ถ้าศรัทธาจริงๆขอให้อ่านทุกบรรทัด   กันนะคับ
4#
โพสต์ 2015-7-27 12:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:44

      มีหลายเรื่องราวที่อยากบอกเล่า  ให้ผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่ได้อ่านและทำความเข้าใจ  และอยากให้ใช้วิจารณญานในการหาเหตุผล  ของการเล่นหาพระเครื่องหลวงปู่ชื่น
บางท่าน...มาด้วยเพราะศรัทธาจริงๆ  เพราะได้อาราธนาใช้พระเครื่องของท่านแล้วเห็นผล  จนอยากได้รุ่นต่างๆเพิ่มเติม
บางท่าน...ก็ศรัทธาเพราะได้รับข้อมูลข่าวสาร  จากคนอื่นหรือข่าวสารจากแหล่งอื่นๆ  และอยากได้ไว้ครอบครองบ้าง
บางท่าน...ก็ได้รับข่าวสาร  พระเครื่องของหลวงปู่มีราคาดี  เช่ามาแล้วปล่อยต่อได้ราคา  จึงเล่นหาหวังปล่อยต่อให้ได้ราคา
    ทั้งนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม  อยากให้คำนึงนึกถึง  หลักความจริงที่ว่า  พระเครื่องของท่านที่สร้างออกมามีทั้งจากความตั้งใจของหลวงปู่เองและจากศูนย์พระเครื่อง  ที่สร้างมาให้หลวงปู่ปลุกเสก  มีจำนวนน้อย  ทำให้ผู้เล็งเห็นผลประโยชน์ส่วนตน  ทั้งทำเสริม  ทำปลอม จับยัด หลอกว่าเป็น   ยุคต้น และอีก  ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อหวังผลประโยชน์เข้าตัวเองทั้งนั้น  โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงหลวงปู่  และผู้ที่ศรัทธาอย่างแท้จริง  ที่อยากได้พระเครื่องหลวงปู่มาช่วยเหลือจริงๆ  มีพี่ๆน้องๆหลายท่านไม่ทราบข้อมูลก็หลงไปเช่ามา  พอไม่ได้ผลดังที่ตั้งใจหวัง ก็บอกพระเครื่องของหลวงปู่ไม่เห็นจะดีจริง   อย่างที่ในเวปฯพวกที่ศรัทธาหลวงปู่กล่าวอ้างเลย  (ก็มันไม่ใช่ของหลวงปุ่เสกจริงๆนี่นา)  พาลกล่าวหาว่า  หลวงปู่ไปอีก
    อยากจะบอกว่า เวปฯจอมพระนี้  ก่อตั้งมาจากพวกที่ศรัทธาหลวงปู่ชื่นจริงๆ   และนำวัตถุมงคลของท่านมาอาราธนาใช้แล้วได้ผล  จึงอยากจะบอกต่อเพื่อเป็นการบูชครูบาอาจารย์  เท่านั้น  เพราะทุกคนที่นำพระเครื่องของท่านนำไปใช้แล้วได้ผลก็จึงอยากจะให้ผู้ที่ศรัทธา   ได้นำไปใช้แล้วสัมฤทธิ์ผลดังใจหวังเหมือนตนเอง  เป็นการสร้างสมบุญบารมีและเพื่อสร้างบุญ  สร้างกุศล  ให้กับหลวงปู่ท่านอีกทางหนึ่ง (นั่นก็ นับเวลาได้ร่วม 10 กว่าปี  ตั้งแต่หลวงปู่ยังไม่มรณะภาพเลย)
     จากกลุ่มเล็กๆที่เล่นหาพระเครื่องของหลวงปู่ชื่น  เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์  บอกเล่าเรื่องราวของพระเครื่องหลวงปู่  ไม่ได้มีการค้าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย  
จนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น  จนเมื่อหลวงปู่ท่านสิ้นบุญเหล่าสานุศิษย์  ต่างเศร้าเสียใจไปตามๆกัน  บางคนไม่ทราบข่าวเลยด้วยซ้ำ  เนื่องจากหลังท่านมรณะภาพที่ต่างประเทศ
ไม่มีการเก็บสังขารไว้ก่อน   แต่อย่างใด  ด้วยเหตุผลที่เราไม่สามารถบอกกล่าว  เล่าเรื่องราวในที่นี้ได้  เพราะมีผลกระทบกับบุคคลหลายฝ่าย
   (ค่อยมาต่อเรื่องราวนะคับ  ทำงานต่อก่อน)

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
5#
โพสต์ 2015-7-27 14:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:37

    ซึ่งในช่วงเวลานั้น  หลวงปู่เพิ่งจะเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาไม่มากนัก  นั่นเป็นการสูญเสียที่พวกเราต่างก็รู้สึกเสียใจยิ่งนัก  แต่ทุกอย่างก็ย่อมต้องเดินต่อไป ในเวลานั้นพวกเรากลุ่มเล็กๆ  จึงตัดสินใจรวมตัวกันทำเวปฯ  ของหลวงปู่ขึ้นมาเพื่อบูชาครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณกันขึ้น เป็นเว็ปไซต์ของหลวงปู่ชื่นเลย (สมัยก่อนเราอาศัยเวปฯชาวบ้านเขา)  โดยการนำของศิษย์หลวงปู่ชื่น  อาจารย์สรายุทธคนเดียวที่ได้รับการครอบครูแบบถูกต้องตาม  บูรพาจารย์ของหลวงปู่ท่านกำหนดไว้ และก็ได้รวบรวมข้อมูลพระเครื่องของหลวงปู่ทุกรุ่นไว้ที่เดียวกัน  พวกเราทุกคนก็ร่วมด้วยช่วยกันจนหลวงปู่มีชื่อเสียงมากขึ้น  จนเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
   เมื่อพระเครื่องของหลวงปู่  ที่มีน้อยและราคาก็สูงขึ้น  จึงเป็นเหตุให้ มีการทำเสริม  ทำปลอม  จับยัด  มีมาให้ผู้ที่ไม่ได้ศึกษามาตั้งแต่ต้น  เข้าใจผิดคิดว่าเป็นของหลวงปู่จริงๆ  หลงเชื่อเช่าหาบูชา  บางคนได้มาเอามาให้ทางเวปฯ จอมพระดู  พอบอกไม่ใช่  ไม่ทัน ก็มีเหตุให้ต้อง  บาดหมางกันอีก  บางก็บอกรับมาจากมือหลวงปู่บ้าง   เช่ามาจากร้านจอมพระบ้าง   รับมาจากคนในพื้นที่ๆเล่นหา  และเก็บไว้มานานกันบ้าง  ทั้งๆที่พวกเราก็บอกให้เหตุผลแล้วว่า  หลวงปู่ไม่เคยทำพระหรือสร้างพระรุ่นใดๆเลยก่อนปี  40-41 ด้วยซ้ำ  ซึ้งสมัยนั้นท่านเป็นเพียง   พระลูกวัด  เท่านั้น  หนำซ้ำก็ไม่มีใครรู้จักท่านด้วย  ท่านรักสันโดษและอยู่ตามอัตภาพ  ปลูกกุฎิอยู่แถวป่าช้าเท่านั้นเอง  ส่วนใหญ่แล้วคนที่รู้ว่าท่านเก่งจริงๆ  จะมาจากสหธรรมมิกของท่านและผู้ที่รู้จักท่าน  ก่อนที่จะมาจำวัดอยู่ที่วัดตาอีด้วยซ้ำ เมื่อคราวที่ท่านยังธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆทั่วประเทศไทยและได้พบเจอ  สำผัสถึงพลังจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ชื่นมาก่อน  บอกต่อๆให้มาหาท่านเท่านั้น  ส่วนใหญ่ก็คนนอกพื้นที่จนหลวงปู่เคยพูดออกมาเองว่า  คนแถวนี้ไม่ได้นับถือท่านหรอก  เพราะมีหลวงปู่ผาดเป็นที่ศรัทธามานานแล้ว  อีกอย่างท่านก็เป้นเพียง
พระลูกวัด  ส่วนใหญ่ที่มาหาท่าน  เชิญท่านไปช่วยปลุกเสกพระเครื่องก็เป็นเล่า สหธรรมมิกท่าน  จากจังหวัดอื่นที่มาเชิญท่านเท่านั้น
      จากคำบอกเล่าของคนที่ตามไปหาท่านที่  วัดตาอี เล่าให้ฟังว่า เมื่อ ปี 42 จะไปหาท่าน ที่วัดตาอี  พอมาถึงแวะทานข้าว  ร้านค้าแถวนั้น
สอบถามถึง  หลวงปุ่ชื่นและวัดตาอี  ยังไม่รู้จักเลย  วัดรู้จักแต่ไม่รู้จักหลวงปู่ชื่น  หนำซ้ำยังบอกว่าให้ไปหา หลวงปู่ผาด ซิ ท่านเก่งนะแถวนี้
เลือมใสและศรัทธาหลวงปู่ผาด  ทั้งๆที่ร้านนี้อยุ่ไม่ใกล้จากวัด ไม่เกิน 500 เมตรด้วยซ้ำ  
      ที่บอกเล่ามาก็เพียงเพื่อ  ให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ได้รับทราบถึงประวัติ และที่มาที่ไปของวัตถุมงคลของท่านว่าเริ่มต้นยังไง  เพื่อไม่อยากให้
คนที่ไม่ทราบข้อมูลถูกหลอกง่ายๆ  และทุกวันนี้ทำกันขบวนการ  มีครบทีม  อยากให้ใช้วิจารณญานให้ดีๆ  ก่อนตัดสินใจหลงไปเช่าบูชา
ทุกวันนี้ถึงขนาดออกใบรับรองการันตี  จากสนามพระกันเลยด้วย  เพื่อจะได้อัพราคาได้สบายๆ  หากินกับความศรัทธา  หลอกลวงผู้ที่
ศรัทธา  แต่ก็อย่างที่บอก  ให้ใช้วิจารณญานให้มากๆ  ในการหาเช่าบูชานะคับ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
6#
โพสต์ 2018-3-21 16:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:45

     สวัสดีคับพี่น้องเหล่า ค.ศ.ช  ทุกท่าน  ห่างหายจากกระทู้นี้ไปนาน  ด้วยติดภาระหน้าที่การงานและ  อยากรวบรวมเรื่องราวบางอย่าง  เพื่อมาบอกเล่าพูดคุยให้เหล่า  สานุศิษย์ของอาจารย์สรายุทธทุกท่านได้อ่าน   รวมทั้งผู้ที่เข้ามาศึกษาและศรัทธาใหม่ๆ  ได้รับรู้เรื่องราวของ วัตถุมงคลยุคหลังๆที่ อาจารย์ได้จัดสร้างกันบาง  ด้วยวัตถุมงคลของท่าน  ได้ออกมาให้เช่าบูชากันหลายต่อหลายรุ่น  ล้วนมีประสปการณ์  ต่อผู้นำไปใช้จน วัตถุมงคลบางอย่างเป็นที่หวงแหนของผู้ครอบครองยิ่งนัก   บางคนนำไปใช้ได้ผลแบบน่าพิศวง  จนทำให้วัตถุมงคลยุคหลังๆมานี่  ราคาแพงมาก  และก็หายากซะด้วย  หากไม่ขัดสนกันจริงๆ ไม่มีทางนำมาปล่อยให้บูชาต่อเป็นอันขาด
    ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็   ตะกรุดมนต์พระกาฬ   ล๊อคเก็ตมนต์พระกาฬ  ตะกรุดสามหัวเมือง ขุนแผนมะรุมมะตุ้มรุ่น 2  ฯลฯ  อีกรายรุ่นที่จัดสร้างเป็นเนื้อพิเศษ (ตอนนี้คนมีต่างก็เก็บเงียบ  กลัวเป็นเป้าคนอื่นที่อยากได้มาบูชา)   ที่ผู้ใช้นำไปบูชาจนมีประสปการณ์   แต่จะทราบกันไหมคับว่า  กว่าจะได้เป็นวัตถุมงคลที่ให้ผลขนาดนี้   อาจารย์และสานุศิษย์บางท่านลำบากลำบนกันขนาดไหน  กว่าจะนำมวลสารเหล่านี้มาจัดสร้างวัตถุมงคลได้ในแต่ละรุ่น   
   ถ้าจะให้บอกเล่าเรื่องราวคงจะยาว  เฉพาะที่ผมไปกับอาจารย์ท่านก็มากมาย  ของบางอย่างก็มาจากนิมิตรของอาจารย์  และบางอย่างก็มาจากหลวงปู่ท่านดลจิตดลใจ   อีกทั้งแต่ละสถานที่ไปนำมวลสารก็ไม่ทำมาดา   เคยถามอาจารย์เหมือนกันว่า  อาจารย์ท่านรู้ได้อย่างไรว่าสถานที่นี้มีของดี  ท่านก็บอกมาจากนิมิตรบ้าง  และเป็นสถานที่ๆเคยเดินทางมากลับหลวงปู่ชื่น  และท่านบอกเล่าถึงสถานที่นั้นๆว่าเป็นแบบไหน  ดีอย่างไร  และบางครั้งก็เป็นเรื่องบังเอิญ  ที่ไปพบสถานที่แบบนั้น  (บังเอิญนี่...บ่อยมากๆจน  แม้แต่ผมยัง พิศวงสงสัย)  อีกทั้งมวลสารที่ไปหาก็ต้องพลีถูกต้องตามตำราและวิธีการ  อาจารย์จะควบคุมดูแลการจัดหามวลสารด้วยตัวเองทุกครั้ง  เพื่อให้พวกเราได้ใช้วัตถุมงคลของท่าน  เห็นผลรวดเร็วและสัมฤทธ์ผล   ยกตัวอย่าง..........ดิน 7 ท่า ก็ต้องเอาดินที่  ท่าน้ำนั้นจริงๆ  เจอมากับตัวเล่นเอาผมกลับน้องอีกคนเหนื่อยสุดๆ  รองเท้าขาดไปคู่เลย  เพราะกว่าจะได้ครบ  7 ท่าต้องใช้เวลาทั้งวัน  และท่าน้ำนั้นๆต้องมีคนใช้บริการเยอะด้วย  อาจารย์ท่านว่าจะดีมากๆเลย     และอีกเรื่องคือ  ดิน 7 ป่าช้า   ต้องเป็นป่าช้ายิ่งมีความเฮี้ยน  ยิ่งเฮี้ยน  ยิ่งดี  งานในครั้งนั้นมีประสปการณ์กับผู้ไปนำดิน  กันจนถ้วนหน้า  รวมทั้งผมด้วย  (เรื่องนี้  จะนำมาเล่าให้ฟังคราวหน้านะคับ)   เรื่องราวการเสาะแสวงหามวลสาร   ในแต่ละครั้ง  บางแห่งมีเรื่องให้ต้องเก็บมาเล่าให้พี่ๆน้องได้รับทราบกันบ้าง   เพราะอยากให้รู้ถึงวัตถุมงคลของสำนักในแต่ละรุ่น  ไม่ใช้จะทำกันออกมาง่ายๆ  อย่างเช่นพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของที่อื่น  ของที่นี่จัดเต็มทุกอย่าง  มวลสารใส่เต็มๆ  ฉนวนหล่อหลอมเต็มๆ   ไม่มีกั๊ก  เพียงเพราะอยากให้ผู้เช่าบูชาไป  นำไปใช้และมีประสปการณ์กันถ้วนหน้า   ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้หาได้ยากยิ่ง  ผมและพี่ๆน้องๆหลายๆคนต่างทราบดี  ถึงการหามวลสารมาสร้างวัตถุมงคลของสำนัักนี้    บางอย่างบทจะหาง่ายก็ง่ายสิ้นดี   บางอย่างบทจะยากก็ยากจนแทบถอดใจ  เหมือนยังไม่ถึงเวลา   แต่ทุกครั้งก็มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นจนประหลาดใจก็หลายหน   ยกตัวอย่างเช่น   
     ครั้งเมื่อกำลังเตรียมการจัดสร้าง  ขุนแผนแสนตรีเวทย์  พอมาถึงสำนักก็ได้รับ  คำบอกเล่าจากอาจารย์ว่าให้ไปที่  วัดๆหนึ่งในบริเวณไม่ไกลจากพำนักเท่าไรนัก  ไปขอผงพรายหลวงปู่ทิมและหลวงปู้แย้มให้ที   เนื่องจากอาจารย์  เล่าว่าช่วงนักสมาธิอยู่  สัมผัสได้ถึงพรายหลายตนมากราบ  นมัสการหลวงปู่ชื่นที่พำนัก  และอยากจะมาร่วมบุญด้วย (รายละเอียดบางอย่าง และสถานที่  ผมคงบอกเล่าไม่ได้  ด้วยเหตุผลบางประการนะคับ)   จึงให้ผมกับพี่โถนขับมอเตอร์ไซค์  ของพี่โถนเดินทางไป  ไปถึงก็เข้าไปกราบท่าน    และแจ้งจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้  ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก  แม้แต่ผมยังประหลาดใจว่า  ทำไมถึงช่างง่ายดายปานนี้  ซึ่งเราต่างก็รู้ดีว่า   ผงพรายของหลวงปู่ทิมและหลวงปู่แย้มต่างก็หาได้ยากยิ่ง    ท่านเดินไปด้านใน  ซึ้งไม่ไกลจากที่ผมยืนดูอยู่นัก   ไปตักผงพรายมาให้  ซึ้งอยู่ในถังพลาสติกใบเล็ก  2 ใบ  ที่วางแยกกัน  ท่านก็ตักผงที่อยู่ทั้ง  2 ใบให้ผมนำกลับพำนัก  โดยไม่ได้คิดมูลค่าใดหรือเรียกร้องอะไร  ตอบแทนเลย  ได้แต่ร่วมอนุโมทนาในการจัดสร้างพระเครื่อง แสนตรีเวทย์นี้เท่านั้น  และก็สวดมนต์ทำพิธีส่งมอบต่อให้ผมเป็นคนถือกลับ      ช่วงที่นำผงพรายกลับพำนัก  ก็มีเรื่องให้ต้องตกใจ  จนผมกลับพี่โถนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  เล่นพวกตรูสองคนกันแล้ว  ทำไงดีอาจารย์ไม่ได้สอนมาซะด้วย..............ค่อยมาต่อคับ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
7#
โพสต์ 2018-5-18 16:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:47

       ต่อ....ช่วงที่นำผงพรายกลับพำนัก  ก็มีเรื่องให้ต้องตกใจ  จนผมกลับพี่โถนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  เล่นพวกตรูสองคนกันแล้ว  ทำไงดีอาจารย์ไม่ได้สอนมาซะด้วย....

ขากลับหลังจากได้ผงพรายมาแล้ว   ผมนั่งซ้อนรถพี่โถนขับ  พอออกจากเขตวัด  ก็เกิดเหตุชวนให้ขนลุกทันที   อยู่ๆรถพวกผมก็มีอัน  บิดคันเร่งไม่ขึ้นเหมือนรถจะหนักมากจนวิ่งไม่ออก    แม้แต่จะขับข้ามสะพานเตี้ยๆก็ยัง   เร่งไม่ค่อยจะขึ้นผิดกับตอนขามาลิบลับ   ที่จริงไม่หน้าจะเป้นไปได้รถที่ขับมาก็ยังใหม่  ถอยออกมายังไม่ถึงปีและถามพี่โถนก็บอก   รถไม่เคยมีปัญหาอะไรขับอยู่ทุกวัน   และช่วงเวลาที่ขับกลับมานั้นเอง  ผมสองคนก็มีอาการมึนหัวขึ้นมาเฉยๆ   พี่โถนบอกคลื่นไส้จะอ้วก   ผมเลยบอกพี่ทนอีกนิดจะถึงสำนักแล้ว  เด่วจะเรียกอาจารย์และหลวงปู่ให้มาช่วย..................
       แต่พอมาถึงสำนักเท่านั้นล่ะ    อาการทุกอย่างหายไปหมดเลย  ผมต้องร้องเรียกอาจารย์ให้ออกมารับผงพรายไป   เพราะตอนกลับมาเล่นงานผม สองคนแทบจะอ้วก  พี่โถนบอกพอใกล้ถึงสำนักอาการของรถก็รู้สึกจะหายไปเลย  หลังจากนั้นพี่โถนแก่ก็หาที่ล้มตัวนอนพักทันที   เหมือนคนหมดแรง
      นี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งในการหามวลสารมาทำ  วัตถุมงคลของสำนัก   ยังมีเรื่องราวอีกที่ประสปฯ  มากับตัวกับศิษย์น้องๆหลายๆคน   เช่นเรื่อง  ไปนำดินเจ็ดป่าช้า     ไปนำดินจากท่าน้ำเจ็ดท่า   และ มวลสารจากสถานที่มีอาถรรพย์อีกหลายที่  แล้วจะนำมาทยอยเล่าให้ทราบกันนะคับ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
8#
โพสต์ 2018-6-7 10:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:48

       ว่าจะไม่กล่าวถึงแล้วก็..อด  สงสารผู้ศรัทธาใหม่ๆ  และสานุศิษย์หลวงปู่ชื่น  ที่มีภูมิความรู้น้อย  หลงไปเช่าหาบูชาวัตถุมงคล
ที่ทำเสริมออกมา  มากมายในช่วงนี้  ทั้งในเฟสฯ  และในเวปฯ  และที่สำคัญ  พวกที่มาทำเป็นกรูรูมากมาย  มีความรู้แค่นิดหน่อย
กลับทำเป็นผู้รู้  มากความสามารถ  ทั้งที่มันเป็นของทำเสริม  ผมเห็นแล้วอนาถใจมาก  
     อยากจะบอกว่าถ้าหลงเช่าบูชาแล้ว  นำไปใช้ไม่ได้ผล  อย่าเหมาว่าวัตถุมงคลของท่านไม่ดี  ไม่สมกับคำเลื่องลือไม่ได้นะคับ
ก็ที่เช่าหามาคือของทำเสริมไม่ได้ผ่านการปลุกเสก  โดยหลวงปู่ชื่นนะคับ  
    พวกที่เอาของเสริมมาปล่อย  ก็อ้างบอกมาจากจอมพระ  รับมาจากคนใกล้ชิด  สารพัดจะแอบอ้าง สร้างความหน้าเชื่อถือ ยิ่งมาเจอพวกมาศึกษาทีหลัง  กลับออกตัวเป็นกรูรู  ทั้งๆที่ไม่ได้มีความรู้มากมาย  อย่างที่สร้างเคดิตให้ตัวเองเป็นผู้ชำนาญเลยสักนิด  ที่ต้องออกมากล่าวแบบนี้เพราะเห็น  ในเฟสฯบางเเห่งนำของเสริมออกมาขายกันเป้นว่าเล่น  แล้วแอตมินออกมาบอกว่าแท้  จำนวนการสร้างก็มั่ว  จุดสังเกตุก็ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง  มั่วไปเรื่อยๆ       อยากจะขายเพื่อให้ได้เงิน  ไม่สนหรอกคับว่าคนเช่าไปจะเป้นยังไง  พอเช่ามาแล้วใช้ไม่ได้ผลก็ปล่อยต่อไปเป็นลูกโซ่
ส่วนคนที่เสริมก็ทำเสริมออกมาเรื่อยๆเพราะเห็นว่าขายได้  ก็ทำออกมาหลอกเอาเงินผู้ศรัทธา
    อยากจะบอกว่า  พวกผมช่วยกันเล่าขานประสปการณ์  เพื่อบูชาพระคุณครูและหลวงปู่ชื่น  ให้เป็นที่รู้จักมากว่า 10 ปี กลับมาถูก
พวกเห็นแก่ได้  ทำลายซะนี่  แบบนี้จะไม่ให้ผมแรงกลับได้ยังไง
    ออกมาเตือนให้ระวังกันนะคับ  อย่าให้ความโลภครอบงำ ของเสริมออกมากัน  มากจริงๆ  คนรุ่นใหม่ไปเช่ากันเยอะ ก็ยิ่งเข้าทาง
พวกพ่อค้า...เท่านั้นเอง


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
9#
โพสต์ 2018-7-24 14:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2018-7-26 10:04

             ได้เวลากลับมาเล่าเรื่องราว  กันต่อ  หลายปีแล้วที่เรา  เหล่าสานุศิษย์ หลวงปู่ชื่นและอาจารย์สรายุทธ  ได้มารวมตัวกันในบ้านหลังนี้  ผ่านวันเวลามากันขนานนี้คงได้รับรู้ว่า  วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นสุดยอดขนานไหน  หาของแท้ๆยากขนาดไหน  และทุกวันนี้พวกเราก็ได้รับรู้ถึงวัตถุมงคลที่  อาจารย์สร้างในยุคหลังๆ  ที่ออกมาให้เช่าบูชากันเป็นอย่างไร  วัตถุมงคลในยุคหลังๆ  หลายต่อหลายรุ่น   เป็นที่เสาะแสวงของสานุศิษย์รุ่นใหม่ๆ  กันมาก  เพราะวัตถุมงคลที่ท่านอาจารย์สรายุทธจัดสร้างขึ้น  ก่อประสปการณ์ให้กับผู้เช่าบูชากันไปมากมาย  รวมทั้งผมด้วย  บางรุ่นของท่านต่อให้มีเงินยังหาไม่ได้เลยก็มี  และยังแพงมากด้วย                        จากวันเวลาที่ผ่านมาหลายปี  เหล่าสานุศิษย์ที่นี่  หลายๆคนมีประสปการณ์มากมาย  แต่บางคนก็ไม่ได้นำมาบอกเล่า  เวลาพอผ่านไปก็หลงลืม  
รวมทั้งตัวผมด้วย  เพื่อไม่ให้หลงลืมจึงต้องมาลงบันทึกบอกเล่าในเวปฯ   เพราะบางเรื่องราวมันเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ  และอัศจรรย์มาก  สำหรับตัวผม  บางครั้งยังนึกแล้วขนลุกไปทั้งตัว   ในการสร้างพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของที่นี่    อาจารย์ท่านเน้นจริงๆต้องได้ของเหล่านี้มาทำมวลสารให้ได้
เพื่อความศักดฺ์สิทธ์และสัมฤทธ์ผล  วัตถุมงคลบางอย่าง   ก็ไม่ใช่ของหาได้ง่ายๆอีกทั้งบางสถานที่ก็เฮี้ยนสุดๆ   เหล่าสานุศิษย์ของอาจารย์สรายุทธที่ได้รับมอบหมายให้ไปเสาะหามวลสารนี้มาให้ได้    ย่อมทราบกันดีว่า  สิ่งที่ท่านใช้ให้ไปเอามานั้น ไม่ใช่ง่ายๆเลย
              เรามาเริ่มกันเรื่องราวกันเลยดีกว่า  ขอเล่าถึงประสปการณ์  การเสาะหามวลสาร  เพื่อมาทำผงพุทธคุณของพำนัก ติคญาโณ  แห่งนี้     เรื่องมีอยู่ว่า      อาจารย์  ผมกับเมธ  ได้นัดกันไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง   เป็นถ้ำ  เพื่อไปทำพิธีพลีมวลสารมาสร้าง  วัตถุมงคล   (ต้องกล่าวขอโทษก่อนว่า  ไม่สามารถบอกชื่อสถานที่นี้ได้จริงๆ   เพราะอาจารย์กลัวว่า  หากบอกออกไปจะมีคนเข้ามารบกวน  พวกเขาเหล่านั้นได้  และหากมีพวกที่อยากลองของ   ลองดี   เข้ามา ก็อาจจะเป็นอันตรายได้)   จากที่ทราบจากอาจารย์  บอกว่าถ้ำแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธ์มาก  เพราะเป็นสถานที่ เหล่าเกจิอาจารย์ยุคก่อน  มานั่งกรรมฐานศึกษา  วิชาไสยเวทย์  และสำเร็จกันมากมาย   ซึ่งหากเอ่ยชื่อออกมา  ผู้ที่เล่นหาพระเครื่องยอมทราบกันดีว่า   พระคุณเจ้าเหล่านี้ต่างก็มีชื่อเสียงกันทั้งนั้น   ขออนุญาติลงล่ะกันคับ    เริ่มจาก    หลวงพ่อกลิ่น วัดหนองบัว  ท่านเป็นองค์แรกที่สำเร็จวิชายัง สถานที่นี้   และ  เกจิอาจารย์เหล่านี้ก็มาศึกษา วิชาที่ถ้ำแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
-หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
-หลวงปู่เนียม วัดน้อย
-หลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน
-หลวงพ่อปาน วัดสว่างอารมย์ -
หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
-หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
-หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว  
-หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว  
เหล่าเกจิอาจารย์เหล่านี้คือ  ยุคแรก   และยังมีเกจิอาจารย์ในยุคหลัง   อีกหลายรูปก็มานั่งกรรมฐานสำเร็จไปอีกหลายรูป   เช่น  หลวงปู่แช่มวัดตาก้อง  ,  หลวงพ่อเดิม  ,หลวงพ่อเปิ่น  ฯลฯ  กล่าวได้ไม่หมดแค่ได้ยินแบบนี้ผมและเมธ  ก็อยากจะไปเยือนดูสักครั้งล่ะ     พวกเราตะเตรียมของไปทำพิธีที่นั่นแล้วก็ออกเดินทางไปยัง  ถ้ำแห่งนี้ทันที  เมื่อไปถึงสัมผัสแรกที่ได้รับคือ   ความเงียบสงบ  เมื่อถึงสิ่งแรกคือไปหาท่านเจ้าอาวาส   ผู้ดูแลสถานที่เพื่อบอกกล่าวท่านซะก่อน   แต่ก็ไม่พบใครเลย  เราเลยถือวิสาสะ  เดินขึ้นเขาไปยังถ้ำเอง     บันไดทางขึ้นยาวมาก   เล่่นเอาเหนื่อยเลย   เมื่อไปถึงปากถ้ำ  เจอเณร  หนึ่งองค์เลยสอบถาม  เณรท่านบอกเจ้าอาวาสไม่อยู่  ไปข้างนอกวัดเดี๋ยวจะกลับมา  พวกเราเลยถือโอกาสบอกกล่าวกับเณรว่าจะขอเข้าไปชม  ถ้ำสักหน่อย   เณรก็อนุญาติ    พอเข้ามาแรกๆก็ยังไม่รู้สึกอะไร   แต่พอเราเริ่มเข้ามาลึกขึ้นๆ   และแสงสว่างก็เริ่มจะน้อยลง  น้อยลง...................ค่อยมาต่อคับ
            








ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
10#
โพสต์ 2018-7-24 16:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2018-7-26 10:05

  ต่อ.........เมื่อเข้ามายังภายในถ้ำ  ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีคนดูแล  มานานมาก  สังเกตุจากทีพื้นลานกว้างฝุ่นผงหนามากๆ   และไม่มีไฟฟ้า  มีแต่แสงจากข้างนอกที่ส่องเข้ามาถึงเท่านั้น   ภายใน...มี  พระพุทธรูป  และรูปปั้น  ให้คนสักการะบูชาอยู่หลายจุด  แต่เท่าที่ดู  เหมือนไม่มีใครเข้ามายังสถานที่นี้  นานมากแล้ว   และเมื่อสัมผัสบรรยากาศที่ได้รับคือ    ความเย็นยะเยือก   หลังจากพวกเรา  จุดธูปไหว้ พระพุทธรูปในถ้ำแล้ว      พวกเราก็เดินเข้าไปยังส่วนที่ลึกขึ้น   แสงจากด้านนอกเริ่มน้อยลง  และที่สำคัญบรรยากาศ  ยิ่งเดินลึกเข้ามา  ยิ่งหนาวยะเยือก  และ  แสงสว่างจากภายนอก เริ่มส่องมาไม่ถึง    ความมืดก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ    ผมกับเมธจึงต้องเอามือถือออกมาฉายไฟแทน   เพื่อให้มองเห็นเส้นทางเดิน  โดยให้อาจารย์ท่านเดินอยู่ตรงกลาง  พวกผมคุมหน้าหลังเอง   และเมื่อเริ่มเข้ามาภายในที่   ทางเดินวกวน   และไม่ราบเรียบ  บางจุดต้องก้าวลงบรรไดลิงที่ทำจากไม้ผุๆ     บางจุดมีสะพานเป็นแผ่นเหล็กที่บังคับให้เราเดินเรียงเดี่ยวเข้าไป  เราเดินเข้ามาค่อนข้างไกลจากปากถ้ำพอควร  ผมรู้สึกว่าไกลมาก   เพราะมือถือผมเปิดเป็นไฟฉาย  แบตมันร้องเตือนใกล้จะหมดเลย  ทั้งๆที่ผมชาร์ทมาเต็มเมื่อคืน  บรรยากาศตอนนี้ชักหนาวๆและกลิ่นความชื่น  ลอยเข้าจมูก ผสมกับกลิ่นมูลค้าวคาว   และที่สำคัญผมรู้สึกเหมือนใครกำลังจ้องมองเราอยู่   ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้   ทั้งหมดก็รู้สึกเหมือนผม  และเมื่อผมกับเมธรู้สึกแปลกๆในบรรยากาศ   ความที่รู้งานว่าอาจจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล กำลังจะเกิดขึ้น  ด้วยความเป็นลูกศิษย์   ผมกับเมธจึงพร้อมใจกัน  (เหมือนทุกครั้ง) ให้อาจารย์ท่านเดินนำหน้า   พวกผมตามหลังส่องไฟให้   จากแสงไฟเพียงน้อยนิดจากมือถือก็พอจะทราบได้ว่า   อาจารย์กำลังด่าพวกผมแน่นอน  (คงบ่นในใจว่า....ลูกศิษย์กรูนี่  รักกรูจริงๆ)  มาถึงจุดที่ต้องลงบรรไดแคบๆ  และใกล้จะถึงจุดหมาย  อาจารย์ก็หยุดและสั่งให้พวกเรากลับออกไปกันก่อน   ถึงพวกผมสองคนจะไม่ค่อยเข้าใจ   แต่ก็ต้องเดินกลับออกมาทางเดิมแบบ...งงๆ    หลังจากออกมาถึงปากถ้ำ    มานั่งพักเพราะเดินเข้าไปไกลมาก (ความรู้สึกของผม)
    อาจารย์ก็บอกให้กลับลงไปข้างล่างก่อน   โดยที่ยังไม่บอกอะไรพวกผม   ผมได้แต่บ่นว่า    กว่าจะเดินขึ้นบรรไดจากข้างล่างมาถึงปากถ้ำก็เล่นเอาผมหายใจไม่ทันล่ะ
เพราะมันไกลมาก    และนี่ถ้าต้องเข้าไปในถ้ำอีกจะทำยังไง  มือถือแบตฯเกือบจะหมดแล้ว   และข้อสำคัญนี่  ก็ใกล้บ่ายสามโมงล่ะ  กลัวจะกลับบ้านดึก   อาจารย์ไม่สนใจเดินนำพวกผมลงมาถึงข้างล่าง    และก็ได้มาพบกับท่านเจ้าอาวาส  (ท่านกลับมาจากข้างนอกล่ะ)  อาจารย์ก็เลยเข้าไปพูดคุยกราบนมัสการท่าน   ท่านก็เลยชวนเข้าไปคุยกันที่หน้ากุฎิท่าน    ซึ่งไม่ไกลนัก   ช่วงที่เดินตามท่านเจ้าอาวาสเข้าไป  ผมสงสัยจึงถามเหตุผลว่า    ทำไมอาจารย์เปลี่ยนใจให้พวกผมลงจากถ้ำมา  ทั้งๆที่จะถึงที่หมายแล้ว อาจารย์หันมามองหน้าผมและบอกว่า.............เห็นบางอย่าง  เป็นดวงตาสีแดง 2 คู่  กำลังมองพวกเราอยู่  รู้ด้วยจิตว่าไม่ค่อยดีจึงให้ออกมากันก่อน   ผมงี้พอฟังสตั้นไป  พักหนึ่งเลยทีเดียว   และก็เป็นเวลาที่เดินมาถึง  หน้ากุฎิของ  ท่านเจ้าอาวาสพอดี   ท่านบอกให้พวกเรานั่งลง   และเริ่มทักทายสอบถามกันพอสมควร  อาจารย์จึงสอบถาม   ประวัติ  ของถ้ำแห่งนี้  ว่าเป็นมายังไงและก็เริ่มสอบถาม  ว่าตอนที่ท่านมาจำวัดที่นี่ใหม่ๆ  มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง  เอาที่เป็นใจความสำคัญของเรื่องนะคับ  ท่านเล่าว่าตอนท่านมาจำวัดที่นี่ใหม่ ๆ   ก็เจอดีเหมือนกัน  เช่น  ท่านเห็นดวงไฟหลากหลายสี  ลอยเข้าไปยังในถ้ำแห่งนี้   และตอนกลางคืนท่านจำวัดแล้ว   ก็ฝันเห็น...หมาดำตัวใหญ่มาก   2  ตัว  ดวงตาสีแดงจ้า  กระโจนใส่ท่าน จะเข้ามาทำร้ายท่าน (ถึงตอนนี้  ผมมองไปที่อาจารย์   อาจารย์ก็มองมาทางผม  เหมือนจะบอกว่า  สิ่งที่ท่านเห็นเจ้าของดวงตาสีแดง   น่าจะเป็นหมาดำที่ ท่านเจ้าอาวาสพูดถึง แน่นอน)    ท่านแผ่เมตตาให้อยู่หลายคืน   และบอกกล่าวว่าท่านมาดี   ไม่ได้มารบกวนอะไร   และก็พูดคุยหลายเรื่องมาก   ทั้งเรื่องพระพุดขึ้นมาจากพื้นดินในถ้ำด้วย   หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก  .............

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้