ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พระที่คนรู้จักกันในชื่อ พระครูเทพโลกอุดร

[คัดลอกลิงก์]

นี่ก็ภาพจินตนาการอีกสองเวอร์ชั่น ทั้งภาพหน้าหนุ่มและหน้าแก่...ที่นำเสนอมานี้ไม่ได้มาตั้งประเด็นถกเถียงว่าท่านมีตัวตนจริงหรือไม่ ..แต่นำเสนอพิสูจน์ว่าภาพต้นฉบับข้างบนนั้นไม่ใช่ภาพพระครูโลกอุดรและบางคนยังเข้าใจผิดอยู่ยังมีอีกมาก...ภาพต้นฉบับดังกล่าวได้กลายเป็นภาพจินตนาการของภาพพระครูโลกอุดรอีกหลายเวอร์ชั่น..

เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน สิงห์บุรี ถอดแบบจากภาพถ่ายของท่าน ยืนยันได้ดีครับ
ขอตัดตอนข้อความก่อนจบ "ตัวตนมีจริงหรือไม่" ไหน ๆ กล่าวถึง "พระครูโลกอุดร" ช่วยผู้อ่านให้ได้รับความรู้รอบตัวกันแล้วอย่างนี้ ก็ควรที่จะตัดมายังเรื่อง หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน เลยดีกว่า เพราะเชื่อว่าน่าจะมีผู้อ่าน จำนวนหนึ่งที่อยากทราบประวัติของท่านเต็มที ท่านผู้นี้มีสมณศักดิ์เป็น พระใบฎีกาฐานานุกรมของ พระครูสิงหราชมุนี (หรือ หลวงพ่อใย ) วัดระนาม เจ้าคณะ จ.สิงห์บุรี ทั้งยังมีตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์เป็นเจ้าคณะหมวดชีน้ำร้าย ซึ่งเทียบได้กับเจ้าคณะตำบลในปัจจุบัน วันเกิดของท่านคือ วันอาทิตย์ เดือน ๔ ปีมะโรง พ.ศ.๒๔๒๒ เป็นบุตรคนแรกของ นายขุนมา และ นางไข่ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งตั้งภูมิลำเนาอยู่บ้านโพนางดำ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ครั้นมีอายุได้ ๒๒ ซึ่งเกินกำหนดได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดระนาม (เหนือวัดบางปูนขึ้นไป) ผู้ที่ได้รับนิมนต์มาเป็นพระอุปัชฌาย์คือ พระครูอินทมุนี (โต) วัดประศุก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ส่วนคู่สวดนั้นได้แก่ พระอาจารย์พรหม วัดไผ่ล้อม และ พระสมุห์ใย วัดระนาม (พระอนุสาวนาจารย์องค์นี้ภายหลังมีสมณศักดิ์ เป็นพระครูสิงหราชมุนีและเป็นผู้ที่แต่งตั้ง หลวงพ่อพรหม เป็นพระใบฎีกาฐานานุกรมของท่าน) หลวงพ่อพรหม อายุสั้น เพราะถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙ ขณะที่มีอายุได้ ๕๘ ปีเท่านั้น
    พระอธิการบุญเรือง มหาปญฺโญ เจ้าอาวาส วัดบางปูน องค์ปัจจุบันเล่าว่า ถึงตัวท่านจะไม่ทัน หลวงพ่อพรหม เนื่องจากเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒ หลังท่านถึงมรณภาพแล้ว ๓ ปี แต่คนที่เกิดทันคือบิดา ซึ่งไม่เพียงเป็นศิษย์ใกล้ชิดตอนเป็นเด็กวัดเท่านั้น เพราะครั้นตอนอายุครบบวช หลวงพ่อพรหม ยังเป็นพระอุปัชฌาย์อีกต่างหาก เนื่องจากถือเป็นศิษย์ใกล้ชิดกว่าใครๆ จึงทำให้ทราบเรื่องเกี่ยวกับ หลวงพ่อพรหม หลายประการ และท่านผู้นั้นได้เล่าให้ตนฟังจนจำไม่หวาดไหว เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องเหลือเชื่อแทบทั้งนั้น เช่น เรื่องท่านมีญาณวิเศษและล่องหนหายตัวได้เป็นต้น
    คนบางปูน รุ่นก่อนต่างรู้เรื่องดี ยิ่งคนที่เคยบวชอยู่กับท่านยิ่งรู้กว่าใคร ตนจำได้เฉพาะเรื่อง พระหนีเที่ยวเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น กล่าวคือ หลวงพ่อพรหม ได้สั่งกำชับพระทุกองค์ว่า ถ้าองค์ไหนมีธุระออกนอกวัดต้องมาลาท่าน แม้จนชั้นไปเยี่ยมเยียนญาติโยมที่บ้านก็ต้องลา หากแต่ว่ามีพระหนุ่มอยู่กลุ่มหนึ่งที่ชอบหนีไปเที่ยวบ้านสาวๆ เป็นประจำ แต่ท่านทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และไม่เคยตำหนิติติงอะไรให้สำนึกตระหนักกัน ครั้นอยู่มาคืนหนึ่งขณะที่พระกลุ่มนี้กำลังเดินไปบ้านสีกา ปรากฏว่า หลวงพ่อพรหม โผล่ออกมาดักพร้อมกับถามว่าพวกคุณจะไปไหนกัน ทำให้พระเหล่านั้นหันหลังเดินกลับวัด เพราะนึกละอายแก่ใจและไม่กล้าสู้หน้า แต่เมื่อกลับถึงวัดกลับเห็น หลวงพ่อพรหม ท่านนั่งฉันน้ำชาอยู่หน้ากุฏิของท่าน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นท่านเดินตามหลังกลุ่มพระหนุ่มมาติดๆ ห่างไม่เกิน ๒ วา สรุปว่านับแต่บัดนั้นไม่มีการหนีเที่ยว ทั้งยังขยันหมั่นท่องสวดมนต์อีกต่างหาก นอกจากคำบอกเล่าของ พระอธิการบุญเรือง ดังกล่าวข้างต้น ที่ยืนยันว่า หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน ไม่ใช่ พระครูเทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่เทพอุดร ตามที่มีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อน
    ยังมีคนบอกเล่าให้ผู้เขียนฟังอีกรายหนึ่งซึ่งได้แก่ นายสมพงษ์ สีภา (ซึ่งปัจจุบันอายุ ๗๐ ปี) ชาวบางปูน คนนี้บอกเล่าแบบยืดยาวพอสมควรว่า แต่เดิมนั้นท่านบวชอยู่กับ หลวงพ่อใย หลายพรรษา ต่อมาภายหลังอาจารย์ผู้นั้นได้ส่งท่านมาเป็นเจ้าอาวาส วัดบางปูน และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะหมวดชีน้ำร้ายในขณะเดียวกัน ท่านเป็นพระกรรมฐานและมักออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี สถานที่ที่ท่านชอบไปบำเพ็ญภาวนาได้แก่ดงป่า และเถื่อนถ้ำแถวบ้านช่องแค ซึ่งขึ้นกับอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เพราะแต่ก่อนนั้นละแวกที่ว่ายังเป็นป่ารกชัฏ และมีถ้ำตามภูเขาอยู่หลายถ้ำ
    ตามความเข้าใจของตนค่อนข้างเชื่อว่า เวลาที่ออกเดินธุดงค์ท่านคงจะนำภาพถ่ายติดตัวไปจำนวนหนึ่ง ฉะนั้นจึงเป็นที่แพร่หลายในหมู่ชาวบ้านแถวนั้น ครั้นต่อมาคนรุ่นหลังๆ ไม่ทราบว่าเป็นภาพถ่ายของใคร จึงตั้งชื่อให้ใหม่เป็น พระครูเทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่เทพอุดร เพราะเห็นว่าหน้าตาท่าทางท่าน เหมาะแก่การอุปโลกน์ ด้วยดูขรึมขลังอย่างมาก และหากจะว่าไปแล้ว ท่านก็เป็นพระที่มีคุณวิเศษหลายประการ เช่น มีญาณวิเศษ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ อย่างที่เรียกกันว่าได้อภิญญาหรืออะไรทำนองนั้น แต่ท่านไม่ได้ทำวัตถุมงคลแจกจ่าย มีเพียงภาพถ่ายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่สำคัญท่านผู้นี้ ยังมีฐานะเป็นคู่สวดและอาจารย์ของ หลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม พระเกจิเมืองสิงห์อีกองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี นายสมพงษ์กล่าวปิดท้าย


( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1115 เดือนเมษายน 2556 : หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พระที่คนรู้จักกันในชื่อ พระครูเทพโลกอุดร ภาพและเรื่องโดย ประพนธ์ พรอุตสาห์ )

http://www.dd-pra.com/forum/detail/101731/

ขอบคุณครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2019-7-8 07:03






ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้