ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

राम พระศรีรามเทพ राम

[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-9-25 07:01

สง่างามจริงๆครับ ภาพนี้
52#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-11-15 18:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระศรีราม
เย ศิราม
54#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-2 07:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นะโมโพธิสัตย์โต พระรามชัยศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ

.โอม เจ ศรี ราม / โอม เจ หนุมาน...

ขอให้พระรามประทานพรให้ทุกคนมีความสุข



https://www.youtube.com/watch?v=LrA9JK12l-Q


56#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-4 06:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระศรีราม
ธรรมะแห่งราชา














ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์                    จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร        เหาะเหินเดินได้ในอัมพร
มีมือยี่สิบซ้ายขวา                            ถือคฑาอาวุธธนูศร
กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร                 ตามไปราญรอนชีวี

57#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-6 07:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระราม (รามาวตาร) เทพแห่งความถูกต้องสันติ





รามาวตาร หรือ รามจันทราวตาร หรือ พระราม จากมหากาพย์ รามายณะ ชาวไทยรู้จักกันในชื่อเรื่อง รามเกียรติ์ (จากภาพ พระรามกับนางสีดา)



อวตารครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อกำจัด ท้าวราพณ์ หรือ ทศกัณฐ์ กษัตริย์แห่งกรุงลงกา ซึ่งมี ๑๐ เศียร อสูร ท้าวราพณ์บำเพ็ญตบะเช่นเดียวกับ เหรันตยักษ์ และ เหรัณยกศิปุ ที่บำเพ็ญตบะก็เพื่อความอมตะ เมื่อพบความเป็นอมตะ และประจบประแจง พระศิวะ จนท่านเมตตา มันก็เริ่มประหัตประหารเทพเจ้าและมนุษย์ พระวิษณุ จึงอวตารลงมาเป็นโอรสองค์โตของมหากษัตริย์ ทศรถ แห่งกรุงอโยธยา ซึ่งจัดพิธีบูชายัญม้าเป็นประจำ ทรงพระนามว่า พระราม มีพระอนุชาต่างมาดาคือ พระภรต พระลักษมณ์ และ พระศัตรุต กล่าวกันว่าพระอนุชาของพระองค์ทรงแบ่งรูปลักษณ์มาจากพระวิษณุด้วย



พระราม และ พระลักษณ์ ทรงสนิทสนมกันมาก และได้ฆ่าอสูรที่ฆ่าพราหมณ์ไปเป็นจำนวนมาก วันหนึ่งขณะทรงพระเยาว์ ทั้งสองพระองค์ได้ยินข่าวว่า นางสีดา ธิดาแสนสวยของ กษัตริย์ชนก จะอภิเศกกับผู้ที่สามารถโก่งคันศรของพระศิวะได้ พระรามโก่งคันศรได้ และได้อภิเษกกับนางสีดา ซึ่งก็คือ พระลักษมี อวตารลงมานั่นเอง หลังจากทรงอภิเษกได้ไม่นาน พระทศรถก็สละราชสมบัติ และได้ประกาศนามของผู้ที่จะมารับตำแหน่งใหม่ ในเวลาเดียวกันขณะที่พระภรตไม่อยู่นั้น บริวารของ พระมเหสีไกยเกษี (Kaikeyi) ผู้เป็นพระมารดาของภรต ก็กล่าวให้ร้ายพระราม ทำให้พระนางไม่พอพระทัยพระราม ทรงเป็นที่รักใคร่มากกว่า จึงทรงยุยงและบังคับให้พระทศรถ ยอมยกราชสมบัติทั้งหมดให้ภรต ทั้งยังเนรเทศพระรามออกไปอยู่ป่าเป็นเวลา ๑๔ ปี โดยมีนางสีดา และพระลักษณ์คอยติดตามพระรามไปด้วย ประชาชนและภรตต่างเศร้าโศกกับการจากไปของพระรามมาก จนพระทศรถ ทรงเสด็จสวรรคตในอีก ๑ สัปดาห์ต่อมา



เมื่อ พระภรต ทรงเสด็จกลับมาและทราบข่าว พระองค์ทรงพิโรธพระมารดามาก ทรงเสด็จออกตามหาพระรามเพื่อเชิญเสด็จกลับวัง แต่พระรามไม่ทรงกลับ พระภรตจึงเสด็จกลับเมืองอโยธยา และครองราชสมบัติแทน โดยมี พระบาท ของพระรามอยู่บนราชบัลลังก์ เป็นเครื่องหมายแสดงถึงกษัตริย์ที่มีสิทธิ์อันชอบธรรม



ในช่วงที่อยู่ในป่านางยักษี ผู้เป็นขนิษฐาของท้าวราพณ์ได้หลงรักพระราม แต่พระรามทรงอภิเษกแล้ว จึงให้นางไปสนพระทัยพระลักษมณ์ซึ่งยังไม่อภิเษกดีกว่า แต่พระลักษมณ์ก็ผลักไสนาง นางจึงสงสัยว่าพระลักษณ์คงแอบหลงรักนางสีดาอยู่ นางยักษีจึงทำร้ายนางสีดา และพยายามจะกินนางสีดา แต่พระลักษมณ์มาช่วยไว้ได้ทัน โดยทรงตัดจมูก หู และอกของนางยักษี



นางจึงส่งอนุชาพร้อมกองทัพยักษี ๑๔,๐๐๐ ตนมาล้างแค้น แต่พระรามก็เอาชนะได้ นางจึงไปยุยงให้ท้าวราพณ์ว่านางสีดางดงามมาก และเหมาะสมกับท้าวราพณ์ ท้าวราพณ์จึงลักพาตัวนางไปโดยส่งกวางไปล่อ นางสีดาอยากได้กวาง พระราม พระลักษณ์จึงออกไปจับกวาง จากนั้นท้าวราพณ์ในรูปของฤาษีก็จับนางขึ้นรถ เหาะไปยังกรุงลงการะหว่างทาง นกชฎายุ หรือร่างอวตารของ พญาครุฑ พาหนะของพระวิษณุ ได้ต่อสู้กับอสูรราพณ์แต่ไม่สามารถเอาชนะได้ ชฎายุจึงพาร่างจวนเจียนจะสิ้นใจกลับมาส่งข่าวแก่พระราม เมื่อมาถึงกรุงลงกา ท้าวราพณ์พยายามเกี้ยวพาราสีนางสีดา แต่นางก็ไม่ใจอ่อน ท้าวราพณ์จึงบังคับให้นางอภิเษกด้วย ถ้านางไม่ยินยอมจะฆ่าและกินนางเสีย แต่นางสีดาก็รอดมาได้ เนื่องมาจากหนึ่งในบรรดาชายาของท้าวราพณ์ ที่ถูกฉุดคร่า มาสาปแช่งว่า ท้าวราพณ์จะต้องตายถ้าฉุดคร่าหญิงอื่นอีก



พระรามทราบข่าวนางสีดาจากนกชฎายุ แล้วทำการปลงศพให้นกชฎายุ จากนั้นก็รีบตามไป ระหว่างทางพบกับ สุครีพ โอรสของพระอินทร์ ซึ่งถูก พาลี พระเชษฐาร่วมพระมารดา เนรเทศออกมาจากอาณาจักรของตน สุครีพ จึงตอบแทนความช่วยเหลือที่ช่วยรบจนได้อาณาจักรคืนมา โดยส่งกองทัพลิงและหมีไปช่วยพระรามและพระลักษณ์ ซึ่งมีหนุมานโอรสของพระวายุเป็นแม่ทัพเดินทางไปกรุงลงกา





หนุมานเหาะข้ามทะเล และลอบเข้ากรุงลงกาเพื่อสอดแนม ขณะนั้นนางสีดา นั้งอยู่ในสวนแต่เพียงลำพัง หนุมานได้แสดงแหวนจารึกพระนามของพระรามเป็นหลักฐาน และบอกแผนการแก่นาง แต่ด้วยความลิงโลดที่ลอบเข้ามาได้ หนุมานก็ดึงต้นไม้ในสวนเล่น ทำให้ถูกจับได้ และถูกส่งไปให้ท้าวราพณ์ ยักษาสั่งให้เผาหางหนุมานโดยผ้าชุบน้ำมันผูกที่หาง แต่หนุมานใช้จังหวะที่ถูกเผาหางอยู่นี้ กระโดดหนีออกมาได้ และไฟจากหางนี่เองทำให้เกิดไฟไหม้กรุงลงกา



หนุมานกลับมาส่งข่าวต่อพระรามว่า ท้าวราพณ์มีป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งสร้างโดยพระวิศวกรรมให้แก่กุเวร เจ้าแห่งความมั่นคง เมืองมีอาณาเขตกว้างขวางส่วนมากสร้างด้วยทอง ล้อมรอบด้วยคูเมืองกว้างและกำแพงนี้สร้างด้วยหินและโลหะ ซึ่งมาจากยอดเขาพระสุเมรุ ในระหว่างที่หนุมานเข้าไปในกรุงลงกา พลพรรคของพระรามได้ช่วยกันสร้างสะพานกัน และแล้วเสร็จเมื่อหนุมานกลับมา แม้จะมีอสูรจากใต้ทะเลมาก่อกวนก็ตาม หัวหน้าช่างที่สร้างสะพานคือหัวหน้าลิงชื่อ นล โอรสของพระวิศวกรรม ซึ่งมีพลังทำให้ก้อนหินลอยบนน้ำได้ บางครั้งสะพานนี้ได้รับการเรียกว่า นลเสตุ (สะพานของนล) แต่ปกติจะมีชื่อว่า สะพานของพระราม



เมื่อพระรามและกองทัพข้ามไปได้ ศึกครั้งยิ่งใหญ่ก็เริ่มตรงทางเข้าเมือง พระลักษณ์ถูกโอรสของท้าวราพณ์นามว่า อินทรชิต ทำร้าย แต่หนุมาน ก็ใช้สมุนไพรที่หาได้บน เทือกเขาหิมาลัย มารักษา ในระหว่างนั้นพระอนุชาของท้าวราพณ์ได้กินลิงเป็นร้อยตัวเข้าไป แต่ในที่สุดแล้ว พวกยักษ์ ก็ถูกฆ่าจนหมด การต่อสู้ของพระราม และอสูรราพณ์ก็จบลง โดยในครั้งแรกพระราม ยิงศรใส่ท้าวราพณ์ แต่ยิงไม่เข้า พระรามจึงใช้อาวุธวิเศษที่ได้รับจากฤาษีอกัสยตะ ซึ่งเป็นนักพรตที่มีชื่อเสียงและเป็นศัตรูของพวกยักษ์ กล่าวกันว่าอาวุธนี้เป็นแหล่งรวมพลังของบรรดาเทพเจ้าไว้ และรู้จักกันดีในฐานะเป็นอาวุธของพระพรหม ขว้างออกไปตัดอกของท้าวราพณ์ เหล่าเทวดาพากันโปรยมาลัยดอกไม้ลงมาอวยพรในชัยชนะของพระราม และกองทัพลิงที่เสียชีวิตก็กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

   

แม้พระรามจะพบนางสีดาอีกครั้ง แต่พระองค์ก็เย็นชากับนาง เนื่องจากพระรามไม่ทรงเชื่อว่านางสีดา จะยังคงภักดีกับพระองค์อยู่ นางสีดาจึงลุยไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของนาง เมื่อนางลุยไฟ ท้องฟ้าได้ประกาศว่านางบริสุทธิ์ และพระอัคนีเทพแห่งไฟ ได้นำนางไปประทับต่อเบื้องพระพักตร์ของพระราม ซึ่งยอมรับในตัวนางแล้ว จริงๆแล้วพระรามไม่เคยสงสัยในตัวนาง เพียงแต่ประสงค์จะให้นางทดสอบต่อหน้าธารกำนัลเท่านั้น

58#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-6 07:33 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้







ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์ จงไปอุบัติเอาชาติใหม่

ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร เหาะเหินเดินได้ในอัมพร

มีมือยี่สิบซ้ายขวา ถือคทาอาวุธธนูศร

กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชีวี


59#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-6 07:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ฤๅษีวาลมีกิผู้ปราดเปรื่องและทรงคุณธรรม เมื่อได้ฟังประวัติอันสมบูรณ์ของพระรามแล้ว ก็ได้ใคร่ครวญครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกระจ่างแจ้งถึงเรื่องดังกล่าว อันเปี่ยมด้วยความน่านับถือยิ่ง

เมื่อท่านมุนีได้จิบน้ำตามพิธีอันเหมาะสมแล้ว ก็นั่งบนหญ้าทรรภซึ่งเป็นอาสนะ ซึ่งหันไปทางทิศปราจีน พร้อมทั้งประนมมือ นั่งภาวนา และใคร่ครวญไปตามครรลองแห่งธรรมะ

ครั้นแล้วก็มีปัญญาหยั่งลึกอย่างแจ่มชัดถึงสิ่งใดๆ (ทั้งกิริยา เรื่องชวนหัว และถ้อยคำที่ท่านเหล่านั้นเปล่งออกมา) ของพระราม พระลักษมัณ และนางสีตา รวมทั้งท้าวทศรถ พร้อมกับพระราชินี และทวยราษฎร สิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดเจนด้วยพลังแห่งธรรมดาของมหามุนีนั่นเอง

ท่านได้เป็นประจักษ์พยานแห่งสรรพสิ่งทั้งปวงที่เกิดขึ้นในป่าแห่งนั้น ในช่วงเดินป่า ของพระราม ผู้มั่นคงในความสัตย์ พร้อมด้วยพระชายาที่โดยเสด็จเป็นบุคคลที่สาม
ครั้นแล้ว มุนีผู้ทรงธรรมก็เข้าฌาน แล้วสามารถเล็งเห็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นทุกประการในอดีตเกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นอย่างแจมชัด เสมือนผลไม้ที่เก็บวางไว้บนฝ่ามือฉะนั้น

ฤๅษีผู้รัศมีเปล่งปลั่งเรืองรอง เมื่อได้ล่วงรู้ทุกสิ่งที่บังเกิดมาแล้ว ด้วยพละแหล่งคุณธรรมที่ตนมี จึงได้ตั้งต้นรจนาเรื่องราวของพระราม ผู้ขโมยหัวใจของปุถุชนทั้งปวง และเปี่ยมด้วยคุณสมบัติอันประเสริฐ ได้แก่ ธรรม อรรถ กาม และโมกษะ ดั่งนี้ จึงสร้างความอัศจรรย์ยิ่งแก่ผู้ได้อ่าน และเรื่องราวนี้เปรียบได้กับมหาสมุทรที่บริบูรณ์ด้วยอัญมณีนานา ให้ความเพลิดเพลินแก่โสตและจิตของผู้ฟังทั้งปวง

มหามุนีตนนั้น จึงได้เล่าประวัติแห่งรฆุวงศ์ (ตระกูลของพระราม) อย่างแม่นยำ เช่นเดียวกับที่ได้ฟังมาจากมหาฤๅษีสารท และเล่าถึงพิธีศักดิ์สิทธ์แห่งกำเนิดของพระราม ฤทธานุภาพของพระองค์ พระทัยอันโอบอ้อมเป็นมิตรแก่ผู้คนทั้งปวง เอื้อเฟื้อ อุตสาหะ อดทน มีความสัตย์ และเอาพระทัยใส่พสกนิกรของพระองค์

เล่าเรื่องพระรามและพระลักษมัณได้พบกับฤๅวิศวามิตร และได้ยินเรื่องราวอันหลากหลายและหาฟังได้จากจากฤๅษีตนนั้น ได้ทรงหักคันธนู เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพระธิดาของท้าวชนก การสนทนาระหว่างปรศุราม และพระราม (ในพาลกาณฑ์) คุณสมบัติของพระราม การเตรียมพิธีอภิเษกพระรามเป็นรัชทายาท จิตริษยาของพระนางไกยเกยี และขณะเดียวกัน ก็มีเรื่องการขัดขวางพิธีอภิเษก การเนรเทศพระราม การคร่ำครวญของท้าวทศรถด้วยความเศร้าโศก (ที่ต้องพรากจากพระราม) การเสด็จจากไปของกษัตริย์พระองค์นี้ ความเศร้าโศกของราษฎรทั้งปวง การออกตามเสด็จพระราม และทรงโปรดให้เดินทางกลับ การสนทนาระหว่างพระราม และเจ้าแห่งพราน (คูหา), สารถี (สุมันตร) ถูกส่งกลับไปยังอโยธยา การข้ามแม่น้ำคงคา พบกับฤๅษีภรัทวาช และคำแนะนำจากท่านฤๅษีภรัทวาชให้เดินทางไปยังภูเขาจิตรกุฏ และสร้างที่พำนักที่นั่น เรื่องพระภรตเสด็จมา ทูลเชิญเสด็จกลับ และ พระรามทรงกระทำพิธีถวายพระเพลิงพระศพท้าวทศรถ พระบิดา

ถัดมาเป็นเรื่องพระภรตรับเอาพระบาฑุกาของพระรามเสมือนสัญลักษณ์แห่งพระราชอำนาจ และพระภรตเสด็จไปประทับยังเมืองนันทิคราม (ชานนครอโยธยา) พระรามได้เสด็จเข้าป่าทัณทกะ ได้สังหารวิราธ ได้ทำความเคารพศรภังค์ ได้พบกับสุตีกษณะ แล้วพระราม พระลักษมัณ และนางสีตา ได้ประทับอยู่กับอนสูยา (ภริยาของอตริ ในสวนอันสงบ)  ได้รับการถวายยา ได้พบกับอคัสตยะพบกับชฏายุ เผชิญหน้ากับศูรปนขา และการจำแลงกายของนาง ทรงสังหารขร และตรีศิระ และความพยามของราวัณ (ที่จะลักพานางสีตา) การสังหารมารีจ การลักพาพระธิดาแห่งวิเทหะ (นั่นคือ นางสีตา) โดยราวัณ พระรามทรงคร่ำครวญ การสังหารพญาแร้ง (ชฏายุ) ได้ทรงเห็นกพันธ์ ไปถึงแม่น้ำปัมปา ทรงพบกับศพรี และต่อมาพบหนุมาน และพระรามผู้ประเสริฐทรงคร่ำครวญ (อันเนื่องจากต้องพลัดพรากจากนางสีตา ผู้เป็นชายา) ณ แม่น้ำปัมปา

ต่อมาเสด็จไปยังภูเขาฤษยมูก ทรงได้ผูกมิตรกับสุครีว สร้างความมั่นใจในฤทธานุภาพของพระองค์ให้สุครีวได้ประจักษ์ และได้ร่วมเป็นพันธมิตร การรบระหว่างพาลิและสุครีว ทรงสยบวาลิ ประทานเมือง (กิษกินธ์) เรื่องนางตาราคร่ำครวญ มอบเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจ (พระธำมรงค์ของพระราม แก่หนุมาน) ประทับอยู่ในเมืองกีษกิณธ์ช่วงกลางคืนฝนตก ความพิโรธของสิงห์แห่งรฆุวงศ์ (พระราม) (เนื่องจากสุครีวไม่รักษาสัตย์) กองทัพทั้งมวลกรีธาทัพเพื่อแยกย้ายกันสืบหานางสีตา ทั้งหมดอดอาหารกำลังจะตาย แล้วเดินๆได้พบสัมปาตี แล้วไต่ภูเขา (โดยหนุมานเตรียมกระโจมข้ามมหาสมุทร) ข้ามน้ำไป หนุมานเมื่อได้เห็นภูเขาไมนาก ตามคำของเจ้าแห่งสมุทร ก็ถูกอสูรคุกคามอีก เมื่อไปพบกับอสุรี (นามว่าฉายาเคราะห์) ผู้สามารถจับเงาของผู้อื่นได้ การฆ่าสิงหิกา (อสูรตนนั้น) และได้เห็นภูเขาด้านหนึ่งในลังกา จึงไปยังลงกาตอนกลางคืน เรื่องทั้งปวงที่เล่าเป็นดังนี้

ทั้งยังได้เล่าเรื่อง การแวะดื่ม และการได้เห็นที่พำนักของหนุมาน เจรจากับราวัณ และได้เห็นบุษบก เห็นนางสีตาในสวนอโศก (อุทยานของราวัณ) การส่งทูตของพระรามไปหานางสีตา ได้เห็นราวัณเสด็จไปที่นั่น นางยักษ์ผู้อารักขาได้คุกคามนางสีตา ฝันดีของนางตรีชฏา การมอบพระธำมรงค์ของพระรามแก่นางสีตา การสนทนาระหว่างนางสีตาเพื่อขอให้มอบยอดจุฑามณีแก่หนุมาน หนุมานทำลายป่าที่นั่น การต่อสู้กับเหล่าอสุรี การสังหารบริวารของราวัณที่นั่น วายุบุตรถูกพันธนาการ ภายหลังไปเผากรุงลงกาจนเป็นจุณ แล้วคำรามลั่น  จากนั้นเดินทางข้ามมหาสมุทร สำราญกับน้ำผึ้ง (ในป่ามธุวัน) ปลอบโยนพระรามเกี่ยวกับข่าวเรื่องนางสีตา พาพลพรรคยาตราทัพ ไปยังชายฝั่งมหาสมุทร นลสร้างเขื่อนทดน้ำ ช่วยชีวิตพลพรรคของพิภีษณ์ [พิเภก] ได้ทราบอุบายสังหารราวัณ การข้ามมหาสมุทร เข้าบุกกรุงลงกาในช่วงรัตติกาล

ทั้งยังเล่าเรื่องการตายของกุมภกรรณ การฆ่าเมฆนาท (อินทรชิต) การสังหารราวัณ เข้าไปพบนางสีตาในพระนครของศัตรู การอภิเษกพิภีษณ์ (เป็นเจ้ากรุงลงกา) การขึ้นบุษบก การเสด็จกลับอโยธยา ได้พบกับพระภรต พิธีราชาภิเษกอันยิ่งใหญ่ชองพระราม การถอนกำลังทั้งปวง สร้างความปีติยินดีแห่งประชากร และการนำเจ้าหญิงแห่งวิเทหะ นั่นคือนางสีตา กลับคืนมา

ฤาษีวาลมีกิผู้ยิ่งใหญ่ยังได้รจนาอุตรกาณฑ์เป็นกาวยะ [ร้อยกรองอย่างหนึ่ง] อันเป็นเรื่องราวของพระรามที่ยังมิได้ปรากฏในโลกนี้ อย่างครบถ้วน
รามเทพ ตอบกลับเมื่อ 2014-12-4 06:10
.โอม เจ ศรี ราม / โอม เจ หนุมาน...

ขอให้พระรามประทานพรใ ...

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้