ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วัดราชบูรณะ

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:36



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:46




แกะรอยเปิดกรุ เจดีย์วัดราชบูรณะ

จากบันทึกสอบสวนปากคำให้การของคนร้าย


“...ผมได้คิดทำการขุดตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๐  ได้คิดกับพวก ๒๐ คน  ว่าเราไปขุดกันในวันที่ ๒๕ เถิด  เพราะวันนั้นไม่มีคนพลุกพล่าน  พอเวลาเย็นที่ ๒๕ ผมกับพวก ๒๐ คน  พร้อมกันเริ่มทำงานในเวลาทุ่มเศษ ได้เอาเหล็กปลายแหลมเหมือนเหล็กขูดชาฟท์ ๓ อัน  พร้อมกับเชือกมนิลาหนึ่งเส้นยาว ๔ วา  แล้วค้อน ๘ ปอนด์หนึ่งอัน  ได้ทำการขุดที่กรมศิลป์ได้กลบเอาไว้  ได้ขุดศิลาขึ้นมา  ลึกลงไปประมาณ ๑ วาเศษ ได้เห็นศิลาทำเป็นวงกลมไว้ในระยะกลางใจตัวพระปรางค์  ได้เห็นปล่องทำด้วยเนื้อโลหะเป็นวงกลมขนาดเท่าลำไม้ไผ่อย่างใหญ่  ตอนกลางต้องขุดลงตามปล่องลงไปประมาณ ๓ เมตรเศษ ก็สุดปล่อง  ได้พบปูนเพชรทำอย่างชนิดแข็งมาก  ทำเป็นวงกลมมีรูตรงกลาง  แล้วปล่องอยู่ในรูนั้น ได้ถอดเอาปล่องนั้นออก  แล้วจึงได้เปิดเอาปูนเพชรนั้นออก  ได้พบซุ้มลวงเป็นรูปสี่เหลี่ยม  ตอนมุมสี่เหลี่ยมมีรูทางทิศตะวันออก  รูกว้างในราว ๔ นิ้วเศษ  เป็นแผ่นหินอ่อนปิดอยู่ กว้างเท่ากับตัวกรุหนาในราว ๒ คืบ  ผมได้เอาค้อน ๘ ปอนด์ตีลงไป  ได้ทำการตีอยู่เป็นเวลา ๓ ชั่วโมงเศษ  จึงได้ทะลุลงไป ผมใช้ไฟฉาย ๆ ลงไปดูในกรุนั้นเห็นเป็นเครื่องทอง  พอทะลุลงไปเป็นรูปกรุสี่เหลี่ยมทำด้วยศิลาเอาปูนทาไว้ แล้วเขียนเป็นภาพน้ำมัน  

พอลงไปข้างล่างผมจึงใช้ให้เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งลงไปข้างล่าง ที่ข้างล่างนั้นมีโต๊ะสำริด ๓ ตัว  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกตัวหนึ่ง  ทางทิศเหนือตัวหนึ่ง  ทางทิศใต้ตัวหนึ่ง  ตอนกลางของตัวกรุนั้น ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้างในราว ๑ วาเศษ  ข้างบนแท่นศิลาตรงกลางกรุนั้นมีถาดทองคำ ๓ ใบ  ข้างบนถาดนั้นมีกระโถนทองคำ ๔ ใบวางอยู่บนถาดนั้น  มีไข่มุกเจาะเป็นรูอยู่เต็มกระโถนทั้งสี่ลูกนั้น  ยังมีตลับทองคำอีกหลายใบวางอยู่ข้างแท่นสี่เหลี่ยมนั้น  เป็นร่องสี่เหลี่ยมเหมือนกัน  มีแหวนประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าวง เพราะในนั้นกว้างมาก  ข้างบนของแท่นนั้นมีโต๊ะสำริด ๓ ตัว  บนโต๊ะนั้นทางทิศเหนือมีพระแสงทองคำปักไว้ข้างของโต๊ะนั้นทางเหนือ  บนโต๊ะทางเหนือมีเสื้อทองคำอยู่ ๘ ตัว และมหามงกุฎอีกอันหนึ่ง กว้างประมาณ ๑ ศอก สูง ๒ ศอกเศษ  บนยอดของมหามงกุฎมีหัวมุกดาหาร ๑ หัว ขนาดเท่าไข่ห่าน  มีจอกทองคำหลายลูก เป็นทองคำประดับด้วยทับทิม และมงกุฎพระราชินี ๓ อัน  วางไว้บนโต๊ะนั้น ตลับทองคำ ๑๒ ใบ  ฝาตลับมีหัวทับทิมหัวใหญ่เท่าเม็ดข้าวโพดทุกใบ  บนโต๊ะทางทิศตะวันออกมีมหามงกุฎราชินี ๕ อัน วางไว้ข้างบนโต๊ะนั้น  และตลับทองคำหัวประดับทับทิม ๒๐ ใบ  จอกหลายใบ  เสื้อทองคำของพระมหากษัตริย์ ๓ ตัว  เรือหงส์ ๑ ลำเป็นทองคำ  คนพายเรือทองคำ และพระพุทธรูปทองคำ ๒๐ องค์  กระบวยทองคำ ๘ อัน  โหล ๔ ใบ  ทำด้วยหินสีขาว  พร้อมม่านทองคำขึงท้องพระโรงก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง  



พระคชาธารทองคำประดับอัญมณี ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗)
พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:50

พระสุวรณมาลา ทองคำถัก เป็นศิราภรณ์สำหรับสตรี
ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)





สุวรรณภิงคารทองคำประดับอัญมณี เป็นเครื่องราชูปโภค
ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)



พระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย ในซุ้มเรือนแก้วโพธิ์พฤกษ์
ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
โต๊ะทางทิศใต้ข้างบนโต๊ะมีพระพุทธรูปทองคำ ๒๕ องค์  ตลับทองคำ ๑๓ ตลับ  ฝาตลับประดับด้วยทับทิมสีแดง พระแก้วยืนสีน้ำผึ้ง ๗ องค์   พระแก้วนั่งสีขาว ๕ องค์  พระมหามงกุฎราชินี ๘ อัน  พระแก้วมรกต ๔ องค์  ทางด้านทิศตะวันตกผ้าพับไว้อย่างดีมากมาย เมื่อไปถูกเข้าก็ป่นเป็นผงไปหมด  แล้วมีพระทองคำ ๓ องค์  หน้าตักกว้าง ๑ ศอก   ตันด้วย  หนักในราวประมาณ ๔ กิโลกรัม  พระนาคนั่ง ๑๒ องค์  หน้าตักกว้าง ๑ คืบเศษ  พระพุทธรูปทำด้วยทอง นาก เงิน ๘ องค์  พระปั๊มทองและเงิน ๒ กระสอบ  พระแก้วยืน ๑๖ องค์สีขาว  มีพระราชรถหนึ่งคัน มีม้าเทียมคู่หนึ่งทำด้วยทองคำ  มีขวด ๖ ลูก  ทำด้วยหินสีขาว  มีแหวนในนั้นเต็มขวด  และเศษทองคำอีกมากมายประมาณ ๑๐ กระสอบ  

พอเห็นของพวกนี้แล้ว เราพูดกันว่า  พวกเรารวยกันแล้ว ตั้งแต่เริ่มทำงานมาได้ใช้เทียนไขจุดส่องดูในกรุนั้น  เพราะเทียนไขแสงสว่างดีกว่าอย่างอื่น  ได้ลำเลียงส่งของอยู่เป็นเวลา ๔ ชั่วโมงเศษ  ได้เริ่มขุดเป็นเวลา ๒ คืนครึ่ง  ขนของขึ้นยังไม่ทันหมดดี  เพราะพวกข้างนอกเอาของที่ลำเลียงไปไว้ที่บ้านหมด  เหลือคนอยู่ในกรุ ๒ คน  ผมเห็นว่าไม่ค่อยดี  จึงให้คนทั้งสองขึ้นกันหมด  เพราะขณะนั้นฝนตกมากหนทางที่ขึ้นนั้นรอบต้นไม้ยังเห็นเป็นรอยเท้ามากมาย  หัวทับทิม  เศษทอง  และรูปช้างม้าทองคำยังอยู่อีกมากมาย  หัวทับทิมก็ยังอยู่อีกมากมาย  คนทั้งสองเห็นว่าจะเสียท่าพวกข้างขน  จึงรีบขึ้นมาจากกรุตรงไปที่บ้านคนที่อยู่ทางข้างเจดีย์เจ้าอ้าย  เจ้ายี่  ของทั้งหมดนี้ได้แบ่งกันคนละ ๒ กิโลครึ่ง  พวกที่ไปขุดด้วยมีด้วยกัน ๒๐ คน เช่นมีพี่น้องก็ไปบอกให้มาเอาส่วนแบ่งกลายเป็นคนได้รับส่วนแบ่งรวม ๓๐ กว่าคน  ถึงกับจะฆ่าจะแกงกัน  พอของมาถึงบ้านแล้วได้จดรายชื่อไว้  แล้วเอากิโลมาชั่งแบ่งของกัน  จำพวกมหามงกุฎ หรือของใหญ่ ๆ ไม่ได้แบ่งกัน ของที่เหลือ เช่น พระแสง ราชรถ เรือหงส์  ของอย่างอื่นอีกหลายอย่างที่กองเอาไว้  เพราะของที่แบ่งกันนั้นได้ไปหมดทุกคนแล้ว  มีคนอีกคนหนึ่งได้ยืนขึ้นบอกว่าเอาอย่างไรก็เอากันเถอะ  พวกทั้ง ๓๐ กว่าคนได้ชักมีดชักปืน  ต่อจากนั้นมาก็เลยแย่งกันจนล้มไปทับเอาเด็กเล็ก ๆ ที่อยู่ในบ้านนั้นร้องขึ้น  พอได้รับส่วนแบ่งแล้ว เอาห่อผ้าขาวม้าคนละสองห่อ  พอมาตามทางก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมไว้ได้บ้าง และหนีหลุดรอดไปได้บ้าง  

พอรุ่งเช้าวันที่ ๒๘ ตำรวจก็ได้จับกุมหัวหน้าคุมขุดกรุวัดราชบูรณะ  ซึ่งพอได้มหามงกุฎมาถึงบ้านแล้วก็เอามาสวมใส่ แล้วถือพระแสงดาบออกมารำเล่นพร้อมกับลูกชายแถวๆ ตลาดหัวรอ  ตำรวจไล่จับข้าวของตกเรี่ยราดตามถนน  พวกชาวบ้านเก็บได้กันก็มากมาย  บางคนถึงแก่ไปขายแล้วปลูกบ้านได้อย่างใหญ่โตก็มี  บางคนแทบจะเป็นบ้าเป็นหลังไปเพราะความเสียดายของที่ได้มาแล้วไปฝากพี่น้องไว้  เขายักยอกเอาไปจนเกือบหมดที่มาเป็นของกลางนั้นนิดหน่อย......


คัดจาก : “เครื่องทองสมัยอยุธยา” หน้า ๘๑–๘๕ กรมศิลปากร จัดพิมพ์เผยแพร่ ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘
นาทีที่ 8 วินาทีที่ 35 มีเด็กวิ่งด้วยหรอ ขนลุก!!!

...คลังสมบัติของชาติ - กรุวัดราชบูรณะ
• โดย mckaforce
•  ดู  733,692 ครั้ง




เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ย. 2012

แกะรอยเปิดกรุวัดราชบูรณะ ตอนที่ ๑ บันทึกคำให้การของคนร้าย
http://www.sookjai.com/index.php?topi...
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์


ส่วนหนึ่งของผู้แสดงความคิดเห็น จากผู้เข้าชม 205,686 ครั้ง

    Parami  Aussawadechagul...3 เดือนที่ผ่านมา   
สวยงามเหลือเกิน ช่างในสมัยนั้นฝีมือประณีต บรรจง งานแต่ละชิ้นที่เห็น แสดงออกให้เห็นว่า ศิลปะวิจิตรบรรจงถึงเพียงนี้ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า คนสมัยก่อน เป็นช่างที่มีฝีมือประณีตและงดงามถึงเพียงนี้ สมบัติทีเห็น บ่งบอกให้รู้ว่า สมัยกรุงศีอยุธยา มีความสัมพันธ์ กับ จีน และ อาหรับ ไม่น่ามีคนมาขโมยไปได้เลย เป็นความบกพร่องของเมืองไทยอย่างมากที่ทำให้ สมบัติชาติสูญหายไป อยากเห็นของจริง


   Todsaporn  Wilaiwan...6 เดือนที่ผ่านมา        
นาทีที่ 8 วินาทีที่ 35 มีเด็กวิ่งด้วยหรอ ขนลุก!!!  


   hanatoshi  Zeed...6 เดือนที่ผ่านมา  
8.35 ดู กัน ดีๆ แมร่ง...วิ่งง


   akiwie  indhamusika...1 เดือนที่ผ่านมา  
8.35 เฮ้ยยยยย จิงด้วยอ่ะ กรี๊ดดดดดดด


ขอบคุณครับ
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-7 08:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

อ่านไปมาเริ่มหลอน
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้