ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หนึ่งในไม่กี่คน

[คัดลอกลิงก์]
121#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-3-16 07:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Metha ตอบกลับเมื่อ 2015-3-2 17:59
ใครมาก่อนก็ทำก่อน...มาช้าก็ช่วย
ดีกว่ามาแล้วไม่ทำอะไร

ตื้นตัน

เยี่ยมๆๆๆๆ
125#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-3-17 09:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จิตสำนึกเพื่อส่วนรวม


                การที่มนุษย์ได้พัฒนาตนเองจากความเป็นสัตว์โลกที่ป่าเถื่อนและเห็นแก่ตัวมาเป็นสัตว์สังคม


ทั้งยกระดับเผ่าพันธุ์เป็นสัตว์สังคมชั้นสูง และสัตว์ประเสริฐ อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ดำรงเผ่าพันธุ์ได้อย่างแพร่หลาย


ไม่สูญพันธุ์ไปเหมือนกับสัตว์บางชนิด ก็เพราะมนุษย์มีคุณสมบัติพิเศษนั่นก็คือ การมีจิตสำนึกที่ดีเพื่อส่วนรวม


                จิตสำนึกเพื่อส่วนรวมโดยทั่วไปนั้น หมายถึง การมีความรับผิดชอบต่อสังคมหรือการให้ความสำคัญกับส่วนรวม หรือสิ่งอันเป็นสาธารณะสมบัติ เช่น ป่าไม้ แม่น้ำลำธาร ทางสาธารณะ สวนสาธารณะ ไฟฟ้าสาธารณะ ทางหลวง ตลอดจนของหลวงและประเทศชาติบ้านเมือง เป็นต้น ไม่เห็นแก่ตัวทำลายล้างให้จนเสียหายเสื่อมโทรม สูญสิ้น ในทัศนะของพระพุทธศาสนานั้น




จิตสำนึกเพื่อส่วนรวมหมายถึง จิตที่ประกอบด้วยความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล หรือความคิดที่มุ่งที่จะทำแต่ประโยชน์เกื้อกูลทั้งแก่ตนและผู้อื่น ตลอดจนสาธารณะทั่วไป โดยมีเมตตาจิต (ปรารถนาดี) และกรุณาจิต (ความคิดร่วมด้วยช่วยแก้ปัญหา) เป็นพื้นฐาน




ผู้ที่ปลูกจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมให้เจริญงอกงามในจิตใจได้มากเพียงใด ย่อมสามารถแก้วิกฤตปัญหาความเห็นแก่ตัว
ทำให้เป็นคนเสียสละ อุทิศตนทุ่มเททำงานเพื่อผลประโยชน์ต่อส่วนรวม ได้มากเพียงนั้น...




               


การปลูกจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม ตามวิถีแห่งพุทธธรรม แนวทางหนึ่งก็คือ การประพฤติปฏิบัติตาม


“หลักสังคหวัตถุธรรม หรือ หลักแห่งการสงเคราะห์ ๔ ประการ” กล่าวคือ....




               
๑. ทาน คือการให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละ แบ่งปันสิ่งของ ตลอดถึงให้ความรู้และแนะนำสั่งสอน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการแย่งอาหารกันกิน
แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันสังวาส และแย่งอำนาจกันครอบครอง ในสังคมส่วนรวมได้


               
๒. ปิยวาจา การกล่าวคำสุภาพ ไพเราะอ่อนหวาน สมานไมตรี และคำที่มีแต่ประโยชน์ ซึ่งจะทำให้เกิดความรักความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน
ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง การโต้เถียง บาดหมาง และการทะเลาะวิวาทในหมู่คณะได้


               
๓. อัตถจริยา การขวนขวายช่วยเหลือกิจการของหมู่คณะ ดูแลรักษาสาธารณะสมบัติของส่วนรวม และบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์


               
๔. สมานัตตตา ประพฤติตนให้เหมาะสมแก่ฐานะและภาวะที่ดำรงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกของสังคมให้ถูกต้องสมบูรณ์


               


มีการกล่าวว่า “วัตถุยิ่งเจริญ คนยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้น”




วิกฤตปัญหานี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการ ปลูกจิตสำนึกที่ดีเพื่อส่วนรวม โดยยึดคติที่ว่า.....




“อยู่เพื่อตัว อยู่แค่สิ้นลม
แต่ถ้าอยู่เพื่อสังคม จะอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย”




การช่วยเพื่อนเหมือนช่วยเราเอง               
เมื่อจิตเพ่งเล็งช่วยทวนสหาย
ย่อมลดความเห็นแก่ตัวลงมากมาย                  
ทุกทุกรายอย่าเขวี้ยงขว้างช่างหัวมัน





126#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-3-17 09:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้





ทำดีก็ยาก ครันจะทำชัวร์ ก็กลัวปาป
  

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้