ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2705
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ผู้ฉลาดในการรู้วาระจิตตนเอง

[คัดลอกลิงก์]
คนเราส่วนใหญ่มักต้องการที่พึ่งทางใจ จำนวนไม่น้อยที่ไปหาหมอดู สะเดาะเคราะห์ เซ่นไหว้ แม้แต่รูปปั้นชูชกก็ยังกลายเป็นที่พึ่งของร้านอาหารไปแล้วในวันนี้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อคนเราไม่ค่อยเชื่อมั่นตนเอง อีกทั้งมีความกลัวอยู่ในจิตใจ จึงทำให้การค้าขายความเชื่อมั่นที่มาในรูปแบบต่างๆ ประสบความสำเร็จ แม้แต่ธุรกิจลดความอ้วน เสริมความงาม ก็ไม่พ้นว่ามาจากรากปัญหาเดียวกัน คือการขาดความเชื่อมั่น ลึกลงไปกว่านั้นก็คือการไม่รู้จักตัวเอง

         พระอาจารย์เรวตะ กัมมัฏฐานาจริยะ ธัมมกถิกะ แห่งศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ พะอ็อก ตอยะ เมืองหมอละเหมียง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มีเคล็ดไม่ลับจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการทำให้เรารู้จักตัวเราเอง เพื่อที่เราจะได้พบที่พึ่งอันแท้จริง โดยไม่ต้องไปเสียเงินให้กับธุรกิจสร้างความเชื่อมั่นทั้งหลายที่มีแต่จะต้องทำให้เราเสียสตางค์ไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งท่านได้อธิบายไว้ในการบรรยายธรรมเรื่อง "การเดินทางเพื่อค้นพบตนเอง" เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก หลังสวนอุทยานเบญจสิริ กรุงเทพฯ จัดโดยชมรมใฝ่ธรรมวันพุธ
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-18 20:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ท่านถามว่า เป็นการง่ายไหมที่เราจะรู้ใจของเราเอง

         "เป็นไปได้สำหรับคนที่มีสติ และเป็นไปได้ยากสำหรับคนที่ไม่มีสติ และเพื่อที่จะทำให้การเดินทางเพื่อการค้นพบตนเองสำเร็จได้ จำเป็นต้องเป็นผู้ฉลาดในการรู้วาระจิตของตนเอง เพียงแค่เราฉลาดในการรู้วาระจิตของตนเอง ท่านจึงจะทราบว่าตัวเราคือใคร แล้วเราเป็นอะไร"

         ท่านให้เราทบทวนว่า กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรามีอะไรบ้าง

         ให้เราตอบคำถามในใจ แล้วท่านก็อธิบายว่า กิจกรรมของคนเราที่ทำอยู่ในแต่ละวันมี ๓ อย่างคือ กายกรรม วจีกรรม และ มโนกรรม

         "ใจเป็นประธาน ใจเป็นผู้นำ กายกรรม วจีกรรม มาหลังจากมโนกรรม และหากเราไม่ฉลาดในการรู้วาระจิตของตน เราก็จะไม่สามารถรู้ว่ามีคำสั่งจากใจของเราด้วย เพราะเหตุว่าเราไม่สามารถที่จะจับมโนกรรมของเราได้ทันทีที่มันเกิดขึ้น มันจึงทำให้เรามีวจีกรรมและการกระทำที่ผิดพลาด ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นโทษแก่ตนเองได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงจำต้องฉลาดและอบรมให้เรารู้วาระจิตตนเอง พระผู้มีพระภาคตรัสว่า โลกอันผิดย่อมนำไป เมื่อท่านได้ยินคำว่า "โลก" ท่านเข้าใจว่าอย่างไร พระผู้มีพระภาคหมายถึงสิ่งใด เป็นโลกที่เราอาศัยอยู่หรือเปล่า โลกคืออะไร
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-18 20:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
   "กายยาววาหนาคืบนั่นคือโลกของเรา ร่างกายของเราเปรียบได้กับระบบคอมพิวเตอร์ มีระบบอยู่สององย่างในคอมพิวเตอร์คือ ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ ตัวฮาร์ดแวร์อย่างเดียวทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวซอฟต์แวร์นั้นออกคำสั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน และหากเราไม่มีซอฟต์แวร์ที่ดี ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ได้ ดังนั้นเราจึงต้องการซอฟต์แวร์ที่ดี และมีคุณภาพ"

         พระอาจารย์เรวตะหมายความว่า เราจึงต้องการซอฟต์แวร์ที่ดีของจิตในการออกคำสั่งให้กายกรรมและวจีกรรมเป็นไปในทางที่ถูกต้อง ก็ต่อเมื่อเรามีความฉลาดในการรู้วาระจิตของตนเท่านั้น เราจึงสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ของจิตได้

         "เหตุใดเราจึงมีวจีทุจริต มีกระทำกายทุจริต เพราะเราไม่ฉลาดในการรับคำสั่งของจิต เราไม่รู้ว่าจิตสั่งให้ทำอะไรก็ทำตาม เพราะเหตุนี้ เราต้องฉลาดในการรู้วาระจิตของตนเอง ท่านต้องการเป็นผู้ฉลาดในการรู้วาระจิตไหม ท่านไม่ต้องจ่ายอะไร เพียงแค่มีสติ คือค่าใช้จ่ายนั้น ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ภายใต้สถานการณ์ใด หากท่านมีสติ ท่านจะสามารถรู้วาระจิตตนเอง"

         เมื่อเรารู้วาระจิตของเราเอง พระอาจารย์เรวตะกล่าวต่อมาว่า เราจะรู้จักจุดอ่อนของเรา รู้จักด้านมืดของเรา รู้จุดแข็ง รู้จุดที่เป็นความสว่างของตัวเรา และเราจะสามารถพัฒนาตนเองได้
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-18 20:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
  "หากท่านไม่รู้ด้านมืดหรือด้านสว่างของตนเอง ท่านก็ไม่สามารถเป็นบุคคลที่มีความสัตย์ซื่อได้ ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์กับตนเอง ท่านจะพัฒนาตนเองได้อย่างไร "

         ดังนั้นจุดสำคัญอยู่ตรงนี้

         "เมื่อท่านมีความฉลาดในการรู้วาระจิตของตน ท่านจะรู้จุดอ่อนของตนในขั้นแรก ท่านไม่อยากยอมรับ หลังจากเห็นแล้วเห็นอีก รู้แล้วรู้อีก ท่านจะรู้ว่านั่นแหละคือท่าน เราจะต้องเรียนรู้ศิลปะในการยอมรับ เราจำต้องยอมรับจุดด้อยของเรา เมื่อเราเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราจะรู้ว่าเราคือใคร จากจุดนั้นเราจึงจะพัฒนาตนเองได้ และหากเราพูดถึงการพัฒนา จุดนั้นคือจุดอ่อนของเราเอง" 

         บุคคลหวังที่จะพัฒนาตนเองในทุกวันนี้ คนทั้งหลายแข่งขันกัน เพราะคาดหวังความก้าวหน้า และการแข่งขันนั้น เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีการพัฒนาที่แท้จริง พระอาจารย์เรวตะให้ข้อคิดว่า ถ้าท่านต้องการพัฒนาที่แท้จริง ต้องแข่งขันกับตัวเอง

         "ในประเทศพม่า มีนักดนตรีพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่อาตมายังไม่เกิด มีโอกาสเพียงอ่านผลงานของเขา ในยุคของเขาไม่มีใครที่จะสามารถเทียบเคียงเขาได้ มีคนคนหนึ่งอยากรู้ว่านักดนตรีที่มีชื่อเสียงใช้ชีวิตอย่างไร จึงไปเยี่ยมเขาทุกวัน และเมื่อเขาไปเยี่ยมนักดนตรี จึงเห็นว่านักดนตรีคนนั้นฝึกอยู่ทุกวัน วันหนึ่งเขาจึงถามนักดนตรีว่าเก่งขนาดนี้ ไม่มีใครเทียบเคียงได้แต่ทำไมยังฝึกทุกวัน
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-18 20:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
"นักดนตรีตอบว่า ผมซ้อมทุกวัน เพราะผมแข่งกันตัวเอง และผมจะต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ ท่านก็เป็นท่าน ฉันก็เป็นฉัน ถ้าท่านต้องการพัฒนา ท่านต้องเริ่มต้นจากจุดที่ท่านเป็น ด้วยเหตุนี้ท่านพึงรู้ว่า ขณะนี้เราอยู่ในจุดไหน และหากท่านไม่ฉลาดในการรู้วาระจิตของเรา หรือไม่ฉลาดในการรู้ใจตนเอง ท่านจะไม่รู้ว่าท่านอยู่ในจุดไหน และไม่สามารถพัฒนาได้ เพราะไม่รู้จุดด้อยและจุดเด่นของตนเอง หากท่านเห็นจุดอ่อนของตนเองมากเท่าไรก็จะพัฒนาได้มากเท่านั้น แล้วใจของเราจะน้อมไปในการพัฒนา เพราะว่าเราเห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก เราทุกคนปรารถนาอย่างยิ่งในการพัฒนาตนเอง แต่พอเราไม่รู้จักจุดด้อยของเรา เราจึงไม่สามารถพัฒนาตัวเราได้"

         เพียงแค่เรารู้จักใจของเราเอง นี่คือเคล็ดไม่ลับ ของขวัญจากพระพุทธองค์ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่ต้องบนบานต่อสิ่งใด !
แข่งกับตัวเอง วันนี้ต้องดีกว่าวันวาน
สาธุ เป็นประโยชน์มากครับ
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-18 23:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รามเทพ ตอบกลับเมื่อ 2013-11-18 21:14
แข่งกับตัวเอง วันนี้ต้องดีกว่าวันวาน ...

ชนะตัวเองยากยิ่งครับ
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2013-11-18 23:02
ชนะตัวเองยากยิ่งครับ

ยากจริงๆครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้