ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4195
ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ความโกรธทำลายทุกอย่าง

[คัดลอกลิงก์]
ความโกรธ-อำนาจการทำลายล้างรุนแรงที่คุณคาดไม่ถึง


ในชีวิตของคนเรานั้น ทุกคนเกิดมาล้วนต้องมีพ่อแม่ มีการงาน มีความรัก  และมีครอบครัว
และคนเรานั้นต้องการความรัก ความสุข ความสมหวังในทุกๆเรื่อง ทั้งการเงิน การงานที่มั่นคง ความรักที่สมหวัง ครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อนที่ดี และอื่นๆอีกมากมายในชีวิต



บางคนสมหวังในทุกๆด้าน บางคนสมหวังบางเรื่องและผิดหวังบางเรื่อง และบางคนอาจจะผิดหวังในทุกๆเรื่อง (เฉพาะตอนนี้) แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หากเรามีความเข้าใจ อดทนและมีสติ กับการต่อสู้และเอาชนะปัญหาต่างๆที่ผ่านเข้ามาในแต่ละช่วงชีวิตของเราได้


แต่ถ้าเมื่อใด เราไม่สมหวังในเรื่องที่เราตั้งความหวังไว้ จะเกิดอะไรขึ้น... เราจะรู้สึก โกรธ ..โมโห

กับตัวเรา กับคนใกล้ตัวเรา และกับคนรอบข้างเรา
คุณรู้ไหมครับว่า ความโกรธ หรือความโมโหนั้น มันมีอำนาจทำลายล้างที่รุนแรงจริงๆ

ความโกรธ หรือความโมโห นั้น มันเหมือนภูเขาไฟที่ระเบิด ลาวามันจะทะลักออกมา ความร้อนของลาวา มันจะไปทำลายคนรอบข้างและสภาพแวดล้อมใกล้ตัวเราจนหมด และเมื่อมันเย็นลง ก็จะทิ้งไว้ซึ่งร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
ความโกรธ และ ความโมโหนั้น ไม่เพียงแต่จะทำร้ายตัวเราเท่านั้น แต่มันจะทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นด้วย ยิ่งเป็นคนที่เรารักด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งมีผลรุนแรง และนานวันเข้ามันก็จะเป็นแผลในใจ (ถึงแม้จะหายโกรธในเรื่องนั้นไปแล้ว) ยากที่จะเยียวยา ยากที่จะลบเลือน  
ในเรื่องของความรักและชีวิตคู่นั้น ยิ่งน่ากลัวครับ ความโกรธ และความโมโหนั้น จะทำให้สิ่งดีดีที่เรา
อุตส่าห์ร่วมสร้างกันมาล้มครืนไม่เป็นท่า ในพริบตาได้ทีเดียว แรกรักกันหรืออยู่ด้วยกันใหม่ๆ เราจะยอมรับและให้อภัยในสิ่งที่เขาเป็น มองข้ามข้อผิดพลาดของเขา แต่พอคบกันไปนานเข้า ก็จะเกิดความรู้สึกตรงกันข้าม เริ่มมองในสิ่งเล็กๆน้อยๆ ของกันและกัน เริ่มไม่เข้าใจกันและเริ่มทะเลาะกัน

บางคนก็เริ่มรับไม่ได้ที่ทำแบบนี้ ทนไม่ไหวที่พูดแบบนั้น นานวันเข้าความสัมพันธ์ก็จืดจางและขาดสะบั้นลง กว่าจะมาสร้างสัมพันธ์กันใหม่ก็ต้องใช้เวลา เหมือนแก้วที่แตกแล้วยากที่จะต่อใหม่ให้ได้ดังเดิม
จึงอยากเตือนทุกคนที่เป็นคู่รักกัน ขอให้ใช้สติและระมัดระวังเรื่องความโกรธหรือความโมโหให้ดี
อย่าให้มันมาเอาชนะจิตใจที่ดีงามของคุณ หากคุณเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในความรักหรือชีวิตคู่ของคุณที่ไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะก้อ ขอให้ใช้สติพิจารณาและหาทางแก้ไขมันเสีย ด้วยการพูดคุยกันด้วยความเข้าใจ แต่หากความรู้สึกหมดไปจนไม่อาจพูดคุยหรือแก้ไขได้แล้ว ก็ขอให้จบกันด้วยดี


ที่มา..http://www.oknation.net/blog/print.php?id=441286


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-27 14:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ความโกรธทำลายทุกอย่าง (อักขระบันเทิง)
เขียนโดย ต้นกล้า นัยนา




          หากสองฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน ความขัดแย้งมันก็จะไม่ค่อยมีหรือมีน้อยมาก เมื่อคนเรามีความโกรธ เขามักจะทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และหนำซ้ำยังทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องยากขึ้น เพราะฉะนั้น เราจะมีกำไรชีวิต หากรู้จักความโกรธและสามารถควบคุมมันไว้ได้ พูดถึงการควบคุมความโกรธนั้น มองได้สองมุม มุมหนึ่งหากเรากดความโกรธไว้มันอาจจะทำให้คนเราระเบิดได้ แต่หากไม่ควบคุมความโกรธไว้เลย เราก็จะทำเรื่องผิดพลาด ตัดสินใจอะไรเพราะอารมณ์มากกว่าเหตุผล อันเป็นผลเสียต่อการดำรงชีวิตของเรา ถ้าอย่างนั้นมาเรียนรู้วิธีบรรเทา หรือทำให้ความโกรธลดน้อยลงกันดีกว่า...

เราต้องเรียนรู้ที่จะกำจัดความเครียด

          ฟังแล้วเป็นเรื่องยาก แต่ที่จริงการกำจัดความเครียดไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย เพียงแค่เข้าใจปัญหาก็จะเข้าใจเรา เรื่องทุกเรื่องต้องแก้ไปทีละเปลาะ เราไม่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สวยวิไลเหมือนอย่างที่ใจต้องการได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่านั้น การนั่งสมาธิ โยคะจะทำให้ใจเย็นขึ้นและปล่อยวางได้มากยิ่งขึ้น เมื่อเย็นได้ ปล่อยวางได้ เราก็จะมีความเครียดน้อยลง โกรธยากขึ้น ความโกรธมันเกิดขึ้นจากข้างใน ฉะนั้น การเริ่มต้นแก้จากข้างในจึงเป็นวิธีแก้ที่ดี ง่ายและตรงเป้า เข้าประเด็นมากที่สุด

ตั้งเป้าหมายว่าเราจะต้องดูแลตัวเอง

          การดูแลตัวเอง ต้องเริ่มต้นจากการดูแลจิตใจ ไม่ต้องควบคุมหนัก คุมเข้มความรู้สึกตัวเอง เพียงแต่ให้ทำความเข้าใจและมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนเราก็จะเป็นคนอารมณ์เย็น ไม่ฉุนเฉียวง่าย อันจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการดูแลอารมณ์ตัวเองมากกว่าการนั่งควบคุมไม่ให้มีความโกรธ กล่าวคือ แก้ที่ต้นเหตุดีกว่าแก้ที่ปลายเหตุ

เลี้ยงสัตว์ ดูแลสัตว์

          เรียนรู้จากสัตว์เหล่านี้มันจะทำให้เรามีจิตใจเยือกเย็นขึ้น เห็นแก่ตัวน้อยลง เคยสังเกตไหมว่า คนที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว หรือมีความเห็นแก่ตัวน้อยนั้น จะเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวน้อย คนที่ไม่ค่อยอยากได้อยากมี จะไม่ค่อยดิ้นรนให้ตัวเองต้องร้อนใจหรืออารมณ์เสียมีคนเคยบอกไว้ว่า คนที่เลี้ยงสัตว์ อยู่ใกล้สัตว์จะมีความอ่อนโยน และโกรธยากกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสหรือเลี้ยงดูเอาใจใส่ ไม่มีสัตว์เลี้ยง

หัดฟังคนอื่นเสียบ้าง

          เงียบและเปิดหูรับฟังคนอื่นพูดบ้าง การรับฟังเหตุผลคนอื่นจะทำให้ความเครียดของเราน้อยลง อย่าได้เหมาเอาว่าเหตุผลของคนอื่นนั้นเป็นข้อแก้ตัวเสมอไป เพราะบางคนก็มีเหตุผลมากพอที่จะอธิบายว่าอะไร ทำไมหรืออย่างไร เมื่อเราได้รับรู้และรับฟังเหตุผล มันจะทำให้อารมณ์เบาและเย็นลง โกรธน้อยลง เข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น เมื่อเราเริ่มต้นรับฟัง เราก็เถียงน้อยลง เมื่อเถียงน้อยลง ข้อขัดแย้งก็จะมีน้อยลงตามไปด้วย

เราต้องมีความเห็นอกเห็นใจตัวเองให้มาก

          ถ้าคิดว่าเราไม่มีความเห็นอกเห็นใจตัวเอง ไม่ต้องกลัว...ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่ว่าไม่มีก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีตลอดไป ไม่มีก็ต้องฝืน อะไรที่ไม่มีวันนี้ ก็สามารถฝึกจนมี ฝึกจนเก่งได้ในที่สุด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัว และเมื่อเรามีความเห็นอกเห็นใจตัวเราเองแล้ว เราจะไม่อยากมีความขัดแย้ง ไม่อยากโกรธ ไม่อยากทะเลาะเบาะแว้งกับผู้คน เพราะความขัดแย้งมันขโมยเอาพลังงานของเราไป มันทำให้เราคิดสร้างสรรค์น้อยลง แต่จ้องจะทำร้ายทำลายกันมากขึ้น

ต้องยอมรับคนอื่นอย่างที่เขาเป็น

          และอย่าพยายามบังคับหรือคาดหวังให้ใครยอมรับเราอย่างที่เราเป็น เพราะการยอมรับคนอื่นนั้นง่ายกว่าเมื่อเรายอมรับเขา เข้าใจเขาได้ เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้เรา และยอมรับเราเองในที่สุด สรุปประเด็นง่าย ๆ ก็คือ ยอมรับเขาให้ได้ก่อนแล้วเขาก็จะยอมรับตัวเราเอง หากสองฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน ความขัดแย้งก็จะลดน้อยลงไปด้วย

เรียนรู้ที่จะให้อภัย

          คนที่ให้อภัยเป็นคือคนที่มีบุคลิกดีและมีความสุขใครจะทุกข์จะร้อน จะเดือดเป็นไฟ หากเราไม่พร้อมจะลงไปวิ่งไปดิ้น ไปเต้นด้วย เราเองนั่นแหละที่มีความสุข หากเราให้อภัยและเข้าใจ ก็เราเองนั่นแหละที่จะมีความสุข

มีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้

          หากเชื่อมั่นว่าเราสามารถดูแลอารมณ์โกรธของเราได้ เราเชื่อว่าฟิวส์เราจะไม่ขาดง่าย ๆ ก็จะประคองอารมณ์สุขและมีความเข้าใจ หากไม่มีความเชื่อมั่นก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ของทุกอย่างในโลกใบนี้มันเคลื่อนไปข้างหน้าเพราะมีผู้กำหนด มีคนขับเคลื่อนที่มีความเชื่อมั่น เมื่อไรไม่มีความเชื่อมั่น เมื่อนั้นชีวิตพัง !

หัวเราะให้บ่อยขึ้น

          ทำอารมณ์ดีเข้าไว้ เอาความสนุกความใจเย็น มองโลกในแง่ดี สยบความรุนแรง เพราะความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาเลย คนเราไม่สามารถ โกรธไปด้วย แถมยังอารมณ์ดีไปได้ เพราะฉะนั้นหากเรามองมุมดี เอาอารมณ์ดีข่มไว้ อารมณ์เสียมันก็ผุดขึ้นมาได้ยาก (นอกจากเจอประเภทน่าเตะและเหลืออดจริง ๆ) แต่ต้องเลือกหัวเราะเลือกอารมณ์ดีสักนิด บางเวลาไม่ควรหัวเราะ ขืนปล่อยก๊ากออกมา หัวเราอาจจะแตกได้ไม่รับประกัน เพราะเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของบางคน (ในขณะที่กำลังโกรธกันอยู่นั้น) มันก็ยั่วประสาทฝ่ายตรงข้ามเสียเหลือเกิน สรุปก็คือเราต้องอารมณ์ดี แต่ต้องอารมณ์ดีให้ถูกจังหวะด้วย
เอาทางพระเข้าข่ม

          ถือขันติเป็นสำคัญ มองโลกแง่ดี และไม่โกรธใครง่าย ๆ ความอดทนทางอารมณ์จะพาให้เรา ผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปได้เอง จำไว้เสมอว่า ตัวเราเองก็มีขีดข้อจำกัดของความอดทนด้วย เมื่อรู้ขีดข้อจำกัดของตัวเราเองแล้วนับว่าเราได้เปรียบ ที่ได้เปรียบก็เพราะจะรู้ว่าควรเดินถอยออกมาเมื่อไร ลุกไปเมื่อไร และยืนอยู่กับที่อย่างไร ความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องสนุกหรือวัดความเจ๋ง ไม่ต้องหลีกเพราะกลัว แต่ต้องหลบเพราะมันไม่ก่อประโยชน์กับใครและเสียเวลา



ที่มา  http://wedding.kapook.com
ใช่ครับ .ความโกรธทำลายทุกอย่าง
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-27 22:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2013-9-27 20:42
ใช่ครับ .ความโกรธทำลายทุกอย่าง

เฮียป้อมเคยโกรธใครหรือเปล่าครับ
และมีวิธีกำจัดความโกรรธอย่างไร?
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-9-27 22:22
เฮียป้อมเคยโกรธใครหรือเปล่าครับ
และมีวิธีกำจัดควา ...

ครับโกรธ เมื่อก่อน ไม่ระเบิดใส่ก็ต้องมีอะไรพัง

             ตอนนี้ก็รู้ลมหายใจเข้าออก
พยายามจะไม่โกธรถ้ารู้ตัวว่าตัวเองกำลังโมโหหรือจะโกธรก็จะเอาตัวออกจากสถานการณ์นั้น....ให้เร็วที่สุด...
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้