ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

✿ อธิษฐานไม่ต้องไปยืดยาว ✿

[คัดลอกลิงก์]
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-4-27 15:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สมัยที่หลวงปู่ดู่อยู่ท่านมักจะเล่าให้ฟังว่า
“ข้าทำให้ 4 เวลา เช้า บ่าย เย็น ก่อนนอน “
แล้วจะมีอันตรายที่ไหนเข้ามาทำร้ายพวกแกได้
โดย 1 ใน บทสำคัญของหลวงปู่ คือ
สัพเพฯ หรือการเชิญพระเข้าตัวโดยที่ท่านจะใช้บทนี้
เพื่อแผ่ให้บรรดาลูกศิษย์ท่าน
เป็นการให้พระไปป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย เ
พื่อให้พระไปดูแลรักษา
ซึ่งหลวงตาท่านก็ได้นำคำสอนตรงนี้
ไปเผยแพร่ให้บรรดาลูกศิษย์ท่าน ว่
าเห็นใครเจ็บ ใครป่วยให้น้อมบารมีพระเข้ารักษา
โดยมีใจความสำคัญว่า
.
สัพเพพุทธา พุทธังกำลังกล้า
สัพเพธัมมา ธัมมังกำลังแกร่ง
สัพเพสังฆา สังฆังกำลังแรง
พระรับปัตตา ด้วยฤทธิ์แรงพระกำลัง
ปัจเจกานัง จะยังพะลัง ขออันเชิญพระปัจเจก
อรหันตรานัง มาช่วยเสกกับพระอรหันต์
ปัจเจเช ให้เป็นวิมานแก้ว
นะรักขัง ล้อมรอบ ครอบตัว พันพัน
พันธามิ สัพโส ค่อยป้องกันพยันต์อันตราย
.
ดูเท่านี้พอครับ รู้คำแปลเป็นใช้ได้
บทนี้ตีพิมพ์ในหนังสือนพรัตน์ ปี 2530 ก่อนหลวงตาบวช 1 ปี
อย่าว่าแต่ให้ผีเลยให้เทวดาก็ยังได้
แล้วที่สำคัญบทนี้ หลวงปู่ทวด ท่านเป็นคนนำมาให้พร้อมคำแปล โดยอรรถ
เวลาทำน้ำมนต์หลวงปู่เสกลองเสกบทนี้ดู
แล้วจบด้วยว่า
“ขอให้สิ่งไม่ดีไหลไปกับน้ำ พุทธคุณพระให้เข้ามาในตัว “

Cr. น้อง Kuntana Satterrawut


32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-4-27 15:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โตขึ้นจะเข้าใจประโยคที่ว่า

“เราก็มีกันอยู่แค่นี้”


ดังนั้นจงรักษาคนที่ยังอยู่กับเราไว้ให้ดีที่สุด
และเวลาที่เหลืออยู่ก็อยู่ด้วยกันให้คุ้มค่า


ไม่ว่าจะคนรัก หรือ ครอบครัว



33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-4-27 18:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โลกที่เราอยู่กันนี้ มีไฟเผาเราอยู่ ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ
เราก็ยังไม่รู้ตัว ยังมีหน้ามาหัวเราะกันอยู่อีกหรือ...
ทำไมเราไม่แสวงหาความเย็นสงบ...
ออกไปเสียจากไฟเหล่านี้

  หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม

34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-4-28 08:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
"..จงจำไว้เถิดว่า เมื่อได้ทำบุญทำกุศลแล้ว
อย่าคิดว่าจะได้รับผลนั้นทันที
จะทำให้จิตใจหดหู่ท้อถอย

แต่จงมั่นใจเถิดว่า ผลบุญนั้น ไม่สูญหายไปไหน
เพราะการให้ผลของ "กรรม" นั้น จะทำให้ผลตามกำหนด

ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่ส่งผลแล้ว..
แม้แต่เทพเจ้า หรือผู้มีฤทธิ์องค์ใด
ที่เจ้าไปขอร้องให้ช่วยเหลือ ก็ไม่สามารถให้ผลนั้นเกิดได้

แต่เมื่อถึงเวลาที่จะให้ผล..
ทั่วฟ้าดิน ก็ต้านทานผลของกรรมนั้นไว้ไม่อยู่.."


สมเด็จโต พรหมร้งษี


35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-5-3 19:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ผลประโยชน์ลงตัว “ถึงชั่ว..ก็ว่าดี”
ผลประโยชน์ไม่มี    “ถึงดี..ก็ว่าชั่ว”
ผลประโยชน์เข้าตัว “ทำชั่ว..ได้ทันที”
ขัดผลประโยชน์นี่ซิ “ไม่มีดี..มีแต่ชั่ว

36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-5-5 08:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ไม่คบหา ก็ไม่รู้ว่าใครดีใครร้าย
ไม่เกิดเรื่อง ก็ไม่รู้ว่าใครจริงใจใครเสแสร้ง
ไม่ดื่ม ก็ไม่รู้ว่าแก้วไหนร้อนแก้วไหนเย็น
ไม่หมดผลประโยชน์ ก็ไม่รู้ว่าใครยังอยู่ใครจากไป
ไม่ตกต่ำ ก็ไม่รู้ว่าใครมิตรแท้ใครมิตรเทียม
ฟ้าเปลี่ยนสี จึงแยกว่าเป็นฤดูกาลใด
สถานะเปลี่ยนไป จึงพิสูจน์ใจคน

อย่าเพิ่งกล่าวโทษ ว่าคนอื่นแล้งน้ำใจ
หยัดยืนด้วยขาของตนเองได้ ยั่งยืน!


37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-5-7 17:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ความจน บนโลกใบนี้ มี 4 แบบ

1. จนเงิน มีเงินไม่พอใช้เลี้ยงดูตัวเองหรือไม่พอเลี้ยงดูคนที่เรารัก

2. จนเวลา ไม่มีเวลาใช้ชีวิตไม่มีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ บางคน มีเงิน แต่ไม่มีเวลาใช้เงิน บางคน มีเวลา แต่ไม่มีเงินใช้ บางคนหนักกว่า ไม่มีทั้งเงินและเวลา ซึ่งส่วนใหญ่ จะโทษว่าเป็นเพราะข้อ 3. นั่นคือ

3.จนโอกาส ไม่มีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิตหลายคนบ่นว่า เราก็ขยันนะ แต่ทำไม ไม่ประสบความสำเร็จเสียที เราอาจต้องเข้าใจก่อนว่า คนสำเร็จ ทุกคนล้วนต้องขยัน แต่คนขยัน ไม่ทุกคนที่จะสำเร็จ เพราะขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย ถ้าการทำงานหนักอย่างเดียว จะทำให้ประสบความสำเร็จ
กรรมกรแบกหาม คงร่ำรวยทุกคนไม่ได้บอกว่า อาชีพนี้ไม่ดี เพียงแต่ โอกาสที่อาชีพนี้มีมันน้อยมาก

ดังนั้น เรา work hard อย่างเดียวไม่พอเราต้อง work smart ด้วย หาโอกาสที่ดีแล้วเมื่อเจอ จงอย่าลังเลที่จะคว้ามัน แต่ที่แย่กว่าจนโอกาสนั่นคือ หลายครั้ง เรามีโอกาสดีๆ เข้ามา แต่เรานั่นล่ะ ปฏิเสธโอกาสนั้นเอง แบบนี้ เราเรียกว่าจนแบบที่ 4 คือ

4. จนความคิด มัวแต่คิดดูถูกศักยภาพตัวเอง
คิดลบ คิดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ คิดแต่สิ่งที่ทำให้ตัวเองไม่สำเร็จ คิดว่าตัวเองคงทำไม่ได้ แล้วก็ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป จนเงิน จนเวลา เจอโอกาสดีๆ ยังเปลี่ยนแปลงชีวิตแต่ถ้าจนความคิดรับรอง ชีวิตไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

วันนี้ เวลาเราเจอคนดูถูกเรา เราชอบไหม?

ถ้าเราบอกว่า เราไม่ชอบ แล้วทำไม เราชอบดูถูกศักยภาพตัวเอง?

ต่อให้คนร้อยคน บอกว่าเราทำได้ แต่ถ้าเราบอกตัวเอง ว่าเราทำไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร……


38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-5-8 11:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
(พระไตรปิฏกเล่ม ๒๒ ข้อ ๑๘๑)ภิกษุอยู่ป่า ๕ จำพวก คือ..
๑.  อยู่ป่าเพราะโง่เขลา  เพราะงมงาย
๒.  อยู่ป่าเพราะปรารถนาลามก  ถูกความอยากครอบงำ
๓.  อยู่ป่าเพราะบ้า  เพราะจิตฟุ้งซ่าน
๔.  อยู่ป่าเพราะรู้ว่าเป็นวัตรอันพระพุทธเจ้าสรรเสริญ
๕.  อยู่ป่าเพราะปรารถนาน้อย-สันโดษ-หวังขัดเกลา(กิเลส) หวังความสงัด...
จำพวกที่
๕ นี้ ล้ำเลิศ ประเสริฐสุดกว่าภิกษุผู้อยู่ป่าจำพวกอื่น ๆ


39#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-5-10 18:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอนมา : เจ้ามาคนเดียว
ตอนไป : เจ้าก็ไปคนเดียว
ตอนมา : เจ้าอ่อนแอ
ตอนไป : เจ้าก็อ่อนแอ
ตอนมา : เจ้าไม่มีเงินทองข้าวของมากมาย
ตอนไป : เจ้าก็ไม่มีเงินทองข้าวของอะไรเลย
ตอนเจ้าอาบน้ำครั้งแรก มีคนอาบให้เจ้า
ตอนเจ้าอาบน้ำครั้งสุดท้าย ก็มีคนอาบให้เจ้า
นี่คือ ความจริงของชีวิต !!!
.
แล้วทำไมมนุษย์เราจึงมีเต็มไปด้วย
ความอาฆาตพยาบาท อิจฉาริษยา
เกลียดชัง ขุ่นเคือง หยิ่งทะนง โลภ
และเห็นแก่ตัวมากมาย ขนาดนั้นไปทำไมกัน
เพราะตอนที่เราต้องจากไป
เราก็เอาอะไรไปไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว
มีแต่บุญและบาปเท่านั้น ที่จะติดตัวเจ้าไปสู่ภพใหม่
.
คำสอนสุดท้ายก่อนพระพุทธองค์
จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระองค์ตรัสสอนไว้ว่า "จงอย่าประมาท"
1. อย่าประมาทในชีวิตว่าจะยืนยาว
2. อย่าประมาทในวัยว่ายังหนุ่มยังสาว
3. อย่าประมาทในสุขภาพว่ายังแกร่งกร้าว
4. อย่าประมาทในเวลาว่ายังเหลือมากเกินจะกล่าว
5. อย่าประมาทในธรรมะและบุญกุศลว่า
    "เอาไว้ก่อน วันหลังค่อยทำ"
ใครก็ตามที่ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
คนคนนั้นได้ชื่อว่า เป็นผู้ใช้ชีวิตที่คุ้มค่าที่สุด
ส่วนใครก็ตามที่ประมาท พระพุทธเจ้าตรัสว่า
เป็นคนที่ตายไปแล้วครึ่งตัว
คำถามสำคัญที่สุด
ที่เราจะถามตัวเองก่อนจากโลกนี้ไป
ก็คือ ท่านได้เตรียมตัวให้พร้อม
ต่อการจากลาโลกนี้ไปแล้วหรือยัง ?
.
มาตัวเปล่าแล้ว ก็ไปตัวเปล่า
ตายแล้ว เอาอะไรไปไม่ได้เลย
ตายแล้วไปไหน คนเราเกิดมาทำไม
จงอย่าประมาทในการใช้ชีวิตเลย !!!

เพจ ( พระสุทธิพงษ์ อภิปุญฺโญ)
ถวายเป็นธรรมทาน


40#
 เจ้าของ| โพสต์ 2023-5-11 21:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เทวดารักษา

มีเรื่องเล่าในหนังสือฤาษีทัศนาจร ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ท่านเห็นกระแสจิตของหลวงปู่คำแสน วัดสวนดอกเจิดจ้าเป็นประกายพฤกษ์
แต่มีเป็นกระแสสีแดงซึ่งมิใช่แบบมีกิเลส ท่านจึงเรียนถามครูบาศรีวิชัย
ซึ่งในวัดนี้มีเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิครูบาอยู่ด้วย
ครูบาท่านตอบเป็นกระแสของผู้ที่มากไปด้วยความกตัญญู
ทำให้นึกถึงพุทธสุภาษิตที่ว่า.


"นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา "
แปลโดยอรรถว่า ความกตัญญู เป็นเครื่องหมายของคนดี
ในความเป็นทิพย์แล้วผู้ที่มีแสงเช่นนี้เทวดาท่านต้องรู้
เพราะท่านมีตาทิพย์ จึงคอยปกปักรักษาบุคคลนั้นไว้เสมอ


"คงจริงดูอย่างในเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ที่ทรพี เมื่อเทวดาไม่รักษาแล้ว
โดนฆ่าตาย ดังนั้นคนที่ไม่มีเทวดารักษาดวงก็ถึงฆาต

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้