ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1601
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

โลกเเละชีวิต

[คัดลอกลิงก์]
ตอนนี้จิตแพทย์งานหนักมาก เจอเคสแบบนี้ พ่อแม่พาลูกมาปรึกษาเต็มไปหมดครับ... คนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นพลังพัฒนาประเทศ กลายเป็นคนที่เปราะบาง รักสบาย ใครขัดใจไม่ได้ ก็พร้อมจะระเบิดอารมณ์ หรือระเบิดอารมณ์ไม่ได้ ก็ระเบิดใส่ตัวเอง... กลายเป็นโรคซึมเศร้ากันหมด... และประเทศชาติจะเอาใครไปช่วยพัฒนา... เหตุการณ์แบบนี้ในประเทศไทยและไต้หวัน เรียก "สตรอเบอรี่เจนเนอเรชั่น"... ดูสวยงามแต่เปราะบาง... ไม่ต่างอะไรกับเด็กในประเทศจีน ที่ลูกชายคนเดียวของครอบครัว เลี้ยงตามอกตามใจ ราวกับเทวดา  ไร้มารยาท ไร้ความเกรงใจผู้อื่น ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ สุดท้ายกลายเป็นโรคซึมเศร้ากันหมด เวลาเจอเรื่องที่ผิดหวัง...เรียก "ฮ่องเต้ซินโดรม" หรือกลุ่มอาการฮ่องเต้


.... self esteem หรือความภาคภูมิใจในตนเองไม่มี ... มีแต่หายอดไลค์ไปวันๆ ตามโซเชี่ยลมีเดีย หมดเงินหมดทอง เสียเวลาไปมากมาย เพื่อรอการยอมรับ (approve)​ จากคนอื่น.... เพราะสร้างด้วยตนเองไม่เป็น... มีแต่เปลือกที่เปราะบาง ข้างในกลวงโบ๋หมด... ไม่ต่างจากบ้านสวย ราคาแพงและหรูหรา... แต่ไม่มีเสาเข็ม แค่ลมพัดมา... ไม่ช้าก็พัง!


.... แถมบทความดีๆ จากอ.วิทยา นาควัชระ ให้ด้วยครับ... ลอง(ขยัน)​อ่านกันนะครับ...


"วิธีฝึกความอดทน
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ


ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งรู้ว่า ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมาก ถ้าขาดความอดทน ชีวิตจะล้มเหลวแทบทุกอย่าง


คนรุ่นใหม่ไม่อดทนกันเลย พ่อ-แม่ลืมฝึกให้ลูกอดทน เพราะพ่อ-แม่ช่วยลูกมากไป ทำให้แทบทุกอย่าง ลูกๆ เลยทำอะไรไม่เป็น ไม่อดทน รอคอยไม่เป็น เติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็กลายเป็นคนโกรธง่าย ท้อถอย ทำสิ่งใดก็ไม่สำเร็จ มักโทษตัวเองหรือคนอื่น หรือโทษโชคชะตา


ความอดทนเป็นวุฒิภาวะอย่างหนึ่งที่ทุกคนควรมี คนที่ขาดความอดทน มักจะมีสภาวะทางจิตใจและท่าทางเป็นเด็ก จิตที่มีความอดทน จะทำให้เราอดทนทางกายและทางวาจาได้มากขึ้น


บางคนชินต่อการบ่น ทำอะไรเหนื่อยหน่อยก็บ่น ยิ่งบ่นมากเท่าไรยิ่งไม่อดทนมากเท่านั้น พาลจะเลิกทำกิจกรรมนั้นอยู่เรื่อยๆ


การบ่นถึงความเหนื่อยยาก เหมือนเป็นการเปิดประตูจิตใจรับฟังความอ่อนแอของตนเอง ทำให้เชื่อว่าตัวเองอ่อนแอ ไม่สู้พร้อมจะแพ้และไม่อดทน


นอกจากไม่บ่นเวลาฝึกหรือทำงานหนักแล้ว ผมยังอยากแนะนำให้ชมตัวเองด้วยว่าเราเก่งขึ้น ทุกวันทุกนาทีที่กำลังทำงานหนัก จะเกิดกำลังใจและฮึกเหิมที่จะอดทนมากขึ้น


ในแนวคิดทางพุทธศาสนาสอนให้คิดว่า เรากำลังชดใช้ “เวร” และ “กรรม” กันอยู่ โดยเราเป็นฝ่ายที่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อนมาก่อน ขณะนี้เรากำลังชดใช้เวรกรรมคืนเขาไป จะได้หมดเวรหมดกรรมกันเสียที แล้วเราจะสบายมากขึ้น นี่เป็นแนวคิดในทางพุทธศาสนา


แต่ถ้าเป็นแนวคิดทางคริสเตียนเขาเชื่อว่า การที่เรากำลังลำบากและต้องอดทนให้ได้นั้น เป็นเพราะพระเจ้าต้องการจะทดสอบความอดทนของเรา โดยประสงค์ให้เราต้องเจ็บปวด และต้องอดทนให้ได้ หลังจากนั้นเราจะสบาย และมีความสุขมากขึ้น


อีกวิธีหนึ่งที่ผมเคยใช้แนะนำหลายๆ คนในการฝึกความอดทน โดยให้คิดว่า “ความอดทนคือความกล้าหาญ” เราจะทนได้มากขึ้น เพราะคำว่า “กล้าหาญ” เป็นเสมือนเหรียญตราที่มีเกียรติประดับอยู่ที่หน้าอกเรา ฉะนั้น แม้เราจะเหนื่อยหรือเจ็บปวดบ้าง ก็ไม่เป็นไรหรอก จงอดทนต่อไปเถิด เพราะเราคือคนกล้าหาญไงเล่า


ใครที่มีความอดทนจะได้เปรียบในทุกๆ ด้านของชีวิต จากความอดทนจะทำให้เราอดกลั้นได้มากขึ้นทั้งทางกาย วาจา และทางความคิด


ทั้งอดทนและอดกลั้น จะทำให้เราเป็นคนกล้าหาญ ยืนหยัดในโลกได้อย่างมั่นคง ไม่เปราะง่ายเหมือนคนอื่นๆ ใครได้พบเห็นก็ชื่นชม และเราก็จะภูมิใจตัวเองว่ามี “เหรียญตราของความกล้าหาญ” ประดับอกเสื้ออยู่ตลอดไป


บทความโดย ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ
คอลัมน์ #โลกและชีวิต @แนวหน้าออนไลน์ รปประกอบ : คุณประภัสสร เสวิกุล ผู้เคยสัมภาษณ์ ศจ ดร วิทยา นาควัชระ "บทความนี้ผลท่ีประชาชนให้ความสนใจมากนี้จะนำไปสู่ทิศทางใหม่ของสถาบัน .. ในการศึกษาวิธีการท่ีถูกต้องในการเลี้ยงดูเด็กรุ่นใหม่ และจะนำเสนอเป็นระยะต่อไป

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้