ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
~ หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ~
1
2
3
/ 3 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: kit007
~ หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ~
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
11
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:04
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
พอหันไปมองก็เห็นช้างพลาย (ช้างตัวผู้) รูปร่างสง่างามสูงใหญ่ กำลังใช้งวงจับรูดใบไผ่และยอดไผ่อ่อนใส่ปากเคี้ยว พอเห็นพระหนุ่ม ช้างโบกหูอันใหญ่โตขึ้นลง ๓ หน พร้อมชูงวงชี้มาที่พระ แล้วผงกหัวขึ้นลงอีก ๓ ครั้ง แสดงความเคารพ จากนั้นก็หันไปสนใจกับยอดไม้ต่อ พระหนุ่มสงฆ์พิจารณาแล้วก็นึกว่า คงเป็นผู้นำทางตามที่พระอาจารย์ว่าไว้แน่ๆ
คืนนั้นพระหนุ่มนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในกลด โดยมีช้างคอยอารักขา แต่พอรุ่งเช้า พระหนุ่มเก็บกลดเสร็จ ยังไม่ทันจะได้หาลูกไม้ฉัน ช้างป่าก็ออกเดิน ทำให้พระหนุ่มต้องรีบเดินตามช้างเชือกนั้นไป
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
12
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:04
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
ช่วงเวลาที่พระสงฆ์เดินทางออกมาจากวัดโต๊ะแซ พระอาจารย์รอดอาพาธแล้วก็มรณภาพ ส่วนพระสงฆ์ ช้างพาเดินขึ้นเขา ลงห้วย จนไม่มีเวลาแม้แต่จะหาผลไม้ขบฉัน พอช้างหยุดเดิน ช้างกินใบไผ่ กินหยวกกล้วย แต่พระสงฆ์เลยเพลฉันอะไรไม่ได้ก็ต้องอด อาศัยการเจริญภาวนาทำให้พระหนุ่มสงฆ์ไม่อ่อนเพลีย จนล่วงเข้าบ่ายวันที่ ๓ ขณะเดินอยู่บนเชิงเขา พระหนุ่มจึงเห็นหลังคาบ้านหลายหลังอยู่เบื้องล่าง ช้างนำทางก็หยุดหันหน้าไปทางหมู่บ้าน โบกใบหูขึ้น ๓ ครั้ง ก่อนจะหันกลับไปสู่ทิศทางเดิม
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
13
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:05
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
พระสงฆ์สวดอวยพรขอบคุณช้าง แล้วเดินลงไปที่หมู่บ้าน สอบถามชาวบ้านถึงทางที่จะไปบ้านท่าข้าม ชาวบ้านในแต่ละหมู่จึงช่วยนำทางต่อให้เป็นระยะ ๆ จนถึงบ้านท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงเรือข้ามไปยังฝั่งด้านเหนือของแม่น้ำตาปี พบชายคนหนึ่งเดินแบกไม้สวนทางมาจึงถาม “แบกไม้ไปทำอะไรโยม?”
“เอาไปทำเพิงให้พระเผื่อฝนตกจะได้ไม่เปียกขอรับ” ชายคนนั้นตอบ
ตอน แรกพระสงฆ์กะจะทักทายเพื่อถามเส้นทาง แต่พอได้ยินชายแบกไม้พูดถึงพระ ทำให้พระสงฆ์เกิดฉุกคิดขึ้นมา หรือว่าจะเป็นพระที่อาจารย์ให้มาหา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
14
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:05
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
พระสงฆ์จึงเดินตามชายคนแบกไม้ไป ก็ไปพบพระธุดงค์วัยกลางคน ชื่อหลวงพ่อเวียน จึงขอมอบตัวเป็นศิษย์ แต่หลังจากฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อเวียนได้ ๓ วัน หลวงพ่อเวียนก็บอกว่า
“น้องเจ้ารออยู่ที่นี่นะ หลวงพี่จะไปทำธุระสักพัก”
หลวงพ่อเวียนไม่ได้บอกจุดหมายให้ลูกศิษย์รู้ว่าไปไหน จน ๑ เดือนผ่านไปหลวงพ่อเวียนก็ไม่กลับ พระสงฆ์ไม่รู้จะไปตามหาหลวงพ่อเวียนได้ที่ไหน จึงเดินธุดงค์ขึ้นเหนือก็ไม่พบพระอาจารย์ พระสงฆ์เลยตั้งใจว่าจะไปให้ถึงจังหวัดสระบุรี เพื่อกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท
ตอนผ่านหมู่บ้านหนองไม้เหลือง เขตจังหวัดเพชรบุรี
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
15
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:05
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
โจรป่าคนหนึ่งเห็นพระเดินมารูปเดียว ก็คิดว่าในบาตร น่าจะมีข้าวของมีค่า เพราะที่ผ่าน ๆ มา เคยปล้นพระได้ทรัพย์สินทองที่ติดตัวพระมากมาย แต่พระสงฆ์มีร่างสูงใหญ่ โจรกลัวว่าถ้าเข้ายื้อแย่งเอา คงสู้กำลังของพระไม่ได้ จะวิ่งไปตามหัวหน้าโจรและพวกมาช่วย ก็กลัวจะล่าช้า จึงวิ่งไปดักหน้า ใช้มีดและดาบคม ฝังลงไปในทางเดินที่มีดินปนทราย โดยหงายเอาคมขึ้น กะให้พอดีกับระยะจังหวะก้าวย่าง และใช้ใบไม้แห้งโรยพรางตาไว้อีกชั้นหนึ่ง คิดว่าพอพระสงฆ์เหยียบมีด ดาบ เท้าเป็นแผลเจ็บ ก็จะเข้าแย่งบาตรและย่ามไป
พระสงฆ์ได้เดินเหยียบคมมีดดาบนั้น โดยไม่เป็นอันตราย ทำให้โจรผิดหวัง รีบไปคว้าดาบขึ้นมาใหม่แล้ววิ่งไล่ตาม พอไล่ทันก็เงื้อดาบขึ้นจะฟัน แต่พอจะฟันก็เกิดอาการเข่าอ่อนยืนไม่ไหวต้องทรุดตัวลง เหมือนขาไม่มีแรง โจรพยายามลุกขึ้นใหม่จะฟันอีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็เข่าอ่อนฟันไม่ได้ สุดท้ายก็วิ่งไปดักหน้าร้องถามว่า
“ท่านมีของดีอะไร ทำไมมีดดาบจึงไม่ทำอันตรายแก่ท่าน?”
พระ สงฆ์ตอบ “เรามีดีที่ใจ” (ไม่มีโลภ โกรธ หลง) มีแต่ชีวิตที่อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนา พาตนเองให้พ้นจากทุกข์ และเพื่อสอนคนอื่นให้พ้นจากทุกข์
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
16
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:06
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
โจรเห็นเป็นอัศจรรย์ คิดว่าพระมีของดีโจรอยากได้ของดี จึงนิมนต์ท่านไปพักในชุมโจร หัวหน้าโจรเห็นพระเดินมากับสมุนของตน ก็คิดว่าสมุนพาพระมาให้ตนปล้นทรัพย์ พอพระเดินขึ้นไปบนบ้าน หัวหน้าโจรตรงเข้ามาแย่งย่ามและบาตร พระสงฆ์อยากจะสั่งสอนหัวหน้าโจรให้สำนึกบาปกรรม จึงจับหัวหน้าโจรยกขึ้นแล้วโยนไปในดงหนามข้าง ๆ บ้าน คืนนั้น ทั้งคืนไม่ว่าพวกสมุนโจร จะพยายามช่วยกันถางพงหนามเพื่อที่จะเอาตัวหัวหน้าโจรออกมา ก็เอาออกมาไม่ได้ พระสงฆ์ปล่อยให้หัวหน้าโจรนอนร้องโอดโอยอยู่ในพงหนาม เพื่อดัดนิสัยจนรุ่งเช้า พอรุ่งเช้า พระสงฆ์บอกสมุนโจรให้ไปเอาหัวหน้าออกมา หัวหน้าโจรก็ออกมาจากดงหนามได้อย่างง่ายดาย ทำให้หัวหน้าโจรยอมกราบไหว้นับถือ และพระสงฆ์ก็ได้เทศนาสั่งสอนให้โจรกลุ่มนั้น หันกลับมาเป็นคนดี แล้วพระสงฆ์ก็ออกเดินทางต่อไป จนไปถึงจังหวัดสระบุรี แต่ระหว่างทางช่างลำบากยิ่งนัก ต้องเดินเท้าเปล่าบุกป่าขึ้นเขา ลงห้วย ลงเหว ข้ามลำธาร บาง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
17
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:06
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
ตอนน้ำลึกและเชี่ยว แถมมีไข้ป่าคอยคุกคาม แต่พระสงฆ์เคยเรียนรู้ทางหมอยาพื้นบ้านมาก่อน จึงรู้ว่าพืชชนิดใดเป็นยาสมุนไพร นอกจากนั้นยังต้องผจญภัย กับพวกสัตว์ป่า หมี เสือ งูพิษและสัตว์ร้ายอีกนานา ระหว่างหยุดพักปักกลดนั่งทำสมาธิ มีสัตว์ร้ายมาส่งเสียงข่มขู่จะเอาพระสงฆ์เป็นอาหารก็หลายครั้ง แต่พระสงฆ์มีสมาธิแก่กล้า พวกสัตว์ป่าจึงได้แต่ส่งเสียงขู่คำราม มีเสือตัวหนึ่งคอยมาเดินวนรอบ ๆ กลด พระสงฆ์นำน้ำใส่บาตรวางไว้หน้ากลด เสือกินน้ำในบาตรแล้วก็หายดุร้าย เดินหายเข้าป่า ไม่มารบกวนอีก
คืน หนึ่งขณะที่พระสงฆ์กำลังเข้าสมาธิเจริญภาวนา พระสงฆ์รู้สึกว่า มีตัวงูใหญ่และหนัก เคลื่อนขึ้นทับขาซ้าย แล้วเคลื่อนไปยังขาขวา แต่ท่านก็ยังสงบจิตนิ่งอยู่อย่างนั้น จนงูพันรอบสะเอว พันลำตัว ส่วนหัวและจมูกของงู มาจ่ออยู่ตรงหูของท่าน
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
18
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:06
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
งูเหลือมเป็นสัตว์เลือดเย็น มีลำตัวยาว สามารถกลืนกวาง หรือคนได้ทั้งตัว เพราะปากและขากรรไกรยืดได้ สามารถอ้าปากได้กว้าง ปรกติงูเหลือมจะแอบซุ่มอยู่บนคาคบไม้ รอคอยจังหวะให้เหยื่อเดินมา แล้วมันก็ทิ้งตัวลงจากต้นไม้ ใช้ร่างอันยาวรัดกายเหยื่อม้วนพันไปรอบ ๆ
แม้ งูเหลือมจะไม่มีพิษ แต่เมื่อรัดร่างของเหยื่อมันจะมีพลังมาก รัดแน่นจนเหยื่อกระดูกแตก จากนั้นมันจึงค่อยๆ กลืนเหยื่อจากด้านศีรษะเข้าไปก่อน จนเหยื่อหายเข้าไปอยู่ในท้องของมัน จากนั้นมันก็นอนอยู่นิ่ง ๆไม่กินอาหารอะไรอีก เป็นเดือน ๆ พระสงฆ์ไม่ขยับกาย แต่แผ่กุศลให้และคิดในใจว่า หากเคยทำกรรมไว้กับงูเหลือม ท่านขอมอบชีวิตให้ แต่ถ้าไม่เคยมีกรรมเวรต่อกัน ขอให้งูจงอย่าสร้างกรรมแก่ท่าน ปรากฏว่าอีกครู่เดียว งูเหลือมค่อย ๆ คลายตัวเลื้อยลงจากท่านแล้วก็หายไป
หลังจากเข้าไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีเสร็จ พระสงฆ์คิดต่อไปว่า ควรจะไปกราบนมัสการพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว จังหวัดพระนครด้วย จะได้ไม่เสียเที่ยวที่อุตส่าห์เดินทางมา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
19
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:06
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
ตอนที่เดินทางเข้าเขตจังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร) พระหนุ่มปักกลดอยู่ใกล้บ้านตาและยายคู่หนึ่ง สองตายายจัดทำอาหารมาถวาย และตากับยายถามท่านว่า
“เมื่อคืนหลวงพ่อฝันอะไรบ้าง” พระสงฆ์ตอบซื่อ ๆ ว่า “ฝันเห็นเสือ”
สองตายายเอาความฝันของพระสงฆ์ไปซื้อหวยรัฐบาล สมัยนั้นมี “หวย ก- ข” ( ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก) สองตายายซื้อตัว ส ปรากฏว่าหวยออกมาเป็นตัว ส สองตายายถูกหวย ได้เงิน(เหรียญ)กลับมาบ้าน ๓ ขันเต็ม ๆ ตายายแบ่งเงินส่วนหนึ่งถวาย พระสงฆ์บอกว่า พระไม่รับเงินและทอง และไม่ส่งเสริมให้เล่นการพนัน เพราะเป็นประตูนรก (อบายมุข) แต่สองตายายรู้ว่า หลวงปู่จะกลับไปชุมพรทางเรือ จึงนำเงินค่าโดยสารไปให้นายท้ายเรือสำเภา และเรือสำเภาก็มาเทียบท่าที่ปากน้ำชุมพร
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32161
20
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-9-18 12:07
|
ดูโพสต์ทั้งหมด
เมื่อขึ้นจากเรือ พระสงฆ์เดินธุดงค์ไปยังบ้านปลายคลองน้อย อำเภอสวี ตอนนั้นยังเป็นป่าเขากันดาร ไกลความเจริญ พระสงฆ์ไปปักกลดอยู่ในราวป่าใกล้หมู่บ้าน เช้าก็ออกไปบิณฑบาต ไม่มีผู้ใดถวายอาหารเลย ท่านคิดว่าเป็นเพราะชาวบ้านไม่รู้ว่าจะมีพระมาบิณฑบาต วันแรกจึงไม่ได้ฉันอาหาร วันรุ่งขึ้นพระสงฆ์ไปบิณฑบาตในหมู่บ้านอีก พอเห็นพระชาวบ้านพากันปิดประตู แต่แทนที่พระสงฆ์จะรีบไปหมู่บ้านอื่น กลับมีความคิดว่า ถ้าปล่อยให้ชาวบ้านไม่รู้จักพระ ชาวบ้านจะทำแต่บาปกรรม อนาคตจะตกนรกหมกไหม้ ซึ่งน่าสงสารมาก และถ้าท่านท้อถอย ใครจะสอนให้ชาวบ้านรู้จักบาป -บุญ พระสงฆ์จึงตั้งใจว่าจะต้องทำให้ชาวบ้านรู้จักทำบุญให้จงได้
ท่านเข้าไปบิณฑบาตซ้ำ ๆ อยู่ ๖ วัน ตลอด ๖ วัน ไม่ได้รับอาหารจากชาวบ้านเลย ปรกติตอนที่ท่านยังเดินธุดงค์อยู่ในป่าลึก ท่านอาศัยผลไม้ในป่าและน้ำในลำธาร ทำให้รอดชีวิตมาได้ แต่ตอนนี้มีหมู่บ้าน ท่านจึงตั้งจิตมั่นว่า ถ้าชาวบ้านไม่ใส่บาตรท่านก็จะไม่ยอมฉันสิ่งใด
เช้าวันที่ ๗ ท่านพาร่างกายอันอิดโรย เข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านอีก คราวนี้ชาวบ้านคนหนึ่งถวายข้าวสุกมา ๓ ช้อนทัพพี เมื่อกลับมาถึงกลดท่านจึงฉัน พอข้าวมื้อแรกตกถึงท้อง พระสงฆ์เกิดอาการหน้ามืดแล้วสลบไป จนบ่ายจึงฟื้นขึ้น
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
หน้าถัดไป »
1
2
3
/ 3 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...