ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ~

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด



พอหันไปมองก็เห็นช้างพลาย (ช้างตัวผู้)  รูปร่างสง่างามสูงใหญ่   กำลังใช้งวงจับรูดใบไผ่และยอดไผ่อ่อนใส่ปากเคี้ยว  พอเห็นพระหนุ่ม  ช้างโบกหูอันใหญ่โตขึ้นลง ๓ หน พร้อมชูงวงชี้มาที่พระ แล้วผงกหัวขึ้นลงอีก ๓  ครั้ง แสดงความเคารพ  จากนั้นก็หันไปสนใจกับยอดไม้ต่อ   พระหนุ่มสงฆ์พิจารณาแล้วก็นึกว่า   คงเป็นผู้นำทางตามที่พระอาจารย์ว่าไว้แน่ๆ
คืนนั้นพระหนุ่มนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในกลด  โดยมีช้างคอยอารักขา   แต่พอรุ่งเช้า พระหนุ่มเก็บกลดเสร็จ  ยังไม่ทันจะได้หาลูกไม้ฉัน   ช้างป่าก็ออกเดิน  ทำให้พระหนุ่มต้องรีบเดินตามช้างเชือกนั้นไป
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด



ช่วงเวลาที่พระสงฆ์เดินทางออกมาจากวัดโต๊ะแซ  พระอาจารย์รอดอาพาธแล้วก็มรณภาพ ส่วนพระสงฆ์ ช้างพาเดินขึ้นเขา ลงห้วย  จนไม่มีเวลาแม้แต่จะหาผลไม้ขบฉัน  พอช้างหยุดเดิน ช้างกินใบไผ่  กินหยวกกล้วย  แต่พระสงฆ์เลยเพลฉันอะไรไม่ได้ก็ต้องอด  อาศัยการเจริญภาวนาทำให้พระหนุ่มสงฆ์ไม่อ่อนเพลีย  จนล่วงเข้าบ่ายวันที่ ๓   ขณะเดินอยู่บนเชิงเขา  พระหนุ่มจึงเห็นหลังคาบ้านหลายหลังอยู่เบื้องล่าง   ช้างนำทางก็หยุดหันหน้าไปทางหมู่บ้าน โบกใบหูขึ้น ๓ ครั้ง   ก่อนจะหันกลับไปสู่ทิศทางเดิม


13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พระสงฆ์สวดอวยพรขอบคุณช้าง  แล้วเดินลงไปที่หมู่บ้าน   สอบถามชาวบ้านถึงทางที่จะไปบ้านท่าข้าม   ชาวบ้านในแต่ละหมู่จึงช่วยนำทางต่อให้เป็นระยะ ๆ จนถึงบ้านท่าข้าม  อำเภอพุนพิน  จังหวัดสุราษฎร์ธานี   ลงเรือข้ามไปยังฝั่งด้านเหนือของแม่น้ำตาปี   พบชายคนหนึ่งเดินแบกไม้สวนทางมาจึงถาม  “แบกไม้ไปทำอะไรโยม?”
“เอาไปทำเพิงให้พระเผื่อฝนตกจะได้ไม่เปียกขอรับ”  ชายคนนั้นตอบ
ตอน แรกพระสงฆ์กะจะทักทายเพื่อถามเส้นทาง  แต่พอได้ยินชายแบกไม้พูดถึงพระ   ทำให้พระสงฆ์เกิดฉุกคิดขึ้นมา หรือว่าจะเป็นพระที่อาจารย์ให้มาหา


14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พระสงฆ์จึงเดินตามชายคนแบกไม้ไป   ก็ไปพบพระธุดงค์วัยกลางคน  ชื่อหลวงพ่อเวียน  จึงขอมอบตัวเป็นศิษย์   แต่หลังจากฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน  กับหลวงพ่อเวียนได้ ๓ วัน   หลวงพ่อเวียนก็บอกว่า  
“น้องเจ้ารออยู่ที่นี่นะ  หลวงพี่จะไปทำธุระสักพัก”
หลวงพ่อเวียนไม่ได้บอกจุดหมายให้ลูกศิษย์รู้ว่าไปไหน  จน ๑  เดือนผ่านไปหลวงพ่อเวียนก็ไม่กลับ   พระสงฆ์ไม่รู้จะไปตามหาหลวงพ่อเวียนได้ที่ไหน   จึงเดินธุดงค์ขึ้นเหนือก็ไม่พบพระอาจารย์   พระสงฆ์เลยตั้งใจว่าจะไปให้ถึงจังหวัดสระบุรี  เพื่อกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท
ตอนผ่านหมู่บ้านหนองไม้เหลือง เขตจังหวัดเพชรบุรี


15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โจรป่าคนหนึ่งเห็นพระเดินมารูปเดียว ก็คิดว่าในบาตร น่าจะมีข้าวของมีค่า   เพราะที่ผ่าน ๆ มา เคยปล้นพระได้ทรัพย์สินทองที่ติดตัวพระมากมาย   แต่พระสงฆ์มีร่างสูงใหญ่  โจรกลัวว่าถ้าเข้ายื้อแย่งเอา   คงสู้กำลังของพระไม่ได้  จะวิ่งไปตามหัวหน้าโจรและพวกมาช่วย   ก็กลัวจะล่าช้า  จึงวิ่งไปดักหน้า ใช้มีดและดาบคม  ฝังลงไปในทางเดินที่มีดินปนทราย โดยหงายเอาคมขึ้น   กะให้พอดีกับระยะจังหวะก้าวย่าง  และใช้ใบไม้แห้งโรยพรางตาไว้อีกชั้นหนึ่ง   คิดว่าพอพระสงฆ์เหยียบมีด ดาบ เท้าเป็นแผลเจ็บ ก็จะเข้าแย่งบาตรและย่ามไป

พระสงฆ์ได้เดินเหยียบคมมีดดาบนั้น  โดยไม่เป็นอันตราย  ทำให้โจรผิดหวัง  รีบไปคว้าดาบขึ้นมาใหม่แล้ววิ่งไล่ตาม  พอไล่ทันก็เงื้อดาบขึ้นจะฟัน   แต่พอจะฟันก็เกิดอาการเข่าอ่อนยืนไม่ไหวต้องทรุดตัวลง  เหมือนขาไม่มีแรง  โจรพยายามลุกขึ้นใหม่จะฟันอีกหลายครั้ง  แต่ทุกครั้งก็เข่าอ่อนฟันไม่ได้   สุดท้ายก็วิ่งไปดักหน้าร้องถามว่า
“ท่านมีของดีอะไร  ทำไมมีดดาบจึงไม่ทำอันตรายแก่ท่าน?”
พระ สงฆ์ตอบ “เรามีดีที่ใจ”  (ไม่มีโลภ โกรธ หลง)  มีแต่ชีวิตที่อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนา  พาตนเองให้พ้นจากทุกข์   และเพื่อสอนคนอื่นให้พ้นจากทุกข์


16#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โจรเห็นเป็นอัศจรรย์  คิดว่าพระมีของดีโจรอยากได้ของดี  จึงนิมนต์ท่านไปพักในชุมโจร  หัวหน้าโจรเห็นพระเดินมากับสมุนของตน   ก็คิดว่าสมุนพาพระมาให้ตนปล้นทรัพย์  พอพระเดินขึ้นไปบนบ้าน   หัวหน้าโจรตรงเข้ามาแย่งย่ามและบาตร   พระสงฆ์อยากจะสั่งสอนหัวหน้าโจรให้สำนึกบาปกรรม   จึงจับหัวหน้าโจรยกขึ้นแล้วโยนไปในดงหนามข้าง ๆ บ้าน  คืนนั้น     ทั้งคืนไม่ว่าพวกสมุนโจร   จะพยายามช่วยกันถางพงหนามเพื่อที่จะเอาตัวหัวหน้าโจรออกมา   ก็เอาออกมาไม่ได้  พระสงฆ์ปล่อยให้หัวหน้าโจรนอนร้องโอดโอยอยู่ในพงหนาม  เพื่อดัดนิสัยจนรุ่งเช้า  พอรุ่งเช้า   พระสงฆ์บอกสมุนโจรให้ไปเอาหัวหน้าออกมา   หัวหน้าโจรก็ออกมาจากดงหนามได้อย่างง่ายดาย   ทำให้หัวหน้าโจรยอมกราบไหว้นับถือ   และพระสงฆ์ก็ได้เทศนาสั่งสอนให้โจรกลุ่มนั้น หันกลับมาเป็นคนดี   แล้วพระสงฆ์ก็ออกเดินทางต่อไป จนไปถึงจังหวัดสระบุรี   แต่ระหว่างทางช่างลำบากยิ่งนัก ต้องเดินเท้าเปล่าบุกป่าขึ้นเขา ลงห้วย  ลงเหว  ข้ามลำธาร บาง


17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ตอนน้ำลึกและเชี่ยว แถมมีไข้ป่าคอยคุกคาม   แต่พระสงฆ์เคยเรียนรู้ทางหมอยาพื้นบ้านมาก่อน  จึงรู้ว่าพืชชนิดใดเป็นยาสมุนไพร  นอกจากนั้นยังต้องผจญภัย  กับพวกสัตว์ป่า  หมี เสือ งูพิษและสัตว์ร้ายอีกนานา  ระหว่างหยุดพักปักกลดนั่งทำสมาธิ   มีสัตว์ร้ายมาส่งเสียงข่มขู่จะเอาพระสงฆ์เป็นอาหารก็หลายครั้ง   แต่พระสงฆ์มีสมาธิแก่กล้า  พวกสัตว์ป่าจึงได้แต่ส่งเสียงขู่คำราม   มีเสือตัวหนึ่งคอยมาเดินวนรอบ ๆ กลด  พระสงฆ์นำน้ำใส่บาตรวางไว้หน้ากลด   เสือกินน้ำในบาตรแล้วก็หายดุร้าย  เดินหายเข้าป่า ไม่มารบกวนอีก   
คืน หนึ่งขณะที่พระสงฆ์กำลังเข้าสมาธิเจริญภาวนา  พระสงฆ์รู้สึกว่า  มีตัวงูใหญ่และหนัก เคลื่อนขึ้นทับขาซ้าย แล้วเคลื่อนไปยังขาขวา    แต่ท่านก็ยังสงบจิตนิ่งอยู่อย่างนั้น  จนงูพันรอบสะเอว พันลำตัว  ส่วนหัวและจมูกของงู  มาจ่ออยู่ตรงหูของท่าน


18#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
งูเหลือมเป็นสัตว์เลือดเย็น  มีลำตัวยาว สามารถกลืนกวาง หรือคนได้ทั้งตัว   เพราะปากและขากรรไกรยืดได้  สามารถอ้าปากได้กว้าง  ปรกติงูเหลือมจะแอบซุ่มอยู่บนคาคบไม้  รอคอยจังหวะให้เหยื่อเดินมา  แล้วมันก็ทิ้งตัวลงจากต้นไม้  ใช้ร่างอันยาวรัดกายเหยื่อม้วนพันไปรอบ ๆ  
แม้ งูเหลือมจะไม่มีพิษ  แต่เมื่อรัดร่างของเหยื่อมันจะมีพลังมาก  รัดแน่นจนเหยื่อกระดูกแตก จากนั้นมันจึงค่อยๆ  กลืนเหยื่อจากด้านศีรษะเข้าไปก่อน  จนเหยื่อหายเข้าไปอยู่ในท้องของมัน   จากนั้นมันก็นอนอยู่นิ่ง ๆไม่กินอาหารอะไรอีก เป็นเดือน ๆ   พระสงฆ์ไม่ขยับกาย  แต่แผ่กุศลให้และคิดในใจว่า   หากเคยทำกรรมไว้กับงูเหลือม  ท่านขอมอบชีวิตให้   แต่ถ้าไม่เคยมีกรรมเวรต่อกัน  ขอให้งูจงอย่าสร้างกรรมแก่ท่าน  ปรากฏว่าอีกครู่เดียว  งูเหลือมค่อย ๆ คลายตัวเลื้อยลงจากท่านแล้วก็หายไป   
หลังจากเข้าไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีเสร็จ   พระสงฆ์คิดต่อไปว่า ควรจะไปกราบนมัสการพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว   จังหวัดพระนครด้วย  จะได้ไม่เสียเที่ยวที่อุตส่าห์เดินทางมา


19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ตอนที่เดินทางเข้าเขตจังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร)   พระหนุ่มปักกลดอยู่ใกล้บ้านตาและยายคู่หนึ่ง  สองตายายจัดทำอาหารมาถวาย   และตากับยายถามท่านว่า  
“เมื่อคืนหลวงพ่อฝันอะไรบ้าง” พระสงฆ์ตอบซื่อ ๆ ว่า  “ฝันเห็นเสือ”
สองตายายเอาความฝันของพระสงฆ์ไปซื้อหวยรัฐบาล สมัยนั้นมี “หวย ก- ข” ( ก  ไก่ ถึง ฮ นกฮูก) สองตายายซื้อตัว ส  ปรากฏว่าหวยออกมาเป็นตัว ส  สองตายายถูกหวย  ได้เงิน(เหรียญ)กลับมาบ้าน ๓ ขันเต็ม ๆ   ตายายแบ่งเงินส่วนหนึ่งถวาย พระสงฆ์บอกว่า  พระไม่รับเงินและทอง   และไม่ส่งเสริมให้เล่นการพนัน เพราะเป็นประตูนรก (อบายมุข)   แต่สองตายายรู้ว่า  หลวงปู่จะกลับไปชุมพรทางเรือ   จึงนำเงินค่าโดยสารไปให้นายท้ายเรือสำเภา   และเรือสำเภาก็มาเทียบท่าที่ปากน้ำชุมพร


20#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-18 12:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เมื่อขึ้นจากเรือ พระสงฆ์เดินธุดงค์ไปยังบ้านปลายคลองน้อย  อำเภอสวี   ตอนนั้นยังเป็นป่าเขากันดาร ไกลความเจริญ   พระสงฆ์ไปปักกลดอยู่ในราวป่าใกล้หมู่บ้าน  เช้าก็ออกไปบิณฑบาต  ไม่มีผู้ใดถวายอาหารเลย   ท่านคิดว่าเป็นเพราะชาวบ้านไม่รู้ว่าจะมีพระมาบิณฑบาต   วันแรกจึงไม่ได้ฉันอาหาร  วันรุ่งขึ้นพระสงฆ์ไปบิณฑบาตในหมู่บ้านอีก   พอเห็นพระชาวบ้านพากันปิดประตู  แต่แทนที่พระสงฆ์จะรีบไปหมู่บ้านอื่น   กลับมีความคิดว่า ถ้าปล่อยให้ชาวบ้านไม่รู้จักพระ  ชาวบ้านจะทำแต่บาปกรรม  อนาคตจะตกนรกหมกไหม้  ซึ่งน่าสงสารมาก  และถ้าท่านท้อถอย   ใครจะสอนให้ชาวบ้านรู้จักบาป -บุญ   พระสงฆ์จึงตั้งใจว่าจะต้องทำให้ชาวบ้านรู้จักทำบุญให้จงได้
ท่านเข้าไปบิณฑบาตซ้ำ ๆ อยู่ ๖ วัน  ตลอด ๖ วัน  ไม่ได้รับอาหารจากชาวบ้านเลย  ปรกติตอนที่ท่านยังเดินธุดงค์อยู่ในป่าลึก   ท่านอาศัยผลไม้ในป่าและน้ำในลำธาร  ทำให้รอดชีวิตมาได้   แต่ตอนนี้มีหมู่บ้าน  ท่านจึงตั้งจิตมั่นว่า   ถ้าชาวบ้านไม่ใส่บาตรท่านก็จะไม่ยอมฉันสิ่งใด
เช้าวันที่ ๗   ท่านพาร่างกายอันอิดโรย เข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านอีก   คราวนี้ชาวบ้านคนหนึ่งถวายข้าวสุกมา ๓ ช้อนทัพพี    เมื่อกลับมาถึงกลดท่านจึงฉัน  พอข้าวมื้อแรกตกถึงท้อง   พระสงฆ์เกิดอาการหน้ามืดแล้วสลบไป  จนบ่ายจึงฟื้นขึ้น  


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้