ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4068
ตอบกลับ: 13
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ไผกะได้ ในชั่วโมงนี้

[คัดลอกลิงก์]


ไผกะได้ ในชั่วโมงนี้  





ทำกับข้าวอะไรก็อร่อย..ชอบหมดแระ  ขอเบอร์โทรหน่อยสิ..






2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-5 06:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด

เรื่องการรักษาศีลข้อ ๒
คือ การไม่ลักทรัพย์..                                            



วันนี้ขอเรียนเสนอเรื่องการรักษาศีลข้อ ๒ คือ การไม่ลักทรัพย์ ซึ่งในความหมายนี้คงจะต้องมองไปให้ไกลในยุคสมัยที่"คำว่าทรัพย์"ในความหมายมีความกว้างไกลมากกว่าเดิม ในแง่ของปุถุชน เพราะโลกเปลี่ยนไป สิ่งที่เราบางคนยังมองไปไม่ถึงคำว่า"ทรัพย์"ก็เพราะพื้นฐานทางโลกเขามมีการแบ่งทรัพย์สินออกเป็นชื่อต่างๆ มากมาย สิ่งที่ผู้เขียนจะแบ่งให้เป็นทรัพย์ที่ดูง่ายๆ คือ/-
๑.ทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน คือ ทรัพย์ที่เป็นนามธรรม ได้แก่เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย เป็นของที่มองไม่เห็นด้วยตา เ
ป็นทรัพย์ที่มีการครอบครองโดยการสำแดงเอกสารเครื่องหมายสัญญาลักษณ์ต่างๆอันเป็นเครื่องมือการครอบครงสิทธิ์นั้น หรือคือ แสดงความเป็นเจ้าของนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร(ที่ชาวโลกนำมาเป็นทรัพย์ได้)



๒.ทรัพย์ที่มีตัวตน คือ ทรัพย์ที่เป็นรูปธรรม สามารถจับต้องได้และมีชื่อเรียกหรือไม่ก็ตาม แต่ก็มีการครอบครองเป็นเจ้าของทรัพย์นั้นโดยเปิดเผย


เมื่อทุกท่านได้เห็นแนวทางที่ผู้เขียนได้แยกให้ชัดขึ้น ดังนั้นหากเราจะกระทำการใดๆที่เกี่ยวกับทรัพย์ทั้งสองประเภทก็ต้องมองเป็นประเด็นๆไป


การที่คนเราทุกคนมีความเข้าใจในความหมายแห่งโลกที่ตีความต่างกันไป ย่อมมีผลต่อการวินิจฉัย



"เรามีเจตนากระทำผิดศีลข้อ ๒"หรือไม่?



กล่าวคือ หากบุคคลใดที่กระทำการนำทรัพย์ที่มีอยู่ในโลกนี้ไปเป็นของตนเอง โดยมีเจตนา เพื่อการเบียดเบียน


ไม่ว่าจะกระทำการใดให้ได้ไปซึ่งทรัพย์เพราะกลโกงหรือการทุจริต หรือ

การยักยอกเอาโดยผู้เป็นเจ้าของนั้นจะรู้หรือไม่รู่ก็ตาม นั้นถือได้ว่า"ผิดศีลข้อ ๒"
นั่นก็เพราะ"เจตนาที่จะครอบครองของผู้อื่น"นั่นเอง

ซึ่งการทำผิดศีลข้อลักทรัพย์เป็นการกระทำเพื่อให้ครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น ย่อมก่อให้เกิดปัญหาการเบียดเบียนกันและกัน

สร้างทุกข์ในตนเองและสังคมได้..

การที่ประเทศเรามีความสงบสุขไม่เบียดเบียนกันก็นับว่าดีมากครับ..

หากเราได้ยินข่างสารเรื่องการปล้นฆ่าแย่งชิง ต้มตุ๋น ลักขโมย ก่ออาชญากรรม ทุจริตคอรัปชั่น ให้เป็นข่าวเนื่อง

ให้ทราบไว้ว่า"นั่นเพราะคนในสังคมกำลังทำผิดศีลข้อนี้มากขึ้น"

ซึ่งต้องช่วยกันตรวจสอบและช่วยกันสกัดกั้น สร้างสังคมแห่งการดูแลช่วยเหลือ แบ่งปัน ซึ่งจะเป็นยาธรรม

ที่จะทำให้คนในสังคมได้รับการรักษาได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการให้ธรรมเป็นทาน หรือการสงเคราะห์ช่วยเหลือทางสังคม

การเป็นผู้ให้ของทุกคนที่มีจิตกุศลย่อมจะช่วยสังคมดีขึ้น เพราะชีวิตคนนั้น

ยังมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น เพราะเกิดมาเพื่อหาบุญสะสม ต้องขัดต้องฝึกจึงจะหลุดพ้นไป..

คนที่ทำผิดศีลข้อนี้ มองให้ถึง"สิ่งที่ไม่ควรเป็นผู้เบียดเบียนด้วยการไม่ไปยึดเอาของคนอื่นไปเป็นของตน"

ด้วยการลัด ปล้น ยักยอกเอา แต่หากใช้วิธีการ"ขอให้ช่วย ขอให้สงเคราะห์"ตามวิถีสังคม



ผู้เขียนเชื่อว่า"เมตตาจิตในมนุษย์ทุกชาติทุกภาษา"มีแน่นอนครับ..



สัณฑพงศ์  โสไกร (น.นิรนาม) ประธานชมรมประชาอาสากรุงเทพมหานคร ๗ ส.ค.๕๕
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-5 12:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด



แค่เขาทำเขิน (หน้าแดง) ก็คิดเกินไปใหญ่



4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-6 07:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
"ต้องซื่อตรงในการเรียนรู้ตัวเอง มีกิเลสก็มีซิ
ไม่ใช่ต้องมารยาว่าไม่มีกิเลส

ฉะนั้น... ครูบาอาจารย์ท่านใช้คำไว้คำหนึ่งนะ
ค่อนข้างไม่สุภาพ แต่เป็นภาษาของคนโบราณ
ท่านพูดว่า..



"นั่งทับขี้อยู่ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้"

คือทำเป็นไม่เปื้อนอะไร ไม่เลอะอะไร ทำหน้าตาเฉยๆ
แต่เหมือนนั่งทับกิเลสอยู่ จมกิเลสอยู่


ถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างนั้น เมื่อไหร่มันจะพ้น

เมื่อไหร่มันจะสะอาด

ฉะนั้น.. สกปรกอยู่ ให้รู้ว่าสกปรกไปเลย
จะได้หาทางผ่านพ้นมันไปให้ได้"




5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-8 06:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Metha ตอบกลับเมื่อ 2017-5-7 12:54
จีบผู้สาว มันต้องมมีสเปกอยู่ติ..
ชัวโมงนี่ ไผกะได...

อ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ไหน เคยเห็นเสี่ย..พูดว่า เห็นหน้าพี่อย่างนี้ พี่ก็เลือกนะ


หรือว่า..วันนี้เปลี่ยนใจ แว้ว.ววววว


จับไม่มีหาง ลูกใคร เมียใคร พ่อฟาดเรียบ กระนั้น รึ..!!!!!!!


ท่านเมธาวิน  


6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-11 08:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-11 08:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Metha ตอบกลับเมื่อ 2017-5-9 10:25
มันต้องสเปก อยู่ติ


8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-12 06:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด


9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-12 06:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด




10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-16 06:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มีสำนวนไทยที่ว่า "ไม่รู้จักกาละเทศะ"


ที่เป็นคำตำหนิความหงี่เง้าของคนบางคนที่ไม่รู้ว่า


อะไรเหมาะสมในการกระทำบางอย่างในเรื่องของเวลาและสถานที่


"กาละ" แปลว่า เวลา และ "เทศะ" หมายถึง สถานที่


สำนวน "ไม่รู้จักกาละเทศะ" ใช้ได้กับหลายเรื่อง


ตั้งแต่ การวางตัว การแต่งตัว การพูดจาปราศรัย


ที่จะต้องเหมาะกับเวลาและสถานที่ คือเราต้องรู้ว่า


เวลาไหนเราทำอะไรได้ไม่ได้ หรือ สถานไหน


ควรทำตัวสุภาพเรียบร้อยสงบเสงี่ยม ไม่พูดจาเอะอะมะเทิ่ง


หรือที่ไหน ควรให้ความเคารพ เช่นในสถานที่สำคัญๆ


รวมทั้งสถานที่ที่ไม่ใช่ของเราคนเดียว ฯลฯ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้