ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

๐oOแรกพบประสบพักตร์Oo๐

[คัดลอกลิงก์]
1#
โพสต์ 2019-5-8 20:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2019-5-11 05:03



“เดี๋ยวครุฑก็บินหรอก”
หลวงปู่ชื่นเสกครุฑบิน


เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดที่ วัดแห่งหนึ่งใน กทม.


ปี 43 หลวงปู่ชื่น ท่านได้มาจำพรรษาอยู่วัดแห่งหนึ่งใน กทม.   หลวงปู่ชื่นท่านก็เมตตาต้อนรับสงเคราะห์ศิษย์ ตามแบบอย่างที่พระเกจิทั่วไปเขาปฏิบัติกัน วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีชายคนหนึ่งสักอักขระยันต์เต็มตัว ทราบชื่อต่อมาภายหลังว่า ชื่อ พี่เสือ ได้นำวัตถุมงคลจากสำนักต่างๆ ใส่พานมาให้ หลวงปู่ชื่น ท่านปลุกเสกบรรจุอิทธิคุณเพิ่ม หนึ่งในวัตถุมงคลดังกล่าว มีกล่องที่ภายในบรรจุ “พระยาครุฑ” อยู่องค์หนึ่ง ขณะที่ หลวงปู่ชื่น ท่านบริกรรมพระเวทเพ่งกระแสจิตลงไปสถิตในวัตถุมงคลอยู่นั้น กล่องที่บรรจุ”พระยาครุฑ” อยู่ภายในได้มีการเคลื่อนไหวสั่นอย่างเห็นได้ชัด ประจักษ์แจ้งแก่สายตาทุกคู่ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ หลวงปู่ชื่น ท่านจึงหยุดบริกรรมพระเวท ชั่วครู่นึ่งและมองตาไปที่กล่องพร้อมกับพูดบอกเจ้าของวัตถุมงคลว่า “เดี๋ยวครุฑก็บินหรอก” ไม่รู้ว่าหลวงปู่ท่านทราบได้อย่างไรว่าภายในกล่องมีพระยาครุฑอยู่ “พี่เสือ” ก็ใช่ย่อย บอก หลวงปู่เสกให้เต็มที่เลยครับ! หลวงปู่ชื่น ท่าน มองหน้าก่อนที่จะหลับตาบริกรรมพระเวท ส่งกระแสจิตลงกองวัตถุมงคลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนต้องตกตะลึง! เมื่อโสตประสาทของทุกท่านได้ยินเหมือนเสียง วัตถุอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น “พุ่งเสียดสีอากาศ”


ออกจากกองวัตถุมงคล เสียงพุ่งขึ้นหายไปในท้องฟ้า เมื่อ หลวงปู่ชื่น ท่านถอดจิต ออกจากกองวัตถุมงคล “พี่เสือ” ได้หยิบวัตถุมงคลออกจากพาน พร้อมกับได้เปิดกล่อง “พระยาครุฑ” ปรากฏว่าภายในกล่องมีแต่ความว่างเปล่า ไร้เงาพระยาครุฑ “พี่เสือ” ถึงกับหน้าถอดสีออกอาการไม่สู้ดีนัก จึงได้กราบขอขมา หลวงปู่ชื่นที่กล่าววาจาท้าท้ายท่านพร้อมกับน้ำตาเสือที่รินไหล เพราะ”พระยาครุฑ” องค์นี้ “พี่เสือ” แกรักของแกมาก เป็นของเก่าเป็นมรดกตกทอด เมื่อ หลวงปู่ชื่น เห็นเช่นนั้น ท่านก็รับปากว่า “จะขึ้นไปต่อรองกับเขาให้” คืนนั้นท่านจึง งดรับแขก ให้ญาติโยมที่มากลับกันไปก่อน หลังจากนั้นท่านให้หาพานทองมา 1 ใบ พร้อมกับดอกมะลิมาโรยลงในพานโดย หลวงปู่ชื่น ท่านนั่งสมาธิร่างกายไม่ไหวติง จากเวลา 21.00 น. ร่วงระยะเวลาจนมาถึง 04.00 น. คนที่นอนอยู่ร่วมห้องกับหลวงปู่ชื่น ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกลงมาที่พานพร้อมกับได้ยินเสียงหลวงปู่ว่า.....


“ยี้มาแล้วๆ”  


สักครู่ หลวงปูชื่น ก็เดินออกมา พร้อมกับบอกให้โทรไปบอก “พี่เสือ” ว่าได้ “พระยาครุฑ” กลับมาแล้ว เมื่อ “พี่เสือ” ได้รับโทรศัพท์ก็รีบบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปวัด ในเวลานั้นเช่นกัน เมื่อได้กราบหลวงปู่อย่างงามๆ 3 ครั้ง หลวงปู่ได้ยื่น “พระยาครุฑ”ส่งให้ หลังจากนั้น หลวงปู่ชื่น และ พี่เสือ ได้สนทนากันได้ใจความว่า “พระยาครุฑ”


องค์นี้เก็บรักษาไว้ดีๆนะเขาทำพิธีมาดี “พี่เสือ” จึงได้เรียนถามหลวงปู่ว่า “ทำไม? พระยาครุฑจึงบินหนีไปละครับ?”


หลวงปู่ชื่น ท่านบอกว่า “พระยาครุฑ”เป็นของสูง เวลาทำพิธีควรแยกต่างหาก” เรื่องที่เล่ามานี้สามารถ ยืนยันถึงพลังจิตตานุภาพของหลวงปู่ชื่น ได้เป็นอย่างดี


บทความผลงานการเขียนของ อ.สรายุทธ
2#
โพสต์ 2019-5-8 20:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2019-5-11 05:03

ใบไม้แห่งชัยชนะ

เรื่องนี้คณะครูโรงเรียนบ้านตาอี และ อ.บ.ต.ตึ๋ง เป็นพยานบุคคลเรื่องมีอยู่ว่า..เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านตาอีจะเดินทางไปแข่งขันกีฬาฟุตบอลโรงเรียนประจำจังหวัด คณะครูที่คุมทีมได้พานักกีฬาเดินทางมากราบขอพรชัยจาก หลวงปู่ชื่น ท่านได้ให้นักกีฬาทุกคนลงไปเก็บ “ยอดใบไม้” มาคนละใบ เมื่อเก็บใบไม้เป็นที่เรียบร้อยครบทุกคนแล้ว ได้นำใบไม้มาถวายท่าน หลวงปู่ชื่น ท่านรับใบไม้แล้วนำไปใส่พานอธิฐานจิต บริกรรมพระเวทอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะมอบใบไม้ให้เด็กติดตัว เวลาแข่งขัน ท่านบอกให้เอาใบไม้ทัดหู แต่เด็กกลัวใบไม้จะหล่น จึงเอาหนังยางมามัดใบไม้ใส่กับเสื้อ และแล้ววันแข่งขันจริงมาถึงขึ้น “ยอดใบไม้อาคม” ของหลวงปู่ชื่น ได้สำแดงเดช พานักกีฬาชนะทุกรอบจนสามารถทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ คุณครู ท่านหนึ่งบอกว่า...ไม่น่าเชื่อนักกีฬาฟุตบอลทุกคนเล่นบอลไม่ค่อยเก่ง แข่งขันครั้งใดดูเป็นรองทุกครั้งไป แต่ก็สามารถเอาชนะมาได้ตลอดแปลกมากๆเรียกว่ามาถึงจุดนี้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว  ดังนั้นรอบชิงชนะเลิศ จะชนะ หรือ แพ้ก็ไม่เสียใจ และวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเป็นวันที่นักกีฬาโนเนมม้ามืดที่โดนดูถูกดูแคลนทุกครั้งที่ลงแข่งขัน ซ้ำยังโดนสบปรามาสว่าที่ทะลุเข้ามาถึงรอบชิงเพราะโชคช่วย(ความจริงหลวงปู่ชื่นช่วย) ก่อนจะเดินทางไปแข่งขัน คณะครูที่คุมทีมได้พานักกีฬามาขอพร ให้หลวงปู่ชื่น รดน้ำมนต์ให้เพื่อความเป็นสิริมคล ท่านยังพูดกระเช้าเด็กๆ ว่า “เอาถ้วยรางวัลมาให้หลวงปู่ดูหน่อยนะ...!!!”

“ยอดใบไม้อาคม” ของหลวงปู่ชื่น จะสำแดงเดชอีกหรือไม่? นักกีฬาโรงเรียนบ้านตาอี จะได้เป็นแชมป์หรือเปล่า? จะแพ้หรือชนะ?เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป
นักกีฬาคู่แข่งขันก็เป็นแชมป์ประจำจังหวัดมาหลายสมัย เรียกว่า “แชมป์ผูกขาด” ก็ว่าได้ ไอ้เรา... รือ!! ก็นักเตะบ้านนอกที่นักกีฬาในทีมบางคนยังเตะบอลผิดๆถูกๆเมื่อวิถีโคจรมาเจอ “แชมป์เก่า”  ก็ต้องสู้ถวายหัวประกาศเพลงเตะโรงเรียนบ้านตาอีให้จังหวัดบุรีรัมย์ “ตะลึง” เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่โรงเรียนบ้านตาอี คณะครูหลายๆท่านปากก็บอกว่า ถึงจะแพ้ก็ไม่เสียใจ เพราะมาไกลเกินฝันที่คาดไว้แล้ว แต่ในใจซิมันก็ยังมีความหวังอยู่ลึกๆอยากให้เด็กเป็นแชมป์ เฝ้าแต่ภาวนาทุกครั้งขอให้ “ใบไม้อาคม” ของ หลวงปู่ชื่น แสดงอิทธิฤทธิ์อีกสักครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย ขอบารมีหลวงปู่ชื่น จงมาโปรดลูกๆด้วยเทอญ ผลการแข่งขันในวันนั้น...นักเตะโรงเรียนบ้านตาอี มี “ชัยชนะ” โค่นแชมป์เก่าลงอย่างราบคาบ ประกาศศักดาลบคำปรามาส นำถ้วยเกียรติยศและความภาคภูมิใจสู่โรงเรียนบ้านตาอี คณะคุณครูที่คุมทีมไม่ต้องพูดถึงดีใจกระโดดกอดกันจนน้ำตาไหลพราก นักกีฬาทุกคนนำใบไม้ใส่มือพนมเทิดไว้เหนือหัว “ใบไม้แห่งชัยชนะ ใบไม้อาคม ใบไม้แห่งเกียรติยศ” สำหรับใบไม้อาคมเคยขอร้องให้ท่านทำให้ หลวงปู่ชื่น ท่านบอกว่า ถ้าจะให้ดีต้องเอาใบไม้ที่เวลาลมหมุน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ลมบ้าหมู หอบเอาใบไม้ขึ้นไป”  ถ้าเห็นให้วิ่งเข้าไปใช้ปากคาบใบไม้มา ถ้าเอาได้นำมาให้ หลวงปู่ชื่น ท่านจะทำให้ ทำเป็นตะกรุดอีกที่หนึ่ง ท่านว่ามีฤทธิ์เท่าหนุมาน แต่จนแล้วจนรอดก็คาบไม่เคยได้ซักที คิดถึงทีไรเสียดายทุกที


มนต์มหาสะกดจินดามณี


เรื่องนี้ขอเล่าบูชาคุณครูอีกสักเรื่อง เพื่อที่จะยืนยันถึงพลังจิตอันแก่กล้าพร้อมพลังเวทมหัศจรรย์ของ หลวงปูชื่น เรื่องนี้ อ.บ.ต. ตึ๋ง เป็นคนเล่าให้ฟังครับ ครั้งหนึ่ง อ.บ.ต.. ตึ๋ง ต้องการ ไก่ป่าที่อาศัยอยู่ในวัดนำไปเลี้ยง เพื่อนำไปผสมพันธ์ อนุรักษ์สัตว์ป่าไว้ จึงได้เตรียมอุปกรณ์จับไก่ป่าติดมือไปด้วย เมื่อเดินทางมาถึงวัดตาอี ได้เข้าไปขออนุญาต หลวงปู่ชื่น พร้อมกับชี้แจงว่าจะนำไปอนุรักษ์ เพาะพันธ์ไว้ เมื่อหลวงปู่ชื่น ท่านทราบเหตุผล ท่านถามมาว่า “แล้วจะจับอย่างไร?” อ.บ.ต. ตึ๋ง บอกว่า “เอาแหมากาง แล้วช่วยกันวิ่งต้อนไก่เข้าแห”  หลวงปู่ชื่น ท่านหัวเราะใหญ่ ท่านนึกขำถึงวิธีจับไก่ป่า ของ อ.ต.บ. ตึ๋ง  สักครู่ ท่านจึงเดินลงมาจากกุฏิ พร้อมกับพูดบอก อ.บ.ต. ตึ๋ง ว่า “เองจะเอาตัวไหน?” อ.บ.ต. ตึ๋ง มองดูไก่ป่า พิจารณาอยู่พักหนึ่ง จึงชี้นิ้วไปยังไก่ป่าตัวหนึ่ง หลวงปู่ชื่น ถามกำชับเพื่อความแน่ใจเป็นครั้งสุดท้าย “เอาตัวนี้แน่นะ” ครับ...หลวงปู่ อ.บ.ต. ตึ๋ง ตอบ หลวงปู่ชื่น ท่านยืนสงบนิ่ง เพ่งสายตาไปทีไก่ป่า ซักครู่ไก่ป่าตัวนั้นได้เดินมาหา หลวงปู่ชื่น ท่านก็ก้มตัวลงจับไก่ป่าตัวนั้นส่งมอบให้ อ.บ.ต. ตึ๋ง ท่านได้กล่าวกำชับว่า “อย่าฆ่ามันนะ” หลังจากส่งไก่ให้ อ.บ.ต. ตึ๋ง แล้ว สักพักก็มีตะกวดเดิน เข้ามาหา หลวงปู่ชื่น มาเคลียคลอที่เท้าท่าน อาการเดียวกับไก่ป่าไม่มีผิด อ.บ.ต. ตึ๋ง ยังแซวหลวงปู่ชื่น ว่าตัวนี้ผมไม่ได้เอานะครับ สงสัยมันคงโดนลูกหลง หลวงปู่ชื่น ท่านหัวเราะชอบใจใหญ่


เรื่องพลังจิตตานุภาพ ของ หลวงปู่ชื่น ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องนัก เอาไว้ถ้ามีโอกาสจะนำเสนอ ให้อ่านเป็นลำดับต่อไปครับ คราวนี้วกมาเรื่อง “ขุนแผนชมตลาด” อีกหนึ่งของดีที่หลวงปู่ชื่น ท่านได้แผ่พลังจิตสถิตมหาเวทมหามนต์ไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานได้ครอบครอง วัตถุมงคลของท่านแทบทุกชนิด จะมีเทพเทวารักษาอยู่ ผู้มีความสามารถสำเร็จทางจิตหลายท่านนำวัตถุมงคลของท่านไปตรวจสอบ หลายท่านยืนยันตรงกันอย่างน่าอัศจรรย์ว่า อิทธิวัตถุมงคลที่หลวงปู่ชื่น อธิฐานจิตบรรจุมหาเวทมหามนต์ว่า “มีเทวดาที่เป็นบริวารพระสยามเทวาธิราชรักษาอยู่มีรัศมีสีทอง ใส่ชฎา ทรงพระขรรค์มีอิทธิฤทธิ์บารมีสูง ควรบูชาไว้ในที่สูง” ที่บอกกล่าวใช่ว่าจะชี้นำหรือชักชวนให้เชื่อ โปรดใช้วิจารณญาณ เพราะเรื่องของทางจิต เป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่สามารถหาหลักฐานมาหักล้างหรือจับต้องได้ ถ้าอยากทราบ คุณต้องฝึกสมาธิเอาจิตเข้าไปดูกันเอาเองครับ เห็นว่ามันแปลกเพราะเมื่อตรวจสอบแล้วพูดตรงกัน ปกติแล้วพระปฏิมาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่น ทุกชนิด ท่านจะบรรจุด้วยมนต์อาถรรพณ์ราชาธิราช หรือ  อาถรรพณ์มหาจักรพรรดิ์ เป็นสายพระเวทที่สืบทอดมาจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พระองค์ใช้สวดบูชาเป็นประจำ ทำให้พระองค์มีชัยชนะไปทั่วสารทิศ ศัตรูที่คิดร้ายจะแพ้ภัยไปเอง และอีกบทที่เกี่ยวกับเทวดา คือ มนต์เทวา 4 ทิศครับ ท่านว่า เดินทางไปทิศไหน เทวดาที่ประจำทิศนั้นจะมาปกปักษ์ดูแลรักษา วัตถุมงคลของท่านมักจะบอกเสมอว่าให้เก็บไว้ในที่สูง วันพระควรถวายดอกมะลิหรือซื้อน้ำหอมมาฉีดถวาย ถ้าศิษย์หลายท่านที่เคยไปกราบท่านที่วัดในกุฏิท่าน ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นขวดน้ำหอม ซึ่งท่านจะฉีดวัตถุมงคล ศิษย์หลายท่านคงทราบดี “ขุนแผนชมตลาด” เท่าที่ผมจำได้ ท่านเคยบอกว่า “ดีทางเขาสังคม เด่นสง่ากว่าเขา” เคยมีศิษย์จากกรุงเทพ เดินทางไปหาท่านไปร่วมทำบุญสร้างอุโบสถกับหลวงปูชื่น ก่อนจะลากลับ หลวงปู่ชื่น ท่านได้มอบ “ขุนแผนชมตลาด” ให้ไป ศิษย์ท่านดังกล่าวได้ถามหลวงปู่ชื่นว่า “ดีอย่างไร?” หลวงปู่ชื่นบอกว่า “พรุ่งนี้เองลองพกไปตลาดดู” เมื่อเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ รุ่งเช้าก็ลองพกพระติดตัวไปซื้อของที่ร้านไหน แม่ค้าก็แถมของให้เป็นพิเศษ แต่ที่แปลกคือ เวลาซื้อของ แม่ค้าจะทอนเงินผิดแทบทุกร้าน “พระขุนแผนชมตลาด”ชุดนี้ท่านเสกจนต้นไม้ข้างกุฏิโค่นลงมาเลยครับ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ต้องลองเอาไปใช้ดูครับ เพราะคืนนั้นผมไปนอนกับท่านที่กุฏิจึงได้เห็นเหตุการณ์แต่เรื่องบางอย่างพูดมากไปก็ไม่ดี เรื่องบางเรื่องมัน “เหนือคำบรรยาย”เป็นเรื่องยากที่จะบอกกล่าว เรื่องของจิตเรื่องของพระเวทย์หรือพุทธศาสนาเป็นเรื่องของการปฏิบัติ และค้นคว้าถึงจะบรรลุเป้าหมาย  ประเภทปฏิบัติแต่ไม่ยอมค้นคว้าศึกษา หรือ ศึกษาค้นคว้า แต่ไม่ได้ปฏิบัติ มันจะมีประโยชน์อะไรจริงมั๊ยครับ


บทความผลงานการเขียนของ อ.สรายุทธ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้