Baan Jompra

ชื่อกระทู้: "ไอ้นาย มึงอย่าประมาท" [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2016-10-14 16:33
ชื่อกระทู้: "ไอ้นาย มึงอย่าประมาท"


มึงก็รู้อยู่แล้ว..ว่าความตายเป็นของธรรมดา ก็รู้อยู่แล้ว..เน้อ
ญาติโยมพี่น้องที่มาจากใกล้ไกล อย่ามาร้องไห้ ร้องไปก็ไม่ได้คืน
ให้ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามๆกันไปเถอะ

อย่าได้นั่งร้องไห้พิรี้พิไร คนร้องตามกู ก็ตาย ไม่อยู่ไปได้แค่ไหนดอก
อยู่ไปได้ไม่พอ 100 ปี 1,000 ปี เดี๋ยวก็ตายแบบกู
  
มาร้องไห้ตามกู ก็ไม่มีโอกาสได้ฟื้นมาคุยกับพวกมึงดอก
ให้พวกมึงสร้างคุณงามความดี เอาอย่างกูนี่..เน้อ
ทำไม่ได้ก็ให้พยายามรักษาศีล 5 ศีล 8 ไปเถอะ
จะได้เป็นพาหนะขับขี่ไปในทางทุรกันดาร”



มึงจะมาร้องห่ม ร้องให้ มากราบมาไหว้
ศพกู กูก็ไม่ฟื้นดอก กูเอาร่างกายกูให้คน
อื่นเขาไปเรียน ไปศึกษาดีกว่า"






ขอให้พวกมึง คิดแต่ในสิ่งที่ดี ทำ
แต่ในสิ่งที่ดี พูดแต่ในสิ่งที่ดี บาปมีจริง
บุญมีจริง มึงรู้แค่นี้ก็มากพอแล้ว


บางที หลวงพ่อท่านเจิมรถไป
แสดงธรรมะไป "ไอ้นาย มึงอย่าประมาท"
มึงประมาท มึงตาย กูช่วยมึงไม่ได้ดอก


ทำนองว่า ให้แก้ที่ตัวมึง ไม่ใช่มาแก้ที่กู

ท่านเคยเล่าอย่างมีอารมณ์ขันว่า คราวหนึ่ง
รถยุโรปชั้นเยี่ยมที่สุด พาท่านไปกิจนิมนต์
เกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงระหว่างทาง "กูยัง
นอนกลิ้งโคโร่ เป็นลูกมะพร้าวร้องเรียก
ให้คนช่วยลั่นถนนเลย"

กูเองยังช่วยตัวกูไม่ได้เล้ย

เล่นเอาผู้คนที่นั่งล้อมหลวงพ่อ
อยู่หัวร่อกันลั่น แต่ผู้คนกลับไปตีความ และ
เชื่อกันว่า เพราะหลวงพ่อมีดี มีของดี เจ๋งจริง
จึงไม่เป็นอะไร ไม่บาดเจ็บอะไร แคล้วคลาด
ปลอดภัย


แทนที่ คนจะเสื่อมศรัทธา กลับกลาย
เป็นว่า ผู้คนศรัทธาหลวงพ่อ หนักเข้าไปอีก


บางที หลวงพ่อท่านเหยียบโฉนดที่ดิน
ที่มีผู้นำไปให้หลวงพ่อเหยียบ แสดงธรรมไป

"มึงอย่าขายแพงซิ ขายแพงแล้วใครเขา
จะซื้อของมึง"



ท่านนั่งดู ทีมงานฝังตะกรุดไป แสดงธรรมไป

" มึงอย่าไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แช่ง
ด่ากับคนอื่นซี ลูกหลานเอ้ย จะได้ไม่ต้องมา
หากู มาเจ็บเนื้อเจ็บตัวเปล่า ๆ"



อะไรที่เกิดแต่เหตุ ให้แก้ไขที่ต้นเหตุนั้น
นี่เป็นพระพุทธพจน์ ที่ทำให้มานพหนุ่มน้อย ออกบวชนะนี่
ท่านรู้จัก พระโมคคัลลา
พระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องซ้าย
เบื้องขวา ของพระพุทธองค์ใหม ?


หลวงพ่อไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นของส่วนตัว อย่างที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า
"กูเป็นคนจนที่สุดในโลก"

และหยั่งที่ผมเคยเล่าให้ฟังถึง
สภาพห้องนอนของหลวงพ่อ ไป ๒-๓ ครั้ง
แล้ว ก่อนหน้านี้ ถึงกับเคยทำบาปปรามาส
ท่านในใจว่า ท่านยากจนข้นแค้นเสียจริง ๆ


ไม่เหมือนกับพระเถระหลาย ๆ องค์ที่ทำตน
เป็นหลวงเสี่ย บางองค์คุยโม้โอ้อวดว่าฉัน
มีเงินหลายร้อยล้าน เพราะญาติโยมเขา
ถวายฉันเป็นการส่วนตัว (แถมไปคุยในห้อง
สปาซะด้วย) โดยไม่มีสติยั้งคิดเลยว่า นั่น
มันโชว์ "ความไม่เป็นพระ" ให้โลกรู้ น่าสังเวช
มากกว่าน่ายกย่องนับถือ ศรัทธา กราบไหว้

พระต้องไม่รวย ผู้ที่รวยไม่ใช่พระ


รูปียะ(เงินตรา) และมาตุคาม(สตรี) นั้น เป็นงู

พิษสำหรับนักบวช เป็นข้าศึกแห่งพรหมจรรย์
ยังจะมีน้ำหน้ามาคุย มาโพทนาให้ชาวโลก
เขารู้อีก ผู้คนสมัยนี้มีนิสัยที่ "เก้อ-ยาก"


เสียนี่กระไร มิน่า ถึงกลัวกฏหมายตรวจสอบ
ทรัพย์สินของพระ กันให้ตัวสั่น งันงก สะทก
สะท้านเป็นเปรตเข้าสิงกันตาม ๆ กัน


เงินที่หลวงพ่อ มอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์
นั้น มีผู้ประเมินไว้ว่า มากกว่า ๕ พันล้านบาท
นั่นก็หมายถึงว่า ท่านได้รับการถวายเงิน
มากกว่าหมื่นล้านบาท


เพราะทุก ๆ ครั้งที่มี

ผู้ถวายเงิน ท่านจะรับไว้เพียงครึ่งเดียว จน
มีคนใกล้ชิดด่าท่าน ว่า" โง่" ทำให้ท่านถึง
กับไล่ออกจากวัด มิให้มายุ่งเกี่ยวอีกต่อไป
และไม่ให้เข้ามาในรั้ววัดบ้านไร่


https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid
=844874328929726&id=100002214995765


โดย: Metha    เวลา: 2016-10-31 22:03

โดย: Ninprakarn    เวลา: 2017-10-21 04:23

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-8-17 07:09
"ไอ้นาย มึงอย่าประมาท"
มึงประมาท มึงตาย กูช่วยมึงไม่ได้ดอก



โดย: Metha    เวลา: 2019-9-5 17:31

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-11-29 06:48


มึงก็รู้อยู่แล้ว..ว่าความตายเป็นของธรรมดา ก็รู้อยู่แล้ว..เน้อ
ญาติโยมพี่น้องที่มาจากใกล้ไกล อย่ามาร้องไห้ ร้องไปก็ไม่ได้คืน
ให้ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามๆกันไปเถอะ

อย่าได้นั่งร้องไห้พิรี้พิไร คนร้องตามกู ก็ตาย ไม่อยู่ไปได้แค่ไหนดอก
อยู่ไปได้ไม่พอ 100 ปี 1,000 ปี เดี๋ยวก็ตายแบบกู
  
มาร้องไห้ตามกู ก็ไม่มีโอกาสได้ฟื้นมาคุยกับพวกมึงดอก
ให้พวกมึงสร้างคุณงามความดี เอาอย่างกูนี่..เน้อ
ทำไม่ได้ก็ให้พยายามรักษาศีล 5 ศีล 8 ไปเถอะ
จะได้เป็นพาหนะขับขี่ไปในทางทุรกันดาร”



มึงจะมาร้องห่ม ร้องให้ มากราบมาไหว้
ศพกู กูก็ไม่ฟื้นดอก กูเอาร่างกายกูให้คน
อื่นเขาไปเรียน ไปศึกษาดีกว่า"






ขอให้พวกมึง คิดแต่ในสิ่งที่ดี ทำ
แต่ในสิ่งที่ดี พูดแต่ในสิ่งที่ดี บาปมีจริง
บุญมีจริง มึงรู้แค่นี้ก็มากพอแล้ว


บางที หลวงพ่อท่านเจิมรถไป
แสดงธรรมะไป "ไอ้นาย มึงอย่าประมาท"
มึงประมาท มึงตาย กูช่วยมึงไม่ได้ดอก


ทำนองว่า ให้แก้ที่ตัวมึง ไม่ใช่มาแก้ที่กู

ท่านเคยเล่าอย่างมีอารมณ์ขันว่า คราวหนึ่ง
รถยุโรปชั้นเยี่ยมที่สุด พาท่านไปกิจนิมนต์
เกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงระหว่างทาง "กูยัง
นอนกลิ้งโคโร่ เป็นลูกมะพร้าวร้องเรียก
ให้คนช่วยลั่นถนนเลย"

กูเองยังช่วยตัวกูไม่ได้เล้ย

เล่นเอาผู้คนที่นั่งล้อมหลวงพ่อ
อยู่หัวร่อกันลั่น แต่ผู้คนกลับไปตีความ และ
เชื่อกันว่า เพราะหลวงพ่อมีดี มีของดี เจ๋งจริง
จึงไม่เป็นอะไร ไม่บาดเจ็บอะไร แคล้วคลาด
ปลอดภัย


แทนที่ คนจะเสื่อมศรัทธา กลับกลาย
เป็นว่า ผู้คนศรัทธาหลวงพ่อ หนักเข้าไปอีก


บางที หลวงพ่อท่านเหยียบโฉนดที่ดิน
ที่มีผู้นำไปให้หลวงพ่อเหยียบ แสดงธรรมไป

"มึงอย่าขายแพงซิ ขายแพงแล้วใครเขา
จะซื้อของมึง"



ท่านนั่งดู ทีมงานฝังตะกรุดไป แสดงธรรมไป

" มึงอย่าไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แช่ง
ด่ากับคนอื่นซี ลูกหลานเอ้ย จะได้ไม่ต้องมา
หากู มาเจ็บเนื้อเจ็บตัวเปล่า ๆ"



อะไรที่เกิดแต่เหตุ ให้แก้ไขที่ต้นเหตุนั้น
นี่เป็นพระพุทธพจน์ ที่ทำให้มานพหนุ่มน้อย ออกบวชนะนี่
ท่านรู้จัก พระโมคคัลลา
พระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องซ้าย
เบื้องขวา ของพระพุทธองค์ใหม ?


หลวงพ่อไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นของส่วนตัว อย่างที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า
"กูเป็นคนจนที่สุดในโลก"

และหยั่งที่ผมเคยเล่าให้ฟังถึง
สภาพห้องนอนของหลวงพ่อ ไป ๒-๓ ครั้ง
แล้ว ก่อนหน้านี้ ถึงกับเคยทำบาปปรามาส
ท่านในใจว่า ท่านยากจนข้นแค้นเสียจริง ๆ


ไม่เหมือนกับพระเถระหลาย ๆ องค์ที่ทำตน
เป็นหลวงเสี่ย บางองค์คุยโม้โอ้อวดว่าฉัน
มีเงินหลายร้อยล้าน เพราะญาติโยมเขา
ถวายฉันเป็นการส่วนตัว (แถมไปคุยในห้อง
สปาซะด้วย) โดยไม่มีสติยั้งคิดเลยว่า นั่น
มันโชว์ "ความไม่เป็นพระ" ให้โลกรู้ น่าสังเวช
มากกว่าน่ายกย่องนับถือ ศรัทธา กราบไหว้

พระต้องไม่รวย ผู้ที่รวยไม่ใช่พระ


รูปียะ(เงินตรา) และมาตุคาม(สตรี) นั้น เป็นงู

พิษสำหรับนักบวช เป็นข้าศึกแห่งพรหมจรรย์
ยังจะมีน้ำหน้ามาคุย มาโพทนาให้ชาวโลก
เขารู้อีก ผู้คนสมัยนี้มีนิสัยที่ "เก้อ-ยาก"


เสียนี่กระไร มิน่า ถึงกลัวกฏหมายตรวจสอบ
ทรัพย์สินของพระ กันให้ตัวสั่น งันงก สะทก
สะท้านเป็นเปรตเข้าสิงกันตาม ๆ กัน


เงินที่หลวงพ่อ มอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์
นั้น มีผู้ประเมินไว้ว่า มากกว่า ๕ พันล้านบาท
นั่นก็หมายถึงว่า ท่านได้รับการถวายเงิน
มากกว่าหมื่นล้านบาท


เพราะทุก ๆ ครั้งที่มี

ผู้ถวายเงิน ท่านจะรับไว้เพียงครึ่งเดียว จน
มีคนใกล้ชิดด่าท่าน ว่า" โง่" ทำให้ท่านถึง
กับไล่ออกจากวัด มิให้มายุ่งเกี่ยวอีกต่อไป
และไม่ให้เข้ามาในรั้ววัดบ้านไร่


https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid
=844874328929726&id=100002214995765





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2