Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ด้วยรักและศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น [สั่งพิมพ์]

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 17:25
ชื่อกระทู้: ด้วยรักและศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น
ในวงการของผู้สร้างพระเครื่อง  ที่ สร้างพระแล้วทำออกมา  ด้วยตวามศรัทธาและตั้งใจจริงก็ยังพอมี   แต่ก็มีอีกหลายแห่งทำเพื่อธุระกิจอย่างเดียว  ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้เงิน มา   ส่วนพระผู้ปลุกเสกจะเป็นอย่างไรก็ช่าง    บอกทำออกมา  300องค์  แต่ที่จริงแล้วมีเป็น 1000  พอของหมดก็สามารถทำออกมาใหม่ได้  ก็บล็อค แม่พิมท์ยังอยู่นี่   พอมีคนหา  ก็ไปทำเพิ่มมา ไม่รู้จักจบ  มวลสารก้ไม่รู้ทำมาจากอะไร  ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว  โฆษณาว่าทำ มาจากสิ่งนั้น  สิ่งนี้  เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดศรัทธา  แต่จริงๆก็ไม่ ใช่  กลายเป้นของหาง่ายๆตามท้องตลาดทั่วๆไป  มาทำเป็นมวลสาร  แค่หาพระ เก่งๆ  มาปลุกเสกให้ก็พอ  ขายได้ล่ะ   ของบางอย่างจำพวก  แม่เป๋อ  อิ้นคู่  ม้าเสพนาง  ช้างเสพกัน งั่งตาแดง  ของประเภทนี้  ตามกฎของสงฆ์เขาห้ามไม่ให้  พระไปปลุกเสกให้   ก็ยังอุตสาห์แอบใส่่ไว้ใต้ลัง  ไม่ให้พระรู้ก้มี  แล้วตอนทำพิธีก็เอารูป ภาพ  มาไว้ด้านหน้ากล่องบังพระไว้  ถ่ายจิ๊ดเดียวรีบเก็บรูป แล้วรีบเอาออกไปกลัวพระจะรู้  ทำเสดถวายเงิน  เก็บของกลับเลย  ขอเพียงให้ ได้เงิน  พระจะเสียชื่อยังไงก็ช่าง  ม่ายสนจ๋าย   ที่เล่ามาเพราะจำได้คับ  ท่านอาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่า  หลวงปู่ก็เคยเจอ ปัญหานี้เหมือนกัน  มาหลอกให้ท่านเสก  ท่านไม่รู้ก็เมตตาเสกให้ไปเต็ม ที่  ไปลงโฆษณา  หลวงปู่เก่งทางด้าน มหาเสน่ห์   คณะสงฆ์เห็นรูปเข้า  จะมาเล่นงานหลวงปู่เรา  อาจารย์ต้องรีบมา เคลียร์ให้  แทบไม่ทัน  ข้อสำคัญของที่เสกให้ไปคนดันไปใช้ดีอีก  ก็จิตของ ผู้อาราธนาไปใช้ปรุงแต่งขึ้นมาเอง   จากคำโฆษณาของสื่อและจิตที่ศรัทธาต่อองค์หลวงปู่  แต่แท้ที่จริงหลวงปู่ ท่านเป็นพระ  เก่งทางสายเมตตา  ท่านปลุกเสกพระเครื่อง  วัตถุมงคล  ให้กับ ลูกศิษย์และผู้ทีี่ศรัทธานำไปใช้  ท่านเน้นไปที่  ผู้นำไปใช้ต้องได้ผล  มี เมตตาต่อผู้พบเห็น   ใครเห็นก็เข้ามาให้ความช่วยเหลือเรา  ใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันได้ง่าย ขึ้น  มีแต่คนรัก   ไปไหนมาไหนใครๆก็เมตตาต่อเรา  ปราศจากศัตรู  ให้แคล้วคาดไม่ต้องเจอ กัน  ไม่เจ็บตัว  มีโชคลาภมั่งมีขึ้น  แบบที่ว่า ไม่มีให้อด  ส่วนที่ว่า เสน่ห์นั้นเป็นผลพลอยได้  จากความมีเมตตาต่อผู้พบเห็นเรา  แล้วเราก็ไปสาน ต่อ สนิทสนมเอง  ต่างหาก  คนเราทุกคนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว   ยิ่งทำตัวดี  วางตัวดี   ใครๆก็ให้ความรัก  ความเมตตาอยู่แล้วครับ  ที่กล่าวมาเพราะอยากให้พวกเราได้ คิด  และไตร่ตรองสักนิด   ไม่อยากให้เข้าใจหลวงปู่เราเป็นพระเก่งทางด้านเสน่ห์  แบบที่อาจารย์ฆราวาส บางท่านทำกัน  ท่านเป็นพระย่อมมีขอบเขตจำกัดครับ   บางคนที่เข้าไปหาแล้วพูดคุยเรื่องแบบนี้กับท่าน   ท่านยังบอกเลยว่า  "เราเป็นพระสงฆ์  จะไปปลุกเสกทำแบบนั้นได้อย่างไร"อยาก ให้น้องๆและผู้ที่ศรัทธาได้เข้าใจ  จิตเจตนาของหลวงปู่  ท่านให้ดี  จะได้ ไม่ไขว้เขว  อย่าเพิ่งเชื่อหากยังไม่ได้มาสัมผัส   พวกเราเหล่าศิษย์ ค.ศ.ช  ไม่อยากให้ชื่อเสียงของท่าน  ต้องด่างพร้อย   ทำเพื่อความรักและศรัทธาด้วยใจที่บริสุทธิ์  หากยังสงสัยมีข้อกังขา  หากมี เวลาก็ขอให้มาคุยกันและมาสัมผัส  ด้วยตัวท่านเองจะดีกว่าครับ  พวกเราเหล่า ค.ศ.ช  เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ  ที่ทำเพื่อบูชาต่อ  องค์หลวงปู่  ครูบาอาจารย์ เท่านั้น  หามีเจตนาแอบแฝงใดๆไม่  ไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น  มาด้วยใจ กันเท่านั้นครับ  ขอขอบคุณทุกท่านๆที่  กรุณาอ่านมาจนถึงตรงนี้  หากคำใดหรือ ประโยคใดๆก็ตาม  ไปสร้างความขุ่นข้องหมองใจ  ขัดผลประโยชน์ใครก็ขอ กราบขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยครับ  พวกเรามีจุดมุ่งหมายเดียวคือ  ทำเพื่อ บูชา  หลวงปู่ชื่น  ติคญาโน  เท่านั้นครั

[attach]1311[/attach]

By พี่ทัช (touch)


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 17:28
ในยุคปัจจุบัน  วงการพระเครื่อง  สายเสน่ห์เป็นอะไรที่  ขายง่าย  ออกตัวดี  ยิ่งในตลาดมีความต้องการที่สูง  ทั้งในประเทศ  และต่างประเทศก็เล่นหากันมาก  อีกทั้งหนุ่มๆบ้านเรา  ก็เสาะแสวงหา  พึ่งพาของพวกนี้กันมาก   เพียงมุ่งหวังให้ได้เคลมสาวๆ   เห็นเป็นของสนุกจนกลายเป็นค่านิยมไป   ลืมคิดถึงไปว่า  เป็นบาปกรรม  ข้อสำคัญ  ก็ดูถูกตัวเองอย่างเเรง  ไร้ซึ้งฝีมือ  ถึงต้องพึ่งของพวกนี้  
     หันไปมองสาวๆบ้านเรากันบ้าง   ก็แทบจะไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร  ก็พึ่งพาของพวกนี้  เพื่อผูกมัดใจชายเหมือนกัน  บางคนพลาดพลั้ง  ถึงขั้นตั้งท้องแล้วไปทำแท้ง   ยิ่งหนักกว่าฝ่ายชายไปอีก   หลวงปู่เคยเล่าให้  อาจารย์ฟังว่า "กว่าจะเกิดเป็นมนุษย์นั้น  ต้องสร้างสมบุญกันตั้งมากมาย  หลายต่อหลายชาติ  พอจะได้มาเกิด กลับโดนกระทำให้ไม่ได้มาเกิดซะงั้น  วิญญาณเด็กๆต้องเวียนว่ายอยู่อย่างนั้น   ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย  จึงลอยมารวมตัวกันมากมายด้วยความแค้น  ชิงชัง  ทำร้ายมนุษย์ที่ทำกับพวกเขาไว้  อย่างที่เราได้เห็นมาหลายคนแล้ว  ได้รับผลกรรมทันตาเห็นจริงๆ  ส่วนวิญญาณเด็กๆเหล่านั้น   ก็ยิ่งทำให้บาปกรรมเพิ่มพูลเข้าไปใหญ่  ท่านจึงหาวิธีช่วยให้วิญญาณเด็กๆที่มารวมตัวเหล่านั้น   เบาบางลง  ด้วยการสร้างกุมารขึ้นหลายต่อ  หลายรุ่น  และอัญเชิญมาร่วมทำบุญจะได้ไปเกิดใหม่ใน ภพภูมิ  ที่ดีขึ้น"  ท่านจึงสอนสั่งให้  พวกเราเลี้ยงกุมารของท่านให้ดี  หมั่นทำบุญสร้างกุศลให้พวกเขาอย่าได้ขาด  รักให้เหมือนลูกของเราเอง  ได้ฟังเรื่องราวจาก  ท่านอาจารย์แล้วจึงอยากมาแบ่งปันให้  น้องๆได้ทราบกันบางครับ  ไว้เป็นข้อคิดและเตือนตัวเอง  ว่าแล้วพี่ไปทำ  ความสะอาดห้องพระและหิ้งกุมารก่อนล่ะ  หวัดดีครับ


By พี่ทัช (touch)


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 17:33
..........หลังจากห่างหายไปเกือบ 1 ปี  ด้วยติดภาระกิจหน้าที่การงาน   ดีใจที่ได้กลับมารับใช้  หลวงปู่และอาจารย์อีกครั้งคับ  ช่วงเวลาที่ผ่านมาร่วม 3 ปี  ที่ได้รู้จักอาจารย์และศิษย์พี่ๆน้องๆ    เหล่า คศช  ยังให้ความรักและความศรัทธาใน  หลวงปู่ชื่น และอาจารย์ สรายุทธ  ไม่เสื่อมคลาย แบบนี้อดปลื้มใจไม่ได้จิงๆ  แม้ที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคมากมาย  ก็ยังร่วมกันฟันฝ่่ามาได้จนถึงทุกวันนี้   และยังมีพี่ๆน้องๆที่รักและศรัทธาใน องค์หลวงปู่เพิ่มเข้ามาใหม่ อีกมากมาย  ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกๆท่านนะคับ  ความศรัทธาคือ บ่อเกิดแห่งพลังอันศักดิ์สิทธิ์  ที่ผ่านมาเหล่า ศิษย์พี่  ศิษย์น้อง  ก็ยังรักกันเหนียวแน่น  ถึงแม้จะมีอุปสรรค  จากผู้ัไม่หวังดี  คอยยุแหย่  ให้ร้ายต่างๆนาๆ  ทั้งทางตรงและทางอ้อม  เราก็ยังรักและศรัทธาในตัวหลวงปู่ชื่นและอาจารย์ไม่เสื่อมคลาย  พวกเราเหล่า คศช และ บุคคลที่ได้เข้ามาใกล้ชิด  ย่อมพอจะเข้าใจว่าอะไรดีหรือไม่ดี  อย่างไหนเป็น  เพชร   อย่างไหนคือ ก้อนหิน  

      อยากให้ผู้ที่่ศรัทธาและผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่   ได้คิดและใช้วิจารณญาน  อย่าได้หลงเชื่อคำยุยง  ให้ร้ายป้ายสี  หากยังไม่ได้เข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง  หรือสอบถามให้ท่องแท้  ถึงที่มาที่ไปกันก่อน  ก็ไม่ควรหลงเชื่อ  อาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ  ด้วยยุคสมัยนี้  ในปัจจุบันคงหาได้น้อยมาก  กับวัตถุมงคลดีๆที่นำไปใช้แล้วได้ผล  เห็นผลเร็ว  กับผู้สร้างที่ใส่ใจและตั้งใจ  สรรสร้างวัตถุมงคลออกมา  ตั้งแต่มวลสารที่ใช้ได้ถูกต้องตามตำรา  และพิธีการณ์  ไม่ได้ทำแบบสุกเอาเผากิน

     ที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้  ผมและเหล่า คศช  ทุกท่าน  ได้ทราบกันดีถึงวัตถุมงคลที่ออกมาในยุคหลังๆ   แม้จะไม่ทันหลวงปู่  แต่ก็ใช้ได้ดีเสมือนหลวงปู่ท่านปลุกเสกเองกับมือ  หากไม่ดีจริงพวกเราคงไม่อยู่ร่วมกันมาถึงทุกวันนี้ นับวันมีแต่จะเพิ่มพูลขึ้น เข้มแข็งขึ้น มากขึ้นทุกวัน

     อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นๆ แล้วเราจะได้เห็นเองว่า อย่างไหนคือเพชร อย่างไหนเป็นเพียง ก้อนหินธรรมดา

    ขอขอบพระคุณอย่างสูง กับท่านอาจารย์และเหล่าศิษย์พี่ ศิษย์น้องทุกๆคน ที่ช่วยกันดูแล เวปฯ ในช่วงที่ผมไม่สามารถเข้ามาทำหน้าที่ ที่อาจารย์มอบมายให้ได้ครับ  กราบขอบพระคุณครั

By พี่ทัช (touch) 2013-1-4 19:53


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 17:40
ยามใดผมมีสุขผมก็จะนั่งซึมน้ำตาเพราะเป็นสุขที่หลวงปู่มอบให้ผม
......................................... หลวงปู่ไม่เคยละเลยแม้ก้อนกรวดก้อนทราย


Timothy John Morrison

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 17:43
ผมขอหลวงปู่ว่าผมไม่อยากจะขออะไรหลวงปู่บ่อย ๆ แต่ขอให้ได้มีงานพิเศษ เพื่อจะได้่มีรายได้เพิ่มอีกประมาณเดือน 10,000 บาท (ย้ำนะครับ งานพิเศษนอกเหนือจากงานประจำ) นอกเวลาราชการ หลังจากขอหลวงปู่เมื่อวันสงกรานต์ที่บ้านท่านอาจารย์ และรดน้ำขอพรจากท่านอาจารย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนั้น ญาติผม (เป็นคู่เขยกัน เป็นแฟนของน้องสาวแฟนของผม) ก็มาบอกผมว่าเขาจับงานได้ ที่สยามสแควร์ แต่มีปัญหาด้านเอกสารและการดูแลด้านการเงิน อยากจะหาคนที่ไว้ใจได้ไปช่วย เขาก็มาเสนอผมเองเลย ให้ทำหลังเลิกงานประจำ คือ 1600 น. ถึง 2100 น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด แต่หากวันไหนงานเรียบร้อยก่อนก็สามารถกลับได้ก่อนเวลา และเขาเสนอเงินเดือนที่มาจากงานพิเศษนี้ เท่ากับที่ผมขอกับหลวงปู่ไว้เลย นอกจากนี้เขายังบอกว่าจะให้พิเศษเพิ่มเมื่อจับงานอีเวนท์ใหญ่ เช่นงานแสดงสินค้าตามที่ต่าง ๆ ได้ เป็นจ๊อบ ๆ ไป

By kittiphob


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 17:44
ผมโชคดีจัง ที่ได้รู้จักหลวงปู่มากขึ้น และได้ถือตนตั้งอธิฐานจิตเป็นลูกหลานท่าน หากแต่ว่าจะเป็นความบังเอินหรือไม่ก็ตามที่มีวิกฤตและความยากลำบากในชีวิต จึงแสวงหาที่พึ่งทางใจทั้งนั่งสมาธิ ถือศิลมาโดยตลอด แต่ผลของชีวิตก็ยังยากลำบากอยู่เรื่อยมา แต่วันหนึ่งได้พบกับหนังสือฉบับหนึ่งที่ร้านขายหนังสือที่อยู่ตามห้าง มีหนังสือนี้ปนอยู่กับหนังสือทั่วๆไป เป็นหนังสือพระเครื่อง ชื่อ พระขุนแผนยอดนิยมต่างวัด ราคา 120 บาท เป็นหนังสือที่พิมพ์โดย หจก.สำนักพิมพ์บ้านครู เขียนโดย เขมนัฏฐ์ หล่อศรีศุภชัย ส่วนตัวก็ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้เลยแต่ช่วงเวลาแบบนี้อยากลองซื้อมาอ่านเล่นๆดู หนังสือดังกล่าวจะมีแต่ภาพพระเครื่องและชื่อพระเกจิและวัดเท่านั้นอยู่ด้านล่างของภาพพระเครื่องนั้นๆ มีหลากหลายเกจิที่มีชื่อเสียงเท่านั้นรวมทั้งพระขุนแผนกรุด้วย แต่ด้วยที่เห็นพระขุนแผนองค์หนึ่งที่มีพุทธศิลป์งดงาม มีเสน่ห์ในองค์ และด้านหลังเป็นยันต์ที่มองดูแล้วรู้สึกถึงความเข้มขลัง รู้สึกถึงแรงเมตตาอย่างบอกไม่ถูก นับจากนั้นจึงหาข้อมูลพระขุนแผนองค์นี้เป็นของหลวงปู่ชื่อ ติคญาโณ จึงอธิฐานจิตให้ได้พระขุนแผนพรายกุมารองค์นี้ให้ลูกหลานได้มีไว้สักการะบูชาด้วยเถิด (อธิฐานขอพรจากพระของหลวงปู่ในหนังสือ) และจากนั้นก็ค้นหาข้อมูลทั้งหลายที่พอจะหาได้ จึงได้มีโอกาสสมดั่งตั้งใจ ได้เจอเว็บร้านจอมพระ และที่พาต้าปิ่นเกล้านั้นที่นั่นมีให้ผมบูชาพอดี แต่ถึงจะมีราคาบูชาที่สูงเกินเอื้อมซักหน่อย เพราะผมกำลังอยู่ในช่วงสถานการว่างงาน (ตกงาน) อยู่ ก็ถือว่าลำบากเลยทีเดียวแต่ก็ตั้งใจมาบูชาแล้ว พร้อมทั้งได้พระอาถรรพณ์ธมมาอีกหนึ่งองค์ (ใจลึกๆ คิดกลัวคุณภรรยาอยู่เหมือนกันถ้ารู้ราคาบูชา  #@+ . . .ที่ผมบูชามา) ได้มาแล้วจึงตั้งจิตอธิฐานจิตบวกกับการถือปฏิบัติศิลอยู่ทุกวัน หวังจะให้ส่งแรงบุญกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่อาจจะส่งผลให้ช่วงแห่งวิบากกรรมที่มีอยู่นี้ให้ดีขึ้น เพราะสูญเสียทรัพย์สินอะไรไปมากแล้วอย่างเช่นบ้าน วันที่ไปบูชาพระเครื่องดังกล่าว วันอังคารที่ผ่านมานี้เองได้มีโอกาสไปบ้านอาจารย์ ได้ไปกราบไหว้รูปหล่อหลวงปู่ชื่น และอาจารย์ด้วย และได้เจอกับพี่ทัชเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะบอกกล่าวและปรึกษาอาจารย์เรื่องบวชด้วยเพราะว่างงานอยู่ อยากบวช ซึ่งช่วงนี้อยากทำความเพียรให้แก่จิตใจให้ตั้งมั่นกว่านี้ ใจไม่สงบเลย แต่พอหลังจากนั้นเพียงแค่หนึ่งวัน ห้องพักที่อาศัยอยู่จะได้สัมผัสกลิ่นที่หอมอะไรบางอย่าง ซึ่งบอกไม่ถูกว่าเป็นกลิ่นอะไร มันไม่คุ้นเลยในกลิ่นนี้ ที่ไม่ใช่กลิ่นหอมทั่วๆไป มันหอมจนทำให้เรามีสตินึกคิดอะไรได้ดี วันนี้ก็ยังสัมผัสได้อยู่ แต่จะมีในช่วงดึกหลังสวดมนต์ตอนค่ำประจำวัน เคยคิดกับแฟนว่าเป็นเพราะเราถือศิล 8 เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งวันในวันศุกร์ ที่เราอธิฐานจิตบอกหลวงปู่ว่าจะถือศิล 8 ให้หลวงปู่ในวันคล้ายวันเกิดของท่านมาอีกวันหรือเปล่าที่ เพราะปกติทุกวันจะถือศิล 5 ส่วนวัน อังคาร (วันเกิดแฟนและลูก) วันเสาร์ (วันเกิดผม) และวันพระเราจะถือศิล 8 กัน หากเป็นอภินิหารหลวงปู่หรือสิ่งใด ผมกับภรรยาก็จะกระทำเช่นนี้ตลอดไป . . .
อิติ ฤทธิ ชื่น ๆ ๆ

By worapath 2011-5-7 10:56

โดย: touch-578    เวลา: 2013-7-2 18:36
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:40

   จากวันเวลาที่ผ่านมา  กว่า 4 ปี  ที่ได้มาเป็นศิษย์ของอาจารย์และหลวงปู่ชื่น  ได้พบเหล่าพี่ๆน้องๆ  ค.ศ.ช หลายๆท่าน  ทั้งที่เป็นรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ๆ  จากวันนั้นจนถึงวันนี้  บ้านจอมพระแห่งนี้ เปิดต้อนรับแก่เหล่าผู้ที่มีจิตศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น  ที่เข้ามามากขึ้นทุกๆปี  ตลอดเวลาที่ผ่านมา  มีทั้งผู้ที่เข้ามาใหม่และผู้ที่ลาจากไป  จะเป็นด้วยเหตุผลส่วนตัวบ้าง   เข้าใจจิตเจตนากันผิดๆบ้าง  แต่จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่  สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใด  คือความศรัทธา   พวกเรา เหล่า ค.ศ.ช  ได้มารวมตัวกัน  ณ. ที่แห่งนี้  ก็ด้วยความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่และครูบาอาจารย์   ประกอบกับผลบุญที่พวกเราได้สั่งสมกันมา  รึ...อาจจะเป็นเมื่อชาติก่อนได้ร่วมบุญกับอาจารย์และหลวงปู่ชื่นกันไว้  ทำให้พวกเราได้มาเจอกันและพบกันอีกในชาตินี้
    วันเวลาที่ผ่านมาหลายคน  ได้เข้ามาสัมผัส  ได้ใกล้ชิดพูดคุยกัน  ทั้งท่านอาจารย์และศิษย์พี่หลายๆท่าน  แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถเข้ามาได้บ่อยๆ  ก็อาจจะไม่ทราบว่าที่  สำนักติคญาโณ  นั้นเป็นอย่างไรบ้าง  ทำอะไรกันบ้าง  สำนักนี้...ก่อตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ใด  มีผลประโยชน์  ในทางธุระกิจส่วนตัวกันหรือเปล่า  หรือจะว่ากันง่ายๆ  หลอกหาเงินจากความศรัทธาของผู้คนหรือไม่   อย่างที่เราหลายๆคนเคยเจอกันมาแล้ว  ในหลายรูปแบบของวิธีการ  หาเงินในสังคมปัจจุบันนี้  (เราจะไม่ขอ  เอ่ยถึงสำนักอื่นๆ)
     อยากจะขอกล่าวถึง  ความตั้งใจของหลวงปู่และอาจารย์สรายุทธ   กับเหล่าพี่ๆน้องๆ ค.ศ.ช  ที่เข้าใจและรับทราบถึงจุดมุ่งหมาย  ของพวกเราและอาจารย์ท่าน   
     สำนักนี้...เกิดจากความศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น  จากพวกเราผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไป  แล้วบังเกิดผลสำเร็จตามคำขอ   จากการได้อาราธนาพกติดตัว  วัตถุมงคงของหลวงปู่ท่าน ดังด้วยประสปการณ์จากผู้ที่นำไปใช้จิงๆ  หลังจากหลวงปู่ได้มรณะภาพลง พวกเราต่างก็มีความเสียใจกันอย่างมาก  ด้วยความศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่นของหลายคน  จึงได้รวมตัวกันบอกเล่า   แลกเปลี่ยนถึงประสบการณ์พระเครื่องของท่าน   ในเวปฯเล็กๆเป็นการบูชาครู  จากพวกเรากลุ่มเล็กๆ  โดยการนำของอาจารย์สรายุทธ  ศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและเป็นท่านเดียวที่หลวงปู่ครอบครูให้ แบบเต็ม  ตามพิธีการของท่าน  อีกทั้งพระเครื่องหลายต่อหลายรุ่นของหลวงปู่  อาจารย์ก็เป็นคนทำ  ตามที่หลวงปู่ท่านสั่ง ตั้งแต่การหามวลสาร   บดมวลสาร   กดพิมท์พระ  ล้วนแต่ผ่านมือของอาจารย์มาแล้วทั้งนั้น
     จากพวกเราที่เคยกระจัดกระจาย  ก็ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง  ได้มาเจอกันพบประพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน  จนเป็นที่มาของหลายสิ่ง  หลายอย่าง   เริ่มตั้งแต่รูปหล่อองค์ยืนของหลวงปู่   พระอาถรรพย์ธม  ที่ท่านอาจารย์จัดสร้างบูชาหลวงปู่ครูบาอาจารย์ของท่าน  หลวงปู่เคยกล่าวกับอาจารย์ไว้ตอนท่านยังอยู่ว่า    ".....หลังจากท่านมรณะภาพไป 5 ปี   อนุญาติให้นำผงพุทธคุณและมวลสารต่างๆที่ท่านปลุกเสกทิ้งไว้ให้   จัดสร้างวัตถุมงคลได้  ท่านจะลงมาช่วย   เพราะอีกหน่อยลูกหลานท่านจะมากันเยอะ  วัตถุมงคลของท่านที่ผ่านมาจะมีไม่เพียงพอ..."    นั้นจึงเป็นที่มาของพระอาถรรพย์ธม  พระรุ่นแรกที่ศิษย์ท่านสร้างถวาย  บูชาครูบาอาจารย์  ที่พวกเราเหล่า ค.ศ.ช  นำไปใช้แล้วมีประสบการณ์ต่างๆกันออกไป   
โดย: touch-578    เวลา: 2013-7-2 19:13
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:41

   จากวันนั้นเป็นต้นมา  อาจารย์ก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคลออกมาอีกหลายต่อหลายรุ่น   แต่ละรุ่นทำยากๆทั้งนั้น  แต่สิ่งที่จะกล่าวถึงนั้น   วัตถุมงคลหลายๆชิ้นที่จัดสร้างออกมา  ก็นำมาให้พี่ๆน้องๆพวกเราได้ใช้  แทนวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่เล่นหากันแพงมากเท่านั้น  ซึ้งก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน   ส่วนเงินที่ได้มา  หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วก็นำเข้า  กองทุนหลวงปู่เป็นหลัก เพื่อเป็นทุนในการจัดสร้างวัตถุมงคลต่อไปในอนาคต  และที่สำคัญเพื่อไว้ใช้จ่ายในงานไว้ครูของทุกปีที่พวกเรารู้ๆกัน   ซึ่งในแต่ละปี  ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง(ปีหนึ่งหลายหมื่นบาท)  แต่ด้วยความรักที่ อาจารย์สรายุทธ มีให้แก่ลูกศิษย์ ลูกหานั้น  ส่วนใหญ่วัตถุมงคลที่จัดสร้างออกมา  ท่านบอกว่าต้องเป็นราคาที่พอสมควร  พอที่จะเช่าหากันได้  อาจารย์เคยกล่าวกับผมไว้ว่า  "ไม่อยากให้พวกเราต้องเสียเงินกันมากมาย  ยิ่งในยุคสมัยนี้หาเงินกันยาก" แต่ในความเป็นจริงแล้ว   มวลสารบางอย่างก็หากันมาได้ยากยิ่ง  อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียออกไปอีกมากโข   บางอย่างทำออกมาก็ยังไม่ได้ทุนคืนเลยก็มี  ทั้งยังมีค่าเดินทางในการปลุกเสกอีกด้วย  ในแต่ละครั้งก็เป็นเงินมิใช่น้อยๆ  แต่ท่านอาจารย์ก็ยังยืนการ  ให้ทำมาให้แก่พวกเราได้บูชากัน
    พวกเราเคยสังเกตุไหม...วัตถุมงคลที่ท่านอาจารย์ทำออกมาบางอย่าง   ทำไมถึงทำกันออกมาน้อยๆ  บางทีก็ไม่ถึงร้อยองค์  ด้วยอาจารย์เป็นคนพูดน้อย  บางครั้งท่านมีอะไรในใจ   ก็ไม่ค่อยจะบอกเล่า หรือชี้แจง  ให้พวกลูกศิษย์ได้รับทราบกันมากนัก  กลัวพวกเราบางคนจะเข้าใจไปในทางที่ผิดๆ   โชคดีที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปหาท่านได้บ่อยในช่วงก่อนวันไหว้ครู   จึงได้รับรู้ความคิดของอาจารย์ท่าน  ท่านบอกว่า "วัตถุมงคลบางอย่างที่ทำออกมาน้อย  ก็เพราะท่านคิดไปถึงอนาคตแทนพวกเรา  เหล่าลูกศิษย์ไว้ว่า  ที่ทำออกมาน้อยก็เพราะ  เผื่อในอนาคตวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น  อาจจะพอช่วยเหลือเหล่าลูกศิษย์  ที่อาจจะขัดสนในช่วงเวลานั้นๆ   จะได้มีทุนสำรอง(ปล่อยให้เช่าต่อ)ต่อไปได้" ได้ฟังแล้วอดปลื้มใจแทนเหล่า ค.ศ.ช ไม่ได้  ว่าอาจารย์ของเรายังรักและเป็นห่วงพวกเราถึงขนาดนี้  ก็ถ้ามองด้วยเหตุและผลแล้วคิดกันดีๆ  ก็จริงอย่างที่ท่านว่าไว้  วัตถุมงคลที่ท่านทำออกมา  ราคาก็ขยับขึ้นไปมากเหมือนกันนะ ซึ้งของบางอย่างก็หาไม่ได้แล้วด้วย  ที่นำมาบอกเล่าก็เพราะได้รับรู้ถึงความคิดอาจารย์  จึงอยากนำมาบอกเล่าต่อให้  พี่ๆน้องๆเราได้ทราบกันบาง  ไม่อยากให้บางคนเข้าใจไปกันผิด  ซึ้งอาจจะทำให้เข้าใจอาจารย์ไปแบบผิดๆได้  บางอย่างท่านไม่ค่อยบอกเล่าอะไรหรอกคับ  เราต่างหากที่ต้องเข้าไปหาคำตอบเอาเอง  
   
โดย: morntanti    เวลา: 2013-7-3 07:14
รอฟังต่ออยู่นะ พี่ทัช          แต่ในความเป็นจริง........
ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่รู้จักเวปนี้น่่าจะเปิดเวลาได้สักพักหนึ่งแล้ว ได้รู้จัก หลวงปู่ชื่น วัตถุมงคลที่ทันหลวงปู่ปลุกเสกได้รู้จักคุณจ๊อและที่สำคัญได้รู้จัก อาจารย์สรายุทธ และได้รับความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นที่มั่นใจว่า ไม่มั่ว ไม่มีของเสริม ได้ของแท้ 100% แน่นนอน  จากประสพการณ์ที่เช่าบูชาผ่านเวปประมูลต่างๆ เคยเจ็บตัวมาก็หลายครั้งทั้งๆที่เช่าบูชาจากผู้ที่เรียกตัวเองว่าสายตรงหลวงปู่ชื่น...  
ถ้าพอมีเวลาเข้าไปร่วมกิจกรรมเข้าไปช่วยอะไรที่พอช่วยได้ก็ยินดีเสมอ....ครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-9-19 05:53
ข้อความดี ๆ ดันมาให้อ่านครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-9-19 05:56
ยามใดผมมีสุขผมก็จะนั่งน้ำตาซึม
เพราะเป็นสุขที่หลวงปู่มอบให้ผม
หลวงปู่ไม่เคยละเลยแม้ก้อนกรวดก้อนทราย


Timothy John Morrison
โดย: majoy    เวลา: 2014-10-17 10:29
ศรัทธายังอยู่ดีกันใช่ไหมครับ
โดย: majoy    เวลา: 2014-10-29 07:10
ไม่ว่าใครจะมองจะว่าเราแบบไหน หากเรายังศรัทธามั่นคง ไม่ได้เป็นแบบเขาว่า ก็ไม่เป็นผลต่อจิตใจ

แต่หากศรัทธาไม่มั่นคง ให้เขาชื่นเขาชม จิตใจเรามันก็พังไปแล้วอยู่ดี
โดย: morntanti    เวลา: 2014-11-15 10:34
ไปแคร์อะไรกับคนอื่นคิด...ตัวเราย่อมรู้ตัวเราดี...เหมือนผม อาจไม่ได้เป็นศิษย์ที่ดีเต็มร้อย งานสำนักช่วยได้เท่าที่มีเวลา หน้าเวปก็พยายามเข้าให้บ่อยหาอะไรมาลงให้อ่านเท่าที่ทำได้มีประโยชน์บางบ้าๆบอๆบาง ...แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้เลยคือ ไม่เคยคิดล้างครูหรือทำให้สำนักเสื่อมเสีย...
โดย: นาคปรก    เวลา: 2014-11-15 11:52
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2014-11-15 10:34
ไปแคร์อะไรกับคนอื่นคิด...ตัวเราย่อมรู้ตัวเราดี...เหมื ...

เห็นด้วยครับ

ไม่เคยคิดล้างครูแล้วทำให้สำนักเสื่อมเสีย

บ้านครูอยู่ อู่เคยกิน ถิ่นเคยนอน






โดย: padiphatbeer    เวลา: 2015-2-7 21:13
ผมดีใจที่สุดที่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่
โดย: Metha    เวลา: 2015-2-8 01:46

ถึงจะไม่เห็นหลวงปู่ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
ถึงท่านไม่ได้รับเป็นศิษย์โดยตรง แต่อย่างน้อยๆ ผมก็ผ่านการรับศิษย์รับครู จากอาจารย์

โดย: majoy    เวลา: 2015-2-28 06:56
ศรัทธายังดีกันอยู่ไหม
โดย: Sornpraram    เวลา: 2015-3-10 06:51

..........หลังจากห่างหายไปเกือบ 1 ปี  ด้วยติดภาระกิจหน้าที่การงาน   ดีใจที่ได้กลับมารับใช้  หลวงปู่และอาจารย์อีกครั้งคับ  ช่วงเวลาที่ผ่านมาร่วม 3 ปี  ที่ได้รู้จักอาจารย์และศิษย์พี่ๆน้องๆ    เหล่า คศช  ยังให้ความรักและความศรัทธาใน  หลวงปู่ชื่น และอาจารย์ สรายุทธ  ไม่เสื่อมคลาย แบบนี้อดปลื้มใจไม่ได้จิงๆ  แม้ที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคมากมาย  ก็ยังร่วมกันฟันฝ่่ามาได้จนถึงทุกวันนี้   และยังมีพี่ๆน้องๆที่รักและศรัทธาใน องค์หลวงปู่เพิ่มเข้ามาใหม่ อีกมากมาย  ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกๆท่านนะคับ  ความศรัทธาคือ บ่อเกิดแห่งพลังอันศักดิ์สิทธิ์  ที่ผ่านมาเหล่า ศิษย์พี่  ศิษย์น้อง  ก็ยังรักกันเหนียวแน่น  ถึงแม้จะมีอุปสรรค  จากผู้ัไม่หวังดี  คอยยุแหย่  ให้ร้ายต่างๆนาๆ  ทั้งทางตรงและทางอ้อม  เราก็ยังรักและศรัทธาในตัวหลวงปู่ชื่นและอาจารย์ไม่เสื่อมคลาย  พวกเราเหล่า คศช และ บุคคลที่ได้เข้ามาใกล้ชิด  ย่อมพอจะเข้าใจว่าอะไรดีหรือไม่ดี  อย่างไหนเป็น  เพชร   อย่างไหนคือ ก้อนหิน  

       อยากให้ผู้ที่่ศรัทธาและผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่   ได้คิดและใช้วิจารณญาน  อย่าได้หลงเชื่อคำยุยง  ให้ร้ายป้ายสี  หากยังไม่ได้เข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง  หรือสอบถามให้ท่องแท้  ถึงที่มาที่ไปกันก่อน  ก็ไม่ควรหลงเชื่อ  อาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ  ด้วยยุคสมัยนี้  ในปัจจุบันคงหาได้น้อยมาก  กับวัตถุมงคลดีๆที่นำไปใช้แล้วได้ผล  เห็นผลเร็ว  กับผู้สร้างที่ใส่ใจและตั้งใจ  สรรสร้างวัตถุมงคลออกมา  ตั้งแต่มวลสารที่ใช้ได้ถูกต้องตามตำรา  และพิธีการณ์  ไม่ได้ทำแบบสุกเอาเผากิน

     ที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้  ผมและเหล่า คศช  ทุกท่าน  ได้ทราบกันดีถึงวัตถุมงคลที่ออกมาในยุคหลังๆ   แม้จะไม่ทันหลวงปู่  แต่ก็ใช้ได้ดีเสมือนหลวงปู่ท่านปลุกเสกเองกับมือ  หากไม่ดีจริงพวกเราคงไม่อยู่ร่วมกันมาถึงทุกวันนี้ นับวันมีแต่จะเพิ่มพูลขึ้น เข้มแข็งขึ้น มากขึ้นทุกวัน

     อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นๆ แล้วเราจะได้เห็นเองว่า อย่างไหนคือเพชร อย่างไหนเป็นเพียง ก้อนหินธรรมดา



    ขอขอบพระคุณอย่างสูง กับท่านอาจารย์และเหล่าศิษย์พี่ ศิษย์น้องทุกๆคน ที่ช่วยกันดูแล เวปฯ



ในช่วงที่ผมไม่สามารถเข้ามาทำหน้าที่ ที่อาจารย์มอบมายให้ได้ครับ  กราบขอบพระคุณครับ

By พี่ทัช (touch) 2013-1-4 19:53




โดย: majoy    เวลา: 2015-3-10 08:07
ยุคหลวงปู่ ยุคอาจารย์ ของที่มีที่สร้าง ผมใช้ได้อย่างสนิทใจ มั่นใจ
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-3-10 10:20
ด้วยรักและศรัทธา
โดย: Sornpraram    เวลา: 2015-3-14 07:09
ยามใดผมมีสุขผมก็จะนั่งซึมน้ำตา


เพราะเป็นสุขที่หลวงปู่มอบให้ผม..


หลวงปู่ไม่เคยละเลยแม้ก้อนกรวดก้อนทราย.






Timothy John Morrison




โดย: touch-578    เวลา: 2015-7-24 14:15
    ดันขึ้นมาให้ผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่ได้อ่านบ้าง    ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา  ว่างๆจะเข้ามาบันทึกใหม่คับ
ตอนนี้ดันกระทู้ให้ผู้เข้ามาศึกษาใหม่ได้อ่านกันก่อน  เคยอ่านเจอในเวปฯ   ว่าไว้....คนไทยปัจจุบันนี้   
เฉลี่ยนอ่านหนังสือกันไม่เกิน  8  บรรทัด   แต่ถ้าศรัทธาจริงๆขอให้อ่านทุกบรรทัด   กันนะคับ
โดย: touch-578    เวลา: 2015-7-27 12:01
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:44

      มีหลายเรื่องราวที่อยากบอกเล่า  ให้ผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่ได้อ่านและทำความเข้าใจ  และอยากให้ใช้วิจารณญานในการหาเหตุผล  ของการเล่นหาพระเครื่องหลวงปู่ชื่น
บางท่าน...มาด้วยเพราะศรัทธาจริงๆ  เพราะได้อาราธนาใช้พระเครื่องของท่านแล้วเห็นผล  จนอยากได้รุ่นต่างๆเพิ่มเติม
บางท่าน...ก็ศรัทธาเพราะได้รับข้อมูลข่าวสาร  จากคนอื่นหรือข่าวสารจากแหล่งอื่นๆ  และอยากได้ไว้ครอบครองบ้าง
บางท่าน...ก็ได้รับข่าวสาร  พระเครื่องของหลวงปู่มีราคาดี  เช่ามาแล้วปล่อยต่อได้ราคา  จึงเล่นหาหวังปล่อยต่อให้ได้ราคา
    ทั้งนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม  อยากให้คำนึงนึกถึง  หลักความจริงที่ว่า  พระเครื่องของท่านที่สร้างออกมามีทั้งจากความตั้งใจของหลวงปู่เองและจากศูนย์พระเครื่อง  ที่สร้างมาให้หลวงปู่ปลุกเสก  มีจำนวนน้อย  ทำให้ผู้เล็งเห็นผลประโยชน์ส่วนตน  ทั้งทำเสริม  ทำปลอม จับยัด หลอกว่าเป็น   ยุคต้น และอีก  ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อหวังผลประโยชน์เข้าตัวเองทั้งนั้น  โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงหลวงปู่  และผู้ที่ศรัทธาอย่างแท้จริง  ที่อยากได้พระเครื่องหลวงปู่มาช่วยเหลือจริงๆ  มีพี่ๆน้องๆหลายท่านไม่ทราบข้อมูลก็หลงไปเช่ามา  พอไม่ได้ผลดังที่ตั้งใจหวัง ก็บอกพระเครื่องของหลวงปู่ไม่เห็นจะดีจริง   อย่างที่ในเวปฯพวกที่ศรัทธาหลวงปู่กล่าวอ้างเลย  (ก็มันไม่ใช่ของหลวงปุ่เสกจริงๆนี่นา)  พาลกล่าวหาว่า  หลวงปู่ไปอีก
    อยากจะบอกว่า เวปฯจอมพระนี้  ก่อตั้งมาจากพวกที่ศรัทธาหลวงปู่ชื่นจริงๆ   และนำวัตถุมงคลของท่านมาอาราธนาใช้แล้วได้ผล  จึงอยากจะบอกต่อเพื่อเป็นการบูชครูบาอาจารย์  เท่านั้น  เพราะทุกคนที่นำพระเครื่องของท่านนำไปใช้แล้วได้ผลก็จึงอยากจะให้ผู้ที่ศรัทธา   ได้นำไปใช้แล้วสัมฤทธิ์ผลดังใจหวังเหมือนตนเอง  เป็นการสร้างสมบุญบารมีและเพื่อสร้างบุญ  สร้างกุศล  ให้กับหลวงปู่ท่านอีกทางหนึ่ง (นั่นก็ นับเวลาได้ร่วม 10 กว่าปี  ตั้งแต่หลวงปู่ยังไม่มรณะภาพเลย)
     จากกลุ่มเล็กๆที่เล่นหาพระเครื่องของหลวงปู่ชื่น  เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์  บอกเล่าเรื่องราวของพระเครื่องหลวงปู่  ไม่ได้มีการค้าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย  
จนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น  จนเมื่อหลวงปู่ท่านสิ้นบุญเหล่าสานุศิษย์  ต่างเศร้าเสียใจไปตามๆกัน  บางคนไม่ทราบข่าวเลยด้วยซ้ำ  เนื่องจากหลังท่านมรณะภาพที่ต่างประเทศ
ไม่มีการเก็บสังขารไว้ก่อน   แต่อย่างใด  ด้วยเหตุผลที่เราไม่สามารถบอกกล่าว  เล่าเรื่องราวในที่นี้ได้  เพราะมีผลกระทบกับบุคคลหลายฝ่าย
   (ค่อยมาต่อเรื่องราวนะคับ  ทำงานต่อก่อน)

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-7-27 12:17
ขอบคุณครับพี่ทัช รอฟังต่อครับ
โดย: touch-578    เวลา: 2015-7-27 14:26
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:37

    ซึ่งในช่วงเวลานั้น  หลวงปู่เพิ่งจะเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาไม่มากนัก  นั่นเป็นการสูญเสียที่พวกเราต่างก็รู้สึกเสียใจยิ่งนัก  แต่ทุกอย่างก็ย่อมต้องเดินต่อไป ในเวลานั้นพวกเรากลุ่มเล็กๆ  จึงตัดสินใจรวมตัวกันทำเวปฯ  ของหลวงปู่ขึ้นมาเพื่อบูชาครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณกันขึ้น เป็นเว็ปไซต์ของหลวงปู่ชื่นเลย (สมัยก่อนเราอาศัยเวปฯชาวบ้านเขา)  โดยการนำของศิษย์หลวงปู่ชื่น  อาจารย์สรายุทธคนเดียวที่ได้รับการครอบครูแบบถูกต้องตาม  บูรพาจารย์ของหลวงปู่ท่านกำหนดไว้ และก็ได้รวบรวมข้อมูลพระเครื่องของหลวงปู่ทุกรุ่นไว้ที่เดียวกัน  พวกเราทุกคนก็ร่วมด้วยช่วยกันจนหลวงปู่มีชื่อเสียงมากขึ้น  จนเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
   เมื่อพระเครื่องของหลวงปู่  ที่มีน้อยและราคาก็สูงขึ้น  จึงเป็นเหตุให้ มีการทำเสริม  ทำปลอม  จับยัด  มีมาให้ผู้ที่ไม่ได้ศึกษามาตั้งแต่ต้น  เข้าใจผิดคิดว่าเป็นของหลวงปู่จริงๆ  หลงเชื่อเช่าหาบูชา  บางคนได้มาเอามาให้ทางเวปฯ จอมพระดู  พอบอกไม่ใช่  ไม่ทัน ก็มีเหตุให้ต้อง  บาดหมางกันอีก  บางก็บอกรับมาจากมือหลวงปู่บ้าง   เช่ามาจากร้านจอมพระบ้าง   รับมาจากคนในพื้นที่ๆเล่นหา  และเก็บไว้มานานกันบ้าง  ทั้งๆที่พวกเราก็บอกให้เหตุผลแล้วว่า  หลวงปู่ไม่เคยทำพระหรือสร้างพระรุ่นใดๆเลยก่อนปี  40-41 ด้วยซ้ำ  ซึ้งสมัยนั้นท่านเป็นเพียง   พระลูกวัด  เท่านั้น  หนำซ้ำก็ไม่มีใครรู้จักท่านด้วย  ท่านรักสันโดษและอยู่ตามอัตภาพ  ปลูกกุฎิอยู่แถวป่าช้าเท่านั้นเอง  ส่วนใหญ่แล้วคนที่รู้ว่าท่านเก่งจริงๆ  จะมาจากสหธรรมมิกของท่านและผู้ที่รู้จักท่าน  ก่อนที่จะมาจำวัดอยู่ที่วัดตาอีด้วยซ้ำ เมื่อคราวที่ท่านยังธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆทั่วประเทศไทยและได้พบเจอ  สำผัสถึงพลังจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ชื่นมาก่อน  บอกต่อๆให้มาหาท่านเท่านั้น  ส่วนใหญ่ก็คนนอกพื้นที่จนหลวงปู่เคยพูดออกมาเองว่า  คนแถวนี้ไม่ได้นับถือท่านหรอก  เพราะมีหลวงปู่ผาดเป็นที่ศรัทธามานานแล้ว  อีกอย่างท่านก็เป้นเพียง
พระลูกวัด  ส่วนใหญ่ที่มาหาท่าน  เชิญท่านไปช่วยปลุกเสกพระเครื่องก็เป็นเล่า สหธรรมมิกท่าน  จากจังหวัดอื่นที่มาเชิญท่านเท่านั้น
      จากคำบอกเล่าของคนที่ตามไปหาท่านที่  วัดตาอี เล่าให้ฟังว่า เมื่อ ปี 42 จะไปหาท่าน ที่วัดตาอี  พอมาถึงแวะทานข้าว  ร้านค้าแถวนั้น
สอบถามถึง  หลวงปุ่ชื่นและวัดตาอี  ยังไม่รู้จักเลย  วัดรู้จักแต่ไม่รู้จักหลวงปู่ชื่น  หนำซ้ำยังบอกว่าให้ไปหา หลวงปู่ผาด ซิ ท่านเก่งนะแถวนี้
เลือมใสและศรัทธาหลวงปู่ผาด  ทั้งๆที่ร้านนี้อยุ่ไม่ใกล้จากวัด ไม่เกิน 500 เมตรด้วยซ้ำ  
      ที่บอกเล่ามาก็เพียงเพื่อ  ให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ได้รับทราบถึงประวัติ และที่มาที่ไปของวัตถุมงคลของท่านว่าเริ่มต้นยังไง  เพื่อไม่อยากให้
คนที่ไม่ทราบข้อมูลถูกหลอกง่ายๆ  และทุกวันนี้ทำกันขบวนการ  มีครบทีม  อยากให้ใช้วิจารณญานให้ดีๆ  ก่อนตัดสินใจหลงไปเช่าบูชา
ทุกวันนี้ถึงขนาดออกใบรับรองการันตี  จากสนามพระกันเลยด้วย  เพื่อจะได้อัพราคาได้สบายๆ  หากินกับความศรัทธา  หลอกลวงผู้ที่
ศรัทธา  แต่ก็อย่างที่บอก  ให้ใช้วิจารณญานให้มากๆ  ในการหาเช่าบูชานะคับ

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-7-28 16:37
ขอบคุณครับพี่ทัช กระจ่างแจ้ง ชัดเจนครับ
โดย: majoy    เวลา: 2015-7-31 21:01
ชัดเจน แจ่มแจ้ง
โดย: nobnob    เวลา: 2015-10-29 00:14
ขอบคุนพี่ทัชครับ เรื่องราวดีๆที่ คนรุ่นใหม่ได้อ่านกัน (ผมยังอ่านมาแล้วตั้งหลายรอบเลย)
โดย: majoy    เวลา: 2015-12-28 08:43
มิเสื่อมคลาย มิถอยนี้
มิร้าง มิลา มิเนรคุณ
โดย: angpao99    เวลา: 2016-4-24 19:37
ตอนแรกผมก็ไม่รู้จักหลวงปู่ ก็หาเครื่องลางใส่ไปเรื่อยตามเวปต่างๆ เจอเก๊เพียบใส่แล้วเงียบสนิท อยู่ๆเกิดอยากได้ของ ลป ชื่นขึ้นมาเฉยๆ ทั้งที่แทบไม่ได้ศึกษาเครื่องลางหรือประวัติของหลวงปู่เลย ก็ลองหามาบูชาดู แต่ไม่รู้เลยว่าแท้ไหมดูไม่เป็น แต่พอใส่แล้ว ปสก มาตั้งแต่วันแรกเลย และก็เกิดขึ้นเรื่อยๆและเร็วมาก.. ทุกวันนี้ก็แขวนแต่ของ ลป ละครับ
โดย: majoy    เวลา: 2016-6-24 00:27
บางทีบททดสอบมันช่างหนักหนาสำหรับเรา แต่ศรัทธาก็ยังไม่เคลื่อนคลาย
โดย: majoy    เวลา: 2017-3-11 14:07
ไม่ต้องยิ่งใหญ่และดูซาบซึ้ง ไม่ต้องดูเด่นเหนือใครๆ

ให้เพียงตั้งมั่นในศรัทธา ก็เพียงพอแล้ว
โดย: touch-578    เวลา: 2018-3-21 16:20
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:45

     สวัสดีคับพี่น้องเหล่า ค.ศ.ช  ทุกท่าน  ห่างหายจากกระทู้นี้ไปนาน  ด้วยติดภาระหน้าที่การงานและ  อยากรวบรวมเรื่องราวบางอย่าง  เพื่อมาบอกเล่าพูดคุยให้เหล่า  สานุศิษย์ของอาจารย์สรายุทธทุกท่านได้อ่าน   รวมทั้งผู้ที่เข้ามาศึกษาและศรัทธาใหม่ๆ  ได้รับรู้เรื่องราวของ วัตถุมงคลยุคหลังๆที่ อาจารย์ได้จัดสร้างกันบาง  ด้วยวัตถุมงคลของท่าน  ได้ออกมาให้เช่าบูชากันหลายต่อหลายรุ่น  ล้วนมีประสปการณ์  ต่อผู้นำไปใช้จน วัตถุมงคลบางอย่างเป็นที่หวงแหนของผู้ครอบครองยิ่งนัก   บางคนนำไปใช้ได้ผลแบบน่าพิศวง  จนทำให้วัตถุมงคลยุคหลังๆมานี่  ราคาแพงมาก  และก็หายากซะด้วย  หากไม่ขัดสนกันจริงๆ ไม่มีทางนำมาปล่อยให้บูชาต่อเป็นอันขาด
    ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็   ตะกรุดมนต์พระกาฬ   ล๊อคเก็ตมนต์พระกาฬ  ตะกรุดสามหัวเมือง ขุนแผนมะรุมมะตุ้มรุ่น 2  ฯลฯ  อีกรายรุ่นที่จัดสร้างเป็นเนื้อพิเศษ (ตอนนี้คนมีต่างก็เก็บเงียบ  กลัวเป็นเป้าคนอื่นที่อยากได้มาบูชา)   ที่ผู้ใช้นำไปบูชาจนมีประสปการณ์   แต่จะทราบกันไหมคับว่า  กว่าจะได้เป็นวัตถุมงคลที่ให้ผลขนาดนี้   อาจารย์และสานุศิษย์บางท่านลำบากลำบนกันขนาดไหน  กว่าจะนำมวลสารเหล่านี้มาจัดสร้างวัตถุมงคลได้ในแต่ละรุ่น   
   ถ้าจะให้บอกเล่าเรื่องราวคงจะยาว  เฉพาะที่ผมไปกับอาจารย์ท่านก็มากมาย  ของบางอย่างก็มาจากนิมิตรของอาจารย์  และบางอย่างก็มาจากหลวงปู่ท่านดลจิตดลใจ   อีกทั้งแต่ละสถานที่ไปนำมวลสารก็ไม่ทำมาดา   เคยถามอาจารย์เหมือนกันว่า  อาจารย์ท่านรู้ได้อย่างไรว่าสถานที่นี้มีของดี  ท่านก็บอกมาจากนิมิตรบ้าง  และเป็นสถานที่ๆเคยเดินทางมากลับหลวงปู่ชื่น  และท่านบอกเล่าถึงสถานที่นั้นๆว่าเป็นแบบไหน  ดีอย่างไร  และบางครั้งก็เป็นเรื่องบังเอิญ  ที่ไปพบสถานที่แบบนั้น  (บังเอิญนี่...บ่อยมากๆจน  แม้แต่ผมยัง พิศวงสงสัย)  อีกทั้งมวลสารที่ไปหาก็ต้องพลีถูกต้องตามตำราและวิธีการ  อาจารย์จะควบคุมดูแลการจัดหามวลสารด้วยตัวเองทุกครั้ง  เพื่อให้พวกเราได้ใช้วัตถุมงคลของท่าน  เห็นผลรวดเร็วและสัมฤทธ์ผล   ยกตัวอย่าง..........ดิน 7 ท่า ก็ต้องเอาดินที่  ท่าน้ำนั้นจริงๆ  เจอมากับตัวเล่นเอาผมกลับน้องอีกคนเหนื่อยสุดๆ  รองเท้าขาดไปคู่เลย  เพราะกว่าจะได้ครบ  7 ท่าต้องใช้เวลาทั้งวัน  และท่าน้ำนั้นๆต้องมีคนใช้บริการเยอะด้วย  อาจารย์ท่านว่าจะดีมากๆเลย     และอีกเรื่องคือ  ดิน 7 ป่าช้า   ต้องเป็นป่าช้ายิ่งมีความเฮี้ยน  ยิ่งเฮี้ยน  ยิ่งดี  งานในครั้งนั้นมีประสปการณ์กับผู้ไปนำดิน  กันจนถ้วนหน้า  รวมทั้งผมด้วย  (เรื่องนี้  จะนำมาเล่าให้ฟังคราวหน้านะคับ)   เรื่องราวการเสาะแสวงหามวลสาร   ในแต่ละครั้ง  บางแห่งมีเรื่องให้ต้องเก็บมาเล่าให้พี่ๆน้องได้รับทราบกันบ้าง   เพราะอยากให้รู้ถึงวัตถุมงคลของสำนักในแต่ละรุ่น  ไม่ใช้จะทำกันออกมาง่ายๆ  อย่างเช่นพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของที่อื่น  ของที่นี่จัดเต็มทุกอย่าง  มวลสารใส่เต็มๆ  ฉนวนหล่อหลอมเต็มๆ   ไม่มีกั๊ก  เพียงเพราะอยากให้ผู้เช่าบูชาไป  นำไปใช้และมีประสปการณ์กันถ้วนหน้า   ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้หาได้ยากยิ่ง  ผมและพี่ๆน้องๆหลายๆคนต่างทราบดี  ถึงการหามวลสารมาสร้างวัตถุมงคลของสำนัักนี้    บางอย่างบทจะหาง่ายก็ง่ายสิ้นดี   บางอย่างบทจะยากก็ยากจนแทบถอดใจ  เหมือนยังไม่ถึงเวลา   แต่ทุกครั้งก็มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นจนประหลาดใจก็หลายหน   ยกตัวอย่างเช่น   
     ครั้งเมื่อกำลังเตรียมการจัดสร้าง  ขุนแผนแสนตรีเวทย์  พอมาถึงสำนักก็ได้รับ  คำบอกเล่าจากอาจารย์ว่าให้ไปที่  วัดๆหนึ่งในบริเวณไม่ไกลจากพำนักเท่าไรนัก  ไปขอผงพรายหลวงปู่ทิมและหลวงปู้แย้มให้ที   เนื่องจากอาจารย์  เล่าว่าช่วงนักสมาธิอยู่  สัมผัสได้ถึงพรายหลายตนมากราบ  นมัสการหลวงปู่ชื่นที่พำนัก  และอยากจะมาร่วมบุญด้วย (รายละเอียดบางอย่าง และสถานที่  ผมคงบอกเล่าไม่ได้  ด้วยเหตุผลบางประการนะคับ)   จึงให้ผมกับพี่โถนขับมอเตอร์ไซค์  ของพี่โถนเดินทางไป  ไปถึงก็เข้าไปกราบท่าน    และแจ้งจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้  ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก  แม้แต่ผมยังประหลาดใจว่า  ทำไมถึงช่างง่ายดายปานนี้  ซึ่งเราต่างก็รู้ดีว่า   ผงพรายของหลวงปู่ทิมและหลวงปู่แย้มต่างก็หาได้ยากยิ่ง    ท่านเดินไปด้านใน  ซึ้งไม่ไกลจากที่ผมยืนดูอยู่นัก   ไปตักผงพรายมาให้  ซึ้งอยู่ในถังพลาสติกใบเล็ก  2 ใบ  ที่วางแยกกัน  ท่านก็ตักผงที่อยู่ทั้ง  2 ใบให้ผมนำกลับพำนัก  โดยไม่ได้คิดมูลค่าใดหรือเรียกร้องอะไร  ตอบแทนเลย  ได้แต่ร่วมอนุโมทนาในการจัดสร้างพระเครื่อง แสนตรีเวทย์นี้เท่านั้น  และก็สวดมนต์ทำพิธีส่งมอบต่อให้ผมเป็นคนถือกลับ      ช่วงที่นำผงพรายกลับพำนัก  ก็มีเรื่องให้ต้องตกใจ  จนผมกลับพี่โถนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  เล่นพวกตรูสองคนกันแล้ว  ทำไงดีอาจารย์ไม่ได้สอนมาซะด้วย..............ค่อยมาต่อคับ


โดย: touch-578    เวลา: 2018-5-18 16:39
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:47

       ต่อ....ช่วงที่นำผงพรายกลับพำนัก  ก็มีเรื่องให้ต้องตกใจ  จนผมกลับพี่โถนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  เล่นพวกตรูสองคนกันแล้ว  ทำไงดีอาจารย์ไม่ได้สอนมาซะด้วย....

ขากลับหลังจากได้ผงพรายมาแล้ว   ผมนั่งซ้อนรถพี่โถนขับ  พอออกจากเขตวัด  ก็เกิดเหตุชวนให้ขนลุกทันที   อยู่ๆรถพวกผมก็มีอัน  บิดคันเร่งไม่ขึ้นเหมือนรถจะหนักมากจนวิ่งไม่ออก    แม้แต่จะขับข้ามสะพานเตี้ยๆก็ยัง   เร่งไม่ค่อยจะขึ้นผิดกับตอนขามาลิบลับ   ที่จริงไม่หน้าจะเป้นไปได้รถที่ขับมาก็ยังใหม่  ถอยออกมายังไม่ถึงปีและถามพี่โถนก็บอก   รถไม่เคยมีปัญหาอะไรขับอยู่ทุกวัน   และช่วงเวลาที่ขับกลับมานั้นเอง  ผมสองคนก็มีอาการมึนหัวขึ้นมาเฉยๆ   พี่โถนบอกคลื่นไส้จะอ้วก   ผมเลยบอกพี่ทนอีกนิดจะถึงสำนักแล้ว  เด่วจะเรียกอาจารย์และหลวงปู่ให้มาช่วย..................
       แต่พอมาถึงสำนักเท่านั้นล่ะ    อาการทุกอย่างหายไปหมดเลย  ผมต้องร้องเรียกอาจารย์ให้ออกมารับผงพรายไป   เพราะตอนกลับมาเล่นงานผม สองคนแทบจะอ้วก  พี่โถนบอกพอใกล้ถึงสำนักอาการของรถก็รู้สึกจะหายไปเลย  หลังจากนั้นพี่โถนแก่ก็หาที่ล้มตัวนอนพักทันที   เหมือนคนหมดแรง
      นี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งในการหามวลสารมาทำ  วัตถุมงคลของสำนัก   ยังมีเรื่องราวอีกที่ประสปฯ  มากับตัวกับศิษย์น้องๆหลายๆคน   เช่นเรื่อง  ไปนำดินเจ็ดป่าช้า     ไปนำดินจากท่าน้ำเจ็ดท่า   และ มวลสารจากสถานที่มีอาถรรพย์อีกหลายที่  แล้วจะนำมาทยอยเล่าให้ทราบกันนะคับ

โดย: touch-578    เวลา: 2018-6-7 10:40
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:48

       ว่าจะไม่กล่าวถึงแล้วก็..อด  สงสารผู้ศรัทธาใหม่ๆ  และสานุศิษย์หลวงปู่ชื่น  ที่มีภูมิความรู้น้อย  หลงไปเช่าหาบูชาวัตถุมงคล
ที่ทำเสริมออกมา  มากมายในช่วงนี้  ทั้งในเฟสฯ  และในเวปฯ  และที่สำคัญ  พวกที่มาทำเป็นกรูรูมากมาย  มีความรู้แค่นิดหน่อย
กลับทำเป็นผู้รู้  มากความสามารถ  ทั้งที่มันเป็นของทำเสริม  ผมเห็นแล้วอนาถใจมาก  
     อยากจะบอกว่าถ้าหลงเช่าบูชาแล้ว  นำไปใช้ไม่ได้ผล  อย่าเหมาว่าวัตถุมงคลของท่านไม่ดี  ไม่สมกับคำเลื่องลือไม่ได้นะคับ
ก็ที่เช่าหามาคือของทำเสริมไม่ได้ผ่านการปลุกเสก  โดยหลวงปู่ชื่นนะคับ  
    พวกที่เอาของเสริมมาปล่อย  ก็อ้างบอกมาจากจอมพระ  รับมาจากคนใกล้ชิด  สารพัดจะแอบอ้าง สร้างความหน้าเชื่อถือ ยิ่งมาเจอพวกมาศึกษาทีหลัง  กลับออกตัวเป็นกรูรู  ทั้งๆที่ไม่ได้มีความรู้มากมาย  อย่างที่สร้างเคดิตให้ตัวเองเป็นผู้ชำนาญเลยสักนิด  ที่ต้องออกมากล่าวแบบนี้เพราะเห็น  ในเฟสฯบางเเห่งนำของเสริมออกมาขายกันเป้นว่าเล่น  แล้วแอตมินออกมาบอกว่าแท้  จำนวนการสร้างก็มั่ว  จุดสังเกตุก็ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง  มั่วไปเรื่อยๆ       อยากจะขายเพื่อให้ได้เงิน  ไม่สนหรอกคับว่าคนเช่าไปจะเป้นยังไง  พอเช่ามาแล้วใช้ไม่ได้ผลก็ปล่อยต่อไปเป็นลูกโซ่
ส่วนคนที่เสริมก็ทำเสริมออกมาเรื่อยๆเพราะเห็นว่าขายได้  ก็ทำออกมาหลอกเอาเงินผู้ศรัทธา
    อยากจะบอกว่า  พวกผมช่วยกันเล่าขานประสปการณ์  เพื่อบูชาพระคุณครูและหลวงปู่ชื่น  ให้เป็นที่รู้จักมากว่า 10 ปี กลับมาถูก
พวกเห็นแก่ได้  ทำลายซะนี่  แบบนี้จะไม่ให้ผมแรงกลับได้ยังไง
    ออกมาเตือนให้ระวังกันนะคับ  อย่าให้ความโลภครอบงำ ของเสริมออกมากัน  มากจริงๆ  คนรุ่นใหม่ไปเช่ากันเยอะ ก็ยิ่งเข้าทาง
พวกพ่อค้า...เท่านั้นเอง



โดย: touch-578    เวลา: 2018-7-24 14:27
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2018-7-26 10:04

             ได้เวลากลับมาเล่าเรื่องราว  กันต่อ  หลายปีแล้วที่เรา  เหล่าสานุศิษย์ หลวงปู่ชื่นและอาจารย์สรายุทธ  ได้มารวมตัวกันในบ้านหลังนี้  ผ่านวันเวลามากันขนานนี้คงได้รับรู้ว่า  วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นสุดยอดขนานไหน  หาของแท้ๆยากขนาดไหน  และทุกวันนี้พวกเราก็ได้รับรู้ถึงวัตถุมงคลที่  อาจารย์สร้างในยุคหลังๆ  ที่ออกมาให้เช่าบูชากันเป็นอย่างไร  วัตถุมงคลในยุคหลังๆ  หลายต่อหลายรุ่น   เป็นที่เสาะแสวงของสานุศิษย์รุ่นใหม่ๆ  กันมาก  เพราะวัตถุมงคลที่ท่านอาจารย์สรายุทธจัดสร้างขึ้น  ก่อประสปการณ์ให้กับผู้เช่าบูชากันไปมากมาย  รวมทั้งผมด้วย  บางรุ่นของท่านต่อให้มีเงินยังหาไม่ได้เลยก็มี  และยังแพงมากด้วย                        จากวันเวลาที่ผ่านมาหลายปี  เหล่าสานุศิษย์ที่นี่  หลายๆคนมีประสปการณ์มากมาย  แต่บางคนก็ไม่ได้นำมาบอกเล่า  เวลาพอผ่านไปก็หลงลืม  
รวมทั้งตัวผมด้วย  เพื่อไม่ให้หลงลืมจึงต้องมาลงบันทึกบอกเล่าในเวปฯ   เพราะบางเรื่องราวมันเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ  และอัศจรรย์มาก  สำหรับตัวผม  บางครั้งยังนึกแล้วขนลุกไปทั้งตัว   ในการสร้างพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของที่นี่    อาจารย์ท่านเน้นจริงๆต้องได้ของเหล่านี้มาทำมวลสารให้ได้
เพื่อความศักดฺ์สิทธ์และสัมฤทธ์ผล  วัตถุมงคลบางอย่าง   ก็ไม่ใช่ของหาได้ง่ายๆอีกทั้งบางสถานที่ก็เฮี้ยนสุดๆ   เหล่าสานุศิษย์ของอาจารย์สรายุทธที่ได้รับมอบหมายให้ไปเสาะหามวลสารนี้มาให้ได้    ย่อมทราบกันดีว่า  สิ่งที่ท่านใช้ให้ไปเอามานั้น ไม่ใช่ง่ายๆเลย
              เรามาเริ่มกันเรื่องราวกันเลยดีกว่า  ขอเล่าถึงประสปการณ์  การเสาะหามวลสาร  เพื่อมาทำผงพุทธคุณของพำนัก ติคญาโณ  แห่งนี้     เรื่องมีอยู่ว่า      อาจารย์  ผมกับเมธ  ได้นัดกันไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง   เป็นถ้ำ  เพื่อไปทำพิธีพลีมวลสารมาสร้าง  วัตถุมงคล   (ต้องกล่าวขอโทษก่อนว่า  ไม่สามารถบอกชื่อสถานที่นี้ได้จริงๆ   เพราะอาจารย์กลัวว่า  หากบอกออกไปจะมีคนเข้ามารบกวน  พวกเขาเหล่านั้นได้  และหากมีพวกที่อยากลองของ   ลองดี   เข้ามา ก็อาจจะเป็นอันตรายได้)   จากที่ทราบจากอาจารย์  บอกว่าถ้ำแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธ์มาก  เพราะเป็นสถานที่ เหล่าเกจิอาจารย์ยุคก่อน  มานั่งกรรมฐานศึกษา  วิชาไสยเวทย์  และสำเร็จกันมากมาย   ซึ่งหากเอ่ยชื่อออกมา  ผู้ที่เล่นหาพระเครื่องยอมทราบกันดีว่า   พระคุณเจ้าเหล่านี้ต่างก็มีชื่อเสียงกันทั้งนั้น   ขออนุญาติลงล่ะกันคับ    เริ่มจาก    หลวงพ่อกลิ่น วัดหนองบัว  ท่านเป็นองค์แรกที่สำเร็จวิชายัง สถานที่นี้   และ  เกจิอาจารย์เหล่านี้ก็มาศึกษา วิชาที่ถ้ำแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
-หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
-หลวงปู่เนียม วัดน้อย
-หลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน
-หลวงพ่อปาน วัดสว่างอารมย์ -
หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
-หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
-หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว  
-หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว  
เหล่าเกจิอาจารย์เหล่านี้คือ  ยุคแรก   และยังมีเกจิอาจารย์ในยุคหลัง   อีกหลายรูปก็มานั่งกรรมฐานสำเร็จไปอีกหลายรูป   เช่น  หลวงปู่แช่มวัดตาก้อง  ,  หลวงพ่อเดิม  ,หลวงพ่อเปิ่น  ฯลฯ  กล่าวได้ไม่หมดแค่ได้ยินแบบนี้ผมและเมธ  ก็อยากจะไปเยือนดูสักครั้งล่ะ     พวกเราตะเตรียมของไปทำพิธีที่นั่นแล้วก็ออกเดินทางไปยัง  ถ้ำแห่งนี้ทันที  เมื่อไปถึงสัมผัสแรกที่ได้รับคือ   ความเงียบสงบ  เมื่อถึงสิ่งแรกคือไปหาท่านเจ้าอาวาส   ผู้ดูแลสถานที่เพื่อบอกกล่าวท่านซะก่อน   แต่ก็ไม่พบใครเลย  เราเลยถือวิสาสะ  เดินขึ้นเขาไปยังถ้ำเอง     บันไดทางขึ้นยาวมาก   เล่่นเอาเหนื่อยเลย   เมื่อไปถึงปากถ้ำ  เจอเณร  หนึ่งองค์เลยสอบถาม  เณรท่านบอกเจ้าอาวาสไม่อยู่  ไปข้างนอกวัดเดี๋ยวจะกลับมา  พวกเราเลยถือโอกาสบอกกล่าวกับเณรว่าจะขอเข้าไปชม  ถ้ำสักหน่อย   เณรก็อนุญาติ    พอเข้ามาแรกๆก็ยังไม่รู้สึกอะไร   แต่พอเราเริ่มเข้ามาลึกขึ้นๆ   และแสงสว่างก็เริ่มจะน้อยลง  น้อยลง...................ค่อยมาต่อคับ
            









โดย: touch-578    เวลา: 2018-7-24 16:28
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2018-7-26 10:05

  ต่อ.........เมื่อเข้ามายังภายในถ้ำ  ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีคนดูแล  มานานมาก  สังเกตุจากทีพื้นลานกว้างฝุ่นผงหนามากๆ   และไม่มีไฟฟ้า  มีแต่แสงจากข้างนอกที่ส่องเข้ามาถึงเท่านั้น   ภายใน...มี  พระพุทธรูป  และรูปปั้น  ให้คนสักการะบูชาอยู่หลายจุด  แต่เท่าที่ดู  เหมือนไม่มีใครเข้ามายังสถานที่นี้  นานมากแล้ว   และเมื่อสัมผัสบรรยากาศที่ได้รับคือ    ความเย็นยะเยือก   หลังจากพวกเรา  จุดธูปไหว้ พระพุทธรูปในถ้ำแล้ว      พวกเราก็เดินเข้าไปยังส่วนที่ลึกขึ้น   แสงจากด้านนอกเริ่มน้อยลง  และที่สำคัญบรรยากาศ  ยิ่งเดินลึกเข้ามา  ยิ่งหนาวยะเยือก  และ  แสงสว่างจากภายนอก เริ่มส่องมาไม่ถึง    ความมืดก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ    ผมกับเมธจึงต้องเอามือถือออกมาฉายไฟแทน   เพื่อให้มองเห็นเส้นทางเดิน  โดยให้อาจารย์ท่านเดินอยู่ตรงกลาง  พวกผมคุมหน้าหลังเอง   และเมื่อเริ่มเข้ามาภายในที่   ทางเดินวกวน   และไม่ราบเรียบ  บางจุดต้องก้าวลงบรรไดลิงที่ทำจากไม้ผุๆ     บางจุดมีสะพานเป็นแผ่นเหล็กที่บังคับให้เราเดินเรียงเดี่ยวเข้าไป  เราเดินเข้ามาค่อนข้างไกลจากปากถ้ำพอควร  ผมรู้สึกว่าไกลมาก   เพราะมือถือผมเปิดเป็นไฟฉาย  แบตมันร้องเตือนใกล้จะหมดเลย  ทั้งๆที่ผมชาร์ทมาเต็มเมื่อคืน  บรรยากาศตอนนี้ชักหนาวๆและกลิ่นความชื่น  ลอยเข้าจมูก ผสมกับกลิ่นมูลค้าวคาว   และที่สำคัญผมรู้สึกเหมือนใครกำลังจ้องมองเราอยู่   ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้   ทั้งหมดก็รู้สึกเหมือนผม  และเมื่อผมกับเมธรู้สึกแปลกๆในบรรยากาศ   ความที่รู้งานว่าอาจจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล กำลังจะเกิดขึ้น  ด้วยความเป็นลูกศิษย์   ผมกับเมธจึงพร้อมใจกัน  (เหมือนทุกครั้ง) ให้อาจารย์ท่านเดินนำหน้า   พวกผมตามหลังส่องไฟให้   จากแสงไฟเพียงน้อยนิดจากมือถือก็พอจะทราบได้ว่า   อาจารย์กำลังด่าพวกผมแน่นอน  (คงบ่นในใจว่า....ลูกศิษย์กรูนี่  รักกรูจริงๆ)  มาถึงจุดที่ต้องลงบรรไดแคบๆ  และใกล้จะถึงจุดหมาย  อาจารย์ก็หยุดและสั่งให้พวกเรากลับออกไปกันก่อน   ถึงพวกผมสองคนจะไม่ค่อยเข้าใจ   แต่ก็ต้องเดินกลับออกมาทางเดิมแบบ...งงๆ    หลังจากออกมาถึงปากถ้ำ    มานั่งพักเพราะเดินเข้าไปไกลมาก (ความรู้สึกของผม)
    อาจารย์ก็บอกให้กลับลงไปข้างล่างก่อน   โดยที่ยังไม่บอกอะไรพวกผม   ผมได้แต่บ่นว่า    กว่าจะเดินขึ้นบรรไดจากข้างล่างมาถึงปากถ้ำก็เล่นเอาผมหายใจไม่ทันล่ะ
เพราะมันไกลมาก    และนี่ถ้าต้องเข้าไปในถ้ำอีกจะทำยังไง  มือถือแบตฯเกือบจะหมดแล้ว   และข้อสำคัญนี่  ก็ใกล้บ่ายสามโมงล่ะ  กลัวจะกลับบ้านดึก   อาจารย์ไม่สนใจเดินนำพวกผมลงมาถึงข้างล่าง    และก็ได้มาพบกับท่านเจ้าอาวาส  (ท่านกลับมาจากข้างนอกล่ะ)  อาจารย์ก็เลยเข้าไปพูดคุยกราบนมัสการท่าน   ท่านก็เลยชวนเข้าไปคุยกันที่หน้ากุฎิท่าน    ซึ่งไม่ไกลนัก   ช่วงที่เดินตามท่านเจ้าอาวาสเข้าไป  ผมสงสัยจึงถามเหตุผลว่า    ทำไมอาจารย์เปลี่ยนใจให้พวกผมลงจากถ้ำมา  ทั้งๆที่จะถึงที่หมายแล้ว อาจารย์หันมามองหน้าผมและบอกว่า.............เห็นบางอย่าง  เป็นดวงตาสีแดง 2 คู่  กำลังมองพวกเราอยู่  รู้ด้วยจิตว่าไม่ค่อยดีจึงให้ออกมากันก่อน   ผมงี้พอฟังสตั้นไป  พักหนึ่งเลยทีเดียว   และก็เป็นเวลาที่เดินมาถึง  หน้ากุฎิของ  ท่านเจ้าอาวาสพอดี   ท่านบอกให้พวกเรานั่งลง   และเริ่มทักทายสอบถามกันพอสมควร  อาจารย์จึงสอบถาม   ประวัติ  ของถ้ำแห่งนี้  ว่าเป็นมายังไงและก็เริ่มสอบถาม  ว่าตอนที่ท่านมาจำวัดที่นี่ใหม่ๆ  มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง  เอาที่เป็นใจความสำคัญของเรื่องนะคับ  ท่านเล่าว่าตอนท่านมาจำวัดที่นี่ใหม่ ๆ   ก็เจอดีเหมือนกัน  เช่น  ท่านเห็นดวงไฟหลากหลายสี  ลอยเข้าไปยังในถ้ำแห่งนี้   และตอนกลางคืนท่านจำวัดแล้ว   ก็ฝันเห็น...หมาดำตัวใหญ่มาก   2  ตัว  ดวงตาสีแดงจ้า  กระโจนใส่ท่าน จะเข้ามาทำร้ายท่าน (ถึงตอนนี้  ผมมองไปที่อาจารย์   อาจารย์ก็มองมาทางผม  เหมือนจะบอกว่า  สิ่งที่ท่านเห็นเจ้าของดวงตาสีแดง   น่าจะเป็นหมาดำที่ ท่านเจ้าอาวาสพูดถึง แน่นอน)    ท่านแผ่เมตตาให้อยู่หลายคืน   และบอกกล่าวว่าท่านมาดี   ไม่ได้มารบกวนอะไร   และก็พูดคุยหลายเรื่องมาก   ทั้งเรื่องพระพุดขึ้นมาจากพื้นดินในถ้ำด้วย   หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก  .............

โดย: touch-578    เวลา: 2018-7-25 16:58
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2018-7-26 14:06

         อาจารย์ก็กล่าวขออนุญาติเข้าไป  ในถ้ำอีกรอบหนึ่ง   ท่านเจ้าอาวาสก็ใจดี  เดินไปหยิบไฟฉายให้    พวกเราเลยต้องมาเริ่มต้น  เดินขึ้นเขากันอีกรอบหนึ่ง   ทีนี้เมื่อถึงปากถ้ำ  อาจารย์สั่งให้เมธ  จัดขันต์ห้า  สักหลายๆชุด  ให้เสร็จที่หน้าถ้ำเลย    และทีนี้อาจารย์กลับเดินนำหน้าพวกผม  ถือไฟฉายเดินเข้าไปในถ้ำ  โดยมีพวกผมถือของเดินตามเข้าไป   เมื่อมาถึงจุด  แรก  อาจารย์ก็ทำพิธี  พระพุทธรูปองค์ใหญ่  ในถ้ำโถงแรก (ในรูปเป็นภาพเก่า  ตอนยังมีคนมาท่องเที่ยวกราบไหว้อยู่บ้าง  ปัจจุบันที่ไปถึง  ณ...ตอนนั้น เหมือนถ้ำร้าง  มีหลอดไฟและเห็นปลั๊กไฟอยู่เป็นจุดๆ  แต่กลับไม่มีสายไฟ     ถามเจ้าอาวาสบอกโดนขโมยมาลักไปหมดแล้ว) เสร็จแล้วไปที่รูปปั้นองค์พ่อฯ   และหยุดทำพิธียังจุดที่มีการกราบไหว้บูชาทุกจุด   ที่ประหลาดคือ   อาจารย์สั่งให้เมธกับผม  จุดเทียน   นำไปปักไว้ตามทางเดิน  ตลอดเส้นทางที่เข้าไป    และเมื่อถึงทางลงเป็นบันไดไม้จุดสุดท้าย   ก็เห็นลานกว้างมีแท่นหินขนาดใหญ่รูปวงกลมอยู่กลางลาน    คือจุดหมายที่เราจะมา  บรรยากาศผิดกลับเมื่อตอนเข้ามาทีแรก  แต่ก็ยังได้สัมผัสบรรยากาศ   อันเย็นยะเยือกอยู่  ผมส่องไฟไปรอบๆบริเวณ  ก็ไม่พบอะไรผิดสังเกตุ    อาจารย์สำรวจแล้วก็มาหยุดยืนที่แท่นหินวงกลม   ตรงจุดนี้ยังพบร่องรอย  เสาหลายต้นปักรอบแท่นหินอยู่และเมื่อส่องไฟเข้าไปดูใกล้จะเห็น  ป้ายบอกชื่อ  พระเถระจารย์ในอดีตที่ท่านเคยมาฝึกกรรมฐาน  ลองวิชาไสย์เวทกัน   โดยรอบแท่นหินนี้   เหมือนเป็นโต๊ะกลมที่เหล่าอัศวินนั่งรายล้อม   อาจารย์เดินสำรวจดูรอบๆแท่นหินแล้ว     อาจารย์ก็สั่งให้  นำของที่เตรียมมาทำพิธีได้เลย   เราจุดเทียนรอบๆแท่นหินวงกลมนี้  เพื่อเพิ่มความสว่างให้มากขึ้น   และอาจารย์ก็เริ่มทำพิธี   ณ....ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่า  บรรยากาศเปลี่ยนไปแบบฉับพลัน   ผมและเมธ  อยู่ข้างๆอาจารย์กลับสัมผัสถึง   พลังงานบางอย่างที่แปรเปลี่ยน  บรรยากาศภายในถ้ำ   ก็เปลี่ยนไปจนรู้สึกได้  และผมมองไปทางอาจารย์   ท่านก็ยังสงบนิ่ง  บริกรรมคาถาต่อไป  แต่ผมกับเมธ  เริ่มรู้สึกถึงความอึดอัดในบรรยากาศ    เหงื่อเริ่มตกออกมาแบบที่ไม่สามารถบรรยายได้   มันอึดอัดจนผมเริ่มหายใจไม่ออก   เหมือนพลังงานบางอย่างมารวมกันอยู่ที่จุดนี้เพียงจุดเดียว   ผมเริ่มใกล้จะทนไม่ไหว   มองไปทางอาจารย์ก็ยัง   บริกรรมคาถาอยู่   นะตอนนี้.....ผมได้แต่คิดในใจว่า   เมื่อไหร่...อาจารย์จะทำพิธีเสร็จ   ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว   มองไปทางเมธ    ก็เหงือแตกออกมาทางใบหน้าชัดเจน    มันก็คงไม่ต่างจากผมสักเท่าไร   และอีกชั่วอึดใจ   อาจารย์ก็ลืมตา   สั่งให้พวกผมนำดินและผงที่อยู่ในบริเวรนี้กลับไปได้    บรรยากาศในตอนนี้ก็เริ่มกลับเป็นปกติ    หลังจากได้มวลสารมามากพอสมควรแล้ว   อาจารย์ก็สั่งให้เรารีบกลับออกไป  ยังปากถ้ำ   เรามาใกล้ถึงปากถ้ำ   อาจารย์มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า   รูปปั้นพระเถระจารย์ท่านหนึ่ง   และสั่งให้เมธตักน้ำที่อยู่  ในโพรงหลังรูปพระเถราจารย์นี้ให้ได้   กำชับว่าได้เท่าไรเอาเท่านั้นพอ    ผมก็แปลกใจมาก    ว่าอาจารย์รู้ได้อย่างไรว่าด้านหลังรูปปั้น   มีโพรงน้ำอยู่     จึงสอบถาม   อาจารย์เล่าให้ฟังว่าที่นี้  มีตำนานอยู่   รูปปั้นที่เห็นอยู่นี้คือ  อาจารย์ของท่านขุนแผน   และขุนแผนเองก็มาศึกษาวิชาอยู่ที่นี่   และตำนานยังบอกว่า  สถานที่นี้คือที่  ที่ย่างกุมาร   และมาสร้างดาบฟ้าฟื้น  น้ำด้านหลังเป็นน้ำที่ผ่านการทำพิิธีกรรมมาแล้วด้วย    อาจารย์พอเล่าจบก็รีบเร่งให้เมธตักน้ำเร็วๆ   ผมเลยเดินเข้าไปช่วย   อาจารย์บอกพอแล้วก็เร่งให้พวกผมออกจากถ้ำมา    พอมาถึงหน้าถ้ำเราก็ล๊อคประตูทางเข้าตามคำสั่งเจ้าอาวาส   ที่บอกให้ช่วยปิดล๊อคกุญแจประตูเข้าถ้ำให้ด้วย    พวกเราก็เดินตามอาจารย์ลงจากถ้ำมา  มาถึงทางขึ้นเราจึงได้นั่งพัก   

โดย: touch-578    เวลา: 2018-7-26 11:38
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2018-7-26 15:34

       หลังจากลงมาจากถ้ำ  แล้วอาจารย์   ผมและเมธ  ก็มานั่งพักด้านล่าง  ซึ่งตอนนั้นก็ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว  และขณะที่เรานั่งพักกันอยู่   หูผมก็ได้ยินเสียงพระสวดมนต์  ดังมาจากถ้ำที่อยู่ด้านบน    ที่พวกเราพึ่งเดินลงมาไกลๆ   แต่เสียงสวดมนต์ชัดเจนมาก  ในถ้ำไม่มีใครอยู่แน่นอน  และพวกผมยังล๊อคประตูใส่กุญแจกับมือ  ผมจึงหันไปถามอาจารย์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ   ว่าได้ยินเสียงไหมคับเสียง  สวดมนต์ทำวัตร  เพราะผมก็เคยบวชเรียนมา  จนจบนักธรรมตรี  เสียงแบบนี้จำได้แน่นอนว่า  มนต์ทำวัตรเย็น   ผมกลัวจะหูแว่วไปเอง   อาจารย์ก็บอกว่าใช่  นั้นคือเสียงสวดมนต์   อาจารย์ยังบอกอีกว่า  ถึงให้รีบเร่งลงมากันไงล่ะ    ไม่อยากให้พวกเราไปรบกวนพวกท่านๆเหล่านั้น   เพราะวันนี้เป็นวันพระด้วย   และอาจารย์ก็บอกอีกว่า   อาจารย์ตั้งจิตขอเวลาเพียงแค่เทียนมอด   หมดเล่มเท่านั้นจะออกมา    ผมก็ยัง....งงๆ  กับสิ่งที่เกิดขึ้น   เสียงสวดมนต์นี้  ไม่ใช่เสียงองค์เดียวด้วย  มีหลายรูปแน่นอน   ก็พอดีผมเห็นท่านเจ้าอาวาสเดินมาพอดี   จึงเข้าไปนมัสการสอบถามท่านว่า  พระคุณเจ้ายังไม่ไปทำวัตรเย็นด้วยรึคับ     ท่านกลับตอบมาแบบ  งงๆในคำถามมั้ง    ตอบผมมาว่า   "เด่วจะเข้าไปทำที่กุฎิล่ะ รอพวกโยมกลับก่อน   จะได้ปิดประตูวัด"   ผม  ยิ่ง  งง กับคำตอบ  เพราะสงสัยเสียงที่ได้ยิน  ไม่ได้มาจากกุฎิท่านแน่นอน  ผมเลยถามไปอีกว่า    "ที่วัดนี้  อยู่กันกี่รูปคับ"    ท่านก็หันมาตอบผมว่า "อาตมาอยู่องค์เดียว   และมีเณรอีกองค์   วันนี้คงกลับไปหาโยมแม่ที่บ้าน  ไม่ได้กลับมาที่วัด"     และที่พวกผมกับอาจารย์ได้ยิน  เสียงสวดมนต์ที่ดังมาจากถ้ำล่ะ  ทำไมพวกเราได้ยินกัน  เรื่องนี้เป้นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น  ตอนพวกเรา  ไปหามวลสารและตามรอยตำนานขุนแผน  เพื่อนำมา สร้าง " ขุนแผนแสนตรีเวท " หลายครั้ง   หลายสถานที่  ที่เราไป    มักเกิดเหตุการประหลาดแบบนี้บ่อยๆ   มันเป็นประสปการณ์ชีวิต  ที่ในยุคสมัย  3-4 G  ไม่สามารถอธิบายได้  และสิ่งที่ผมสัมผัส  และพบเจอก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้   ยังเจอเหตุการประหลาดตอนไปหา ดิน 7 ป่าช้าด้วยเหมือนกัน  เที่ยวนี้เหล่าสานุศิษย์ไปกันเอง  ไม่มีครูอาจารย์ไปด้วย  มีแต่มนต์ที่อาจารย์ท่านสอน  วิธีไปด้วยเท่านั้น  ไว้จะมาเล่าต่อ  นะคับ

รูปเป็นภาพเก่าๆ  ตอนที่ยังมีคนดูแลนะคับ   ตอนที่ไป  สภาพเป็นถ้ำร้างเลย

โดย: Metha    เวลา: 2019-8-23 02:04
touch-578 ตอบกลับเมื่อ 2018-7-25 16:58
อาจารย์ก็กล่าวขออนุญาติเข้าไป  ในถ้ำอีกรอบหนึ่ ...

บรรยากาศ น่ากลัวกว่านี้เยอะครับ
โดย: touch-578    เวลา: 2020-1-22 09:46
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2021-12-7 18:50

    ไม่เข้ามานานขอระบายสักหน่อย......
         ขอเท้าความถึงอดีต  ที่ผ่านมาสักหน่อย  พอดีไปเจอข้อความในอดีต  เมื่อก่อน  ครั้งที่อาจารย์สรายุทธรับศิษย์ใหม่ๆ   อ่านแล้วของขึ้นเหมือนกัน  แม้จะเป็นข้อความนานมาแล้ว  เอามาเตือนสติเหล่าศิษย์ใหม่กันซะหน่อย  จะกล่าว   หากหลวงปู่ท่านเป็นหลวงตาแก่ ๆ ที่ไม่มีคนรู้จักถามหน่อยจะมีใครหน้าไหนมาสนใจ   และอาจารย์สรายุทธ   ไม่เก่งจริงไม่เป็นศิษย์หลวงปู่ชื่น  ที่ได้รับการครอบครูมาแบบถูกต้องจริงๆ ที่เข้ามาเป็นศิษย์เพื่อผลประโยชน์     อยากได้วัตถุมงคลของหลวงปู่   อยากได้ของที่มีคุณค่าหายากๆจากอาจารย์    เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์   คอยประจบสอพอ   ต่างๆนา   พอนานเข้ามันรู้ว่า    ไม่ได้ดังใจต้องการ   ก็ไปโพสต์โน่นเบี่ยงนี่ไปเรื่อย ๆ  เอาครูบาอาจารย์ไปด่าลับหลัง   และทำทุกวิธีให้เสียชื่อเสียง  ด่าทั้งพี่จ้อที่เคยมีบุญคุณ   ด่าอาจารย์ที่ครอบครูให้    เพราะอะไร เพราะเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่ได้รับกันนะสิ พอมาเอาของเขาไปแล้วเขาไม่ให้ก็โกรธ ทำลายทุกวิถีทาง นี่เหรอคนที่รักเคารพ เคยครอบครู เคยจัดพานครู ปัจจุบันยังเรียกคนที่ครอบครูให้ตัวเอง ว่าไอ้…………..อย่างหยาบคาย. คนเรามันไม่เหมือนคนโบราณตรงนี้แหละ หากผลประโยชน์สิ้นไปก็สิ้นสุดความเป็นครูบาอาจารย์กันทันที จ้องทำลายให้ได้ทุกวิถีทางเคยวิ่งไปหาเพื่อต้องการของมาครอบครอง   เข้าไปหาเพื่อจะได้ของดีๆมาเร่ขายกัน ขายกันแม้กระทั่งเกษาของหลวงปู่ นำลูกแก้วของรักของหวง ของครูบาอาจารย์ซึ่งให้ด้วยความเมตตานำออกมาขาย   ตอนมึงหมดความนับถือ   ทำไมมึงไม่เอามาคืนท่านว่ะ     ซึ่งคนที่มีความคิด มีความเคารพ มีความรักจะกล้านำเกษาครูบาอาจารย์  ขอที่ท่านให้ด้วยความรักความเมตตา    มาขายกันหรือ ทุกท่านที่ขาย ๆ ซื้อ ๆ กัน พวกอ๊อฟชั่นพิเศษติดเกษาเนี่ยรู้สึกกันบ้างไหม



โดย: touch-578    เวลา: 2021-12-7 18:51
"สายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์สรรพวิชา ที่มีมากกว่าความขลัง"
ท่านรู้ท่านเรียนเอาจากครูบาอาจารย์ซึมซับ
เอาจากสิ่งที่ท่านฝากไว้ให้กับแต่ละคน
ท่านจะเข้าใจหลักธรรมเอง
อย่ารอหวังพึ่งเพียงของขลังของเสก  
ทุกอย่างไม่ได้สำเร็จรูปแบบมาม่า
กว่าท่านจะได้รับกว่าท่านจะถ่ายทอด  ดูไม่ง่ายเลย
แต่การรักษาสิ่งที่ท่านมอบให้มายากยิ่งกว่า  
เรียนรู้งานจากคนเป็นงานเรียนรู้วิชาจากปราชญ์
ท่านไม่บอกทุกอย่างดูท่านเป็นแบบเดินตาม
โดนดุบ้างโดนหวดบ้าง จะได้ไม่ออกนอกทาง"


โดย: touch-578    เวลา: 2022-3-13 08:31
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2022-3-13 10:27

เรื่องเล่า...กล่าวขาน !!!

    อาจารย์สรายุทธ  มักพูดเสมอ "ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง   ไม่ได้วิเศษอะไร"  
แต่คนธรรมดา  คนนี้ของพวกผม  เหล่าสานุศิษย์  กลับให้ความสำคัญและเคารพท่าน  อย่างสุดหัวใจ  
จะด้วยการวางตัว  เป็นกันเองกับสานุศิษย์  ให้ความช่วยเหลือโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ  ไม่เคยหวังผลหรือเรียกร้องใดๆ  
จากผู้มาขอความช่วยเหลือ  ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี  ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านอาจารย์    ผมบอกได้คำเดียวว่า
    "คนนี้ล่ะ  ที่ไม่ใช่ผู้วิเศษอะไร  คือครูบาอาจารย์ของผม"
   ท่านเองก็มิได้ร่ำรวยอะไร  มีกินมีอยู่ตามอัตภาพของท่าน  ขนาดเงินที่สานุศิษย์นำมาเป็นค่าครู  ให้ท่านไว้
ท่านก็ไม่เคยเก็บไว้  กลับนำไปทำบุญยังสถานที่ต่างๆ  ซึ่งพวกเราเหล่าสานุศิษย์   ได้พบ  ได้เจอ   ได้เห็น   กันเป็นประจำ
จนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว  และท่านยังให้ทานสร้างบรามี  บุุญกุศลให้แก่ครูบาอาจารย์ของท่านตลอดมา   เป็นประจำและสม่ำเสมอมาตั้งแต่หลวงปู่ชื่นมรณะภาพไป  เกือบจะ ๒๐ ปี  ท่านก็ยังกระทำไม่เคยขาด  อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ  ไม่เคยยกตนว่าเป้นครูบาอาจารย์   และไปทำเป็นใหญ่กว่าใคร   หลายครั้งหลายหน  ที่ต้องโดนสานุศิษย์ของ (พระเกจิดังๆ) ผู้อื่นต่อว่าแรงๆก็มี  ตอนนำวัตถุมงคลไปเข้าร่วมพิธีปลุกเสก   ให้สานุศิษย์ของตัวท่านเอง   (ทั้งๆที่ทางเราก็ใส่ซองช่วยเหลือค่าพิธีปลุกเสกมากโขอยู่เหมือนกัน) ก็ไม่เคยเห็นท่านจะโกรธ  กลับเป็นผมที่โมโหแทนท่าน  จนท่านออกปากเตือนผมเสมอๆว่า  ให้ใจเย็น  เราเป็นผู้มาขอความช่วยเหลือจากเขา  อดทนได้  ให้อดทนไว้  ให้ทำเพื่อสานุศิษย์และพี่น้องของเราจริงๆและทั้งๆที่ตัวท่านอาจารย์เอง  ก็มีพลังจิตชั้นสูงสามารถ  ปลุกเสกได้เองโดยไม่ต้องพึ่งใครก็ได้  แต่ด้วยเพราะท่านยังเป็นฆราวาส  กลัวสานุศิษย์และผู้ศรัทธาอื่นๆ  อาจจะยังไม่ให้ความเชื่อถือในวัตถุมงคลของท่านอาจารย์  เลยยังต้องไปนำเข้าพิธี  ให้พระเกจิ ใหญ่ๆดังๆ อาราธนาจิตให้อีกทางเสมอๆ  
      แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเรา  ศรัทธาท่านอาจารย์สรายุทธได้อย่างไร!!!   จะจัดสร้างวัตถุมงคลแต่ล่ะครั้ง  ก็ยังนึกถึงสานุศิษย์  และผู้ศรัทธาก่อนเสมอๆ  นำเข้าพิธีแล้ว  พิธีอีก  จนพลังเต็มเปรียบ  มวลสารทุกอย่างใส่ให้เต็มๆไม่มีกั๊ก   กล้าท้าพิสูจน์แทบจะไม่ต้องเอากล้องมาส่อง  ก็เห็นมวลสารชัดเจน  
    ที่กล่าวมาทั้งหมด  แค่อยากจะบอกว่า...คนๆนี้ล่ะคับ  ที่พวกเรา  บอกกล่าวและกราบไหว้ได้สนิทใจ  ผู้ที่บอกไม่ใช่  "ผู้วิเศษ"
คือ....""อาจารย์ของพวกเรา""  คับผม....กราบ.....

Touch





โดย: touch-578    เวลา: 2022-12-21 17:26
>>>เรื่องเล่า...กล่าวขาน<<<


               วันหนึ่งมีคนขอให้อาจารย์สรายุทธ์ช่วยเรื่องเด็กคนหนึ่งอยู่ห้องICU หมอว่าให้ ให้ทําใจ รู้สึกจะเป็นโรคอะไรนี่แหละผมจําไม่ได้
ทางแม่ของเด็กคนนั้น เข้ามาหาอาจารย์ และมาเล่าความทุกข์ของตนให้ท่านฟัง อาจารย์ท่านคิดว่าจะไม่ช่วยเด็กคนนี้แล้ว
เพราะการช่วยคนโดยที่เขาถึงเวลาไปแล้ว ผู้ช่วยจะเป็นคนรับเคราะห์เสียเอง แต่มานั่งคิดนอนคิด ก็สงสารเขา และได้ทําพิธีขอชิวิตจากพญายม
ใช้ธงแดงขอชีวิต และนั่งเทียน เพื่อนช่วยเด็กคนนั้น อาจารย์บอกกับแม่ของเด็กคนนั้นว่าจะช่วยได้เท่าที่ช่วย หลังจากพิธีช่วยเด็กคนนั้นเรียบร้อย

ท่านได้ป่วยอยู่หลายวัน ข่าวจากเด็กผู้นั้นก็มาถึง ว่าเด็กคนนั้นอาการดีขึ้นแล้ว
ท่านคิดว่า ผู้ที่มีวิชาความรู้ความสามารถ ขนาดนี้ ช่วยคนได้ขนาดนี้
จะทําให้ผู้ที่มาทําให้ท่านเจ็บชํ้านํ้าใจ ให้ดวงตกไม่ได้หรือ ให้ป่วยไม่ได้หรือ ให้ตายไม่ได้หรือ ขอบอกว่าท่านทําได้
แต่ที่ท่านไม่ทํา เพราะความเมตตาของท่าน

    ผมไม่คิดว่าผู้อ่านทุกท่าน   อ่านแล้วจะเชื่อ แต่ ถ้าท่านช่วยเด็กคนนั้นจริง ก็ถือว่าท่านเกิดมาเพื่อช่วยคนไม่ใช่หรอครับ
ตัวกระผมเองก็ได้ท่านช่วยไว้  มะเร็งระยะสุดท้าย แทบจะเอาตัวไม่รอด  พี่น้องเหล่าสานุศิษย์ต่างทราบกันดี
      ยังมีเรื่องราว  ที่อาจารย์ท่านเข้าไปช่วยเหลือคน  ที่เดือดร้อนและเข้ามาหาอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากจะเล่าเพราะทุกครั้งที่  ท่านเข้าไปช่วยเหลือมักจะเจ็บป่วยประจำ  จนสานุศิษย์ไม่อยากให้ท่านไปโปรดแบบนี้
จึงไม่อยากลงเรื่องราวเหล่านี้ลงไป  เพราะกลัวผู้คนจะเข้ามาขอให้ท่านช่วยเหลือ  


โดย: touch-578    เวลา: 2023-3-24 10:01
สำหรับเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของ หลวงปู่ชื่น มีมากเกินกว่าจะนำมาเสนอในที่นี้หมด บางเรื่องพิสดารจนผมต้องตัดออกบ้าง เกรงท่านผู้อ่านจะหาว่าเป็นนิทานหรือผมแต่งขึ้นมาเอง ผมขอยืนยันว่าผมทำหน้าที่ตรงนี้ เพื่อท่านผู้อ่านที่ชอบของจริงเรื่องจริงเท่านั้น ไว้เป็นความรู้สำหรับผู้ที่ผิดหวังจากเครื่องรางอุปโหลกทั้งหลาย   และนิยาย  คนข้างวัด  รับจากมือท่าน  ของเสริม  ของปลอม  ของจับยัด  เพราะตอนนี้มีคนแอบอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ทันหลวงปู่ แต่ไม่เคยกราบหลวงปู่เลย  พวกกรูรู  ทั้งหลาย  ที่เพิ่งมาเล่นสายพระหลวงปู่เพราะไม่ทันหลวงปู่
พึ่งมาจำหน่ายพระของ หลวงปู่ ตอนหลวงปู่ มรณภาพแล้วแต่ดันบอกชาวบ้านเขาว่ามาเอาของที่วัด??  วัดไรหว่า!!!  รับจากมือท่านบ้าง  จากคนข้างวัดบ้าง  จากคนนั้น  คนนี้  คนใกล้ชิด  สารพัดจะกล่าวอ้าง และมีคนมั่วข้อมูลเรื่องรายละเอียดการสร้าง ***

อย่าห้อยพระเพราะ  เพียงเพื่อตามกระแส   
หรือตั้งหวังอยากจะได้ในสิ่งที่ปราถนาหากเกินกรรม  ก็จะพาลผิดหวัง  
อีกทั้งอย่าเชื่อในคำโฆษณา   จนขาดความเชื่อมั่นในองค์พระ  
ให้ห้อยพระเพราะความศรัทธา    จิตที่ตั้งมั่นถือมั่น   ปาฎิหารย์ถึงจะเกิดคับ

     ถ้าไม่ใช่ของที่หลวงปู่เสกแล้วออกที่วัดตาอี ผมไม่ค่อยอยากแนะนำน่ะครับ เพราะว่าเมื่อก่อนนั้น วัตถุมงคลของหลายๆวัด ก็นิมนต์หลวงปู่ไปร่วมปลุกเสกด้วยก็มีหลายวัด ก็ขอไม่กล่าวถึงจะดีกว่า

คืออย่างนี้ครับ วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่น โดยเฉพาะในยุคแรกๆนั้น ท่านสร้างออกมาไว้แจกลูกศิษย์และผู้มาทำบุญกับท่านครับ ซึ่งจำนวนที่สร้างในแต่ละครั้งน้อยมากๆ แม้กระทั่งก่อนที่ท่านจะมรณะภาพไป  เช่นใน รุ่นพิธีชัยมหานาถ จำนวนการสร้างก็ยังน้อยเช่นกัน

  อย่างไรก็ตาม เมื่อวัตถุมงคลของหลวงปู่มีประสบการณ์จากผู้นำไปอาราธนาใช้  บอกเล่าปากต่อปากกันมา  และจนทำให้ผู้คนรุ่นใหม่ๆ  ถามหากันมาก ก็มีผู้ทำเสริม  ทำปลอมออกมา ทำให้จากที่ผู้คนเคยนิยมกันมากอยู่พักหนึ่ง กระแสเลยเริ่มดรอปลงไป  เพราะนำไปใช้แล้วไม่ได้ผล  ดังที่สานุศิษย์ที่ได้ของแท้ๆไปบูชาได้กล่าวถึง


     ถึงจะอย่างไรก็ตาม ถ้าใครที่เคยเช่าบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่แท้ๆ  มาใช้บ้างแล้ว จะรู้ได้เลยครับ ว่าไม่เหมือนใคร และ ไม่มีใครเหมือนจริงๆ ท่านเป็นพระที่เก่งมากๆครับ คนที่มีของๆท่านโดยเฉพาะของหลักๆ ก็หวงกันซะมาก อย่าว่าแต่พระเครื่องเลย ขนาดกุมารของท่าน ก็หากันไม่ได้แล้ว ( หรือหาได้แต่ราคาสูงมากๆ รองๆวัดสามง่ามเท่านั้นเอง )

     เป็นที่น่าเสียดายกับหลวงปู่ชื่น ที่ต้องละสังขารไปก่อนเวลาอันควร ทั้ง ๆ ที่วัตถุมงคลของท่านกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก เพราะมีประสบการณ์จากปากต่อปากในเรื่องเมตตามหานิยม  มหาเสน่ห์ ที่ไม่เป็นรองใคร

โดย: touch-578    เวลา: 2023-3-30 08:29
                                                                                                                                                        
                        

               
          ท่านทั้งหลายที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่น และอาจารย์สรายุทธ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลประเภทใด ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่าของที่ท่านบูชาอยู่นั้น เป็นของดีที่มีเทวดาคุ้มครองอยู่ และยังมีหลวงปู่  ครูบาอาจารย์  คอยติดตามให้ความช่วยเหลือท่านตลอดเวลา ขอให้ท่านบูชาด้วยความเคารพ ระลึกถึงพระคุณของท่านไว้เสมอ ของบางอย่างถึงแม้จะใช้ทางด้านรัก ๆ ใคร่ ๆ แต่ใช่ว่า....ท่านจะใช้ได้อย่างไม่มีขอบเขต หรือใช้ในทางผิดศีลธรรม มีหลายคนที่ใช้ของ ๆ ท่านในทางผิดศีลธรรม หลวงปู่หรือเทพเทวา  ครูบาอาจารย์ถึงกับมาเตือนกันเลย บางคนได้ยินเป็นเสียงท่านมาบอก บางคนฝันเห็นท่านมาเตือนให้เลิกพฤติกรรมชั่วก็มี จะเห็นได้ว่าพวกท่านไม่ได้สนับสนุนให้ลูกศิษย์ หลานศิษย์ทั้งหลายทำผิดศีลธรรมแต่ประการใด

         มีวัตถุมงคลของหลวงปู่และอาจารย์สรายุทธแล้ว  ถ้าจะให้ขลังและเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นให้ ปฏิบัติดังนี้ เมื่อถึงวันพระให้หาพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียน ถวายบูชาต่อวัตถุมงคลของท่าน ถ้ามีน้ำอบน้ำหอมก็ให้ประพรมที่วัตถุมงคลจะดีมาก หากผู้ใดจะบูชาหลวงปู่ชื่นหรือขอสิ่งใดท่านเป็นพิเศษ ให้ถวาย ขนมจีน หรือ น้อยหน่าสุก  เอ็ม150  ถ้าได้ทั้งหมดจะดีมากเพราะเป็นของที่ท่านโปรด เมื่อถวายแล้วให้บอกความต้องการให้ท่านทราบและขอให้ท่านช่วยตามต้องการ เมื่อความมุ่งหมายสำเร็จแล้วให้ถวายอีกครั้งหนึ่ง

          วัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นและอาจารย์สรายุทธมีคุณวิเศษ ที่ยากที่ของใครจะเหมือนคือ วัตถุมงคลของท่านทุกประเภท จะลงคาถากัน คัดถอน และกันของเสื่อมไว้ ใครมีวัตถุมงคลของท่านไว้บูชาให้สบายใจได้ ว่าพุทธคุณนั้นทรงความเข้มขลังไม่เสื่อมคลาย (นอกจากจะกระทำผิดต่อครูบาอาจารย์)

          และขอเตือนทุกท่านให้พึงระลึกไว้เสมอว่า การใช้วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังไม่ว่าจะเป็นของหลวงปู่ชื่น หรือของท่านอาจารย์สรายุทธ ห้ามใช้ในทางผิดศีลธรรม คือห้ามใช้ผิดศีล 5 เด็ดขาด ของที่ทำขึ้นมาให้ท่านได้ใช้บูชาเพื่อให้ท่านได้สมหวังในสิ่งที่ต้องการใน ขอบเขตของศีลธรรมเท่านั้น ไม่ได้ทำมาเพื่อส่งเสริมให้ท่านใช้ละเมิดศีล หากท่านผ่าฝืน นอกจากครูบาอาจารย์  หลวงปู่  หลวงพ่อจะไม่เห็นด้วยแล้ว อาจจะทำให้วัตถุมงคลเหล่านั้นปิดตัวเองได้  หรือเรียกว่า "ล๊อค" ได้  จึงทำให้ใช้ไม่ได้ผลและอาจจะทำให้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด  จนต้องกลับมา ทำขันธ์ห้า  ขอขมาหลวงปู่และอาจารย์สรายุทธ  ให้ช่วยปลดล๊อคให้






ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2