Baan Jompra

ชื่อกระทู้: เกร็ดความรู้คาถาอาคม-การบูชาพระเครื่องของหลวงปู่ชื่น [สั่งพิมพ์]

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:44
ชื่อกระทู้: เกร็ดความรู้คาถาอาคม-การบูชาพระเครื่องของหลวงปู่ชื่น
กระทู้นี้มีไว้เพื่อรวมรวมเคล็ดและรายละเอียดปลีกย่อยของการใช้คาถาอาคม และการบูชาพระเครื่องของหลวงปู่ชื่น
โดยความรู้นี้ ไม่ได้บอกกล่าวเป็นการทั่วไป จะรู้กันก็แต่ในลูกศิษย์ลูกหาที่สนใจในด้านนี้เท่านั้น

เหตุที่มีการรวบรวมความเข้าใจตรงนี้ขึ้น ก็เพื่อเป็นการสอบทานความรู้ที่เข้าใจมา ว่ายังสอดคล้องกับครรลองที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมามากน้อยแค่ไหน
หากมีความเข้าใจในส่วนใดคลาดเคลื่อน ก็ขอความกรุณาอาจารย์และศิษย์พี่น้องช่วยชี้แนะด้วย

ทั้งนี้ตัวผมเองมีความเห็นว่า เกร็ดเคล็ดวิชานี้ ควรจะรวบรวมเอาแต่เฉพาะความรู้ในสายของหลวงปู่ชื่นและเขากุเลนเท่านั้น

ที่กล่าวเช่นนี้มิใช่เพราะเห็นว่าความรู้ของสำนักอื่นหรือสายอื่นไม่ถูกต้อง หากแต่เป็นเพราะศิษย์หลวงปู่หลายๆท่านได้ศึกษาวิชาในสำนักอื่นๆมาก่อน ก็มีจำนวนไม่น้อย หากนำความรู้ที่มีอยู่เดิมมาประยุกต์กับความรู้ในสายหลวงปู่ชื่น ก็จะเป็นการทำให้เนื้อหาที่ท่านสอนคลาดเคลื่อนไปได้ อีกทั้งหลวงปู่ชื่นก็เคยกล่าวเองว่า วิชากลุ่มที่ท่านแตกฉาน คือ วิชาสาริกา ซึ่งหาผู้ฝึกสำเร็จได้ยากยิ่ง อีกทั้งวิชาสายอาถรรพณ์ที่ท่านสำเร็จก็เป็นวิชาเฉพาะทางเป็นเอกลักษณ์ เราพี่น้องทุกคนจึงควรช่วยกันสืบสาน โดยเรียบเรียงหมวดหมู่วิชาของหลวงปู่ออกมาอย่างเป็นเอกเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาเมื่อจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน

ลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่แต่ละคน มีความสนใจศึกษาศาสตร์แต่ละด้านต่างกันไป จึงขอเชิญชวนทุกท่านเข้ามาช่วยเติมความรู้ที่มีคนละเล็กละน้อย เพื่อแบ่งปันให้กับท่านทั้งหลายที่สนใจในกาลต่อไป


By LightGuardian


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:45
อาคาอาคม -- แต่ละคาถามีนัยแฝง

ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ได้ถามกับอาจารย์สรายุทธ เรื่องคาถาพระขุนแผนน้ำผึ้ง ในท่อนที่ว่า "ปฏิสังขาโย นิโสมาแวะ ปฏิแวะมาแวะ" โดยลูกศิษย์ท่านนั้นเคยได้ยินอาจารย์สวดอย่างอื่นเป็นกลบท

อาจารย์สรายุทธจึงได้สอนให้ฟังว่า คาถาบาทนี้ ในท่อนที่เป็น "ปฏิสังขาโย นิโสมาแวะ ปฏิแวะมาแวะ" นั้น มีเพื่อเรียกให้คนดีๆเข้าในชีวิตของเรา ให้ชีวิตเราได้พบเจอแต่คนที่ดี เมื่อหมั่นภาวนาคาถานี้ ก็จะดึงดูดให้มีแต่คนดีๆเข้ามาในชีวิต

เรื่องนัยแฝงของคาถานี้ ครั้งหนึ่งอาจารย์สรายุทธได้สอนเช่นกัน ในตัวพระคาถาของขุนแผนชมตลาด "นะ เมตตา ปัญจะพุทธา นะมามิหัง เมตตา กรุณา นะ จุ่มๆ โม จุ่มๆ พุท จุ่มๆ ธา จุ่มๆ ยะ จุ่มๆ จุ่มๆ สวาหะ"
ท่านสอนว่า ความสำคัญของคาถานี้ จะละเลยท่อนที่ว่า "เมตตา กรุณา" ไปไม่ได้ เพราะสิ่งนี้แหละ ที่จะทำให้คนเกิดความรักและเอ็นดูเรา เป็นยอดของเมตตา


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:45
ครั้งหนึ่ง ผมมีความสนใจในพระขุนแผนชมตลาดเป็นพิเศษ จึงเรียนถามอาจารย์ไปว่ามีเคล็ดรายละเอียดปลีกย่อยนอกจากเหนือจากนั้นหรือไม่
ท่านอาจารย์สรายุทธจึงได้เล่าให้ฟัง
ว่าในสมัยก่อนหลวงปู่เคยบอกเอาไว้เหมือนกัน ว่าพระขุนแผนชมตลาดนี้ ท่านได้ประสมผงแป้งผัดหน้าลงไปด้วย
ดังนั้นเมื่อจะอาราธนาพระก่อนออกจากบ้าน สามารถนำพระมาวนรอบหน้าให้เกิดสิริมงคล ใบหน้าผ่องใสงดงาม แล้วจึงค่อยออกจากบ้าน

ดังนั้น วิธีการอาราธนาพระขุนแผนชมตลาด จึงสามารถกล่าวได้ว่า
สุนะโมโล (เก้าจบ)
นะเมตตา ปัญจะพุทธา นะมามิหัง เมตตากรุณา นะจุ่มๆ โมจุ่มๆ พุทจุ่มๆ ธาจุ่มๆ ยะจุ่มๆ จุ่มๆสวาหะ (เก้าจบ)
ก่อนออกจากบ้าน นำพระมาวนรอบหน้าสามรอบ พร้อมบริกรรมคาถาหัวใจขุนแผน สุนะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:46
เหรียญหนุมานออกศึก กับ รูปหล่อหนุมานนั่งแท่น

ผมเคยสงสัยว่า เหรียญหนุมานออกศึก กับหนุมานแบบที่เป็นรูปหล่อนั่งแท่นนั้น ต่างกันอย่างไร
เพราะผมเห็นข้อมูลในเวปต่างๆก็บอกกัน ว่าเหรียญหนุมานหลวงปู่ชื่นเสกให้เป็นตัวตน
ส่วนหนุมานนั่งแท่น ท่านก็เสกให้เป็นตัวตน แล้วจะต่างกันตรงไหน

ท่านอาจารย์เลยเล่าให้ฟังว่า
เหรียญหนุมานนั้นหลวงปู่ก็ได้เสกตั้งธาตุให้เป็นตัวตนอยู่
แต่สิ่งที่ทำให้ต่างจากหนุมานนั่งแท่นเป็นอย่างมาก ก็คือ
หนุมานนั่งแท่นนั้นหลวงปู่ท่านใช้เวลาเสกยาวนาน
แต่เหรียญหนุมานนั้น ถูกจำกัดด้วยเวลาที่น้อยกว่า
นอกจากนี้ หนุมานนั่งแท่นยังเสกในฤกษ์กำเนิดหนุมาน ซึ่งเป็นฤกษ์จำเพาะเจาะจง
ในเหรียญหนุมานไม่ได้เสกในฤกษ์นี้
ความเป็นตัวตนของหนุมานจึงสมบูรณ์ไม่เท่ากัน

นี่คือที่มาที่ไปของหนุมานรุ่นยอดนิยมทั้งสองรุ่น
และเราท่านที่เคยบูชา คงจะพอสังเกตุได้ว่า อิทธิฤทธิ์ของทั้งสองรุ่นนี้ต่างกันอย่างไร
ถ้าจะให้บอกว่ารุ่นไหนดีกว่า ก็คงตัดสินได้ยาก
หากแต่ขึ้นอยู่กับประโยชน์ที่แต่ละท่านที่บูชามุ่งหวังเอาของแต่ละคน
นอกจากนี้ เมื่อหลวงปู่ชื่นปลุกเสกอย่างตั้งใจเต็มที่แล้ว ไม่ว่าพระรุ่นไหน ก็ย่อมมีปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์ เป็นธรรมดา


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:47
กราบขอบพระคุณอาจารย์สรายุทธที่แวะเวียนเข้ามาอบรมดูแลนะครับ
หัวข้อต่อไปจะเกี่ยวกับการนำคาถาอาคมไปใช้สวด รวมทั้งเกี่ยวกับการบูชาวัตถุมงคลที่หลวงปู่ไม่ได้ให้คาถากำกับไว้โดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้ หากผมอธิบายข้อความตอนหนึ่งใดผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป ขอรบกวนอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยครับ

ศาสตร์แห่งอาคมของหลวงปู่ชื่นต่างจากคณาจารย์สายอื่นทั่วไป

ก่อนจะเข้าถึงการนำคาถาหลวงปู่ชื่นให้ศึกษา จำเป็นต้องชี้แจงประเด็นนี้ก่อน เนื่องว่าความจริงแล้ววิชาที่หลวงปู่ชื่นเจนจบแตกฉานคือวิชาหมวดสาริกาและวิชาอาถรรพณ์ เมื่อหลวงปู่ท่านนำวิชาที่ท่านร่ำเรียนมาสร้างวัตถุมงคลจึงทำให้พระเครื่องแต่ละรุ่นมีอำนาจพุทธคุณต่างๆกัน

ผู้ที่สนใจศึกษาพระเครื่องของหลวงปู่ จะสังเกตได้ว่า หลวงปู่ท่านจะตั้งชื่อพระเครื่องให้มีคำว่า "อาถรรพณ์" หรือ คาถากำกับพระก็จะเป็น คาถาอาถรรพณ์ต่างๆกันไป เช่นกัน

ทั้งนี้ก็เพราะท่านใช้วิชาหมวดอาถรรพณ์ในการสร้างพระเครื่อง และทำให้พระเครื่องมีพุทธคุณและกระแสพลังแตกต่างจากพระเครื่องจำนวนมากในสาระบบ

ความแตกต่างนี้ อาจจะพออนุโลมเทียบเคียงได้ เช่น หลอดไฟแบบไส้ กับหลอดนีออน ต่างก็ให้แสงสว่างเหมือนกัน แต่ด้วยวิธีต่างกัน คือหลอดแบบไส้ใช้ความร้อนสูงเผาโลหะจนเกิดแสง ส่วนหลอดนีออนใช้การเหนี่ยวนำประจุไฟฟ้าจนเกิดแสงสว่าง อีกทั้งผลลัพธ์ของหลอดทั้งสองก็ต่างกันไปอีก เช่นว่า หลอดไส้ให้ความร้อน แต่หลอดนีออนไม่ร้อนแบบหลอดไส้  และแสงที่ออกมาจากหลอดทั้งสองก็ยังเป็นแสงคนละสีกัน รัศมีของแสงก็สว่างไม่เท่ากัน เป็นต้น

ที่เทียบเคียงมานี้ เพื่อจะอธิบายว่า พระเครื่องหลายอย่างในเมืองไทย เกจิเราฝึกจิตมาแบบหนึ่ง เดินสมาธิมาแบบหนึ่ง ปลุกเสกพระเครื่องแล้วจึงมีพุทธคุณอย่างหนึ่ง
ส่วนหลวงปู่ชื่นท่านฝึกจิตมาอีกวิธีหนึ่ง เดินตามอีกตำราหนึ่ง เมื่อท่านสร้างพระเสกพระ จึงมีผลเป็นอีกอย่างหนึ่ง เช่นนั้นเอง

ดังนั้น นี่คือสาเหตุว่า ทำไมคนที่สัมผัสพลังพระได้ถึงเห็นว่า พระสายเมตตาของหลวงปู่มีพุทธคุณต่างจากพระสายเมตตาอื่นๆ พระสายมหาลาภของหลวงปู่มีพุทธคุณต่างจากพระสายมหาลาภอื่นๆ

และนี่คือสาเหตุว่า ทำไมเราจึงควรสวดบูชาพระเครื่องของหลวงปู่ตามแนวทางที่ท่านเคยสอนเอาไว้ เพื่อเป็นการประสิทธิ์ให้สัมฤทธิ์ผล ดังที่ผมจะกล่าวต่อไป


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:48
การสวดบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่น

ให้เริ่มดังนี้

พุทธัง อารัตตานัง กะโรมิ
ธัมมัง อารัตตานัง กะโรมิ
สังฆัง อารัตตานัง กะโรมิ

ต่อด้วย

อาถันโท โมสิตัง วะคะริงคะรัง อิสะวาสุ
อิอาถันโท โมสิตัง วะคะริงคะรัง สุสะวาอิ
(ทั้งสิ้น ๓ จบ)

จากนั้น ให้สวดคาถาอาคมบทต่างๆที่เราต้องการจะสวด ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์แขนงอาจารย์ใดก็ตาม สามารถสวดได้ตามปกตจากนั้น ก่อนเลิกสวดมนต์ ให้สวด

อาถันโท โมสิตัง วะคะริงคะรัง อิสะวาสุ
อิอาถันโท โมสิตัง วะคะริงคะรัง สุสะวาอิ
(ทั้งสิ้น ๓ จบ)

เหตุที่ต้องสวด อาถันโท ทั้งตอนขึ้นต้นและลงท้ายการสวดมนต์ เพื่อเป็นการปรับธาตุปรับพลังให้เข้ากับวิชาสายหลวงปู่ เพราะหากสวดคาถาของคณาจารย์บทอื่นโดยตรงเข้าไป จะทำให้พลังคนละสายตีกันได้ และไม่ขลังศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ควรจะเป็น

ดังนั้นจึงให้สวด อาถันโท ทั้งตอนเริ่มและตอนสิ้นสุด เหมือนเป็นการเปิดมิติและผนึกพลังงาน นั่นเอง

ส่วนการที่ให้สวด พุทธังอารัตตานัง กะโรมิ ตอนแรกสุดนี้ เป็นธรรมเนียมที่หลวงปู่สอนไว้ ให้ตั้งจิตศรัทธามั่นในพระรัตนตรัย แล้วสวด ทดแทนการสวดนะโม ๓ จบ

ขอท่านผู้รู้ทั้งหลาย โปรดพิจารณาฟังเอาเถิด ส่วนใดที่แตกต่างจากความรู้เดิมที่ท่านมี ก็ขอโปรดไตร่ตรองถึงเหตุและผลของสิ่งต่างๆ หลวงปู่ท่านวางหลักเอาไว้เพราะท่านคงเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อศิษย์ในภายหลัง ท่านจะบังคับให้เราเชื่อก็หามิได้ เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องขบคิดและเลือกปฏิบัติให้เหมาะสมตามครรลองเอง


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:51
การเลี้ยงกุมารทอง ที่หลวงปู่ชื่นเคยบอกไว้

กุมารทองที่หลวงปู่ชื่นสร้างนั้น ท่านเคยบอกไว้ว่า หากต้องการจะเลี้ยงดูแล เอาใจกุมารทอง ก็สามารถทำได้เช่นกัน
แต่จะมีประเด็นต่างจากกุมารทองของสำนักอื่น คือ

น้ำที่ใช้เลี้ยงกุมาร ให้ใช้น้ำส้ม จะเป็นที่พอใจกุมารเป็นอย่างยิ่ง

และหากจะเลี้ยงอย่างจริงจัง ในวันพระให้หาปลาตัวงามๆมาย่าง (หรือจะนึ่ง ตามสะดวก)
พอปลาสุกหอมชวนทานแล้ว (พูดแล้วอยากกินเองเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ) ให้เอาลงจากเตา

ให้บรรจงถอดส่วนหัวและหางของปลา ออกจากท่อนตัว แล้วอย่าเพิ่งทิ้งหัวกับหางปลานะจ๊ะ (ขออภัยครับ เขียนเกี่ยวกับกุมารทีไร เป็นโรคบ้าจี้ ไปซะทุกที)
ที่นี้ปลาก็จะเหลือส่วนตรงตัว ให้เลาะก้างออก เอาก้างเล็กก้างน้อยออกให้หมด ให้หมดเลยนะ

แล้ว อืมมม ลืมบอก ว่าต้องมีข้าวสวยด้วย
ไปเอาข้าวสวยมา เอาให้ได้สัดส่วนพอดีกับเนื้อปลา
ให้เอาข้าวสวย คลุกกับเนื้อปลา คลุกไปคลุกมา คลุกมาคลุกไป จนเนื้อเข้ากันดี น่ารับประทาน

ยังไม่จบครับ ต้องทำต่อ
ให้เอาข้าวคลุกปลาที่ได้น่ะ มาปั้นนะ ปั้นๆๆ เป็นก้อนกลมขึ้นมา ลูกโตเลยแหละ ปั้นให้เป็นลูกเดียวนะ
ตรงนี้ ผมเคยทำบ่อย บอกได้เลยว่า ถ้าข้าวสวยนุ่มๆไม่แห้งเกิน จะช่วยให้ปั้นง่ายมาก ถ้าข้าวแข็งพอปั้นแล้วก็จะแตกอยู่นั่นแหละ

ปั้นเสร็จแล้วใช่ไหม เอามาวางตรงกลางจานนะ วางตรงกลาง แล้วเอาหัวกับหางปลาที่เก็บไว้ตอนแรก มาวางแทนหัวกับหางฝั่งละข้าง
เสร็จแล้วพร้อมเสริพ เรียกกุมารมากิน ได้เลยคร้าบ

มันจะรักเจ้าของโคตรๆครับ แสดงฤทธิ์เดชสุดวิสัยเท่าที่จะทำได้ ลองไปทำกันดูละกัน ฮ่าๆๆๆ (พูดจริงนะเนี่ย แต่เวลาคุยถึงกุมารทอง ผมจะกลายเป็นคนบ้าๆบอๆอย่างงี้แหละ ฮ่าๆๆๆ)


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:51
ที่มาของกุมารอุ้มไก่

ครั้งที่หลวงปู่ท่านได้สร้างกุมารอุ้มไก่ขึ้น ได้เล่าให้อาจารย์สรายุทธฟังว่า
กุมารอุ้มไก่มีที่มาจากเรื่อง นางสิบสอง ซึ่ง รถเสน ไปตีไก่ ได้ข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงแม่และน้าซึ่งตาบอด ทั้งหมดสิบสองคน ด้วยตัวคนเดียว
"มันเลี้ยงแม่ทั้งสิบสองคนได้ ...แล้วทำไมมันจะเลี้ยงเราไม่ได้" หลวงปู่กล่าว

เรื่องนางสิบสองนี้ เป็นนิทานพื้นบ้าน ซึ่งผมเองก็เพิ่งจะมาสนใจเมื่อรู้จักกุมารอุ้มไก่นี่เอง
และเนื้อหาออกจะยาวอยู่สักหน่อย
ท่านที่สนใจ ลองไปอ่านตามลิ้งค์นี้ นะครับ


http://ilwc.aru.ac.th/Contents/FolktaleThai/FolktaleThai1.html

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:52
มีครั้งหนึ่งหลวงปู่ชื่นเคยเล่าให้อาจารย์สรายุทธฟังถึงเรื่องของอีกากับนกถึดทือ
เรื่องมีอยู่ว่านกทั้งสองนี้ต่างก็เป็นสุดยอดนกที่หากินเก่งมากๆ วันหนึ่งอีกากับนกถึดทือจึงมาตกลงกันว่าจะแบ่งเวลาทำมาหากินเพื่อจะได้ไม่ต้องมาแย่งเหยื่อกัน โดยนกทั้งสองนี้ตกลงกันว่าตอนกลางวันจะยกให้อีกาเป็นใหญ่ส่วนนกถึดทือไปนอน พอตอนกลางคืนจะให้นกถึดทือเป็นใหญ่ส่วนอีกาไปนอน เมื่อตกลงได้ดังนี้แล้วนกทั้งสองต่างก็แยกย้ายหาอาหารเป็นใหญ่ในช่วงเวลาของตนเองไม่ก้าวก่ายกัน

จะว่าไปแล้วอาจารย์สรายุทธก็เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนตามต่างจังหวัด เวลาเผาศพจะเผากันกลางแจ้ง นกถึดทือมันจะชอบเอาตัวมาคลุกเถ้าอัฐิศพเพื่อทำให้ตัวเองมีฤทธิ์เดชมากขึ้น อย่างเช่นว่าเวลานกมันรู้ว่ามีปูหลบอยู่ในรู มันจะร้องอยู่สักพักปูก็จะออกมาจากรูให้มันจับกินอย่างง่ายดาย


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:53
พระขุนแผนน้ำผึ้ง

วันก่อนได้มีโอกาสไปกราบอาจารย์สรายุทธและพูดคุยเกี่ยวกับพระขุนแผนน้ำผึ้งซึ่งเป็นรุ่นที่แรงที่สุดรุ่นหนึ่งของหลวงปู่ชื่น แต่คนจำนวนมากกลับบูชาแล้วไม่เห็นผล
อาจารย์สรายุทธสอนว่า พระขุนแผนน้ำผึ้งเป็นพระที่มีพุทธคุณมาก แต่เคล็ดสำคัญในการใช้คือต้องมีพรหมวิหารสี่ อย่างคนมีสเน่ห์นี้ถ้าไม่มีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขานี้ ก็ไปผิดลูกผิดเมียเขาได้ แต่หากมีพรหมวิหารสี่เป็นหลักธรรมก็จะมีความยับยั้งชั่งใจไม่ไปทำบาปอกุศลเบียดเบียนเขา
หลวงปู่ท่านจึงวางวิชาไว้ว่าหากไม่มีพรหมวิหารสี่พระขุนแผนก็จะไม่สำแดงพลังออกมา แต่หากมีพรหมวิหารสี่แล้วก็จะสามารถสัมผัสพลังของพระขุนแผนได้อย่างเต็มที่ หลวงปู่ท่านว่าเหมือนมีแม่อยู่กับตัว อยากได้อะไรอยากมีอะไรก็ขอแม่เอาได้ หลวงปู่ท่านว่าไว้
สำหรับเรื่องของแบบลองพิมพ์และแบบจุ่มน้ำผึ้ง อาจารย์บอกว่าไม่แตกต่างกันหรอก แต่จะใช้ได้หรือไม่ได้ ใช้ดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ว่าคนๆนั้นมีพรหมวิหารสี่หรือเปล่า

ขอบันทึกไว้และแบ่งปัน ท่านใดเคยอ่านแล้วโปรดช่วยเพิ่มเติมความรู้ถือเป็นวิทยาทานกันนะครับ ช่วงนี้ผมยุ่งมากเพราะมีงานจำเป็นหลากหลายอย่างเพิ่มเข้ามาตามวัยที่เพิ่มขึ้นครับ

ท่านใดที่มีบุญวาสนาได้บูชาพระขุนแผนน้ำผึ้ง ลองศึกษาเพิ่มเติมให้เข้าใจถ่องแท้ อย่าปล่อยให้หลักธรรมคำสอนของหลวงปู่หลุดลอยผ่านไปอย่างน่าเสียดายนะครับ


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-10 16:54
ขุนแผนน้ำผึ้ง  มีอิทธิคุณที่สูงมากๆ  เป็นพิมท์โบราณด้านหลังเป็นรูปพระพรหม  เป็นเอกในด้านเมตตาชั้นสูง  เข้าหาผู้หลัก ผู้ใหญ่  หรือเจ้านายที่มีบารมีมากกว่าเรา  หรือพวกที่มีทิฐิในตัวเองสูง ใจแข็งไม่ยอมใคร  เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรุ่นนี้คับ  ให้ความสงบ  ใจเย็น  มีสติ  ในการตัดสินใจ และยังมีพลังในการ  ป้องปักรักษา  คุ้มครองได้อย่างดีเยี่ยม เป็นขุนแผนที่ท่านสร้างขึ้นเอง  เป็นเวลาเกือบ 2 ปี และเข้าพิธีพร้อมกับ พระเครื่องรุ่น" ชัยมหานาถ"   ด้านหลังองค์พระเป็นรูปพระพรหม เป็นปริศนาธรรม ท่านบอกว่าคนเราจะมีเสน่ห์เป็นที่ชื่นชมของคนอื่นต้องทำได้อย่างพรหม คือ มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา แก่ผู้อื่น ถ้าทำได้แล้ว อย่างนี้ไปไหนมาไหนก็จะมีแต่คนรักคนชอบอย่างแน่นอน  เป็นพระอีกองค์ที่ผมอาราธนาห้อยแล้วติดใจเอามากๆ  พลังอิทธิคุณแห่ง "เมตตาอาถรรพย์" ล้ำลึกสุดยอดมากๆ  พระรุ่นนี้มีปริศนาธรรมซ่อนอยู่มากมาย  หลวงปู่ว่า....ท่านอยากให้ศิษย์ใช้สติ พิจารณา หาเคล็บลับ.ในการใช้การบูชาด้วยตัวเองครับ ท่านว่ามันจะได้มีปัญญาบ้าง บางคนบอกว่าใส่รุ่นนี้ไม่ดี  ไม่แรง   แต่บางคนกับบอกว่าสุดยอด เพราะธาตุ คนเราไม่เหมือนกันครับ ท่านจึงบรรจุมนต์บ้างอย่างที่ล้างและปรับ ความสมดุล เพื่อรองรับ  หากเรียนรู้และหาเคล็ดลับในการใช้ได้แล้ว  จะทราบเองพลังอิทธิคุณรุ่นนี้มากมายมหาศาลเพียงใด    ในส่วนตัวของผม  มีขุนแผนของหลวงปู่อยู่เกือบครบทุกรุ่น  ต้องขอบอกว่า  ด้วยปัญญาอันลึกล้ำของหลวงปู่  ท่านสร้างขุนแผนแต่ละรุ่น  ให้ความโดดเด่นและลักษณะเฉพาะตัว ที่ไม่เหมือนกัน ท่านมองได้กว้างและยาวไกลมาก   แต่ในบรรดาขุนแผนทั้งหมดที่ผมมี   โดยส่วนตัว  พระขุนแผนน้ำผึ้ง  มีพลังที่ลึกล้ำที่สุด  ในบรรดาขุนแผนที่อาราธนาใช้มา  ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยสักครั้งเดียว

By พี่ทัช (touch)


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-11 11:01

โดย: matmee2550    เวลา: 2013-7-11 19:15
เยี่ยม
โดย: moshido    เวลา: 2013-7-12 01:34
สุดยอด

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-28 09:28

โดย: orisis    เวลา: 2013-7-28 20:37
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย orisis เมื่อ 2013-7-28 20:39


โดย: Metha    เวลา: 2013-7-31 08:54
เลือกเวลาขอพรหลวงปู่
ช่วงดึกประมาณ 3 ทุ่ม หรือเช้าๆๆสักตี่ 4-5
เพราะเป็นช่วงที่หลวงปู่ ทำวัตรเสร็จ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-7-31 11:13
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-7-31 08:54
เลือกเวลาขอพรหลวงปู่
ช่วงดึกประมาณ 3 ทุ่ม หรือเช้าๆๆ ...

ขอบคุณครับพี่เมธ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-7-31 11:55
เคยได้ยินมาว่า สวดมนต์บูชาหลวงปู่ ควรสวดตอน 3 ทุ่ม เพราะเหตุใดหรือครับ
โดย: Metha    เวลา: 2013-7-31 12:03
ไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะเงียบล่ะมัง
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-7-31 12:23
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-7-31 12:03
ไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะเงียบล่ะมัง ...

จะเป็นช่วงเวลาที่หลวงปู่สวดมนต์หรือเปล่าครับ หรือว่าท่านสวดเสร็จ เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนนี่แหละ ว่าแต่ 3 ทุ่มนี่ผมยังไม่ถึงคอนโดเลยครับ รถติด ฮะฮะ
โดย: Metha    เวลา: 2013-8-1 08:21
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-7-31 12:23
จะเป็นช่วงเวลาที่หลวงปู่สวดมนต์หรือเปล่าครับ หรือ ...

น่าจะเป็นไปได้ครับ
โดย: lnw    เวลา: 2013-11-26 09:11
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-7-31 12:23
จะเป็นช่วงเวลาที่หลวงปู่สวดมนต์หรือเปล่าครับ หรือ ...


โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-26 09:42
สวดช่วง 3 ทุ่มไม่ได้ ลองตื่นมาสวดช่วงตีสี่ตีห้าก็น่าจะดี ช่วงเดียวกับที่อาจารย์สวดมนต์ บางทีก็รู้สึกเหมือนท่านแผ่เมตตามาให้ ทำให้เราเกิดนิมิตบางอย่าง ตื่นเช้ามาก็อนุโมทนา สาธุ จิตเป็นสุขสงบอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ

โดย: Metha    เวลา: 2013-11-27 20:38
ว่างช่วงไหนก็สวดครับ
บางทีผมทำงานผมก็ภาวนา
** อิติฤทธิ ชื่น**ไปด้วย บุญเราน้อย
เราต้องขยันสะสมบุญ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-28 09:54
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-11-27 20:38
ว่างช่วงไหนก็สวดครับ
บางทีผมทำงานผมก็ภาวนา
** อิติฤท ...

อนุโมทนาครับ สาธุ
โดย: Metha    เวลา: 2013-11-28 10:14
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-28 09:54
อนุโมทนาครับ สาธุ

ทำเรื่อยๆ เหมือนหยดอดกระปุกออมสิน สักวันคงเเต็ม
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-28 10:20
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-11-28 10:14
ทำเรื่อยๆ เหมือนหยดอดกระปุกออมสิน สักวันคงเเต็ม ...

ใช่ครับ เยี่ยมมากๆครับ
โดย: Metha    เวลา: 2013-11-28 10:36
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-28 10:20
ใช่ครับ เยี่ยมมากๆครับ

บุญกุศลเราน้อยต้องขยันสะสมครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-28 10:57
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-11-28 10:36
บุญกุศลเราน้อยต้องขยันสะสมครับ

พี่เมธไม่น้อยแล้วมั้ง
โดย: Metha    เวลา: 2013-11-28 12:01
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-28 10:57
พี่เมธไม่น้อยแล้วมั้ง

อาจารย์สอนว่า**อย่าคิดเองว่าตัวดี ตัวเด่น
หรือเก่งแล้ว**
ทำดีทำไปเรื่อยๆครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-28 13:06
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-11-28 12:01
อาจารย์สอนว่า**อย่าคิดเองว่าตัวดี ตัวเด่น
หรือเก่งแ ...

ครับพี่เมธ ขอบคุณครับ
โดย: Metha    เวลา: 2013-11-28 22:28
มั่นสวด มั่นภาวนา
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-4-21 15:53
บทอาถรรพ์โธ เป็นยอดคาถาที่หลวงปู่ท่านกล่าวย้ำเสมอว่าดีมากๆ

ใช่ว่าจะต้องดีเพราะถูกหวยร่ำรวยไม่ต้องพึ่งบุญ
อาถรรพ์โธนั้นประการแรกคุ้มครองปกป้องดี
วันนึงภัยมาถึงตัวพวกพ้องไม่เหลือแล้วพลันเห็นค่าเพราะเรารอดมาได้คนเดียว
คุ้มครองแรงถ้าไม่มีอาถรรพ์โธล่ะก็ไม่รอด
ชีวิตที่มีค่าคือชีวิตที่ยังอยู่ มีโอกาสได้ใช้ชีวิตครับ
จริงๆวิชานี้ไม่น่าถูกเปิดเผยด้วยซ้ำเพราะค่าอาจถูกประเมินจากคนไม่เข้าใจได้ง่ายๆ

Tim


โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-7-11 06:43
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-7-31 08:54
เลือกเวลาขอพรหลวงปู่
ช่วงดึกประมาณ 3 ทุ่ม หรือเช้าๆๆ ...

ทำวัตรสวดมนต์เสร็จ หลวงปู่ชื่น ท่านจะแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ และมวลหมู่ศิษย์

ชั่วโมงนี้จึงเหมาะแก่การขอพรเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าปรับคลื่นพลังงานรับส่งให้ตรงกับ หลวงปู่ชื่นได้

จะสัมฤทธิ์ผล อย่างแน่นอน
โดย: Metha    เวลา: 2014-7-11 08:17
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-4-21 15:53
บทอาถรรพ์โธ เป็นยอดคาถาที่หลวงปู่ท่านกล่าวย้ำเสมอว ...


โดย: Nujeab    เวลา: 2014-7-14 11:38
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-7-11 06:43
ทำวัตรสวดมนต์เสร็จ หลวงปู่ชื่น ท่านจะแผ่เมตตาให้สร ...

ปรับคลื่นพลังงานรับส่งให้ตรงกับหลวงปู่ชื่น ทำยังไงครับกัปตัน มีเคล็ดลับไหมครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-7-14 12:45
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-14 12:46
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-7-14 11:38
ปรับคลื่นพลังงานรับส่งให้ตรงกับหลวงปู่ชื่น ทำยังไ ...


จ.ส. 100



โดย: Nujeab    เวลา: 2014-7-14 13:18
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-7-14 12:45
จ.ส. 100

เงิบเบย
โดย: Metha    เวลา: 2014-7-16 04:42

ขอบคุณ คุณ june
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-7-16 11:01
metha ตอบกลับเมื่อ 2014-7-16 04:42
ขอบคุณ คุณ june

ขอบคุณครับ สาธุครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-8-7 10:43
คาถาเทวดารักษา ของหลวงปู่่ชื่น

(ใช้ประกอบกับพระขุนแผนชมตลาด)


นะโม 3 จบ


พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา


นะเสน่หาให้มาสวาหะ

โมเสน่หาให้มาสวาหะ

พุทเสน่หาให้มาสวาหะ

ธาเสน่หาให้มาสวาหะ

ยะเสน่หาให้มาสวาหะ

นะนิยมให้มาสวาหะ

นินิยมให้มาสวาหะ

พุทนิยมให้มาสวาหะ

ธานิยมให้มาสะวาหะ

ยะนิยมให้มาสวาหะ

มหานิยมเสน่ห์ด้วย

นะโมพุทธายะยะธาพุทโมนะ

เทวดาเจ้าข้าจงมารักษาข้าพเจ้าไปเดี๋ยวนี้ เทอญ


โดย: Ninprakarn    เวลา: 2014-8-11 08:38

โดย: minion    เวลา: 2014-8-12 11:25
ขอบคุณครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-8-13 01:22
ธรรมดา ที่ ไม่ ธรรมดา
โดย: ศราวุธ    เวลา: 2014-8-14 14:11
พี่ครับ ผมทำขุนแผนชมตลาดตกพื้นแล้วมีผู้หญิงข้างจะเป็นอะไรหรือจะเสื่อมมั้ยครับ
โดย: touch-578    เวลา: 2014-8-14 20:54
ไม่เสื่อมคับ  หลวงปู่ลงกันคัดกันถอน. กันเสื่อมไว้หมดแล้ว. หยิบมาบอกกล่าวขอโทษท่านก๊บเทวดาที่อยู่ในองค์พระ ว่าเราไม่มีเจตนา
โดย: TATIE    เวลา: 2014-8-14 20:55
ถาม : โยมนำสร้อยพระไปวางแล้วคนอื่นเดินข้าม เกิดไม่มั่นใจขอหลวงพ่อเสกให้หน่อยเจ้าค่ะ

ตอบ : จำเอาไว้นะ..มีคนไปถาม หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อครับ แขวนพระหลวงพ่อแล้วลอดใต้ถุนบ้านได้ไหม ?" “หลวงพ่อครับ แขวนพระหลวงพ่อแล้วลอดราวผ้าได้ไหม ?” หลวงพ่อเดิมบอกว่า “งูเห่าเลื้อยลอดใต้ถุนบ้าน เลื้อยลอดราวผ้ามากัดเอ็ง เอ็งตายห่..ไหม ?” ตายสิครับ..หลวงพ่อเดิมบอกว่า “เออ..พระที่ข้าเสกก็เหมือนกันนั่นแหละ ลอดไปเถอะ ถ้าไม่ได้เจตนาจะลอดให้เสื่อมก็ไม่เป็นไร”

(ท่านอธิษฐานให้) เอ้า...เอาไป แสดงว่ากำลังใจยังไม่พอ แค่นี้เราก็ฝ่อแล้ว พระที่เสกด้วยพุทธานุภาพ อยู่ที่ต่ำอย่างไรก็ไม่เสื่อม แต่อย่าไปตั้งใจทำ อย่างเช่นตั้งใจเดินข้าม ตั้งใจลอดใต้ถุนบ้าน ตั้งใจลอดราวผ้าเพื่อให้เสื่อม ถ้าอย่างนั้นจะเสื่อมจริงๆ แต่เสื่อมแล้วคนทำลงนรก เพราะข้อหาปรามาสพระรัตนตรัยด้วย ถ้าไม่ได้เจตนาก็มุดไปเถอะ ตรงไหนก็ไปได้

ต้องบอกว่าใจเสื่อมจากคุณพระ ตั้งใจทำให้เสื่อมแปลว่าไม่เคารพแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็เสื่อมจริงๆ แต่ตัวเองลงอเวจีไปด้วย


สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๕


ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ - หน้า 7 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


โดย: ศราวุธ    เวลา: 2014-8-15 13:52
ขอขอบคุณพี่ทั้ง2คนมากเลยนะครับ ผมก็วัยรุ่นอยู่ อาจจะมีผิดพลาดกันได้แต่ผมจะพยายามประพฤติเป็นคนดีครับ  อีกอย่างผมอยากรู้ว่าคาถาขุนแผนชมตลาด บทไหนที่ขลังมากแล้วมีกี่บทหรอครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-8-18 11:40
ศราวุธ ตอบกลับเมื่อ 2014-8-15 13:52
ขอขอบคุณพี่ทั้ง2คนมากเลยนะครับ ผมก็วัยรุ่นอยู่ อาจจ ...

ใช้บทคาถาเทวดารักษาเลยครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-8-18 11:49
พระที่เสกด้วยพุทธานุภาพ อยู่ที่ต่ำอย่างไรก็ไม่เสื่อม


แต่อย่าไปตั้งใจทำ...


อย่างเช่นตั้งใจเดินข้าม ตั้งใจลอดใต้ถุนบ้าน ตั้งใจลอดราวผ้าเพื่อให้เสื่อม
ถ้าอย่างนั้นจะเสื่อมจริงๆ แต่เสื่อมแล้วคนทำลงนรก
เพราะข้อหาปรามาสพระรัตนตรัยด้วย
ถ้าไม่ได้เจตนาก็มุดไปเถอะ ตรงไหนก็ไปได้


ต้องบอกว่าใจเสื่อมจากคุณพระ ตั้งใจทำให้เสื่อมแปลว่าไม่เคารพแล้ว

ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็เสื่อมจริงๆ แต่ตัวเองลงอเวจีไปด้วย



โดย: Nujeab    เวลา: 2014-8-18 11:51
อาจารย์เคยบอกไว้ว่า ของดีอยู่ที่ไหนก็เป็นของดี
โดย: ศราวุธ    เวลา: 2014-8-18 16:54
ขอบคุณมากครับ สบายใจขึ้นเยอะเลย
โดย: Metha    เวลา: 2014-9-27 15:44

โดย: taka_jipata    เวลา: 2014-9-27 22:10

โดย: Nujeab    เวลา: 2014-9-28 10:23

โดย: majoy    เวลา: 2014-10-11 15:29

โดย: majoy    เวลา: 2014-10-29 07:12
ดันมาให้สมาชิกใหม่ๆ อ่านครับ
โดย: majoy    เวลา: 2015-4-5 10:33
อยู่ที่เจตนา
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-4-17 01:12
ใครมีทำเนียบพระทั้งหมดของหลวงปู่ไหมคับ ผ่านมาหลายปี ผมว่าจะลองมานั่งดูทีละอันว่าได้ประเด็นอะไรเพิ่มเต็มออกมาบ้าง ไม่ซีเรียสนะคับ แต่ถ้ามีเวลาฟ้าฝนเป็นใจก็ว่าอยากทำอยู่ครับ
โดย: Metha    เวลา: 2015-4-17 07:39
สาธุ สาธุ สาธุ
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-4-17 11:23
ดีเลยครับแชมป์
โดย: taka_jipata    เวลา: 2015-4-17 12:42


สุดยอดกระทู้อุดมสาระ โหวตเป็นกระทู้แห่งปีครับ
เยี่ยม...!?!
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-3 12:55
จะเริ่มละนะคร้าบบบบ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-3 13:12
พระนาคเกี้ยว
    อาราธนาด้วยคาถาเทวดารักษา
    ก่อนออกจากบ้านสามารถวนพระรอบหน้าด้วยคาถา ๓ จบเพื่อให้มีราศีผุดผ่อง
    ควรระลึกถึงพระศิวะ เมื่อเราทำความดีควรระลึกถึงท่าน
    พลังเน้นความสงบร่มเย็นของชีวิต ชีวิตจะค่อยๆดีขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่การที่ทำให้เรามีสภาพจิตใจหรือมีธรรมมะ หรือมีมโนธรรมมากขึ้น แล้วเรื่องอื่นๆจะค่อยๆตามมา
    ชีวิตจะค่อยๆเจริญงอกงามเหมือนไม้ยืนต้น คือใช้เวลานานกว่าจะเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา แต่เมื่อใหญ่แล้วย่อมเกิดประโยชน์มหาศาล
    แขวนแล้วควรแขวนหลายๆวัน ถึงขั้นอาจ ๓ เดือนสี่เดือนเป็นอย่างน้อย
    โดยส่วนตัว ผมมักจะให้ที่สร้อยมีพระนาคเกี้ยวอยู่ด้วยเสมอ เนื่องจากเป็นพระที่จัดชุดเข้าได้กับหลายๆองค์ กระแสไม่ตีกัน เข้าได้ที่สุดคือแขวนคู่กับพระอัฐกรเทวราช น่าจะเป็นเพราะเป็นมหาเทพที่ท่านเป็นสหธรรมิกกัน
    เป็นพระเครื่องประเภทที่แขวนไปนานๆพระเครื่องพลังจะค่อยๆมากขึ้นๆ ทำนองเดียวกับพระปฐวีพิทักษ์และพระเครื่องบางรุ่นของหลวงปู่
    ใส่สวดมนต์ทำสมาธิ จิตสงบเร็ว สติปัญญายั้งคิดการแก้ปัญหาจะดีขึ้น คนอารมณ์ร้อน วู่วาม ใจเร็ว ควรหามาใส่ เพื่อให้มีจิตใจที่ละเอียดอ่อนโยนขึ้น
    ถ้าจะบอกว่าเป็นมหาสเน่ห์โลดโผน หรือแบบขุนแผนส่วนใหญ่ คงพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นมหาสเน่ห์อันเกิดจากความเข้าใจชีวิต การรู้จักปล่อยวางและเห็นแง่มุมที่ดีงามของเรื่องราวต่างๆ คนที่มาพบเจอพูดคุยกับเราเกิดความร่มเย็นสบายใจจึงอยากเข้าหาเรา อยู่กับเราได้นานๆ คุยได้บ่อยๆ ประเด็นนี้พระนาคเกี้ยวไม่เป็นรองใคร
    กล่าวโดยย่อ ไม่ได้มหาลาภแบบผาดโผน ไม่ได้มหาสเน่ห์แบบผาดโผน ไม่ได้มหาอำนาจแบบผาดโผน แต่ทุกๆพุทธคุณจะค่อยๆเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นพระเครื่องที่แนะนำให้แขวนติดตัวสม่ำเสมอ แล้วจะดี

โดย: majoy    เวลา: 2015-5-4 01:26
LightGuardian ตอบกลับเมื่อ 2015-5-3 13:12
พระนาคเกี้ยว
    อาราธนาด้วยคาถาเทวดารักษา
    ก่อนออกจ ...

เอาอีกๆๆ ให้ไวเลย
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-5 01:14
อั้ยยะ มีการเร่งต้นฉบับด้วยรึคับ 555
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-5 01:40
ล้อกเก็ตพระอัฏกรเทวราช
    เน้นความอุดมสมบูรณ์พร้อมมูลของชีวิต ไม่ขาดแคลน ความเต็มอิ่มบริบูรณ์ไม่เป็นรองใคร
    กระแสสว่างและไม่กด มั่นคง สม่ำเสมอไม่วูบวาบ ออกไปทางอบอุ่น แต่ไม่ร้อน จัดเข้าชุดพระที่เข้ากันให้ดูกลุ่มประมาณนี้
    การบูชาล้อกเก็ตให้ดี มีอานิสงส์เทียบเท่าการไปกราบเทวรูปพระอัฏการเทวราชถึงปราสาทของท่าน
    หน้าที่การงาน การจัดการด้านต่างๆของชีวิตจะดีขึ้น แก้ปัญหาได้เก่งขึ้น คุยเข้าหาผู้ใหญ่ได้ดีขึ้น
    เน้นโชคลาภจากน้ำพักน้ำแรงมากกว่าลาภลอย ถ้าจะบอกให้ถูกคือขยายความอุดมสมบูรณ์ของชีวิต
    หากแขวนสักพัก งานจะเข้ามากขึ้น เพราะยิ่งงานเยอะแล้วเราทำได้ดีชีวิตก็จะก้าวหน้าขึ้นมีกินมีใช้มากขึ้น เหมือนว่าถ้าอยากจะมั่งมีก็ต้องยอมออกแรงด้วย คล้ายเป็นการเร่งกุศลกรรมในอนาคตเข้ามา
    โดยส่วนตัวถ้าผมอยากพัก ผมจะเปลี่ยนพระอื่นติดตัวสักพักแล้วค่อยกลับมาแขวนอีกที

โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-5 22:42
พระขุนแผนน้ำผึ้ง
    พุทธคุณคลายทิฐิคน ให้เกิดการยอมรับและรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่ได้เน้นมหาสเน่ห์ขุนแผนแบบที่บางคนคิดว่าเป็นสเน่ห์โลดโผน แต่เป็นการเปิดใจให้คนยอมรับเราก่อน ซึ่งถือว่าลึกซึ้งไปอีกขั้น เพราะเมื่อใจเปิดให้แก่กัน ย่อมรู้สึกดึงดูดถูกชะตา
    คนที่แขวนแล้วไม่เห็นผลพุทธคุณมี ๒ ประเภท คือถือตัวว่าดีมีทิฐิมาก กับคนที่จิตใจไม่มีพรหมวิหาร และบางส่วนเป็นคนที่ต้องการมหาสเน่ห์ชู้สาวโลดโผน ซึ่งเมื่อแขวนแล้วยิ่งใจร้อนก็จะไม่เห็นผลดั่งใจ
    คนมีทิฐิแรงกล้า ไม่เปิดใจรับฟังคนอื่น คนอื่นจะเปิดใจรับฟังเราได้อย่างไร ดังนั้นคนถือความคิดตัวเป็นใหญ่เกินควร แขวนแล้วยากจะเห็นผล แต่ก็ดีกว่าไม่แขวน โดยส่วนตัวเชื่อว่าพระขุนแผนน้ำผึ้งเป็นพระในกลุ่มเปลี่ยนบุคลิกนิสัยคนแขวนได้ ถ้าเขาสามารถทนแขวนได้นานพอ เหมือนพระท่านจะค่อยๆสอนให้เราเข้าใจก่อนแล้วค่อยแสดงพุทธคุณในภายหลัง ซึ่งเท่าที่ได้ยินมามักไม่ทนแขวนกันนานขนาดนั้น
    หากแขวนแล้วร้อนไม่สบายใจ ให้สำรวจดูว่าพรหมวิหารของเราได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา มีอะไรเจริญขึ้น มีอะไรเสื่อมลง มีเหตุการณ์ปัญหามากระทบแล้วเราแก้ปัญหาโดยประกอบก้วยพรหมวิหารข้อไหนหรือไม่ เป็นต้น
    ไม่ได้เน้นความสง่างาม หรือเฮฮาบันเทิง เราจะดูเป็นคนธรรมดาๆที่สามารถเปิดใจคนได้อย่างไม่ธรรมดา
    ไม่ได้เน้นโชคลาภด้วย แต่ถ้านำเสนองานได้ดี อาจได้เลื่อนขั้น หรือเกิดการซื้อขายมีเงินมีทองได้ อันเป็นผลมาจากการเปิดใจให้แก่กันในทีแรก
    เหมาะใช้กับการทำงาน การเจรจาต่อรอง เสนอโปรเจค พบผู้ใหญ่ พูดอธิบายเหตุผลให้คนเข้าใจ หรือถึงไม่เข้าใจก็เปิดใจฟัง
    บางครั้ง ปฏิสังขาโย นิโวมาแวะ ผมจะสวดเป็น ปฏิสังขาโย ปฏิโสมาแวะ หรือกลับท่อนคาถาในกลุ่มนี้ตามอารมณ์ในการสวด หากจะสลับตัวบทคาถาพิสดารจะลองสอบทานกับอาจารย์ก่อนก็ดี อันนี้ผมเคยได้ยินอาจารย์สวดเลยถามที่มาที่ไป อาจารย์เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่สอนว่าคาถามันสลับกันได้ไม่ตายตัว เหมือนเป็นการลับคมสติปัญญาคนสวด หรืออะไรนี่แหละผมจำได้ประมาณนี้ สรุปว่าผมถามดูว่าสวดสลับไขว้ไปมาได้ เลยสวดครับ
    โดยส่วนตัวเมื่อแขวนแล้วมักจะระลึกถึงท่านท้าวพกาพรหม เจริญพรหมวิหารหรือคลายทิฐิตัวเองได้ควรน้อมระลึกถึงท่านร่วมอนุโมทนาก็ดีนะ
    ควรสวดคู่กับบทพาหุง เพราะเข้ากันดี
    ใส่นั่งสมาธิ ดี เจริญเมตตาพรหมวิหาร ดี

    เป็นพระที่อธิบายได้ยากนะครับ เพราะส่งผลในระดับความคิดของคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราเสียส่วนมาก ไม่ใช่เรื่องหยาบๆที่สังเกตได้โดยง่าย ต้องค่อยๆสังเกตด้วยความละเอียดถี่ถ้วนจึงจะเห็น ประเด็นคือ พุทธคุณทำนองนี้ผมยังไม่เคยพบในพระรุ่นไหนหรือวัดไหนสำนักไหน นอกจากขุนแผนน้ำผึ้งหลวงปู่ชื่นครับ

   

โดย: majoy    เวลา: 2015-5-6 00:07
LightGuardian ตอบกลับเมื่อ 2015-5-5 22:42
พระขุนแผนน้ำผึ้ง
    พุทธคุณคลายทิฐิคน ให้เกิดการยอมร ...

ขอบคุณครับ อยากได้สรุปเต็มๆ ในอีกหลายๆ รุ่น สู้ๆ
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-6 09:05
ขอบคุณครับ รอฟังต่อนะครับ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-6 11:28
ขอบคุณคร้าบ ดีใจที่มีคนติดตามนะครับ
โดย: orisis    เวลา: 2015-5-8 10:22
ขอบคุณครับ อยากทราบเรื่อง พระมะรุมมะตุ้ม รุ่นหนึ่ง รุ่นสอง แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรด้วยครับ ท่าน LightGuardian
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-8 15:17
ต่างครับ งั้นเด๋วเขียนมะรุมมะตุ้มก่อนละกันคับ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-10 00:06

พลังมะรุมมะตุ้มโดยพื้นฐาน
    ทำให้ผู้คนผ่านเข้ามาในชีวิตของเรามากขึ้น เมื่อมีคนผ่านเข้ามามากขึ้นเราก็มีโอกาสเจอสิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิตได้มากขึ้นในด้านต่างๆ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีจะถูกแยกออกไปตามหลักวิชาอาถรรพณ์ที่หลวงปู่ท่านวางไว้แล้ว

พระมะรุมมะตุ้มเนื้อขาวหลังฝังเหรียญเจ้าสัว   
    พุทธคุณมหานิยมโชคลาภ มหาเสน่ห์จากการที่มีมหาลาภเป็นรากฐาน
    ใช้วนรอบหน้าสามรอบได้เหมือนขุนแผนชมตลาด
    โดยส่วนตัวเวลาสวดมหานิยมมันสวดด้านหน้า เวลาสวดมหาลาภมักพลิกไปสวดกับเหรียญด้านหลัง
    ไม่ใช่มหาสเน่ห์โลดโผน เน้นทำมาหากิน

พระมะรุมมะตุ้มพิมพ์กรรมการ ด้านหลังฝังเม็ดแดงๆ
    คนจะผ่านเข้ามาในชีวิตเยอะ เป็นมะรุมมะตุ้มและมหาสเน่ห์ เกือบจะไม่ต่างกับแบบฝังตะกรุดสี่ดอก แต่แบบฝังตะกรุดสี่ดอกกระแสครบเครื่องกว่า แต่ถ้าหาไม่ได้ ถือว่าใช้แทนกันได้

พระมะรุมมะตุ้มเนื้อพระถ้ำเสือ
    จำกระแสไม่ค่อยได้ รู้สึกจะสงบสุข เจรจา อะไรทำนองนี้

พระมะรุมมะตุ้มเนื้อว่าน
    เป็นมหาสเน่ห์และมหาหลง คือคนจะเข้ามาหามาคุยกับเราหรือวนเวียนกับเราแบบงงๆไม่มีเหตุผล

พระมะรุมมะตุ้มเนื้อตะกรุดทองคำสี่ดอก
    กระแสครบสุดในรุ่น๒ เหมาะแก่การทำงานเข้าผู้คน คนเข้ามาพบเจอเราเยอะขึ้นและเกิดความสมัครสมานปรองดองถูกชะตากันได้ง่าย
    มีกระแสของกุมารค่อนข้างชัดในพิมพ์นี้ เออ คือมีนั่นแหละ

พระมะรุมมะตุ้มรุ่นแรก
    กระแสอาถันมะรุมมะตุ้มชัดสุด ข้นสุด หนักสุด จะดึงคนให้เราเข้ามาหาเราแล้วอยู่กับเรานานๆ

สรุปเทียบในแต่ละรุ่น
    มะรุมมะตุ้มตะกรุดทองสี่ดอกถ้าเทียบกับมะรุมมะตุ้มรุ่นหนึ่ง ตะกรุดทองสี่ดอกจะเหมาะกับการใช้ชีวิตและการงานมากกว่า คือคนจะผ่านมาเยอะและผ่านไปไวกว่า ในขณะที่รุ่นหนึ่งจะทำให้คนที่มาเจอเราติดใจเรามากกว่าอยากอยู่กับเรานานๆมากกว่าซึ่งหลังจากตรงนี้จะเป็นยังไงคนแขวนต้องคิดเอาเองอีกที พูดง่ายๆคือรุ่น๒เหมือนอาหารปรุงเสร็จพร้อมรับประทาน รุ่น๑ผู้ใช้ควรประกอบด้วยปัญญาพิจารณาว่าควรให้เรื่องออกมาทำนองไหนอย่างไร
    พระที่ให้ผลคล้ายกับมะรุมมะตุ้มรุ่นหนึ่งที่สุดคือ รุ่นสองที่เป็นเนื้อว่าน จะเพราะอะไรไม่ทราบแน่ชัด แต่จะให้ผลคล้ายๆกัน แต่รุ่นหนึ่งกระแสอาถันเข้มข้นกว่า รุ่นสองกระแสจะโปร่งกว่า แล้วแต่คนชอบ บางคนอึดอัดไปแขวนได้ไม่นาน บางคนบอกว่าแน่นๆดี บางคนไม่รับรู้ความแน่นความโปร่ง แล้วรุ่นสองเนื้อว่านออกไปทางชู้สาวซะมาก แต่รุ่นหนึ่งคือกระแสมะรุมมะตุ้มเป็นหลัก อยากจะบอกว่าเป็นกระแสมะรุมมะตุ้มล้วนๆ แล้วถ้าจะมีกระแสมหาสเน่ห์ก็เป็นผลที่งอกงามออกมาจากมะรุมมะตุ้มอีกทีนึง คนละแหล่งที่มา
    ที่รุ่นสองมีหลายพิมพ์เพราะแยกตามการใช้งาน เช่น เน้นหาเงินทองก็ใช้สีขาว ชู้สาวใช้เนื้อว่าน ถ้าจะเอารวมๆไม่รู้จะออกไปเจออะไรนอกบ้านก็ตะกรุดทองสี่ดอกเป็นต้น
    ตอบคำถามที่คิดว่าคนส่วนมากอยากทราบ รุ่น๒ใช้แทนรุ่น๑ได้ไหม คำตอบคือ ได้เลย แต่ถ้ามีงบ อยากเก็บรุ่น๑ ก็สมควรเก็บ

    บอกตามตรง มะรุมมะตุ้มมีแก่นของสาระปัญญาที่ผมยังตีไม่แตกนะครับ เพราะฉะนั้นจึงยังเขียนได้ไม่เข้าถึงแก่นแท้ ถ้าผมเข้าใจอะไรเพิ่มเติมจะมาบอกเล่ากันฟังครับ

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-11 11:53
ขอบคุณครับแชมป์ รอติดตามต่อครับ
โดย: orisis    เวลา: 2015-5-11 13:13
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย orisis เมื่อ 2015-5-11 13:22

ขอบคุณมากครับ พระมะรุมมะตุ้ม นี่เป็นรุ่นในตำนาน โด่งดังมาก ในยุคนั้น ตอนนี้แทบจะไม่มีคนเขียน อธิบาย หรือบอกเล่าประสบการณ์เลยครับ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-11 23:49
พระนาคปรกห้าพลัง

    สะดวก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบสวดมนต์ หรือจำบทยาวๆไม่ไหว หรือคนยุ่งกับเรื่องต่างๆมากจนไม่ค่อยได้สวดมนต์ หรือต้องเดินป่า เดินทางไกล พกอะไรเยอะไม่สะดวก หรือกลัวที่คอจะก้อกแก้กเพราะพระกระทบกัน
    พุทธคุณครบทุกด้านที่จำเป็นกับการทำงาน การใช้ชีวิต ราบรื่น
    สามารถแขวนกับพระอื่นๆได้ แต่โดยส่วนตัวนิยมแขวนเดี่ยว ด้วยน้ำหนักของพระ และพุทธคุณที่มีถือว่าลงตัวสุดๆอยู่แล้ว
    ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไกลแล้วหยิบพระไปได้แค่องค์เดียว องค์นี้ถือว่าเป็นทางเลือกลำดับแรกๆ
    สอนเป็นนัยว่า ให้ลงมือทำดีกว่านั่งสวดขอพร ลงมือทำดีกว่านั่งสวดมนต์อย่างเดียว

โดย: Metha    เวลา: 2015-5-12 08:34

ขอบคุณแชมป์มากๆๆ
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-12 09:46
ขอบคุณครับ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-12 23:34
โอ้วววว มีคนตามอ่าน ลุยต่อๆคร้าฟฟฟฟ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-12 23:55
พระอาถันพระเจ้าแผ่นดิน และ พระอาถันธรรมราชาเวท

พระอาถันพระเจ้าแผ่นดิน
    ให้ความสงบราบรื่นสันติสุขของชีวิต
    ไปไหนมีแต่คนนับหน้าถือตา ไปที่ไหนที่นั่นจะร่มเย็น คนมักอยากช่วยเหลือ
    ชีวิตก้าวหน้าเสมือนได้รับบารมีพระพุทธเจ้า
    สามารถจัดลงชุดกับพระเครื่องได้เกือบทุกพิมพ์ ตามแต่เห็นว่าเหมาะควร แต่ลงตัวที่สุดคือคู่กับพระอาถันธรรมราชาเวท
    ในบรรดาพระเครื่องของหลวงปู่ชื่น พิมพ์นี้นับเป็นยอดรวมของวิชาอาถันทั้งปวง รับได้ทุกบทคาถา และมีนัยแฝงธรรมะมากมาย การเข้าถึงพระพุทธเจ้ามากขึ้น การเข้าถึงพระธรรมมากขึ้น รวมทั้งการเข้าถึงพระสงฆ์สาวกมากขึ้น มีผลต่อพุทธคุณที่ผู้บูชาจะได้รับ
    การตั้งใจกราบไหว้บูชาด้วยใจศรัทธาแน่วแน่ ได้อานิสงส์เทียบเท่าการกราบไหว้พระพุทธองค์พร้อมทั้งพระสงฆ์สาวกที่มาประชุมกันเบื้องหน้าพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้า

พระอาถันธรรมราชาเวท
    เสริมการสร้างบารมีของชีวิต ความก้าวหน้าของหน้าที่การงานลงหลักปักฐานมั่นคง สร้างบารมีสิบทัศให้แก่รอบยิ่งขึ้น
    เสริมการนั่งสมาธิและการฝึกคาถา หากมีการปฏิบัติภาวนา
    การงานหน้าที่ความรับผิดชอบจะเข้ามามากเป็นพิเศษ
    สง่างาม ปกครองคน ด้วยบารมี ไม่ใช่ด้วยการบังคับฝืนใจ
    เสริมให้ผู้บูชามีความคิดอ่านที่รอบคอบมองการณ์ไกลมากขึ้น ใจเย็นต่อปัญหาที่เข้ามาในชีวิตมากขึ้น
มีหลายเนื้อ แต่ที่มีพลังมากสุดในกลุ่มคือเนื้อกรรมการตะกรุดทองคำ ส่วนเนื้ออื่นที่เหลือก็เลือกเอาตามความชอบใจ ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมาย เนื่องจากอาถันธรรมราชาเวทเป็นใหญ่ครอบคลุม
    จำได้ว่าเทพซ้ายขวาขององค์ธรรมราชาเวท องค์หนึ่งเป็นพระอินทร์ อีกองค์เป็นพระนารายณ์ ที่ช่วยกันทรงจำพระคาถาและธรรมะเพื่อสืบต่ออายุพุทธศาสนา หรืออะไรประมาณนี้แหละ จำได้ลางๆ ใครอยากรู้ช่วยไปถามอาจารย์แล้วมาบอกด้วย
    หากไม่แขวนร่วมกับพระอาถันพระเจ้าแผ่นดิน ก็จะแขวนเดี่ยวเนื่องจากขนาดที่ใหญ่ และกระแสโดยรวมถือว่าครบถ้วนใช้ได้ในหลายโอกาสแล้ว

เมื่อแขวนร่วมกัน
    พระอาถันธรรมราชาเวทคล้ายแสงแดดอบอุ่นช่วยให้มองสิ่งต่างๆได้ชัดและเกิดพลังงานการจัดการสิ่งเหล่านั้นได้ดี พระอาถันพระเจ้าแผ่นดินเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรใหญ่ให้ร่มเงา เสมือนได้แอบอิงขอบร่มเงาโพธิบัลลังก์ เกิดความสงบร่มเย็นสบาย มีความพอดีของชีวิต และเกิดการพัฒนาของจิตใจไปในทางที่ดี

    พระอาถันธรรมราชาเวทเสมือนเร่งให้เหตุการณ์สร้างบารมีเข้ามาถี่กระชั้นมากขึ้น พระอาถันพระเจ้าแผ่นดินเสมือนเร่งให้บารมีที่สร้างเอาไว้ดีแล้วผลิดอกออกผลให้ชีวิตราบรื่นผาสุกยิ่งขึ้น

    พระอาถันพระเจ้าแผ่นดินที่ขาดพระอาถันธรรมราชาเวทเหมือนชีวิตออกจะเย็นสบายจนอาจเฉื่อยชาไปบ้าง พระอาถันธรรมราชาเวทที่ขาดพระอาถันพระเจ้าแผ่นดินก็เหมือนจะเหนื่อยกับชีวิตจนขาดความสงบร่มเย็นในบางครั้ง ดังนั้นหากแขวนร่วมกันได้ย่อมดีที่สุด แต่หากมีได้แค่องค์เดียวก็นับว่ามีบุญวาสนามากแล้ว

    เป็นชุดพระที่แขวนคู่กันแล้วสมบูรณ์แบบที่สุดชุดนึงเท่าที่จะสรรหาได้ในสารบบพระเครื่องหลวงปู่ชื่น

    คนที่จะแขวนคู่กันได้ต้อง 1) มีเงินพอ 2) มีบุญวาสนาที่จะได้บูชา 3) มีความเพียรที่จะสร้างบารมี แขวนนานๆได้ไม่อึดอัดใจ ไม่ย่อท้อ

โดย: zoneD    เวลา: 2015-5-13 09:31
ผมติดตามอ่านอยู่ตลอดครับพี่
ขอบคุณมากครับ...

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-13 11:00
ต่อยาวๆไปเลยครับแชมป์
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-18 10:42
นะเมตตา ปัญจะพุทธา นะมามิหัง เมตตา กรุณา

คาถานี้หากเข้าถึงน้ำพระทัยของพระพุทธเจ้า พระมหาเมตตา หระมหากรุณา ของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จะเข้าถึงแก่นของคาถาในระดับที่ลึกซึ้งขึ้นไปนะครับ

อาจารย์บอกผมมาหลายปี วันนี้เพิ่งจะเข้าใจ ใครเข้าใจตามได้ ก็ประหยัดเวลาเรียนรู้คาถาไปหลายปีครับ เห็นเป็นประโยชน์วิทยาทาน จึงขอน้อมบอกกล่าวกันศิษย์ร่วมสำนักครับ

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-18 11:58
ขอบคุณครับแชมป์
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-18 15:02
คร้าบบบบ
โดย: ธี    เวลา: 2015-5-18 15:18
ขอบคุณครับ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-21 14:53
สาริกาหาคู่

    มหาเสน่ห์ในทางให้ได้คู่สูงสุด พลังในการเรียกคู่ถือว่าไม่เป็นรองใครในสาระบบพระเครื่อง ถ้าไม่เลือกมากจนเกินไปมักจะได้คู่

    คนจะเข้ามามาก และต่างจากมะรุมมะตุ้มตรงที่ คนส่วนมากที่เข้ามาจะสนใจเราในทางชู้สาว เห็นแล้วอาจชอบตั้งแต่แรกพบ ส่วนมะรุมมะตุ้มคนจะเข้ามาเยอะด้วยหลากหลายสาเหตุ

    ไม่ได้เน้นพุทธคุณปกป้องคุ้มครองแคล้วคลาด เพราะฉะนั้นเพื่อความไม่ประมาท ควรสวดมนต์ไหว้พระและพกวัตถุมงคลประเภทคุ้มครองไปเผื่อด้วย จะเป็นเบี้ยแก้หลวงปู่ก็ดี กระแสไม่ตีกัน

    พอจะแขวนร่วมกับพระเครื่องอื่นได้บ้าง แต่ถ้าอยากให้การเรียกคู่ชัดควรแขวนองค์เดียว

    มีตัวตน หากเชื่อว่ามี

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-22 10:28
ขอบคุณครับ เอาอีกๆ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-25 10:35
พระยอดขุนพล

อาราธนาทำน้ำมนต์ได้ทั้งพิมพ์ใหญ่และเล็ก โดยขอหลวงปู่แล้วเอาพระจุ่มทำน้ำมนต์ได้เลย ใช้ทางฝ่าฟันมรสุมชีวิต ต่อต้านคุณไสย และเสริมบารมี

เนื้อสีดำเป็นสีที่เกิดจากมวลสารไม้ตะเคียนของหลวงปู่

พุทธคุณเน้นความสง่างาม ดูเป็นผู้ใหญ่เป็นที่พึ่งพาของคนรอบข้างได้ การงานก้าวหน้า จะว่าขรึมก็ไม่ใช่ ไม่ขรึมก็ไม่เชิง แต่ดูสุขุมรอบคอบเป็นผู้ใหญ่

ไม่ได้เน้นให้คนใหม่เข้าหา จึงออกไปทางโดดเด่นในคนกลุ่มเดิมรอบๆตัวเราซะเป็นส่วนมาก เหมาะกับคนที่ทำงานราชการหรือเจอเจ้านายลูกน้องกลุ่มเดิมเรื่อยๆ แต่ถ้าเจอคนนอกออฟฟิศก็ใช้ได้นะ แต่มักจะไม่ค่อยเจอคนหน้าใหม่ๆเข้ามาในชีวิตถ้าไม่มีกระแสกรรมชักนำมา

ไม่เน้นให้ได้คู่ครอง แต่ก็ไม่ได้มีกระแสขับไล่คนที่มาสนใจเรา ถ้าอยากได้ผลทางเพศตรงข้ามต้องลงมือจีบเอาเอง

กระแสพระโปร่งโล่งสบาย ไม่ขัดกับพระเครื่องกลุ่มอื่น แต่เนื่องจากกระแสเฉพาะตัวของพระยอดขุนพล จึงเหมาะกับการแขวนเดี่ยวๆ เคยแขวนกับพระอาถันพระเจ้าแผ่นดินเหมือนกัน ถือว่าเข้ากันได้ดี

โดยส่วนตัว มีความเห็นว่าเป็นพระเครื่องพุทธคุณสูงระดับแถวหน้าในหมวดหมู่สาระบบพระเครื่องหลวงปู่

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-25 10:41
ขอบคุณครับแชมป์ ยาวๆไปครับ
โดย: Metha    เวลา: 2015-5-25 11:41
LightGuardian ตอบกลับเมื่อ 2015-5-25 10:35
พระยอดขุนพล

อาราธนาทำน้ำมนต์ได้ทั้งพิมพ์ใหญ่และเล็ ...

ยังไม่มีเลย
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-25 14:37
พี่เมธพูดจริงป่ะเนี่ย ระดับพี่ไม่มีได้งัยครับ
ดูเหมือนจะเป็นรุ่นเดียวที่ทำน้ำมนต์อาถันโทได้นะครับ

โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-27 11:31
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LightGuardian เมื่อ 2015-5-27 13:51

สาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน
    เป็นวิชาที่ทำให้เกิดความร่มเย็นสบาย รักสมัครสมาน ปรองดอง กล่าวกันว่าสามารถทำให้ชายหนึ่งคนสามารถมีภรรยาได้มากถึงสามคน
    จริงๆจะมีคนเข้ามาสนใจเราเกินกว่า 3 คนอยู่แล้ว แต่เหมือนตัววิชาที่วางไว้จะทำให้เหลือไม่เกิน 3 คน
    อาจเป็นเพราะหลักวิชาที่วางไว้หรืออะไรบางอย่าง คนที่เข้ามาสนใจเราจะมาจากคนละสถานที่หรือคนละพื้นเพกัน เหมือนมาจากต่างหมู่บ้านกัน อะไรประมาณนั้น
    จัดอยู่ในประเภทพระที่มีพลังละเอียดอ่อน ค่อยๆปรับบุคลลิกนิสัยผู้แขวน ถ้าใจร้อนคิดว่าจะต้องโลดโผนมักจะทนแขวนได้ไม่นาน ไม่ทันได้เห็นผล และอีกอย่างกระแสพุทธคุณสาวสามหมู่บ้านเองก็ไม่ใช่มหาเสน่ห์โลดโผนได้แฟนปุบปับ แต่จะค่อยๆมีค่อยๆมา มาเรื่อยๆ
    พูดง่ายๆคือ ต้องแขวนให้นานพอ จนเข้าใจรูปแบบพลังและการวางตัวแบบสาวสามหมู่บ้านจึงจะเห็นผลชัด
    อีกอย่างคือ ต้องเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าการมีคนมาชอบเราจำนวนหลายคน กับการได้สมหวังในคนที่ตัวเองรักมันคนละเรื่องกัน เพราะต้องมีกระแสกรรมบุพเพกันมาก่อนและปัจจุบันกรรมสภาพแวดล้อมอะไรอีกหลายอย่าง แต่สาวสามหมู่บ้านจะทำให้ผู้บูชาเป็นคนที่ใครอยู่ใกล้แล้วจะสดชื่นเย็นสบาย น่ามาคลุกคลีพูดคุยทำความรู้จักด้วย เหมือนใครหิวน้ำก็ได้ดื่มกินกับกระหายชื่นฉ่ำใจ


    เคล็ดลับที่จะทำให้เข้าถึงสาวสามหมู่บ้านได้เร็วขึ้น คือให้มีจิตใจ ๑) กว้างขวาง แบ่งปันได้ไม่สิ้นสุด ๒) ร่มเย็นแผ่ไปโดยรอบ

ขุนแผน-ตะกรุด-สีผึ้ง สาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน
    โดยส่วนตัวรู้สึกว่าตะกรุดพมีพุทธคุณเด่นชัดกว่า จะเป็นเพราะเจตนาในการสร้างหรือการที่หลวงปู่เชิญเทวดามาสถิตที่ขมวดปมตะกรุดก็ไม่ทราบ
    ตะกรุดสาวสามหมู่บ้านจะให้ผลทางด้านโชคลาภจากการพบเจอผู้คนด้วย
    แต่ตะกรุดถ้าแขวนทำตัวไม่ดีจะทำไม่ขึ้น เหมือนเทวดาท่านรักษาให้อยู่ในกรอบของศีลธรรม
    ตะกรุดสวดคาถาเทวดารักษาได้
    ห้ามแกะปมที่ขมวดตะกรุด ตะกรุดจะเสีย
    สีผึ้งสาวสามหมู่บ้านเหมาะกับการใช้เป็นครั้งคราวเพื่องานบางกิจหรือการอธิษฐานบางอย่าง แต่จะใช้ทุกวันแทนการสวมพระเครื่องก็ได้ โดยส่วนตัวการใช้แบบทาไปเลยจิตมีการเดินไปให้เห็นผลมากกว่าการพกตลับเฉยๆ


โดย: Metha    เวลา: 2015-5-27 11:32

โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-27 11:34
โอ้ะ ไวจังคัรบพี่เมธ ความเร็วแสง
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-27 13:52
เพิ่มเติมเนื้อความสาวสามหมู่บ้านเล็กน้อยตามที่แก้ไขไปด้านบนนะครับ ตอนนั้นว่าจะบอก ดันลืม
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-5-28 09:21
ขอบคุณครับ เอาอีกๆ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-5-28 21:47
ยินดีครับๆ ขอบคุณที่ติดตามครับ




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2