Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ~ แตกใจความมหาเสน่ห์ ~ [สั่งพิมพ์]

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:32
ชื่อกระทู้: ~ แตกใจความมหาเสน่ห์ ~
แตกใจความมหาเสน่ห์โดยพี่ทิม(Timo)

จะแตกเนื้อหาแห่งมหาเสน่ห์ให้ทราบครับว่าแต่ละแบบให้อะไรเตรียมตัวนั่งอ่านกันให้ดีที่ผมหายไปก็เป็นไปเพื่อค้นหาตนจนพบและค่อยๆเปลี่ยนจากคนอีกคนทีต้องแก้และเห็นว่าควรให้ในสิ่งที่ไม่เคยให้เพราะไม่หวงแล้วแต่ไม่ใช้สอนสิ่งเลวๆนะครับอาจจะแปลกบ้างแต่ไม่ใช่ทางเลวร้ายผมมันแปลกอย่างนี้แหละ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:33
มหาเสน่ห์แต่ละบทแต่ละแนวจะมีข้อเด่นในตัวตามอุปสรรคของคนเก่าก่อนและมีหมดตามความต้องการสังคมปัจุบันครับคือยังไงๆคนเรายุคไหนก็เหมือนกันในรวมๆผมได้เคยมีนิสัยอ่านตำราทุกคืนก่อนนอนรวมเป็นสิบปีเหมือนค้นอะไรบางอย่างและเจอ  สุดท้ายเริ่มค้นคว้าอีกแก้แล้วแก้อีกดีแล้วจะให้ดีอีก เหลืออะไรขาดอะไรนึกทุกนาทีกลับไปบ้านก็ทบทวนหาวิชาถ้ารู้ว่าปัญหาดูสำคัญจริงจะกลายเป็นรูปวัตถุมงคลในที่สุด
ถ้าปัญหาแค่ตัวเองก็จะพิจารณาจดจำเจอบ่อยๆยิ่งไม่ลืมยิ่งจะหาคาถา
ส่วนมากพยายามค้นเรื่องมหาเสน่ห์เพราะเพลินดีและชอบออกไปลุยสิ่งต่างๆไม่เหมือนทุกวันนี้ที่ต้องเลือกทำตามประโยชน์เนื้อๆและขยาดมากถ้าจู่ๆเสน่ห์ขึ้นแล้วเจอคนไม่ประสงค์ ส่่่วนร้ายของมหาเสน่ห์คือคนเห็นเราแล้วอยู่ไม่สุขยิ่งคนเพี้ยนยิ่งแย่จะเข้าหามั่วไม่มีสติพูดไม่ปี่มีขลุ่ยหรือทำอะไรแปลกใกล้เราฯลฯชอบก็ดีไปแต่ทั่วไปไม่ดีแต่นั่นก็ทำให้ผมค้นลึกเข้าไปอีกจากความน่ารำคาญของคนคล้ายการถูกรังควาญลามปามจากคนไม่รู้จัก แล้วก็ได้คำตอบแปลกหลายอย่าง ไม่ว่าความต้องมีตบะอำนาจในเสน่ห์ จนถึงการอยู่ในที่ๆชอบเวลาใช้ จะคุยเรื่อยๆนะครับไม่มีการเรียบเรียงใดๆอาจจะบอกทุกข์บ้างเพื่อให้เข้าใจชัดกว่าสุขด้านเดียวเน้นว่าไม่เรียบเรียงจึงอาจจะดูเรี่อยเปื่อยซ่อนเนื้อหาชอบกล

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:34
เป็นแค่แนวที่ผมจะเปิดเผยนะครับถ้าเอาไปใช้ไม่ดีก็ตกอยู่ที่คนทำคือหลังจากเขียนไปคอมก็มีปัญหาเข้าไม่ได้ไปที่ทำงานก็ได้แป๊บเดียวดับผมต้องมาพิจารณาคือดูที่คนอ่านและสิ่งที่ผมเคยเห็นมานักต่อนักจากคนในสังคมเมื่อได้ทีเด็ด ไ่ม่ได้บอกเอาไปสนองความปรารถณาเราๆนะแต่เป็นการให้ความเข้าใจที่ผมได้มาจากโลกทางนี้ของผมในขณะที่ผมถือว่าน่าจะดีในลักษณะให้ความกระจ่างมากกว่าการนำไปทำผิดๆ
ในแต่ล่ะคนจุดสุขสมใจต่างกัน อุปสรรคจากกรรมและบุญต่างกันแม้ของจะดีสุดกู่ก็ใช่ว่าทุกเหตุการณ์จะสมใจนะ การฉลาดสุดไม่ได้มาจากการได้มาแบบไม่สมหรอก แค่พอใจได้สิ่งที่ไม่เคยมีแค่นั้นบางทีการสมใจทีแรกกลายเป็นบทเรียนแสบๆของเรานะอ่านแล้วจะงงบ้างแต่ขอให้รู้ว่าการรู้จักเป็นกลางๆจะทำให้เราไม่เศร้านะคือเป็นเรื่องๆไปให้รู้ว่าอะไรเราได้ อะไรเกินขีดก็พอนะท่านทั้งหลาย นะบอกแล้วอย่างงงอุปสรรคที่ผมเอามาแตกใจความมหาเสน่ห์เป็นดาปสองคมเดิมทีเป็นภูมิส่วนตัวและเป็นภูมิสร้างของไว้พึ่งพาให้คนทั่วไปเอาเป็นว่าเชื่อจอมพระได้เหมือนที่ผมฝากฝังไว้ทุกวันนี้ผมแทบจะเป็นพระแล้วและที่เคยค้นก็เจอซะเบื่อคนจึงเอามาแจกจ่ายดีกว่า จับใจความหาความหมายให้ดีประโยชน์ต้องได้แต่จะอ่านแล้ววกๆวนๆแค่นั้น เดี๋ยวจะมาเข้าเรื่อง

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:35
แนวแรกเรียกแต่งตัวครับเหตุเพราะถ้ามีเสน่ห์แต่ตัวไร้ราศีดูมอซอก็ไม่ดีให้เล่นนะหน้าทองเป็นหลักแนวนี้ในตำราต่างๆจะมีให้เห็นหรือต้องใช้ทักษะพิจารณาหาคุณเอาเองสำคัญที่วางจิตรู้ว่าคาถาแต่งองค์เราด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของคาถาไม่ต้องเน้นว่าจะต้องเป็นแบบเรากำหนดถ้าฝึกสำเร็จจะใช้บทอื่นๆก็มีผลแนวเดียวกันแต่แตกต่างที่รายละเอียดแต่ต้องเป็นแนวที่นำมาแต่งองค์เราได้ไม่ใช่สุ่มๆเลือกใช้ และใช้ให้มีผลแรงคลุมธุระส่วนตัวแบบอย่างว่าก็ได้แต่ต้องกำหนดรู้ให้ชัดว่าเป็นไปทางเพศตรงข้ามโดยหัดนึกคิดให้ชิินเป็นภาพลักษณะต่างๆของเพศตรงข้ามเวลาเขาชอบเขาหลง ถ้าไม่วางจิตแนวนี่จะมีปัญหามีเสน่ห์ในตัวแรงแม้เพศเดียวกันก็จะอื้อหือซู้ดซ้้าดมากกว่าเพศตรงข้ามเพราะเพศเดียวกันจะมีความกันเองอยู่แล้วด้วย
ถ้าเล่นขึ้นมากๆให้ระวังการอยู่สองต่อสองกับใครเพราะจะเป็นเรื่องแม้แต่นั่งแทกซี่นั่งรถเมล์ การเล่นเสน่ห์ต้องมีมโนมยิทธิไปกับสมาธิเพราะลำพังคาถาอาจจะมีอะไรที่เราใจหายได้ การฝึกตอนแรกๆเอาจิตศรัทธาคาถาก่อนแล้วค่อยๆเอาจินตนาการมาเสริมแต่ง

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:36
เขียนเอาแบบไปเรื่อยๆนะ จะขอกล่าวถึงคาถาทำลายมานะทิฎฐิหยิ่งฯลฯเวลาเราเข้าหาใครเจรจาทำธุระ เป็นเคล็ดเสริมการใช้ของเล่นคาถาตั้งแต่เมตตาถึงมหาเสน่ห์บทนี้ควรสวดประจำจะสงบความอคติฝ่ายตรงข้ามให้กิจลุล่วง
มาตาวะ ปาลิโต สัตเต มานะถัทเธ ปะมัทธิโต
มานิโต เทวะสังเฆหิ มานะฆาตังนะมามิหัง
ใช้ลบล้างทำลายจิตแง่ลบของฝ่ายตรงข้ามให้อ่อนรับเราโดยง่าย


โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:37
เสียงหัวเราะเฮฮามักจะเป็นตัวเปิดสร้างมิตรสัมพันธ์ได้ดี(คาถาชื่อว่านะตลก)และเป็นตัวบ่งบอกอาการของฝ่ายตรงข้ามว่าน่าจะไปได้สวยคาถาก็มีอยู่ให้เล่นคู่กับบททำลายมานะทิฎฐิดูได้
อีกเรื่องคือเมตตา จริงๆแล้วหมวดนี้ถ้าเล่นทั่วไปจะดีมากบทที่ดีมากๆเห็นจะเป็นคาถา
ปิโยฯคาถาพระอรหังสุคะโตฯและสั้นๆกว่านั้นก็พุทธะสังมิเล่นขึ้นมีแต่คนรักคำว่าเมตตาคงเข้่าใจกันพอสมควรแต่บางบทก็มีคุณพิเศษอีก จริงๆแล้วถ้าเอาแค่ความหมายสั้นๆก็ประมาณว่าไม่แข็งกับเราสังเกตุเมตตาดีๆเมื่อไปไหนทำอะไรคนจะดูเชิงสุภาพไม่มีโฮกฮากหรือสบายๆกับเราหนักๆเข้าก็รักเหมือนพี่น้องพ่อแม่ลูก อันนี้ก็ดูหลากหลายและดูคลุมกว่าในเชิงการใช้ชีวิตกว้างๆสร้างมิตรสัมพันธ์ดีการวางจิตนั้นต้องสบายอ่อนละมัยและมีความเข้าใจชัดๆบางประการเสมือนคนที่เอ็นดูเด็กหรือแม้แต่ลูกสุนัขต้องเลี้ยงต้องลูบเบาๆคอยให้คอยประคบกลัวเจ็บกลัวลำบากต้องคอยมาช่วยดูให้สบายก็คล้ายพ่อแม่รวยๆที่รักและโอ้ลูกหรือไม่ต้องรวยแต่ออกไปทำนองเดียวกัน การหาอารมณ์เข้าใจนี่ถ้ารู้จะชัดและเสริมอานุภาพมากตรงนี้จะเป็นเรื่องของภูมิของแต่ละคนที่แม้จะขลังเท่ากันแต่เนี๊ยบต่างกัน เป็นเหตุให้บางคนเล่นแล้วต้องออดอ้อนด้วยในขณะที่บางคนเล่นแล้วทำตัวธรรมดาๆเขาก็มารุมอุ้มชู ถ้าทำยากก็เอาแค่เชื่อในตัวคาถาตรงๆกับความอ่อนละมัยในอารมณ์ไปก่อนแล้วฝึกสังเกตุแก้ตามเหตุเอาตามเรื่องนะคุณนะ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 07:38
ปล่อยมุขซิครับให้เธอหัวเราะน้ำตาเล็ด(รับรอง)
เอาไว้แกล้งสาวทั่วๆไปจะมีบ้างที่วิ่งหนีหาห้องน้ำ(ไม่ใช่น้ำตาเล็ดอย่างเดียว)
พอวันหลังคุยๆกันเขาจะมีอาการซี้ดๆก็ให้เราเตรียวตัวเลย
(ว่าได้เวลาชี้ทางให้ไปห้องน้ำ)
หมายเหตุ:  มาจากเหตุการณ์จริง


ครับลึกๆแล้วผมเขียนเผื่อคนที่เป็นอยู่แล้วจากเว็ปเก่าเพื่อเป็นการสานต่อแต่ผมพอจะรู้ว่าบางท่านอ่านแล้วงงมีอะไรเชิญถามครับก่อนจะมาเข้าเรื่องแล้วอ่านให้งง
ถามๆมาครับถ้าไม่ดูล่อแหลมก็จะตอบ


ไม่ถามไม่บอก เล่าบอกไปเรื่อยๆนะ บอกได้จะบอกถ้าล่อแหลมจะตอบอ้อมๆหรือไม่บอกเลยเพราะอาจจะเป็นดาปสองคมหรือชี้ทางทำผิดเกินไป อยากให้ครับแต่ขอเป็นไปทางบวกนะ สานต่อกันเอง

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 08:55
เข้าหมวดต่ิอไปกันดีกว่านั่นคือมหานิยม มหานิยมคือชื่นยมยกย่องและออกอาการชัดเจนหมวดนี้ควบคู่ไปกับความดีของเราที่กระทำอยู่คือทำอะไรก็ได้ที่เราคิดว่าถูกจุดก็จะปรากฏจุดเด่นน่าสรรเสริญถ้าในกรณีมาเจอกันสดๆร้อนๆก็จะเป็นแบบเราไม่น่าเพิกเฉยเรื่องนี้จะให้เครดิตฉมังนักเวลาเราทำอะไร  แต่จะไม่มีมหาเสน่ห์แนวนั้นยกเว้นเสียแต่เราทำอะไรเสริมด้วยตัวเราเองและโดนใจเขาเช่นจีบเก่งเป็นต้นแนวนี้ผมขอยกเป็นเอกเพราะอาการออกและขึ้นอยู่กับการใช้ความสามารถเสริม ผลนั้นเข้าทางมากไม่ฉาบฉวยแถมได้เรียนรู้เขาและเราตั้งแต่เนิ่นๆ ใครสำเร็จแนวนี้จะสามารถโชว์เพื่อนฝูงได้ชัดกว่ามหาเสน่ห์โดยที่เหลืออาจจะสานต่อด้วยวัตถุมงคลหรือ
ความสามราถของเราในส่วนที่เหลือ ส่วนมากวิชามหานิยมจะมีบางวิชามีเมตตาหรือมหาเสน่ห์แทรกกันไปป แต่จะขอยกตัวอย่างแค่มหานิยมโดดๆที่ใช้เป็นแล้วจะเปิดทางของที่เราพกพาติดตัวอย่างชัดเจน ไม่ว่าเมตตาหรือมหาเสน่ห์ มหาเสน่ห์นั้นบางทีฝ่ายตรงข้ามดูเฉยๆไม่สาแก่ใจก็เพราะอุปลักษณะนิสัยเขาเป็นแบบเจอถูกใจแต่ซ่อนไว้แค่นั้นคนอย่างนี้มีเยอะครับไม่ว่าหญิงหรือชายที่เหลือจึงขึ้นอยู่กับชั่นเชิงเรา มหานิยมจะเปิดทางด่วนได้แล้วค่อยดูเชิงขั้นต่อไปอันนี้คติผมนะจะค้านก็ไม่ว่าผมเอาสูตรมาจากปัญหาไม่ใช่ความสาสมใจโดดๆ คุณเคยไหมที่ใช้ของแรงๆแต่ฝ่ายตรงข้ามแค่อมยิ้มเออออไปเรื่อยอันนี้มีสูตรเปิดทางสองอย่าง นะตลกหรือไม่ก็มหานิยมครับ หัวใจคือได้ดูเชิงเขาเชิงเราด้วย อันนี้แนวจำแนกนะครับไม่ใช่แนวแค่ข้ามคืนเสร็จเพราะคติคือรู้เขารู้เราเอามาพัฒนาปัญญาบ้างจะได้ใช้ของเป็นจริงๆแบบรู้จักเป้าหมาย ถ้ามหานิยมใช้แบบทั่วไปก็คุ้มครับยกเว้นปิดทองหลังพระ เอ้าถ้าใครเห็นว่าสำคัญก็เอาไปใช้นะขึ้นอยู่กับเหตุแต่ละบุคคลครับผมจำแนกเพื่อคนนั้นๆและไม่ได้ชี้ทางตรงๆอย่างมหาเสน่ห์ที่เอาไว้ให้มีมานอนข้างๆเพราะถ้าใช้เป็นผลลัพธ์มันออกแนวนั้นได้อยู่ดี เพียงแต่แนวที่ผมจำแนกจะมีอะไรคลุมให้จำและเห็นให้พิจารณาได้ดีกว่า ถ้าใครเข้าใจและนำไปปฏิบัติแตกฉานจะคลุมหลายเหตุแถมเสริมด้วยการเข้าใจตนเข้าใจสิ่งที่ควร สุดท้ายจะได้ใช้ให้คุ้มที่สุด

นะชื่นโมชมพุทธเป็นมหานิยมแก่คนทั่วไปทั่งเมืองธาลือเลื่องยะประเสริฐเลิศไกร
นะจับจิตโมจับใจพุทธรักใคร่ธาเอ็นดูยะมนุษย์หญิงชายทั้งหลายมากทั่วทั้งแผ่นดินมารักกูจนสิ้นยาวะชีวังมุทุจิตตังปิยังมะมะ

คาถามหานิยมที่ได้ผลและลองมาแล้วก็บทนี้ครับสิบปีมาแล้วมาทบทวนสาระได้แต่เก็บไว้วิจัยไปเรื่อย บทนี้ตอนนั้นนำมานั่งสมาธิได้สองวันที่บ้านปรากฏว่า มีคนชอบมาใช้บริเวณบ้านเล่นสนุกสนานแทนที่จะไปที่ๆสมกับกิจกรรม ได้ไปพบอาจารย์ลงของและยืนยันประสปการณ์ต่างๆของคาถานี้ที่ถือว่านำมาลงคนดีที่สุดเพื่อชีวิตภาพรวมๆและท่านได้นำไปลงนะให้สาธุชนจริงๆผลคือเป็นประโยชน์คลุมมาก   วิชานี้โดยรวมๆแล้วดีมากในการใช้ชีวิตในสังคมผมได้ใช้เห็นผลที่อเมริกากับพวกต่างชาติต่างศาสนาเป็นอย่างดีเป็นที่รักชื่นชมแด่หมู่คณะผู้พบเห็น โดยขณะนั้นเริ่มเลิกเล่นมหาเสน่ห์ดู ท่านใดชอบให้คนทั่วไปชื่นชอบในสังคมก็ลองได้     ท่านทั้งหลายที่ผมนำมาลงนี้เป็นส่วนที่ถือว่าให้ความกระจ่างไม่มากก็น้อยจากประสปการณ์จริงต่างแดนหากไม่เข้าทางท่านต้องขออภัย จะเข้ามาต่อเรื่อยเพราะมีอีก ขอให้รวบรวมใจความนำไปใช้เองเพราะกระผมเขียนไปเรื่อยตามโอกาสหากอ่านแล้วงงๆต้องขออภัย

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 08:55
เมื่อท่านเรียนคาถาบทใดให้จำแนกขั้นตอนการใช้และการวางตัวตลอดจนถึงการดูกาลเทศะความเหมาะสมถ้าไม่ดีให้รู้จักถอยห่างปัญหาและความวุ่นวายจากบุคคลที่สามหรือฝ่ายตรงข้าม ศีลห้าสำคัญและจะทำให้วิชาและของขลังจริง ที่ผมนำมาแตกใจความก็เพื่อเสริมของที่ใช้และถ่ายทอดให้กระจ่างเท่านั้น ถ้าทำสมาธิเป็นแล้วจะฝึกให้ขลังต้องถือศีลให้เคร่งคาถาจะขลังและเสริมของให้ลื่นเมื่อนั่งภาวนาก็ให้สวดว่า
นะโมพุทธยะนะมะพะทะจะภะกะสะ
ร้อยแปดจบประจำเหตุเป็นการสร้างธาตุให้ขลังโดยใจรู้ว่าจะทำให้คาถาขลังและของที่ใช้ก็ขลังขึ้นเป็นหนึ่งกับเราถ้ามีในรูปวัตถุมงคลก็ให้จิตจดจ่อกับของนั้นให้ดีด้วยทุกขณะแล้วจึงเสริมด้ยคาถาที่จะใช้ บางครั้งเมืื่อฝึกร้อยแปดจบบทข้างต้นก็ให้ต่อด้วยสัมปะติจฉามิอีกร้อยแปดจบเป็นการเร่งให้เห็นเพิ่มขึ้นแต่ถ้าไม่มีเหตุก็ไม่ต้องเพราะจะไปเร่งสะเปะสะปะอันเป็นบ่อเหตุแห่งความน่รำคาญต่างๆวุ่นวายใช่เหตุ ถ้าถือศีลห้าดีแล้วจะขลังมากเพราะเป็นพื้นปูสมาธิและเปิดปัจจัยให้ขลัง เมื่อเล่นขึ้นควรหัดขี้เลือกเป้าหมายให้สมกับมีวิชาและไม่วางตัวต่ำช้าเอาแต่จะให้ได้ในสิ่งที่ผิดๆหรือไม่คุ้มที่มีวิชากับศีล ฝึกสำเร็จก็ให้ถือดีว่าถ้าเจอใครที่เข้าตาไม่ผิดศีลก็ลุยเลย บวกความสามารถด้วยถ้ามีเหตุจะให้รู้ว่าสุดตรงไหน ถ้าไม่สำเร็จอย่าตีโพยตีพายเพราะพวกนี้มีอุปสรรคให้พิจารณาและอาจลึกเกินเข้าใจ หัดทำใจให้เป็นกลางว่าไม่เป็นไร มีดีขนาดนี้ก็ดีแล้วและออกไปหาคนรู้จักเรื่อยๆจะดีกว่า นี่คือมหาเสน่ห์ครับ ไม่ใช่ให้มีเมียเยอะแต่ให้รู้จักใช้และมีศีล ถ้าใช้ผิดๆก็ตามไปใช้กันเองชาติหน้า มีมหาเสน่ห์จงขี้เลือกบ้างแค่นั้น ชาติหน้าบารมีนี้จะตามติดตัวได้แต่สิ่งดีเลิศขึ้นไปอีก ใช้ไม่ดีก็ลดศักดิ์ศรีวิชาและความมีดีของเราครับ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 08:56
มีหมวดนึงที่แปลกออกไปเรียกว่าฤาชาแต่ถ้าจะคิดในแนวประโยชน์ที่พ่วงกับแนวอื่นจะมีผลมากเช่นมหาเสน่ห์หรือค้าขายแม้แต่แนวอื่นๆก็ตาม ถ้าค้าขายแรงแล้วมีฤาชาผนวกก็จะเป็นโฆษณาไปในตัวเป็นแบบปากต่อปากเหมือนเรียกมาดูเรียกมาซื้อถ้าเป็นนักแสดงเก่งก็จะมีแบบปากต่อปากมาจากการชมชอบในฝีมือว่าดีขนาดไหนแต่ไม่ใช่ทำไม่ดีแล้วจะลือได้นะครับค้าขายก็ด้วยจะให้เขามาดูแล้วไปลืออะไรถ้ามันไม่มีดี แต่ฤานี่ช่วยได้สูงถ้าพูดในแง่โฆษณา ในเรื่องมหาเสน่ห์รึก็ลือมารุมอีกไงคือถ้ามีดีในของที่ถือแล้วคนหลงเขาก็เอาไปลือคนก็มาแบบอยากรู้จัก พอมาก็โดนฤิทธิ์ของดีของเรา
เป็นแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วนคล้ายมะรุมมะตุ้มครับแต่มะรุมมะตุ้มเป็นวิชาจำเพาะตะหากแต่เอถ้ามะรุมมะตุ้มบวกเอาคาถาฤาชาแบบท่องเสริมตัวก่อนๆห้อยล่ะ อันนี้ไม่แนะคนที่ไม่ชอบคนมากๆเพราะพาลปวดหัวเปล่าๆ จำเป็นเหตุไหนพิจารณาเอาครับเดี๋ยวลงคาถาให้ศึกษา


ประมาณนั้น แต่ขึ้นอยู่กับการรู้จักสังเกตุให้ถูกถึงผล ถ้าผิดจะสงสัยแต่ถ้าหาคำตอบไม่ได้ก็จบเห่ สานต่อกันเอาเอง อย่าหลงครับ ถ้าหลงเขาจริงจังแล้วไม่ได้เรื่องเลยเพราะเราเป็เหยื่อซะเอง ผมแค่แตกใจความนะจากสาระจริงที่ปิดไว้ แต่จะไขปริศนาได้ขนาดไหนแล้วแต่บุคคลครับ ให้ทำความเข้าใจว่าเราถึงหรือติดขัดขั้นไหน มันเป็นที่วิชาหรือเราเอง มหาเสน่ห์ทั่วๆไปมีทั้งได้และผิดหวัง มันสอนให้คิดครับว่าคำตอบคืออะไร

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 08:58
มหานิยมที่ผมเคยเจอ คือโด่ดเด่นแล้วเป็นเป้ามหาเสน่ห์ของสาวๆครับ แต่ปัญหาคือเพศเดียวกันมันจะหมั่นไส้เอา ไม่รู้ขาดตกบกพร่องอะไรไปหรือเปล่า จึงออกมาอิหรอบนั้น

ถูกต้องครับแสดงว่ามีคนเข้าใจ คือจริตธรรมชาติของสังคมเพศหญิงกับมหานิยมจะเป็นอย่างนี้ สังเกตุอาการเวลาเขาเจอดารานักร้อง เอาย้อนอดีตเลยนะอย่างสมัยเอววิสเพสลี้เลยไปดูยูถูปจะรู้ และที่เพศเดียวกันหมั่นไส้ต้องเข้าใจนะว่าเขาไม่เข้าใจว่าไอ้หมอนี่เป็นใครว่ะไม่เห็นจะวิเศษกว่าเขาตรงไหน และแถมเป็นความปกติที่คนต้องอิจฉาแม้เราจะเป็นดาราก็ตาม ผมถึงมีแต่งองค์เป็นอย่างน้อยให้ดูเหมาะแก่ผล ระวังครับเพราะจะเจ็บตัวหรือวุ่นวาย เล่นแล้วห้ามมีบุคคลที่สามเฝ้ามอง ตรงนี้แก้ไม่เป็นได้แค่ระวังให้ดี เอางี้ไหมมาช่วยกันคิดว่าอะไรที่จำเป็นหรือขาดหายแล้วมาประมวลกัน

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 09:50
ทำให้ผมต้องพิจารณาสาระลึกขึ้นไปอีกด้วยความเหมาะสมของขั้นต่อไปคล้ายหลวงปู่มาสะกิดไว้ ขืนถ่ายทอดตามน้ำใจโดดๆจะไม่ดีแน่ ไม่ต้องสงสัยกันครับว่าอะไรแต่ผมพอเข้าใจ
อันนี่นะลือแบบพิเศษหน่อยคือมีต่อจากทั่วไป มีคำต่างๆที่ให้ความกระจ่างในการวางจิตจะเป็นตัวเสริมขึ้นไปอีกนอกเหนือความศักดิ์สิทธิ์ที่ได้อยู่แล้วเมื่อเล่นขึ้น เช่นลือ ลั่น สนั่นโลกา ชื่นชมภิรมย์หรรษา มหานิยม นี่ถือว่าครบซะไม่รู้คิดกันมาได้ไง ชื่นชมนี่ก็เป็นอาการที่ดีมากๆเลยมีภิรมย์หรรษาอีกแถมตบท้ายตรงๆมหานิยมอีกเห็นว่าพิเศษจึงลงเพราะถ้าพิจารณาก็จะเห็นว่าสุดของเขาเหมือนกันและจะทำให้วางจิตได้ชัดแจ่มๆจะเน่นอย่างนึงคือประโยชน์ของลือนี่แนวโฆษณาแล้วถือว่าดีมาก
ทำให้เล่าปากต่อปากคุยกันได้อรรถรสทั้งระหว่างคนรู้จักเราในกลุ่มหรือแตกออกไปนอกกลุ่ม ถ้าค่าขายก็มาแล้วต้องบอกต่อเพราะเฉยไม่ได้ร้านจะแย่จะห่วยก็ชอบมา แต่มหานิยมนี่โดดๆเคยสวดให้ร้านๆนึงครับ สวดที่บ้านแล้วไปดูผล สังเกตุได้ว่ามากันจัง คุยให้จ้อแต่ดันไม่ซื้อซะส่วนใหญ่มีคนมาไม่ซื้อแต่ไม่เหงาไงแต่ไม่เป็นทุกคน มหาเสน่ห์ก็อาจจะเหมือนกันยกเว้นซื้อแก้เขินกันดูน่าเกลียด ลือนี่คล้ายแต่ออกไปทางชวนกันแบบน่ามานะจะซื้อไม่ซื้อก็มีคนมา ดูนู้นดูนี่วันหลังจะซื้อก็มาเอง
ได้มาแล้วอดบอกต่อไม่ได้ด้วยฤา ส่วนดีคือไม่เหงาให้เซ็ง
เอาเคล็ดได้พลังงานคนเข้าออกพลังงานนี่สำคัญทำให้มีเสน่ห์ดึงดูดคน ส่วนที่ชัดที่สุดคือถ้าอยู่ที่ๆขายของชนิดเดียวกันทั้งแถบ คนทีจะมาซื้อมากมายก็มาที่เรา แต่ร้านทั่วไปก็ใช่ได้เช่นทำเลไม่ดีแต่ที่เหลือทำให้ดีเข้าไว้แล้วมานั่งท่องยามสะดวกประกอบสมาธิแล้วแผ่เมตตา รับรองว่าจะเห็นเองแต่จะสะดวกทำหรือเปล่าแค่นั้นส่วนมากสวดเสริมของดีกันแค่นั้นครับ
คือว่ากันด้วยการสวดเสริมถูกเหตุ ไม่ใช่การสร้างของเพราะการสร้างของจะว่าด้วยของเสริมวิชาวิชาเสริมของจิปาถะ

อิติปิโสภะคะวา ฦาชาติโลกะมะหิตัง ฦาชาติกุเรยยะสัญจะ ฦาโสภัคคัญจะ สะรีรัง ฦาธัมมะเทสะนังวะรัง ฦามะหันตังนะมามิหัง นะฦา โมลั่น พุทสนั่นทั่วโลกา ธาชื่นชมภิรมย์หรรษา ยะมหานิยม อิติปิโสภะคะวาปะนะ ฦาฦา
แปลกครับ คอมมีปัญหาตลอดหลังจากโพสเรื่องนี้ บอกกันไว้เฉยๆอาจจะเป็นสิ่งที่ผมไว้คุยกับหลวงปู่ก็ได้แต่ผมดันมาเผย จริงๆแล้วมีต่ออีกแต่ขึ้นอยู่กับความสมควรผมไ่ม่หวงแต่ต้องคิดให้ละเอียดมากๆ ถามมาได้ ออกความคิดเห็นมาได้ เราเปิดรับ(จอมพระ)ขอเน้นว่าถ้างงถามมาได้ไม่จำกัด เปิดอกตอบไปเลย

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 09:51
เอาเืรื่องอานุภาพคาถาพระปััจเจกก่อนนะครับแล้วอาจจะมีรายละเอียดความเป็นมา บทนี้เมื่อเล่นขึ้นผมค้นพบอย่างนึงนะ คือสามารถทำให้เจอเพศตรงข้ามที่นำมาซึ่งความเจริญต่อยอดอีก ตอนแรกที่ผมค้นพบข้อนี้ก็ได้สอนน้องคนนึงที่เชื่อทางนี้และมีปัญหาส่วนตัวเพิ่งเลิกกับแฟน เขาว่าวิธีเดียวที่จะทำให้ทำใจได้คือมีอะไรมาทดแทน ผมฟังแล้วถือว่าแปลกและดีจึงสอนให้ และได้ผลจริงมากจึงนำมาบอกต่อให้เป็นความรู้ เคล็ดก็แค่ถือศีลห้าให้มั่น ที่เหลือคือมีกิจประจำากับการสวดคาถานี้เสมอไม่ว่ามีอะไรก็ถือบทนี้เป็นพื้น ส่วนบทอื่นแทรกได้และชัดขึ้นด้วย ทว่าถ้าแทรกแนวเสน่ห์เงินอาจจะหดลงเพราะเพศตรงข้ามคือลาภอย่างนึงครับ ถ้าเน้นลาภโดยบทนี้ลาภมาสองอย่าง การเงิน  และคู่สร้างทรัพย์  แต่รายละเอียดแล้วแต่คน เอาแค่นี้ก่อนครับ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 09:52
ผมเคยคุยเรื่องนี้กับอาจารย์สรายุทธแต่มีผมจำได้คนเดียวคือคือตอนจะสร้างขุนแผนนาคเกี้ยวหลวงปู่บอกว่าท่านจะเอามนต์จินดามณีใหญ่เสกด้วย แค่่นั้นที่ผมจำได้จนขณะบวชผมได้หยิบยกเรื่องนี้มาถามขณะท่านปูเสื่อนั่งริมสระสบายอารมณ์ ท่านได้้บอกบทนี้และผมจำได้ว่ามีในตำราหนังสือจึงไม่ได้ใคร่จะเห็นความสำคัญ ขนาดมองข้ามไปเลยเพราะอะไรที่มีอยู่ในตำราทั่วไปผมจะคิดว่าใกล้ตัวไปเห็นง่ายเอาแปลกๆดีกว่าแต่พอมาตรวจสอบก็มีท่อนอื่นๆแปลกตาไปอีกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่สิ่งนึงที่ท่านเน้นคือท่านว่ามนต์นี้แก้ขัดข้องขัดสนจนใจคือเอาไว้ใช้แก้ลำบากในโลกคนเรานี้ เมตตามีเสน่ห์ได้ฯลฯนะท่านว่าทำใจให้แจ่มใสยิ้มได้อย่าเกลียดอย่าโกรธรอบๆแจ่มใสและใจสนุกบันเทิง
ผมว่าเหมือนเงาะป่าทัดดอกชบาใช่ไหมครับ ท่านมองแล้วว่าไม่รู้หรอก
จากวันนั้นถึงจะมาเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ โดยมีข้อมูลจากคศชเป็นพื้นให้ผมสงสัยมาตั้งนาน
เช่นเรื่องอานุภาพที่ทำให้อะไรๆลงตัวสบายหัวใจตามที่จะเป็นได้ในแต่ละท่าน
ผมลองฝึกจิตอารมณ์แบบนั้นในสมาธิและได้พบความแปลกคือเย็นในอกในท้องคล้ายเอาแป้งตรางูหรือยาหม่องมาทาแต่เป็็็นมาจากข้างในและคล้ายๆจะจั๊กกะจี๋ด้วย
จึงเริ่มฝึกอารมณ์นี้จดจำไว้เพราะมีผลในภาพกว้างๆนอกเหนือที่ผ่านมาทั้งหมด
ช่วงสั้นๆที่ลองก็เจอจริงๆ(เรียกว่าสารพัดนึก) เบาใจ ผมว่านี่คือเคล็ดการใช้มนต์จินดามณีทุกบท(จึงออกฤิทธ์เต็มที่) เมื่อสิ่งใดจำเป็นที่จะต้องได้จะได้คือไม่มีโลภนักแต่รู้ชัััััััดว่าจำเป็นและอาศัยมนต์นี้้้้้ประกอบกับสมาธิแนวนี้โดยชำนาญ คุณก็จะเห็นเองใครทำได้ทั้งวันจรดคืนประจำผมว่ามหาปาฏิหารย์แน่ๆ ครับพูดๆนี่ก็บทนี้นะจะบทใหญ่บทเล็กเป็นแค่ชื่อครับ
มนต์จินดามณีใหญ่
มณีจินดา ปิยังปันจะธะนังยะสังทาสีทาสา โกมังปะสันติทิดสะวา มาตาปุตตังวะโอระสา สัพเพชะนาพาหุชะนามะหาจินดา เอหิพุทธังปิโยเทวะมนุสสานังมะหาจินดา  เอหิธัมมังปิโยพรัมมานะมุตตะโมมะหาจินดา  เอหิสังฆังปิโยนาคะสุปันนานังปิยินซียัง นะมามิหัง พุทโธโสภะคะวาธัมโมโสภะคะวาสังโฆโสภะคะวา อินทะเศรษฐัง(เศรษฐังอ่านว่าเสดถัง)พรัมมะเศรษฐัง  เทวะเศรษฐังอะสุราเศรษฐัง ราชาเทวี มณีรักขัง จิตตะมะระนังจิตตังมะมะ
อุปเท่ห์สารพัดใช้ อันนี้ยังเป็นคำตอบอีกที่ผมหาว่าเมื่อเจอคู่อริอิจฉาหมั่นไส้ขณะใช้มหาเสน่ห์ควรทำยังไง ผมว่าจินดามณีทุกบทเหมือนกันแม้ดูเพี้ยนคำก็ตาม เหตุจากจำปากต่อปาก(แต่ขลัง)สำคัญที่จิตชื่นบานไม่เกลียด อบอุ่นด้วยอารมณ์ที่เหมือนมีความรักเมื่อพ่อแม่อยู่กับเราในวัยเด็ก (อะไรประมาณนั้นแหละครับ)แต่เอาอารมณ์นั้นแปรเป็นทุกที่ทุกคนทุกเวลาที่เรามีแม้อะไรรอบๆตัวก็ต้องให้รู้สึกคงอยู่อย่างนั้น หนักเข้าก็นำมาใช้กับวัตถุที่ไม่มีชีวิตได้แล้วมันจะมาไม่ว่าเงินสมบัติ แปรปัญหาให้คลายเป็นประโยชน์หรือเพื่อนร่วมเดินทางแก้เหงา คนดูแลฯลฯ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 09:54
มาถึงตรงนี้จะขอเล่าอะไรเสริมกันซะหน่อยนะครับคือการเล่นคาถาหมวดนี้บ่อยครั้งจะมีจุดหนึ่งคือเราถูกสนใจมากถ้าดีก็ดีไปแต่จะมีคนพวกหนึ่งที่อาจจะน่ารำคาญไม่น้อยคือคล้ายรังควาญเราเหตุเพราะนิสัยเขาประกอบกับความถูกดึงดูดที่มาจากตัวเรา มีการอยู่ไม่สุขด้วยอาการต่างๆนาๆสำรวมยากและวุ่นวาย (คาถานะหน้าทองเมื่อเล่นถึงจุดหนึ่งจะมีฤิทธิ์ทางสุภาพชนจากฝ่ายตรงข้ามด้วยแม้เขาจะมีนิสัยหยาบๆกระด้างๆ) ผมเองได้คลุกคลีนำมาใช้ในสังคมทางนี้สารพัดหมวดหมู่เสมอ ไม่ใช่แค่หาคุณแต่หาจุดโหว่ด้วยเช่นกัน บางสถานการณ์เราจะเป็นคนอยู่จุดศูนย์กลางของกลุ่มชน เสน่ห์อาจเป็นเหตุให้กระตุ้นความเป็นลิงเป็นค่างความอิจฉาฯลฯชวนให้ใครบางคนออกอาการสร้างเรื่องได้ ผมได้เจอบทนึงที่เป็นเมตตามหาเสน่ห์และเป็นที่ย้ำเกรงในเวลาเดียวกัน โดยตอนแรกพยายามไขอุปเท่ห์นานมากจนมั่นใจ แต่พอนำมาใช้ยิ่งน่อัศจรรย์ใจกว่า คือเป็นเสน่ห์เป็นเมตตากับคนปกติคนสุภาพคนที่ไม่มีพิษภัยใดๆแต่กับคนกักขฬะที่แฝงโทษจะอ่อนน้อมหรือเงียบๆย้ำเกรง คือถ้าเอาคนต่างบุคลิคสองคนนี้มาคุยอยู่ตรงหน้าจะเห็นอานุภาพของคาถาบทนี้ที่ให้คุณคนละแบบในทีเดียวณ.วินาทีนั้นเลย และเมื่อลองนำไปใช้พูดกับคนรั้นๆในการสั่งงานแบบว่าเราไม่มีสิทธิอำนาจทางตำแหน่งแต่จำเป็นด้วยกรณี ฝ่ายตรงข้ามก็ฟังด้วยดี!!!!

คาถามหาวิเศษ(อิติปิโสมหาวิเศษ)
อิติปิโสภะคะวา  อิติมันตา สุขาวะหา
อิติปิโสภะคะวา  อิติพุทธะ สุขาวะหา  
อิติปิโสภะคภวา อิติ

บทนี้ถือเป็นแนวพิศดารบทหนึ่งที่ออกการคลุมรายละเอียดสูงมากในแต่ละกรณีแทนที่จะต้องเป็นไปในทางนั้นๆโดดๆแล้วคอยคุมเชิง ที่ผมเขียนมาในกระทู้นี้ทั้งหมดขอให้แยกแยะกันเอาเองตามความเหมาะสมความชอบใจคือโดนใจเพราะอะไรก็เอาแนวนั้น อ่านๆไปจะรู้ หรือถ้าจะเอาแบบรวมๆก็เอาเถิดแต่จำแนกโอกาสการใช้ให้ดี

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:09
จะมาแตกใจความพิศดารของ pheromonesมหาเสน่ห์ให้ฟัง
ใครรู้จัก pheromones เชิญเข้ามาอธิบายแทนข้าพเจ้าก่อนเป็นประเดิม
แล้วจะเริ่มเปิดเผยแนวทางของ sacred pheromones


ครับฟีโรโมนเป็นอะไรที่สัมผัสผ่านโพรงจมูกจะว่าเป็นกลิ่นก็ไม่ใช่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมสัมผัสมาตั้งแต่เด็กๆเหตุจากบ้านไม่มีผู้ชายมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมดมีแต่คนรักใคร่เพราะเป็นเด็กสิ่งหนึ่งที่ผมจดจำคือสัมผัสไอคล้ายกลิ่นที่ผมเรียกว่าสาปสาวนั้นเอง จำได้แม้ทุกวันนี้ก็ไม่ชอบคือรู้สึกอึดอัดแต่ไม่ถึงกับถอยเพราะโตแล้ว สาปสาวนี้จะออกมาเน้นๆด้วยเวลาเขามีความสุขเช่นสาวๆทำกิจกรรมร่วมกันตามประสาของเขา หรือเวลาเขารักเราแล้วเราอยู่ใกล้ๆไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแฟนกันนะครับ เช่นเราอยู่ใกล้แม่เอาใจแม่หอมแก้มกอดบอกรักแม่นวดให้ท่าน สารนี้ก็จะติดกับเราแบบพิเศษและศักดิ์สิทธิ์กว่าธรรมดาเป็นตัวส่งผ่านเพศตรงข้ามในด้านเข้าหาเราแบบไม่ขวางกั้นด้วยเหตุใดๆ
ผู้หญิงกับผู้หญิงจะมีสารนี้เพื่อบ่งบอกความเป็นมิตรในการเข้ามาตามประสาเขา
แต่ถ้าชายได้ส่วนนี้มาจะกลายเป็นเสน่ห์ในชายชนิดหนึ่งที่จะเพิ่มความกันเองในเพศตรงข้ามแบบนานา เคล็ดบางประการคือหัดอยู่ใกล้ๆสาวๆเวลาเขามีความสุขใจ(แต่แก่ๆก็ได้) และอีกอย่างคือการทำให้ใครก็ได้มีความสุขเมื่อเราอยู่ใกล้ผ่อนคลายและเป็นกันเองด้วยประการนานา ส่วนอีกแบบคือเลือกคือหมายถึงเลือกคบผู้หญิงที่มีแต่คนรักเป็นที่รักกับผู้หญิงด้วยกันมาก(อันนี้ต้องสังเกตุ)แล้วจึงฝึกทำอะไรดีๆใกล้เขาเข้าไว้ หมั่นอยู่ใกล้ญาติผู้หญิงที่รวมกลุ่มทำกิจกรรมของเขาก็ได้ เสน่ห์เพศชายมาจากธรรมชาติในเพศหญิงครับ คือเมื่อมาอยู่กับชายก็กลายเป็นอีกอย่างได้ จะหวีผมให้ก็ได้ถ้าสนิทกันดีแล้ว เมื่อมือเราสัมผัสสารนี้ติดมาจึงเริ่มด้วยการเสกมือลูบไล้ตัวเราไปเรื่อยด้วยคาถา จึงเป็นที่มาของฟีโรโมนศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากแม่(sacred pheromones) ฟีโรโมนมหาเสน่ห์(จากคนทั่วไป)
เอาแค่นี้ก่อนครับเริ่มมึนแล้ว



โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:10
  คาถาการเสกมีดั่งต่อไปนี้ฝึกนั่งภาวนาคาถาก่อน ให้สมาทานศีลห้าแล้วหาประคำมาภาวนาไปเรื่อยๆว่า

จิเจรุนิ จิตตังภะคินิเม จิตอยู่ที่ปากหลับตาด้วย เมื่อครบร้อยแปดจบลืมตาขึ้นแล้วแบมือมองมือสองข้าง ให้มองแล้วหลับตามองแล้วหลับตาหลายๆทีคราวนี้จึงหายใจเข้าแล้วกลั้นใจว่าคาถา
จิเจรุนิ จิตตังภะคินิเม ซัก 9เก้าจบแล้วเป่าที่มือที่แบอยู่นึกเอาว่าคาถาเข้าสู่มือ
ทำอยู่อย่างนี้ 3o ครั้งจึงเอามือลูบแขนลูบหน้าหัวตัวไปเรื่อยๆพร้อมบริกรรมคาถาเดิม
(ถ้าจะให้เร้าใจก็เสริมเคล็ดคือตอนลูบให้ยิ้มหยิกแขน ลูบอก ตบก้น กระโดดเหยงๆเป็นกลเม็ดทางจิตชนิดนึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามเร้าใจนอกเหนือกว่านั้นอย่าทำครับเช่นตีลังกา ตบหน้าตัวเอง หรือถอดเสื้อมาควงหมุนส่ายอกไปมาขำๆ)นี้คือแต่งองค์หรือปลุกเสกอานุภาพทางนี้โดยมีที่ให้คาถาลงชัดๆ ให้ทำจนชิน เมื่อได้สารฟีโรโมนจึงทำแบบกรรมวิธีเป่าใส่มือลูบไล้นี้อีกตามเวลาอำนวยฝึกจนรู้สึกว่าจิต-คาถา-กรรมวิธีเป็นหนึ่งหมดดูไม่วอกแวก ก็จะสามารถนำคาถาเดิมมา
เสกอะไรทาตัวก็ได้หรือเสริมขุนแผนเข้าสังคม(ทอมก็ใช้ได้)หนักเข้าทำแบบกำหนดได้คือเอาไอสะสารของเราปะปนไปกับอากาศใครสูดเข้าให้ชื่นอกชื่นใจกันถ้วนหน้าเปิดใจรับฉมังนักแล มึนตึ้บแล้วครับขอไปปลีกตัวนั่งหาความวิเวกซักหน่อย

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:12
ในช่วงที่ผ่านมานั้นโดนเต็มๆครับถึงต้องผ่อนการเข้ามาเขียนหน่อย คือเสน่ห์ขึ้นโดยไม่ได้ใช้วิชาใดๆเลยและแรงมาก คงจะมาจากองค์ครูเพราะเผยแพร่ด้วยกุศลจิตไม่ได้คิดล่อแหลมใดๆ นัยว่าให้ความกระจ่างและสืบสานศาสตร์เท่านั้น ปลีกตัวไปเก็บตัวไม่ให้ใครมาเจอเฉยๆก็เลยปฎิบัติธรรมมากขึ้น จนปล่อยวางอะไรๆได้ระดับนึงทำให้เห็นสภาวะอีกว่าถ้าเราปล่อยวางได้จริงแล้วกำหนดสิ่งนั้นๆอีก อานุภาพก็แรงขึ้นปราณีตขึ้นไม่ว่ามหาลาภหรือมหาเสน่ห์ จึงเรียนมาให้ทราบ


ค้นหาอะไรอยู่ไม่รู้ไปเก็บไว้ที่ไหน เอาข้อความนี้ไปอ่านกันก่อนนะครับ
มหาเสน่ห์.....หลวงพ่อฤาษีฯ(พระราชพรหมยาน)
1.เว้นจากการฆ่าหรือทรมานสัตว์ทุกประเภท(ศีลข้อ 1)
2.ไม่ถือเอาทรัพย์สินของผู้อื่น(ศีลข้อ 2) 3.ไม่ละเมิดความรักของผู้อื่น(ศีลข้อ 3)
(1-2-3 คือ กายสุจริต 3 ในกุศลกรรมบถ10)
4.ไม่ดื่มสุราและเมรัย(ศีลข้อ 5)5.ไม่พูดคำไม่จริง(ศีลข้อ 4)
6.ไม่พูดคำหยาบ 7.ไม่นินทาว่าร้ายคนอื่น 8.ไม่พูดวาจาที่ไม่มีประโยชน์(5-6-7-8 คือ วจีสุจริต 4 ในกุศลกรรมบถ 10)
9.ไม่คิดจะเอาทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งหมด
10.พยายามข่มใจไม่คิดประทุษร้ายใคร คิดให้อภัยไว้เสมอ
11.เข้าใจตามความเป็นจริงว่า ถ้าปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วทั้ง 10 ข้อนั้นครบถ้วน จะมีความสบายใจมากกว่าความลำบากใจ ตายเมื่อไรจะมีความสุข(9-10-11 คือ มโนสุจริต 3 ในกุศลกรรมบถ10)
รวมความแล้ว มีความเข้าใจตามความจริงว่า อาการ 10 อย่างตามที่กล่าวมา เป็น"มหาเสน่ห์" (กุศลกรรมบถ10-ดีพร้อมด้วยกาย-วาจา-ใจ) คือ คนรักในปัจจุบัน แม้สัตว์ก็รัก เมื่อมีคนรักมาก สัตว์รักมาก เราก็มีความสุขมาก เมื่อมีชีวิตอยู่มีความสุข ตายไปแล้ว ความสุขก็ตามไป ทำให้เราไปเกิดเป็นมีความสุข(ถ้ายังเกิดอยู่).....


โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:13
เจอแร้วครับไดอารี่เล็กๆที่เขียนคำบอกเล่าหลวงปู่ชื่นของเคล็ดลับบางอย่าง
ของขุนแผนชมตลาดอ่านแล้วขำชอบใจ



คือเรื่องมีอยู่ว่าหลายปีต่อมาเมื่อผมได้เจอหลวงปู่อีกครั้งและเป็นครั้งสุดท้ายตอนนั้นหลวงปู่ออกมาจากโบสถ์ถือไม้เท้า(ผมไม่เคยเห็นท่านใช้ไม้เท้ามาก่อน)ผมมองท่านแล้วแปลกใจที่ท่านดูผ่องราษีจับมากแต่ก็อดภูมิใจกับโบสถ์ไม่ได้ที่สร้างเสร็จ ท่านเดินผ่านหน้าผมอมยิ้มผ่านไป คือปกติท่านทำอะไรผมจะมองตลอดท่านเองคงชิน วันนั้นไม่ได้คุยเลยมีคุณนายมาคุยจากไหนไม่รู้ ก็เลยรอจนกลางคืน คุยเรื่องสนุกๆยกตัวอย่างอานุภาพอาถรรพณ์แคล้วคลาดกับอาถรรพณ์คลาดแคล้ว โดนท่านสอนว่าอันนึงไม่โดนอันนึงไม่เจอ ว่าแล้วก็หัวร่อคงรู้ว่าผมงง ท่านจึงยกตัวอย่างให้ฟัง ผมจึงเริ่มของผมเรื่องขุนแผนไปเดินตลาดนี่คนเต็มเลยแต่เด่นที่สุด หลวงปู่ว่าขุนแผนเดินไปสาวเดินสะดุดขาตัวเองแต่ตายังมองขุนแผน อย่าให้ขุนแผนหัวเราะเชียวสาวๆจะทำเป็นดีอกดีใจบ้างทำตลกบ้างทำทะลึ่งให้ขุนแผนดูเลย ผมฟังแล้วก็อ้าปากค้าง ชวนให้ท่านขำเข้าไปใหญ่ ท่านลองภูมิทันที "รู้มั้ยล่ะทำยังไง" ท่านว่า
"วางจิตครับผนวกกับคาถา "ผมตอบ
ยังไงล่ะ?ท่านกล่าว
ผม"คือรู้ว่าเราต้องเด่นแรงๆเนื้อหอมน่ากิน"
ท่านว่่า หว่ะ! มียิ่งกว่านี่อีกน่ะ ไอ้ผมก็เลยหูผึ่งนึกว่าพูดถึงวิชาใหม่ ท่านว่าบทเดิมนี่แหละใช้กับพระก็ได้ เอาจิตรวมกับพระขุนแผนโดดๆเดินไปตลาดเอาที่คนมากๆแล้วทำเหมือนเราไปให้ความสุขเวลาเขาเห็นเราเหมือนกับว่าเขาเหงาใจอยู่ แล้วเราทำให้เขาสุขสนุกสนานเป็นร้อยมีรอยยิ้มเป็นร้อยๆพันๆคน.. ณ วินาทีนั้นเองที่ผมได้มากระจ่างแต่ไม่เคยฝึกได้ซะที เพิ่งจะมาเข้าใจพอทำได้บ้างก็เมื่อไม่นานนี่เอง ท่านว่าอย่างนี้ตลาดต้องขอบใจขุนแผนที่ไปเดินเพราะคนเห็นก็แทบจะรำวงกันได้เลย



โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:14
เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องช้าร์ตพลังที่หลวงปู่สอนเหตุจากมีคนมาสนทนากับท่านแลกเปลี่ยนวิชา แล้วจะแถมความรู้อื่นๆอีก


อันนี้เป็นเรื่องราวของบุคคลคนนึงแวะมาคุยกับหลวงปู่ในเช้าตรู่ขณะอากาศหนาว
หน้าตาคล้ายๆผมและเคยบุกไปเขาหิมาลัยเป็นโยคีสำเร็จศาสตร์ทางจิตสูงส่งพอสมควร
แต่เพิ่งจะสนใจอาถรรพณ์พุทธเวทย์สายหลวงปู่ชื่นจากคนๆนึงที่นำของๆหลวงปู่ไปให้ดูแล้ว
อานุภาพหายไปซะเฉยๆเมื่อกำลังจะตรวจสอบ แต่เมื่อคนนำไปอาราธนาห้อยกลับมีพลังปรากฏให้เห็นทางตาในและเมื่อจะำทำการรวมพลังตนกับพลังของสิ่งๆนั้นเพื่อดูดพลังอานุภาพเข้ามา ก็เกิดพลังชนิดนึงขึ้นมา แกใช้นิยามนั้นว่าถูกถีบและซวยต่างๆนาๆตลอดฯลฯ
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ


โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:16
พายุเข้ามืดฟ้ามัวดินที่อื่นๆไฟคงจะดับยกเว้นแถวบ้านผมเป็นวันหยุดพอดีสองวัน
ต่อจากที่เล่าไว้นะครับคือชายท่านนั้นได้สนทนากับผมขณะที่ผมนั่งดูไม่ได้พูดอะไรนัก
คือพูดกับหลวงปู่ชื่นแล้วพลางพูดกับผมบ้างว่า
วิชามหาคยุยของหลวงปู่ชื่นแปลก
มาถึงจุดนึงได้เปิดเผยว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ช้าร์ตพลังในตนได้
โดยนำนิ้วสามนิ้ว(ชี้,กลาง,นาง)ข้างขวาแปะชีพจรข้อมือข้างซ้ายเหมือนจับชีพจรเอาไว้
แล้วทำสมาธิเป็นปกติห้าหรือสิบนาทีก็ได้
อันนี้ผมเคยถามหลวงปู่ไว้ในวันนึงว่าถ้าจะใช้คาถาประกอบควรจะใช้บทไหน
ท่านว่าชินบัญชรหรือ พระเจ้า28 พระองค์
ผมก็เคยลองฝึกดูนานมาแล้วเพราะเคยเป็นคนไม่อยู่เฉยทำอะไรอยู่ตลอดก็เลยอาศัยวิชานี้
ผมว่าได้ผลดีผมเป็นคนอึดกว่าปกติในชีวิตทำงาน- เที่ยวฯลฯ




โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:17
มีแนวเมตตาสุดกู่ที่ไม่ทันหลวงปู่ครับ หลวงปู่ท่านทราบดี
โดยจะมาสานแนวขุนแผนชมตลาดผสมขุนแผนน้ำผึ้ง
ท่านได้บอกวิชาจำเพาะเจาะจงไว้ผมก็ได้จดไว้แต่เป็นที่น่าแปลกเพราะผมนำบันทึกที่เขียนไว้สอดในหนังสือที่ยืมมาจากวัดไทยในอเมริกา เมื่อผมนำหนังสือไปคืนเวลาผ่านไปถึงจำได้แต่พอกลับไปดูปรากฎว่าหนังสือเล่มนั้นไม่อยู่ คือห้องสมุดนี้ไม่มีใครอ่านหนังสือเล่มนี้แน่ๆ บันทึกนั้นจึงหายไปด้วย
ผมว่าน่าจะเป็นหลวงพี่ที่คอยตรวจสอบเอาไปเก็บไว้อ่านดูบ้างแต่เก็บหมักๆไว้ก่อน
ที่ผมมีเหลือจะเป็นคาถาบทนึงที่ลอกมาจากบันทึกเพื่อจะนำไปท่องจำยามว่างที่ทำงาน
เป็นเมตตาชั้นสูงที่มีอานุภาพเป็นเคล็ดสำคัญที่เหลือคือคนจะยิ้มให้เรา
ใครชอบเมตตาหยาดเยิ้มก็ต้องไปบอกอาจารย์สรายุทธก่อน
ถ้าอาจารย์อนุญาติผมจะนำมาบอก
เรื่องแตกใจความมหาเสน่ห์นี้หลายท่านอาจจะงงว่ามาส่งเสริมทำไม
คือผมไม่ได้บอกหมดนะเอาที่ชัดเจนและเด็ดขาดแต่ขอบเขตุพอมี
อยู่ที่คนใช้ คือจะให้เห็นตื้นลึกหนาบางว่าส่วนหนึ่งในอดีตของจอมพระนี่เป็นไง
จนถูกล้วงเอาไปลอกเลียนไม่ว่าจะมาถึงบ้านหรือแอบดักฟังโทรศัพท์ฯลฯ
ผมเห็นว่าเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์สู้เขียนให้รู้ซะบ้าง
ให้หายจืดมีอะไรให้เราๆท่านๆอ่านนำไปใช้ดีกว่า มันผุดมาเฉยๆในวันนึงแบบอธิบายไม่ถูก
ใครสนใจจับจุดใช้ถูกก็เชิญตามสบายครับ ผมเพียงแยกแยะให้วิเคราะห์
ผมเองก็ห่างทางนี้บ้างเพราะสิ่งชักจูงไม่แรงพอ แต่จะใช้แม้แค่นึกก็มีเหตุ
บ่อยครั้งการมีเสน่ห์เฉยๆก็ทำให้มีดีแทนที่จะเป็นแค่คนทำหน้าที่ตนไปวันๆแบบคนไม่เตะตา)
เล่นมากก็ไม่ดีถ้าไม่มีเป้าหมายที่คุ้มๆ
อาจจะไปกระตุ้นคนที่มีคู่อยู่แล้วให้เขายิ่งเซ็งคู่เขาแล้วเน้นมาที่เรา (ระวัง)
จริงๆแล้วธรรมชาติของผมรักสันโดษมากเพราะชาติก่อนเป็นพระธุดงค์(อันนี้หลวงปู่ชื่นเป็นคนบอก)
แต่ด้วยความมีอุดมคติแปลกๆจึงสลัดแนวถูกโฉลกมาหาคำตอบในสิ่งแปลกๆนัยว่าเป็นกรรมชนิดหนึ่ง
เขียนมาคุยในสิ่งที่ไม่เคยคุยบ้าง ใครมีอะไรเข้ามาเล่าสู่กันฟังได้ครับ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:18
          เท่าที่ผมเคยแขวนมานะครับพี่ทิม จะบอกยังไงดีล่ะ พระจะเปลี่ยนบุคลิกเราให้ต่างจากเดิม แล้วพอเราเข้าใจพระเครื่องมากขึ้น ปัญญาตรงนี้ก็จะไปเสริมบุคลิกบางอย่าง เหมือนเปิดกุญแจไขพลังพระเครื่องออกมามากกว่าเดิมอีก ก็เลยยิ่งขับเน้นความแรงของพระองค์นั้นพร้อมๆกับพัฒนาตัวเราเองไปด้วย แต่ถ้าใครไม่คิดพัฒนาตัวเองหรือไม่เปิดใจรับมากขึ้น เช่นว่าศรัทธาน้อยหรือขาดความเพียร ก็จะได้รับอิทธิพลดีๆจากพระได้แค่นั้นแหละ แก้วน้ำใบเล็กมันก็ใส่น้ำเท่าที่ได้ ถ้าพัฒนาตัวเองแก้วก็ใหญ่ขึ้นรับอะไรดีๆได้มากขึ้น ประมาณนั้น หลวงปู่ท่านคงไม่อยากให้ลูกศิษย์งอมืองอเท้าเอาแต่แบมือขอไม่คิดสร้างความดีให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ละมั้ง

ที่บอกเก็ทคือสมัยก่อนแขวนชมตลาดแล้วจะเดินร่าเริงเดินลอยชายจริงๆเราก็ครึ้มใจนึกว่าบ้าจี้ตามพระเครื่องไปเอง เพิ่งรู้จากพี่ทิมนี่แหละว่ามันเป็นวิชาที่ต่อยอดได้อีกเยอะ ขอบคุณพี่ทิมครับ



ใช่ครับ ผลดีที่บังเกิดเิปิดหูเปิดตาต่อการพัฒนาในหลายๆจุดสุดแท้แต่จะสรรหา
บางครั้งหรือบ่อยครั้งจะพูดจะทำอะไรไปไม่มีผลก็เพราะไม่มีคุณสมบัติอันสอดคล้องในตน
การมีของดีนั้นช่วยได้มากและพาลโยงไปถึงการสร้างความเข้าใจอื่นๆที่เดิมทีไม่มี
อันเป็นเหตุให้พัฒนาตน การต่อยอดนั้นถ้าเป็นสัมมาทิฐิก็ดีไป
แต่ถ้าเป็นมิจฉาทิฐิก็จะทยอยส่งผลให้แน่ๆไม่ช้าก็เร็ว
ผลของการพึ่งพาของนั้นจึงมีการรู้จักถือของ
เช่นการถือศีลห้า หรือความดีบางอย่างที่เป็นกฎถือไว้สอดคล้องกับคุณที่ของมี
ไม่ให้มีมลทินมาแปดเปี้อน อันเป็นมงคลบังเกิดคู่ไปกับคนและของ
แน่นอนว่าจะดีมากดีน้อยย่อมขึ้นอยู่กับเราเอง
แต่ถ้าของจะดีมากดีน้อยนั้น สำหรับที่นี่ไม่ต้องห่วง


โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:18
จากแตกใจความมหาเสน่ห์ก็คงจะพอเข้าใจแนวทางที่เปิดเผยเต็มพิก้ดแล้วใครเข้าใจและแตกแยกแนวได้จะเจอความจริงชนิดหนึ่ง ที่ชวนให้หาอะไรที่คุ้มค่าแท้จริง แนวนนี้จะมีอย่างนึงเป็นบทเรัยนคือถ้าอ่อนใจหลงไหลกับสิ่งใดละก็จะได้รับบทเรียนว่าเรางมงายกับความรักที่ให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งๆที่เรามีดี นานเท่าไหร่ผมไม่รู้แต่จะบอกว่าทำให้รู้ตนว่ามีจริตทางโงหัวไม่ขึ้นหนึ่งและจะต้องทำความเข้าใจตนให้มากหนึ่ง ผมได้เจอคนที่ใช้วิชาขึ้นและกลับเป็นคนติดกับหลงไหลฝ่ายตรงข้ามซะเองทั้งๆที่ความจริงแล้วฝ่ายตรงข้ามมีใจให้เพราะอานุภาพวิชาแต่เขามีจรรยาบรรพอที่จะบอกว่าชอบแต่มีคนรักอยู๋แล้ว คนรักเขาที่ไม่ได้ทำผิดอะไรที่จะต้องเลิกแล้วมาอยู๋กินกับเราแม้จะมีใจให้มากๆๆ สิ่งนี้สอนคุณว่าคุณเล่นขึ้นนะ แค่นั้นแหละและสอนว่าให้หาผู้หญิงที่มีคุณสมบัติอย่างนี้มาเป็นเมียและแม่ของลูก ไม่ใช่หลงงมงายจะเอาเขาเป็นของเราถ้าเดียว แนวผมนะขลังมากแต่มีข้อคิดให้คิดเช่นกัน ว่าความจริงแล้วเราควรมองหาอะไร แนวนี้ได้ผลจริงแต่ท้ายๆแล้วจริงจังชะมัด คือเขาจะบอกว่าใครที่เหมาะสุดๆตั้งแต่ต้นชนปลายแทนที่จะเป็นแบบที่เราชอบแล้วเป็นของเราตั้งแต่ต้นชนปลาย ขอประทานโทษที่มีใจความยาวมาก จะขอบอกว่ามหาเสน่ห์จริงแล้วคือทางผ่านหรือของเล่นของท่านชายและท่านหญิง ปกติจะเหมาะกับความสนุกๆไม่มึแก่นสาร แต่โบราณหญิงใดเสร็จชายใดก็ต้องจำยอมว่ามีคู่ผัวตัวเดียวไม่เหมือนปัจจุบันให้สับสน ค่าความหมายปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก ถ้ามีสาระก็มาจากการใช้เป็นจนมีผลต่อยอดในรูปอื่นๆ จะมาเขียนต่ิอครับ ว่าด้วยคาถาเงินล้านที่เหตุมาจากการต่อยอดจากคาถาพระปัจเจกโพธิ์์ที่หลวงปู่ชื่นสอนและแผลงเป็นอย่างอื่นต่อยอดและสับสนกว่าจะได้บทสรุปจนหลายปีกว่าผมจะได้สาระแท้จริง แป้นพิมพ์ๆสระบางตัวไม่ได้อ่านแล้วแปลกในสำนวนต้องขออภัย

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:19
ครับจากโพสที่แล้ว ผมได้เกริ่นถึงคาถาเงินล้านไว้ขอนำมาเล่าสู่กันฟังในนี้เพื่อสาระที่แตกต่างบ้าง ในตอนแรกที่ศึกษาวิชากับหลวงปู่ได้มาถึงจุดนึงทางทำกินถึงเรื่องค้าขายท่านได้สอนคาถาพระปัจเจกโพธิ์โดยคาถาจะต่างแต่เข้าใจว่าท่านเรียนมาปากต่อปากจึงไม่เหมือนบทเดิม หลังจากนั้นผมได้กลับมาอเมริกาแล้วฝึกสวดทุกวันๆละ108จบโดยใช้คาถาพระปัจเจกโพธิ์บทธรรมดาในหนังสือทั่วไปแล้วแผ่เมตตา (โดยลืมเนื้อความนึงทิ้งไว้) สองเดือนกว่าๆปรากฎว่ามีอะไรเปลี่ยนไป เงินทองเริ่มเข้าและคนเมตตาดีโดยผมนำหลักที่ท่านสอนผนวกกับศีลอย่างเชื่อมั่น ทำอยูปีนึงก็เริ่มจำในส่วนที่เหลือที่หลวงปู่สอน แต่เก็บไว้เฉยๆก่อนเพราะตอนนั้นที่ทำอยู่ก็ได้ผลดี จนสงสัยในคาถาเงินล้านว่าต่างกันยังไงจึงอฐิษฐานบอกหลวงปู่ว่าสงสัยขอมาให้ความกระจ่าง ว่าแล้วไม่กี่วันก็เจอหนังสือเล่าความเป็นมาของคาถาเงินล้าน แว้บแรกที่กระจ่างคือคาถาเงินล้านเหมือนมีมือหลายมือกว่าคาถาพระปัจเจก(ลองเปรียบกับเราที่มีสองมือ) จึงหันมาสวดคาถาเงินล้านจนเห็นผล เมื่อมีโอกาสไปเจอหลวงปู่จึงเล่าให้ท่านทราบ ท่านว่าดีแล้วๆ พอดีผมจำคาถานึงที่ท่านสอนให้สวดคู่พระปัจเจกผมจึงถามคาถานั้นไปตรงกับคาถาของเกจิท่านนึง ท่านว่าให้ท่องคู่กันโดยท่านเรียกว่าคาถาแมงมุมทองหรือที่เราๆท่านๆรู้จักันในนามแมงมุมดักทรัพย์ ท่านได้สอนผมแต่ทีแรกว่าใช้คู่พระปัจเจก สวดพระปัจเจกแ้ล้วตามด้วยคาถาแมงมุมทองประจำ แต่ผมมาลองทำตอนหลังที่ฝึกสวดคาถาเงินล้านแล้ว เป็นไงจะมาเล่าอีกครับ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:20
นะโม 3จบ

                         พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ (บทนี้ว่า1จบ)
                        วิระธะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
                        พุทธัสสะมานี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม ฯ
                         สุวันนะระชะตัง มะหาสุวันนะ ราชะตัง อังคะตะเศรษฐี
                         มหาอังคะตะเศรษฐี มิคะตะเศรษฐี มะหามิคะตะเศรษฐี
                         ปุริโสวาอิตถีวา พราหมณ์มะณีวา มะอะอุ มานิมามา


เรื่องแมงมุมทองนี้มีในตำราหลวงปู่ชื่นเช่นกัน ไม่ได้สนใจนำมาสร้างเพราะมีเกจิท่านอื่นได้สร้างไปแล้ว ที่หยิบยกมากล่าวนี่คือแบบที่ท่านบอกให้สวดตั้งแต่ต้น                             ถ้าสวด108จบประจำประมาน 3เดือนจะคล่องง่ายสบายสะดวกลาภมาจำพวกมีน้ำหนักโดดเด่น ต่างจากพระคาถาพระปัจเจกโดดๆ ต้องสวดคู่กันให้เน้นอย่างที่ท่านสอนเพราะมีผลสูง ไม่ได้ให้เน้นสวดคาถาเงินล้านคู่แมงมุมทองเพราะจะเลิกสวดกันง่ายๆเนื่องจากยาวมาก มีบทแผ่เมตตาอีกบทครับจะนำมาเล่าให้ฟัง

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:21
การรู้จักปล่อยวางรู้จักสมถะไม่ห่วงใยเงิน ดูจะเป็นวิธีที่ดีสำหรับการสวดคาถามหาลาภต่างๆเสมือนการรู้จักหลุดออกจากวงจรห่วงหลอกๆ  ให้อยู่กับชีวิตจริงให้มากไม่ต้องรวยเด่นๆขอให้มีความสุขกับสิ่งดีๆอย่างอื่น ถ้าทำได้จะเป็นยอดแห่งมหาลาภทวีคูณความโดดเด่นของวิชานี้ คือชีวิตจะค่อยๆเปลี่ยนไปจากมีเงินง่ายสะดวกสบายแล้ว ก็ยังมีดีที่คนดีๆมั่งมีต่างๆเริ่มเข้ามาปะปนในชีวิตเราคอยจุนเจือแบ่งปันง่ายๆ เป็นคนให้กู้หรือช่วยลงทุนก็ได้แทนที่จะมีแต่คนมายืมเงินก็เป็นเอาเงินมาให้ จาก3เดือน6เดือน9เดือน12เดือนจะถูกต่อยอดให้ดัขึ้นๆอะไรจะง่ายคูณสิบคูณร้อย อย่าเสียคนเพราะเริ่มร่ำรวยให้เริ่มรู้จักทำบุญจนเป็นส่วนหนึ่งของวงจรชีวิต ถ้าหยุดสวดนานแล้วเริ่มใหม่จะมีผลดีแต่ไม่มีคุณภาพ สีสันรสชาติอาจเปลี่ยนไปดูเหี่ยวๆบูดๆบ้าง จึงควรต่อเนื่อง จากนั้นเมื่อกระจ่างในสภาวะสุขในรูปแบบที่ได้รู้ว่าความดีความรักความอบอุ่นของคนดีๆที่มีให้ต่อกันและกันคือใจที่มีพลังในการแผ่เมตตา อคติลดน้อยถอยลงได้เข้าใจคุณธรรมจากความมีน้ำใจต่อกันและกันจึงระลึกไว้เสมอคงความเข้าใจและอารมณ์นั้นไว้เสมอๆแล้วจะได้อารมณ์แผ่เมตตาที่ดี จำไว้ว่าเมื่อทำจนขึ้นแล้วยังไงก็ไม่จนไม่ลำบากจึงไม่ต้องไปอคติกับใครอะไรนักนอกจากรักษาตนให้ดีมีสุข และรู้ทันการเอาเปรียบคนที่จะมาบั่นทอนทรัพย์ฯลฯ สำหรับบทแผ่เมตตาที่ว่ามีดังนี้

กรณียะเมตตะสุตตัง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ชัยยะนารี จักะวัตติราชา มะโนใจรัก นะเมตตาอโหสิติ โมเมตตาอโหสิต พุทเมตตาอโหสิติ ธาเมตตาอโหสิติ ยะเมตตาอโหสิติ ชัยยะนิพพานังปรมังสุขขัง

แผ่ด้วยจิตให้เป็นสุขๆสุดยอดถ้วนหน้าจนกว่านิพพาน นำไปคู่กับพระปัจเจกแมงมุมทองโดยทำหลังสวดเสมอๆ

โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:22
ครับความศักดิ์สิทธิ์ของคาถา สมาธิ ทาน ล้วนมาจากศีล ศีลจะทำให้มีพลังอำนาจในอานิสงค์ของสิ่งต่างๆ
เมื่อประกอบกับองค์ประกอบต่างๆที่ส่งเสริมก็ยิ่งชัดยิ่งๆขึ้นไป อันนี้พูดถึงศีลอย่างเดียวเท่านั้นสามารถนำทุกสิ่งปรากฏทันตาเห็น
แม้การห้อยวัตถุมงคลต่างๆ การขอครูบาอาจารย์ช่วยเหลือยามจำเป็นฯลฯเรื่องทานกับคาถามหาลาภบวกกันก็เช่นกัน
เมื่อมีศีลกำลังพลังอำนาจของผลจะชัดมากๆ แถมมีจิตกุศลแผ่เมตตาก็ยิ่งวิเศษ


                                           นะโม 3จบ
                        พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ (บทนี้ว่า1จบ)
                        วิระธะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
                        พุทธัสสะมานี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม ฯ
                         สุวันนะระชะตัง มะหาสุวันนะ ราชะตัง อังคะตะเศรษฐี
                         มหาอังคะตะเศรษฐี มิคะตะเศรษฐี มะหามิคะตะเศรษฐี
                         ปุริโสวาอิตถีวา พราหมณ์มะณีวา มะอะอุ มานิมามา
                                           ***108จบ**
                                   
                                   แผ่เมตตาพระเจ้า 5 พระองค์ทั่วโลก
                       
                       กรณียะเมตตะสุตตัง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ชัยยะนารี จักะวัตติราชา
                                    มะโนใจรัก
                                    นะเมตตาอโหสิติ
                                    โมเมตตาอโหสิต
                                    พุท เมตตาอโหสิติ
                                    ธาเมตตาอโหสิ
                                    ยะเมตตาอโหสิติ
                                    ชัยยะนิพพานังปรมังสุขขัง

ลงเพิ่มเติมจากเนื้อหาเดิมๆครับ จะค้าขายหรือไม่ได้ค้าขายก็ไม่เป็นไร มีอานุภาพ ดัก ดูด ขัง ทวี ในทรัพย์ยิ่งนัก
คนคบหาและลูกค้า มีระดับ  เขียนเป็นวิทยาทานแด่ผู้ตัดสินใจปฏิบัติเพื่อพ้นชีวิตโทรมๆมอซอ

ทานที่คู่กับการแผ่เมตตาชนิดนึงคืออภัยทานซึ่งถือว่ายาก เป็นทานสูงสุดแห่งจิตใจ
ฟังเพลงกันก่อนครับ พักหลังๆเพลงนี้ผุดขึ้นมาเสมอจึงหา ฟังแล้วมีความสุขดูแล้วคลายอัตตาในตน


โดย: kit007    เวลา: 2013-4-3 12:23
[youtube]HU54U-dW72A&list=LLDigvRs5jZFHVJS_8DwXsDg[/youtube]

มีทีเด็ดมหาเสน่ห์อีกหมวดจะมาเสนอครับ ฟังเพลงกันก่อนร้องไปด้วยก็ดี



โดย: sriyan3    เวลา: 2013-4-13 04:32
ตามมารอฟังต่อครับ
โดย: Tim    เวลา: 2013-4-16 10:36
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tim เมื่อ 2013-4-16 11:45

กลับมาเขียนอีกในบ้านใหม่ บ้านหลังนี้ผมชอบมากออร่าสว่างโพลงทีแรกนึกว่ากระทู้นี้จะหายไปก็ดีใจหายว่าไม่ต้องถ่ายทอดอะไรแล้ววุ้ยอ่านๆไปมาเจออีกอ่ะสานต่อดีกว่าเน๊าะพี่น้อง ท้ายสุดได้เกริ่นไว้ถึงมหาเสน่ห์ที่เป็นคติสำคัญ หมวดนี้คือเห็นแล้วจำไปคิดถึง ที่ว่าสำคัญเพราะมีหลักอยู่ว่าคนเราเจอกันแล้วผละตัวแยกย้ายกลับที่ของตนอาจจะต้องจำเป็นให้เขารำพึงคิดถึงเพื่อตอกย้ำซึมซับเข้าถึงใจ ตอนที่เราอยู่น่ะจะงัดอะไรมาใช้ก็ได้แต่ตอนไปนั้นต่างคนต่างมีอะไรทำประเดี๋ยวใครมีดีกว่าจะฉกไป งานนี้จึงเป็นบทบาทของวิชานี้เลย ใครเห็นแล้วตรึงใจจำอยู่ประเภทเน้นที่เรายิ่งนัก
พระคาถาเทพรำพึง
พุทธังนะรำพึง โมคิดถึง พุทอ่อนใจ ธาอยู่มิได้ ยะร้องไห้ สังฆังละลวยร้องไห้มาหากู นะมิเห็นหน้าก็บ่นหา โมธัมโมสังโฆเห็นหน้าดีใจ พุทกอดไว้ ธามิใคร่จะวางมือ ยะตามมา พุทโธธัมโมละลวย สังโฆอ่อนละไมมีจิตตังปิยังมะมะ ตัวกูหรือคือ คนทั้งหลายให้มารักกูเสมือนหนึ่งช้างรักงา เสมือนหนึ่งปลารักน้ำ เสมือน
าชสีห์รักถ้ำพระคูหา รักกูเสมอแม่รักลูก โอมชัยสิทธิสวาหะ
เอ้าหมดเปลือกเเล้วนะครับ รัก-เมตตามหาเสน่ห์-คิดถึงคนึงหา อานุภาพตามถึงบ้านถึงหมอนจนยันเจอกันอีกก็ย้ำอีก อย่างต่ำได้สนิทสนมกันแน่นอน
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-16 11:24
ขอบคุณครับพี่ทิม
โดย: sriyan3    เวลา: 2013-4-16 15:13
ขอบคุณครับ
โดย: kit007    เวลา: 2013-4-16 16:50
ขอบคุณครับพี่ทิม
โดย: Bouk    เวลา: 2013-4-16 20:22
ขอบคุณครับ
โดย: AUD    เวลา: 2013-4-16 21:03
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-4-16 10:36
กลับมาเขียนอีกในบ้านใหม่ บ้านหลังนี้ผมชอบมากออร่าส ...

ขอบคุณครับพี่ทิม
โดย: orisis    เวลา: 2013-4-23 22:04
พี่ทิม..มาแว้ว..งิงิ
โดย: orisis    เวลา: 2013-5-26 09:40
เข้ามารอพี่ทิม..
โดย: asakusa    เวลา: 2013-5-26 13:25
ขอบคุณครับ
โดย: Tim    เวลา: 2013-5-27 09:20
orisis ตอบกลับเมื่อ 2013-5-26 09:40
เข้ามารอพี่ทิม..

อั้ยย่ะ!นึกว่าลืมๆกันไปแล้ว มารอกันอย่างนี้สงสัยต้องเจาะใจความมหาเสน่ห์
โดย: sritoy    เวลา: 2013-5-28 18:58
ขอบคุณครับพี่ทิม
โดย: รามเทพ    เวลา: 2013-5-29 08:48
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-5-27 09:20
อั้ยย่ะ!นึกว่าลืมๆกันไปแล้ว มารอกันอย่างนี้สงสัยต้ ...

พี่ทิมครับ
จะมีโอกาสมาเที่ยวเมืองไทยวันไหนครับ

แล้วตอนนี้พี่ทิมอยู่ส่วนไหนของโลกครับ

แล้วจริงหรือไม่ที่ดึกๆหลวงปู่ท่านมักจะคุยกับใครไม่รู้
ทั้งๆที่ท่านอยู่คนเดียวในกุฎิ
โดย: Tim    เวลา: 2013-5-29 10:48

อยู่ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับว่าผมจะสามารถไปเมืองไทยได้หรือไม่ ออกแรงมากก็อิดโรย
ตอนนี้ผมอยู่ในโลกแห่งการปล่อยวางครับ
หลวงปู่ท่านคุยคนเดียวของท่านแหละครับจึงมีความสุขเพราะท่านรักทุกๆคน
แอบดูผ่านรูกุฏิก็จะเห็นแต่ความว่างเปล่าแม้แต่ตัวท่านก็ไม่เห็น
แอบดูนานๆจะมีเสียงท่านเรียกทักว่า"โยม..." ทำเอาสะดุ้ง
เช้ามาท่านก็ยิ้มแฉ่ง อมยื้มเชิงขำๆ
ด้านขวากุฏิท่านจะเป็นที่ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นท่านชอบหยิบอะไรมาจากไหนไม่รู้โยนไปตรงนั้น
ผมก็คิดว่าท่านทิ้งขยะก้อนอะไร ท่านทำประจำ นั่งๆอยู่คุยกันจู่ๆก็ลุกไปโยนอะไรทิ้ง
คือมือเปล่าๆตอนแรกแต่จู่ๆมีขยะในมือให้ทิ้งมาจากไหนไม่ทราบ
ผมไม่กล้าเดินไปดูเพราะท่านบอกอย่าไป อีกอย่างผมคิดว่าบริเวณนั้นเป็นสุขาของท่าน
ด้วยความเพลินของผมเดินใจลอยผมดันเดินไปตรงนั้นแหละครับ
จำได้ว่ามีหัวว่านเต็มไปหมดและมีก้อนหินเงาๆแปลกๆหลายอย่าง
คงเป็นที่เก็บของกายสิทธ์ของท่านมั้ง
แต่ท่านเอาที่ไหนมาโยนใส่น่ะซิครับเพราะต่างคนต่างนั่งกันตามปกติแล้วจู่ๆท่านก็เขวี้ยงไป
ผมจำได้ว่าครั้งนึงเดินรอบๆกุฏิท่านแล้วเจอลูกกลมๆขาวๆผมนึกว่าไข่งูหรือเปล่าจะหยิบมาดูก็มีลมพัด
มันก็เลื่อนไปผมก็เอ..โฟมนี่หว่า หยิบมาดูที่ไหนได้น้ำหนักมากพอสมควร
จู่ๆได้ยินท่านทำปากจิ๊จ๊ะไม่พอใจ ผมสะดุ้งเลยเอาวางไว้ตรงหว่างกิ่งของต้นไม้
กลับมาดูก็หายไปแล้ว ตกลงผมก็รู้ว่าเป็นของดีนะแหละ แต่ขืนหยิบสุ่มสี่สุ่มห้าละก็ เหอๆๆๆๆ
โดย: orisis    เวลา: 2013-5-29 13:04
ดีใจจัง..ที่ได้รับฟัง..เรื่องราวครั้งเก่าก่อน..ขอบคุณครับ..พี่ทิม

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-6-5 06:00
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-6-5 06:03

หัวใจขุนแผนฉบับเต็ม..

สุสิมุลิ สุนะโมโล อะวิสะมะ สะสิมะนะ



โดย: Tim    เวลา: 2013-6-5 07:27
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tim เมื่อ 2014-1-4 00:03

ใช่แล้วท่านเอย หัวใจขุนแผนจะเป็นเช่นนี้แล
อาจารย์ท่านนึงคุยยกว่าฉันมีหัวใจขุนแผน 4 บทไม่ซ้ำกัน
ผมก็ไม่ได้สนใจ จนมาเจอทีหลังก็ปุดโธ่หัวใจขุนแผนบทเต็มแค่นั้น
จะดูคล้ายๆหัวใจพลายแก้วครับ
เสกตา(เสน่ห์ในดวงตา)
โอม เอาฆะสะ เอาฆะสะ เนตรตาในแก้ว สุริยะฉานแก้ว
นะมะพะทะ ลูกตากูงามดังพระอาทิตย์
นะมะพะทะ แววตากูงามดังพระอาทิตย์ทอแสง  
นะมะพะทะ ในตากูงามดังพระอาทิตย์เกิดสุริยะฆาต
นะมะพะทะ หญิงใดมองตากูก็งวยลง
นะจังงังโมยังจิต นะรักหลงโมผูกใจพุทธาไซร้ อ่อนใจมาหากู ชายมองตากูก็งวยงง
พุธทอสมุนรักกู สังขอสมุนรักกู คิหิสุสะปุสะพุภะ รักตัวกูจนตัวตาย จะภังกะโรเสสี
นะมะพะทะ สวรค์นรกแลประจักษ์ ตากูงามดังพระอาทิตย์ เอสราหอมผ่อนเต
สัคเค ราเร้าปอเจามัวเตาปอเตาเพคาแวะเตาสรา.นอง คัจฉาเม๊าะ โอม สิทธิ ะโหมติด

ใช้คู่ขุนแผนชมตลาดดีแลฯ
โดย: orisis    เวลา: 2013-6-5 09:00
ขอบคุณครับ
โดย: sriyan3    เวลา: 2013-6-5 11:03
ขอบคุณมากครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-6-5 11:23
ขอบคุณครับ
โดย: sritoy    เวลา: 2013-6-5 12:21
ขอบคุณครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-6-12 13:48
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-6-5 07:27
ใช่แล้วท่านเอย หัวใจขุนแผนจะเป็นเช่นนี้แล
อาจารย์ท่ ...

นกถึกทือ กับ อีกา

มีดีแตกต่างกันช่วยไรบ้างครับ?

โดย: Tim    เวลา: 2013-6-12 14:31
อีกาจะเด่นทางเรียกจิตครับพาตกสู่ภวังค์ คล้อยตามชอบใจจนมอบให้
นกถึดทือเด่นทางสะกดใจ มาหาหลงในเสน่ห์ยอมให้
มีเคล็ดการฝึกแตกออกไปในแต่ละเรื่อง
แต่ถ้าในกลุ่มคนใช้อีกาดีกว่า
ถ้าคนสำคัญตัวต่อตัวค่ำๆมืดใช้นกถึดทือดี
อีกาดีที่ใช้รวมพรรคพวกในการทำธุระใดๆได้(ที่ไหนมีคนมีชุมชนใช้ดี)
นกถึดทือใช้อย่างนั้นไม่ถนัดครับเพราะคนจะหลง(คุยมากไม่ได้ต้องตะลอมให้เข้าทางเราไปเลย)
ไม่ได้ใช้นานแล้วครับต้องไปเล่นก่อนถึงค่อยมาอธิบายลึกๆ
โดยทั่วไปใช้อีกาก็คลุมทุกเรื่องได้ครับ
โดย: orisis    เวลา: 2013-6-12 22:49
ขอบคุณครับพี่ทิม
โดย: Tim    เวลา: 2013-6-18 07:35
คาถาตีเสมอกัน (ตีเสมอท่าน/ท่านตีเสมอเรา)
นะโม3จบ
พุทธังมาเรโส
ธ้มมังมาเรโส
สังฆังมาเรโส
เมฆะมาโว มานี่เอหิมะมะ

บทนี้ขอมอบให้แด่ทุกท่านที่พึ่งพาวัตถุมงคลหลวงปู่
ต้นเหตุจากคุณmajoy ที่เน้นพึ่งของเพื่อให้เจ้านายเมตตา
อย่างที่คุณmajoyบอกคือนายเมตตามากกลัวโดนใช้มาก
(โดยทั่วไปถือว่าดีครับไม่ใช่ไม่ดี) แต่ก็ทำให้ผมจำวิชานึงได้ขึ้นมา เพราะถือว่าเหมาะในกรณีนี้มาก
คาถานี้มีพุทธคุณทางเทียบเทียมเท่าท่านเจ้านาย ผู้มีอำนาจกว่าฯลฯ
คือหมายความว่าตีเสมอ กันเองๆอะไรทำนองนั้นอาจจะไม่ต้องทำงานแบกหามให้เหนื่อยกายเรานัก
ไม่ได้ถึงกับเลยศรีษะท่านแต่อย่างใด
ใครเล่นขึ้นก็อย่าพิเรณขี่คอท่านเล่นล่ะผมไม่รับรอง

โดย: sriyan3    เวลา: 2013-6-18 08:21
ขอบคุณครับ
โดย: orisis    เวลา: 2013-6-18 08:51
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย orisis เมื่อ 2013-6-18 09:26

ขอบคุณครับ พี่ทิม  ผมเคยห้อยเดี่ยว พระนาคเกี้ยว งานเข้าเยอะจริงๆ ขนาดผู้หลักผู้ใหญ่เมตตานะครับ เอิ๊กกๆ
โดย: majoy    เวลา: 2013-6-18 09:33
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-6-18 07:35
คาถาตีเสมอกัน (ตีเสมอท่าน/ท่านตีเสมอเรา)
นะโม3จบ
พุทธ ...

ขอบคุณมากครับพี่tim จะได้ไว้ใช้ร่วมกับชุดนี้เสริมกับคาถาบูชาหลัก
โดย: Tim    เวลา: 2013-6-21 12:24
orisis ตอบกลับเมื่อ 2013-6-17 17:51
ขอบคุณครับ พี่ทิม  ผมเคยห้อยเดี่ยว พระนาคเกี้ยว งานเ ...

นำไปอาราธนาตากแสงจันทร์คืนจันทร์เต็มดวงจะดีมาก
โดย: orisis    เวลา: 2013-7-1 09:34
ขอบคุณครับพี่ทิม
โดย: sriyan3    เวลา: 2013-7-3 10:24
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-6-21 12:24
นำไปอาราธนาตากแสงจันทร์คืนจันทร์เต็มดวงจะดีมาก  ...

ขอบคุณครับ
วิธีนี้ใช้ได้กับพระขุนแผนพิมพ์อื่นได้ไหมครับ รึเฉพาะนาคเกี้ยวเท่านั้น
โดย: Tim    เวลา: 2013-7-3 11:22
sriyan3 ตอบกลับเมื่อ 2013-7-2 19:24
ขอบคุณครับ
วิธีนี้ใช้ได้กับพระขุนแผนพิมพ์อื่น ...

เน้นนาคเกี้ยวครับเพราะเจอเคล็ดนี้โดยบังเอิญ แต่อย่างอื่นอาจจะได้นะ
ใครห้อยอะไรขึ้นก็ลองเอารุ่นนั้นมาทำดูโดยมีสององค์เอาอีกองค์นึงมาทำอีกองค์นึงแยก
ห้อยดูความแตกต่าง

โดย: sriyan3    เวลา: 2013-7-3 11:25
Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-7-3 11:22
เน้นนาคเกี้ยวครับเพราะเจอเคล็ดนี้โดยบังเอิญ แต่อย ...

ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ
ไว้จะไปลองดูครับ
โดย: orisis    เวลา: 2013-7-12 08:12
เข้ามารอพี่ทิมครับ..งิงิ
โดย: orisis    เวลา: 2013-7-30 21:47

โดย: orisis    เวลา: 2013-9-10 12:56
คิดถึงพี่ทิม..จัง..อิอิ
โดย: orisis    เวลา: 2013-10-30 15:20

คิดถึงพี่ทิม..จัง..อิอิ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-10-30 16:50
รอพี่ทิม
โดย: Tim    เวลา: 2013-11-1 15:21
อ่าวยังมีคนจำผมได้อ่ะทำไงดี!!!
โดย: Tim    เวลา: 2013-11-1 23:47
เดี๋ยวจะมาเล่าอะไรๆพร้อมวิชามหาละลวย ร้องเพลงไปก่อน
โดย: orisis    เวลา: 2013-11-2 10:53
ร้องเพลงรอ..อิอิ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-8 14:44
ชมตลาด มาจากความที่คนเราจะต้องเด่นสะดุดตาจากรอบด้านเพื่อไม่ให้เขามองข้ามไม่ว่ากรณีใดๆ และเป็นขุนแผนที่หลวงปู่กำหนดมาให้สร้าง มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตแนวสังคม ถ้าเก่งแต่ไม่เข้าตาเขาเราก็ไม่ได้ดี ทำแทบตายแต่เป็นหมาหัวเน่า คนอื่นแซงหน้าแล้วมาทับถมทีหลัง อันนี้คือบทเรียนที่สอนให้แตกฉานว่าเมตตามหาเสน่ห์หมวดไหนที่ลงตัวกับเหตุการณ์นี้ ว่ารวมไปถึงเพศตรงข้ามเมื่อเราอยู่ท่ามกลางสังคมที่ฉูดฉาดจนเราต้องปรับตนลำบากจนอาจไม่เข้าตาใครๆ ก็เป็นคุณสมบัติเอกของขุนแผนชมตลาด


สะกด เป็นหมวดที่แตกออกมาโดยพิศดารเป็นขุนแผนสะกดทัพ แนวนี้จริงแล้วไม่ปรากฏในหมวดมหาเสน่ห์ที่จะจำแนกในตำราใดๆโดยชัดเจนจะมีก็แค่นะจังงังที่ต้องใช้การถอดคุณหารหัสสาระที่ซ่อนเร้น ถ้าไม่ค้นคว้าจริงจะไม่สามารถเข้าใจเพราะต้องออกไปหาประสปการณ์สภาวะแยกแยะว่าใช้ยังไงและทำไมถึงเป็นเมตตา มหาเสน่ห์แนวสะกด ขุนแผนสะกดทัพยังมีแนวออกหากินอีกโดยทั่วไปหากินที่ง่ายที่สุดคือค้าขาย เจรจาเพราะเหมือนเราวางเหตุให้อานุภาพมีที่ออกผลส่วนธุระอื่นๆจะเห็นตามเหตุที่เกื้อกูลกัน เช่นเจรจาโครงการฯลฯที่ให้ผลสูงแต่เขาอาจเลือกคนอื่นที่มีดีกว่าเรา ส่วนเสน่ห์แนวนี้(นกถึดทือ) ครูบาอาจารย์หลายท่านบอกตรงกันว่าแรงถึงขนาดไม่ยอมสอนแม้จะขอมาใช้ทำมาหากิน โดยพูดตรงกันทุกท่านว่ามหาเสน่ห์มันแรง รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนมีงานมีสังคมที่อาจจะไม่มากความเป็นที่เป็นทางมีปลามาให้จับ


ขุนแผนพรายกุมาร อันนี้ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง เหตุอันเนื่องมาจากตอนนั้นนิยมภูติพรายแบบที่หลวงปู่ชื่นท่านสงสัยเพราะมีคนนำของมาให้ท่านตรวจพลังตั้งแต่แพงๆดังๆจนถึงแรงๆเต็มพลัง จนท่านพูดว่า กูทำได้ดีกว่า เพราะท่านเคยทำทำผงพรายทองคำไว้ รุ่นนี้มาแนวเห็นคุณระยะเผาขน ชัดๆไม่ให้สงสัยว่าบังเอิญ เหมาะสำหรับท่านที่อยู่ในสภาวะที่มีแต่สิ่งเกื้อกูลแต่สิ่งเหล่านั้นไม่ค่อยกระดิกมาหา


พระยอดขุนพล ยอดคุณพระเป็นพระที่คนไม่เอามหาเสน่ห์เพราะถือว่าการทรงเกิยรติทรงอำนาจทรงฐานะแบบแมนๆนั่นคือเสน่ห์ของลูกผู้ชาย และเป็นเหตุให้บำเพ็ญประโยชน์แนวกว้างๆได้ดีกว่า เป็นพระที่เอาเรื่องราวทีเดียวในอานุภาพแต่ถูกความนิยมแนวอื่นกลบทำให้คนไม่สนใจ เป็นพระเดินงานสร้างฐานะรวมถึงหนุ่มรูปงามที่รำคาญสาวๆหรือพวกที่คนไม่เคารพ คนกันเองเกินไป

Tim

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-8 14:47
ขุนแผนสะกดทัพ   เเน่นิ่งตรงหน้าจับปลาสองมือ แบกเข่งกลับบ้าน
ขุนแผนพรายกุมาร   รอบตัวหลากหลายแต่นิ่งดูดาย ใช้แล้วมิวายทุกสิ่งแสดงตน
ขุนแผนชมตลาด   โดดเด่นในตน ผู้คนชอบใจ มองข้ามมิได้ ไม่ต้องจ่ายตังค์
พระยอดขุนพล   สร้างชั้นเชิงตน ทรัพย์สินเงินตรา อำนาจมีค่านี่หนาเสน่ห์ชาย
ขุนแผนมะรุมมะตุ้ม   ทั้งสามหมู่บ้านมีน้ำบ่อเดียว  พี่กินน้องอาบซาบซ่านอุรา
                               รุมกันไม่หยุดฉุดลากกันมา  ดุจทั่วโลกามีน้ำบ่อเดียว


Tim


โดย: Metha    เวลา: 2013-11-8 18:15
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-8 14:47
ขุนแผนสะกดทัพ   เเน่นิ่งตรงหน้าจับปลาสองมือ แบกเข่งก ...


โดย: Nui_nawa    เวลา: 2013-11-8 19:07
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-8 14:47
ขุนแผนสะกดทัพ   เเน่นิ่งตรงหน้าจับปลาสองมือ แบกเข่งก ...

ขอบคุณครับ
โดย: Tim    เวลา: 2013-11-10 11:45
อั้ยย่ะ!! อ่านแล้วทำให้สงกะสัยว่าทำไมเราหมดไฟ ช่วงนี่ผ่านมาปลีกตัวทำสมาธิเล่นพลังอนัตตาครับ กลัวว่าวันข้างหน้าเจอพี่น้องแล้วจะมามัวเล่นเสน่ห์กันเฮเกินเหตุ จะได้สอนทำสมาธิกันชัดเจนหน่อย แต่ที่จะปล่อยในกระทู้นี้ยังมีอีก !!!พอดีผมนิ่งโคตรเพราะฝึกวิชาอยู่ ทุกๆครั้งที่โพสท์ในนี้สาวๆจะแห่มาซะหยั่งงั้น เบื่อครับ
(ไม่ใช่สาวๆนะแต่คนรอบๆมันอิจฉา)
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-11 09:56
รอพี่ทิมฝึกวิชาเสร็จครับ
โดย: Nui_nawa    เวลา: 2013-11-16 23:50
สงสัยเรื่องขุนแผนพรายกุมาร ที่ว่ามีสิ่งเกื้อกูลแต่ไม่กระดิกมาหา คือ  มีคนห่วง มีคนสนับสนุน แต่ไม่แสดงออก ใช่มั้ยครับ
โดยส่วนตัวชอบห้อยขุนแผนพรายกุมารเพราะสวยและรู้สึกการเจรจาเหมือนง่ายไปซะทุกอย่าง และชอบพรายกุมารเป็นการส่วนตัว
โดย: Tim    เวลา: 2013-11-17 03:52
Nui_nawa ตอบกลับเมื่อ 2013-11-16 08:50
สงสัยเรื่องขุนแผนพรายกุมาร ที่ว่ามีสิ่งเกื้อกูลแต่ ...

ครับเป็นในลักษณะนั้นคือเน้นและชักจูงใจมากขี้นให้เห็นชัด เช่นรอบๆมีดีแต่ีไม่ไหวติงก็จะมีอาการกระดิกเข้ามาหาได้ เราเองต้องมีอารมณ์และอาการด้วยจึงจะดีเพราะถ้าใจนิงวาจานิ่งคนใกล้เขาอาจจะชินคิดว่าเราชอบเงียบๆแต่ยังไงๆก็ชอบเรารอเข้าหาเราอยู่นั่นเอง
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-17 10:15
รอบข้างเราล้วนมีสิ่งหลากหลายแต่นิ่งดูดาย เราไม่สามารถทำให้มันเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ ขุนแผนพรายกุมารจะทำให้สิ่งเหล่านั้นปรากฎมีอาการออกมาอย่างชัดเจนครับ

Tim

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-11-17 10:19
"แน่นิ่งตรงหน้า จับปลาสองมือ แบกเข่งกลับบ้าน"
ความหมายคือ พุทธคุณสะกดให้เหยื่อแน่นิ่งให้เราจับง่ายๆ
โดย: Nui_nawa    เวลา: 2013-11-17 11:20
ขอบคุณครับทุกท่าน

โดย: Metha    เวลา: 2013-11-18 18:01
ประเดิมเริ่มต้นด้วย ขุนแผนชมตลาด รับรองแจ่มผุดๆๆ
โดย: orisis    เวลา: 2013-12-26 08:17
เมอรี่ คริสมาสต์ครับ พี่่ทิม
โดย: Tim    เวลา: 2013-12-26 11:46
ขอบคุณครับขอให้มีความสุขมากๆ ่หลังจากนั้นคงได้เจอกัน ทุกๆคน
โดย: Tim    เวลา: 2013-12-26 13:25
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tim เมื่อ 2013-12-26 13:22

คาถามหาละลวย(สุดฝืนใจ)
พุทโธ ภควา นะชาลีติ สุกิตติมา สุภาจาโร สุลีละวา สุธาคะโต ยัสสสิมา
วะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต
นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะ อะ กะ อัง
อรห้งพุทโธ ภะคะวาเมตตาจิต พุทธะสังมิฯ
อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม
พิศวาสหลงใหล พิศมัยยินดี ใจจิตคิดถึง เคล้าคลึงวิญญา วิชาจะระนะสัมปันโน

เวลาฝึกคาถานี้ให้หลบผู้หลบคนอย่าให้ใครเห็นแล้วฝึกภาวนาไปเรื่อยๆอาจจะสองสามวัน แล้วจึงโผล่ไปเดินที่ๆไม่มีชายใดเพ่นพ่านเพราะอาจโดนจีบง่ายๆ (ไม้ป่าเดียว)ฝึกอยู่อย่างนี้ร่ำไปจนชินแล้วจะเห็นอานุภาพแห่งเมตตามหาละลวยชั้นสูง
เมื่อฝึกอย่าโกรธเคืดแค้นใดๆทำใจให้เหมือนว่าโลกมีแต่คนน่าคบอ่อนละไมต่างมีไมตรีจิตและหัวใจที่ยิ้มได้

โดย: sritoy    เวลา: 2013-12-26 16:33
ขอบคุณครับ...
โดย: kit007    เวลา: 2013-12-27 00:19
ขอบคุณครับ..พี่ทิม
โดย: sriyan3    เวลา: 2013-12-27 09:17
ขอบคุณคร้าบ
โดย: orisis    เวลา: 2014-1-2 20:35
ขอบคุณครับ..พี่ทิม

โดย: Tim    เวลา: 2014-1-4 15:39
                                                พระเจ้า 5 พระองค์
                                                    (แผ่เมตตา)   
                      กรณียะเมตตะสุตตัง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
                                 ชัยยะนารี จักะวัตติราชา มะโนใจรัก
                                    นะ   เมตตาอโหสิติ
                                    โม   เมตตาอโหสิติ
                                    พุท  เมตตาอโหสิติ
                                     ธา  เมตตาอโหสิติ
                                     ยะ  เมตตาอโหสิติ
                                   ชัยยะนิพพานังปรมังสุขขัง
เอาไปฝึกครับเดี๋ยวจะลืมกัน เคยบอกไปแล้ว  วางจิตให้ถูกแล้วแผ่เมตตาด้วยบทนี้พร้อมศรัทธาในบารมีพระพระเจ้า 5 ห้าพระองค์ที่ทรงมหาพุทธพลานุภาพไพศาล  จะได้มีพลังในจิต




โดย: orisis    เวลา: 2014-1-4 23:35
ครับผม..ขอบคุณครับ..พี่ทิม
โดย: Nui_nawa    เวลา: 2014-1-5 23:47
ขอบคุณครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-1-6 14:00
ขอบคุณครับ
โดย: orisis    เวลา: 2014-1-25 08:53
หนาวจัง... .
โดย: Tim    เวลา: 2014-1-26 12:30
orisis ตอบกลับเมื่อ 2014-1-24 17:53
หนาวจัง... .

หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว ปีนี้อเมกาหนาวทารุณมาก พี่น้องคนไหนมีเหล็กไหลเพลิงบ้าง ผมจะเอามาเดินวิชา หนาวหูจะหลุดแล้ว
โดย: orisis    เวลา: 2014-2-17 14:49
อากาศเริ่มร้อนแล้ว

โดย: orisis    เวลา: 2014-2-23 09:20
คิดถึงพี่ทิม..อิอิ
โดย: Tim    เวลา: 2014-2-23 12:30
เพิ่่งโยกย้ายมาอยู่ที่ใหม่ครับ เป็นที่ๆผมอาจได้มีโอกาสเดินวิชาได้เต็มที่ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
พร้อมที่จะมาคอยเล่าอะไรๆอีกครั้งเมื่อว่างจากการปฎิบัติ ขอบคุณที่หมั่นศึกษาแตกใจความมหาเสน่ห์
โดย: Nui_nawa    เวลา: 2014-3-16 22:40
รอติดตามอยู่ครับ
โดย: Tim    เวลา: 2014-3-17 05:46
ขณะนั่งภาวนาบริกรรมคาถาจนเป็นสมาธินั้นได้เห็นตัวประหลาดชนิดหนึ่ง แว้ปเข้ามา!!!
พอดีตาในไม่ชัดต้องพยายามจับลักษณะ
มันเหมือนตัวซีเผี้ยะนั่นเอง แต่มีลักษณะแปลกคือปากใหญ่และแผงอกกว้างโป่ง
จิตผมไปงงที่ทำไมมีหน้าอกพองๆเหมือนกบพองคอ
มันเป็นถุงเก็บทรัพย์เหมือนลิงเก็บอาหารในกระพุ่งแก้ม..!..? พิจารณาจนพอใจก็ภาวนาต่อ
ปกติเมื่อคาถาขึ้นขนหัวจะลุกขึ้นแขนขึ้นหัว
แต่ครั้งนี้หนักอึ้ง เหมือนกระดูกหนักดันเนื้อลง ผมก็ว่าเอาแล้วไงตัวที่เพิ่งเห็นมันเข้ามาขี่แน่ๆ
ไม่มีอะไรครับมาเล่าให้ฟังว่า ปีเซี๊ยะมีพันธุ์ที่มีกระพุ้งอกเบ่อเร้อไว้เก็บของกินด้วย เฮ่อๆๆๆ
ขนมันหนามากๆยั่งกะวัวไบซั่น แปลกดีก็แชร์กันฟังครับ เดี๋ยวจะมาว่ากันต่อด้วยคาถาตรึงใจรัก
คาถาไม่ลับครับ ถอดรหัสอานุภาพก่อนแล้ววางด้วยกลวรรค
หัวใจมันไปอยู่ที่ความโดดเด่นเข้มข้นแต่ลงตัว





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2