ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 11272
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน ~

[คัดลอกลิงก์]


ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม


วัดสิริสาลวัน
ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู



๏ นามเดิม

บุญมา เป็นมงคล
        
๏ เกิด

วันพุธที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๔๕ ปีขาล แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕
         
๏ บ้านเกิด

ได้กำเนิดเกิดมาท่ามกลางป่าเขาและท้องทุ่งอันเขียวขจี
ณ บ้านก่อ หมู่ที่ ๓ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
         
๏ พี่น้อง

รวม ๘ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๒
        
๏ บิดามารดา

นายจันดา และนางเข็มมา เป็นมงคล

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 19:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๏ บรรพชา

อายุ ๑๙ ปี เมื่อวันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๔
ณ วัดหนองอีมาตรบ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
         
๏ อุปสมบท

อายุครบอุปสมบท เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๕
ณ พัทธสีมาวัดสร่างโศก (วัดศรีธรรมาราม) อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี
(ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร ในปัจจุบัน)


พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)


หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 19:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๏ เรื่องราวในชีวิต

หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ท่านเป็นพระหลานชายของพระอาจารย์บุญ ครั้งยังอยู่ในเพศฆราวาสท่านได้ช่วยเหลือรับใช้ช่วยบิดามารดาประกอบการงานโดยตลอด อยู่จนกระทั่งอายุได้ ๑๙ ปีเต็ม ท่านจึงได้สละการงานทางบ้านหมด เข้าบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งปีนั้นตรงกับปี พ.ศ.๒๔๖๔ ณ วัดหนองอีมาตรบ้านก่อ จ.อุบลราชธานี

ขณะเป็นสามเณรท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งปฏิบัติภาวนา รักษาจิตใจท่านไปด้วย การปฏิบัติภาวนานี้ ท่านได้เคยกระทำมาแล้วตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส ท่านเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งมี ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาโปรดญาติพี่น้องอยู่เป็นประจำๆ ท่านจึงอาศัยหลัก พุท-โธ นั้น เป็นเครื่องดำเนินมาโดยตลอด พร้อมทั้งความสันโดษ รักสงบมุ่งภาวนามาแต่บัดนั้น

เมื่อบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็ได้รับความเมตตาจาก พระอาจารย์บุญ ปัญญาวุโธ โดยพระอาจารย์บุญเป็นพระกรรมฐานที่รับการอบรมธรรมมาจากท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่บุญมายังเป็นพระภิกษุหนุ่ม ท่านได้รับอุบายธรรมตลอดการเดินธุดงค์ท่องเที่ยวหาวิเวกธรรมไปอยู่ป่าพงดงลึก ถวายตัวเป็นศิษย์อยู่ปฏิบัติพระอาจารย์บุญ จนกระทั่งพระอาจารย์บุญได้มรณภาพ นอกจากนี้แล้วท่านยังได้มาฝึกอบรมธรรมปฏิบัติ และพระวินัยธรรมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ติดตามเดินธุดงค์ไปในถิ่นต่างๆ อีก ๓ พรรษา ได้รับคุณวิเศษในธรรมะอย่างมากมาย เพิ่มพูนสติปัญญา ศีลาจริยาวัตรในเพศสมณะอีก เป็นพระอาจารย์องค์ที่ ๒ ของหลวงปู่ท่าน

ระยะหลังๆ ท่านได้มีโอกาสเข้าไปมอบกายถวายตัวเป็นศิษย์ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกทั้งได้รับฟังพระธรรมเทศนาที่สุขุมล้ำลึก ติดตามออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาสัจธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร และได้ใกล้ชิดกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นานถึง ๖ พรรษา นับได้ว่าท่านเป็นศิษย์อาวุโสของหลวงปู่มั่นองค์หนึ่ง โดยท่านมีพรรษามากกว่าหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ๑ พรรษา และมากกว่าหลวงปู่ขาว อนาลโย-หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ๓ พรรษา

ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ถือพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศไว้อย่างเคร่งครัด ถือปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา อันประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ๓ ประการนี้ จากครูบาอาจารย์อย่างมั่นคง ออกเดินธุดงค์เดี่ยวอยู่ป่าดงอย่างคนอนาถา นอนกลางดินกินกลางทรายจริงๆ แม้ถ้าได้พบกับสภาพของท่านในคราวเดินธุดงค์ ก็เป็นอาการภายนอกซึ่งไม่น่าดูไม่น่าชมอันใด แต่อาการภายในของจิตนี่ซี ท่านเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ควรแก่การกราบไหว้สักการบูชาองค์หนึ่งในยุคนี้

ท่านเป็นพระผู้เจียมตนอยู่เสมอ ท่านเป็นพระพูดน้อย แต่เวลาแสดงธรรมแล้วหลวงปู่จะแสดงเหตุผลได้อย่างน่าอัศจรรย์ แสดงชนิดขุดถอนกิเลสกันเลยทีเดียว เพราะจิตใจมนุษย์นี้มันไหลลงไปสู่ที่ต่ำอยู่เสมอ (ความชั่วร้าย) ปฏิปทาอันบริสุทธิ์งดงามประกอบด้วยคุณธรรมสูงองค์หนึ่ง เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไปว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่เคร่งครัดเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่พูดน้อย สุภาพอ่อนโยน รักสันโดษ เป็นที่เคารพของครูบาอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติหลายองค์ในปัจจุบัน

หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ท่านเคยมีประสบการณ์เดินธุดงคกรรมฐานอยู่มาก โดยเราจะเห็นได้ว่าครั้งที่หลวงปู่บุญมาเคยได้อยู่อุปัฎฐากรับใช้ใกล้ชิดกับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นเวลายาวนานถึง ๖ พรรษา ซึ่งรวมชีวิตแห่งการออกปฏิบัติธรรมเที่ยวแสวงหาวิโมกข์นั้น เป็นเวลา ๔๕ พรรษาเต็มพอดี

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 19:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

แถวหน้า จากซ้าย : หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล)
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ  

แถวหลัง จากซ้าย : หลวงปู่มหาทองสุก สุจิตฺโต (พระครูอุดมธรรมคุณ),
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงปู่รักษ์ เรวโต), พระครูศรีภูมานุรักษ์ (คำมี สุวัณณสิริ),
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ, หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ


5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 19:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

พระคณาจารย์ ๕ รูปที่มรณภาพพร้อมกันด้วยเหตุเครื่องบินตก


๏ การมรณภาพ

เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ เดือนเมษายน หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ได้รับอาราธนาจากทางสำนักพระราชวัง กรุงเทพฯ พร้อมด้วยพระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต อื่นๆ อีกจำนวน ๔ รูป คือ หลวงพ่อวัน อุตฺตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม พระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานทั้งหมดท่านจึงได้ไปรวมกันที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวบิน TG ๒๓๑ อุดรธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเครื่องบิน ๒ ใบพัด รุ่น HS-๗๔๘ รหัส HS-THB บินออกจากท่าอากาศยานอุดรธานี จะไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพราะลูกศิษย์ลูกหาต้องการถวายความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓   

ครั้นเมื่อเครื่องบินมาถึงท้องนาทุ่งรังสิต เขตหมู่ที่ ๔ ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เหลือระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตรเศษ เครื่องบินได้ตั้งลำและลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงสู่สนาม แต่เนื่องจากเครื่องบินได้ประสบพายุหมุน ประกอบกับมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก มีลมกระโชกแรง เกินที่นักบินจะควบคุมเครื่องให้ลงจอดได้อย่างปลอดภัย สุดท้ายจึงเสียการควบคุมตกลงมากระแทกกับพื้นดินบนท้องนาทุ่งรังสิต ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องจำนวน ๕๓ คน เสียชีวิต ๔๐ คน อุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนั้นเป็นเหตุทำให้ พระคณาจารย์ทั้ง ๕ รูป ได้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกัน เมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ นาฬิกา


หลวงพ่อวัน-พระอาจารย์จวน-พระอาจารย์สุพัฒน์




ซากเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุ  

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 20:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ผู้โดยสารที่รอดชีวิตเป็นผู้ที่นั่งทางส่วนหางของเครื่องบิน เพราะส่วนหางของเครื่องบินยังอยู่ในสภาพดี เมื่อหลวงปู่บุญมาและคณะได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว มีการนำศพไปตกแต่งบาดแผลที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แล้วนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้ง ๗ วัน วันแรกพระราชทานหีบทองทึบ วันต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ รับสั่งให้เปลี่ยนใหม่เพราะทรงเห็นว่าไม่สวยงาม จึงได้เปลี่ยนเป็นหีบลายทอง

หลังจาก ๗ วันแล้ว ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๓ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ทรงเป็นเจ้าภาพ และในวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๓ คณะรัฐบาลซึ่งมีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ของพระคณาจารย์ที่มรณภาพดังกล่าวซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพ นับว่าเป็นเกียรติประวัติแก่ หลวงปู่บุญมาและคณะที่จากไปอย่างยิ่งยวด ยังความปลื้มปิติยินดีแก่ญาติพี่น้อง เพื่อนสหธรรมิก คณะศิษยานุศิษย์ และผู้ที่เคารพนับถือของหลวงปู่บุญมาและคณะอย่างหาที่สุดมิได้


ศพพระคณาจารย์ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ  


สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธฯ
ทรงเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ



สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เสด็จร่วมบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 20:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ
เสด็จร่วมบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ  



รถพยาบาลหลายคันจากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เชิญศพพระคณาจารย์ต่างๆ
เดินทางจากวัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน ไปถึงวัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี
บรรดาพระภิกษุ สามเณร และประชาชนไปคอยเคารพศพอยู่อย่างคับคั่ง  



เมื่อครบกำหนดการบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายที่วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน แล้วก็ได้อัญเชิญศพหลวงปู่บุญมาและพระคณาจารย์อื่นๆ อีกจำนวน ๔ รูป กลับไปสู่ยังวัดเดิมของแต่ละท่าน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หัวหน้าแผนกพระราชพิธีเป็นผู้ดูแลโดยตลอด

สำหรับรถยนต์ที่เชิญศพพระคณาจารย์ต่างๆ คุณหมอปัญญา ส่งสัมพันธ์ แห่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา เป็นผู้จัดหา และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลต่างๆ เป็นอย่างดียิ่ง

ต่อมาเมื่อวันพุธที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๒๓ เวลา ๐๔.๐๐ นาฬิกา ขบวนรถเชิญศพได้เคลื่อนออกจากวัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน โดยมีรถตำรวจทางหลวงนำขบวน ถัดมาเป็นรถหลวง, รถพระอาจารย์สมชาย ฐิติวิริโย และรถเชิญศพหลวงปู่บุญมาและคณะ ตามลำดับ เมื่อเวลาประมาณ ๐๗.๐๐ นาฬิกาเศษ ขบวนรถเชิญศพได้มาถึงยังจังหวัดนครราชสีมา มีคณะพระภิกษุ-สามเณรโดยการนำของ พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระชินวงศาจารย์ และ พระเทพสุทธาจารย์ (หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูคุณสารสัมปัน พร้อมด้วยคณะอุบาสก-อุบาสิกา ได้นำข้าวห่อมาต้อนรับคณะเชิญศพและมาเคารพศพกันเป็นจำนวนมาก

หลังจากพระฉันอาหารและเจ้าหน้าที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ขบวนรถเชิญศพได้ออกเดินทางต่อไปถึงวัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเวลา ๑๒.๓๐ นาฬิกา ทางวัดโพธิสมภรณ์และชาวอุดรธานีได้จัดต้อนรับเป็นอย่างดี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้นำประชาชนหลายจังหวัดมารอเคารพศพ ซึ่งแล้วเสร็จเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ นาฬิกาเศษ รถเชิญศพจึงได้แยกย้ายกันไปยังวัดต่างๆ สำหรับศพหลวงปู่บุญมาก็ได้ไปถึงวัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู นับว่าการเชิญศพถึงวัดได้รับความสะดวกสบายปลอดภัยทุกประการ

หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ได้มรณภาพเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ นาฬิกา สิริรวมอายุได้ ๗๘ ปี พรรษา ๕๘ โดยท่านได้มรณภาพลงพร้อมกันกับพระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต อื่นๆ อีกจำนวน ๔ รูป
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-7 20:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๏ ธรรมโอวาท
                  
“...รูป รส กลิ่น เสียง เหล่านี้ เราทั้งหลายจงพยายามมองดูให้ลึกซึ้งเข้าไปในต้นเหตุของมัน เพราะสิ่งเหล่านี้แม้ไม่มีรูปร่างหน้าตาแล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปหลงนะ ทำไมไม่ทำความรู้สึกเหมือนกับเราหายใจเอาลมเข้าไปบ้างล่ะ ลมมันไม่มั่นหมายอะไรเลยนะ มันพัดไปมาของมันเท่านั้น ไม่มีกลิ่น ไม่มีรูป ไม่มีน้ำหนัก บางทีเรายุ่งๆ ลืมเสียด้วยซ้ำไปว่าเราได้หายใจเอาลมเข้าไป ลมนี่ก็เหมือนกัน ถ้ามันทรยศกับเรา มันเข้าแล้วไม่ยอมออก มันออกแล้วไม่ยอมเข้าจะลำบากนะ นี้แหละพระพุทธเจ้าของเราท่านจึงสอนว่า ควรกำหนดรู้ รู้กับอารมณ์ต่างๆ นั้น ไม่ว่าอะไรมากระทบ เราควรกำหนดรู้ให้ชัด ให้มีสติ ให้มีสัมปชัญญะซี เกิดมามีจิตใจย่อมปฏิบัติได้เสมอภาคทุกคน อย่าไปติดสิ่งภายนอกเพียงอย่างเดียว จิตก็จะก้าวหน้าได้แน่นอน...”

“...เราอย่าไปนึกคิดว่า บวชเข้ามาแล้วจะได้บุญกุศลคุณงามความดี จะได้บรรลุคุณธรรมคือ ศีล สมาธิ ปัญญา มรรค ผล นิพพาน ฌาน วิโมกข์ เลยทีเดียว โดยไม่ได้ทำอะไร ถ้าอย่างนั้นก็คงได้บรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันต์ บรรลุนิพพานกันหมด...”

“...บิดามารดาเป็นบูรพาจารย์ของกุลบุตรธิดา เมื่อเราจะพรรณนาคุณของมารดาบิดา ก็ไม่สิ่งใดที่จะเอามาเปรียบเทียบได้ เด็กหญิง เด็กชาย ในโลกชมพูทวีปนี้ จะมาสู้คุณงามความดีของมารดาคุณ บิดาคุณ ไม่ได้เลย...”

“...ทางความบริสุทธิ์สิ้นพบสิ้นชาติ ข้ามโอฆะของสัตว์ทั้งหลาย สติปัฏฐานทางเดียวเท่านั้น ท่านผู้ข้ามแล้วในอดีต หรือท่านผู้จักข้ามในอนาคต หรือท่านผู้ข้ามอยู่ในปัจจุบัน บัดนี้ ท่านก็ข้ามโอฆะด้วยสติปัฏฐานทางเดียวนี้เอง ดังนี้...”


หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู  
กำลังทักทายกับ หลวงปู่ขาว อนาลโย ด้วยความยิ้มแย้ม




.............................................................

♥ รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก ::
(๑) http://www.santidham.com
(๒) หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ
พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม)
วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔  
http://www.dharma-gateway.com
♥ ขอกราบขอบพระคุณที่มาของรูปภาพทุกแหล่ง                                                                                        
.....................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=25700


ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้