ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2423
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ผานกู่

[คัดลอกลิงก์]


เมื่อแรกเริ่มไม่มีสิ่งใดในจักรวาลเลยนอกจากความสับสนวุ่นวาย ต่อมาความวุ่นวายนั้นรวมตัวกันเข้าเป็นไข่จักรวาลใบหนึ่งเป็นเวลา 18,000 ปี ภายในนั้นคือหยินและหยางที่สมบูรณ์แบบและสมดุล ผานกู่ถือกำเนิดในไข่ใบนั้น คำพรรณนาถึงผานกู่มักว่าเป็นยักษ์มีขนดก มีเขาอยู่บนศีรษะ ร่างคลุมไปด้วยขน ผานกู่เริ่มต้นสร้างโลกโดยแยกหยินและหยางออกโดยการจามด้วยขวานยักษ์ของเขา หยินกลายเป็นโลก และหยางกลายเป็นท้องฟ้า เพื่อให้ทั้งสองแยกกันตลอดไป ผานกู่จึงยืนขวางระหว่างทั้งสองส่วนไว้แล้วดันท้องฟ้าขึ้นไป ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 18,000 ปี แต่ละวันท้องฟ้าสูงขึ้น 10 เชียะ (3 เมตร) และโลกก็กว้างขึ้น 10 เชียะ ผานกู่ก็สูงขึ้น 10 เชียะ เรื่องเล่าบางแห่งบอกว่าในระหว่างการสร้างโลกนี้มีสัตว์ใหญ่ 4 ชนิดมาช่วย คือ เต่า, กิเลน, หงส์ และมังกร
หลังผ่านไป 18,000 ปี ผานกู่เหน็ดเหนื่อยมาก จึงล้มลงขาดใจตาย ลมหายใจกลายเป็นสายลม เสียงกลายเป็นสายฟ้า ตาซ้ายเป็นดวงอาทิตย์ ตาขวาเป็นดวงจันทร์ ร่างกายกลายเป็นเทือกเขาและที่ราบสูงส่วนใหญ่ของโลก เลือดกลายเป็นแม่น้ำ กล้ามเนื้อเป็นผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ หนวดเคราเป็นดวงดาวและทางช้างเผือก ขนเป็นพุ่มไม้และป่าไม้ กระดูกเป็นแร่ธาตุมีค่า ไขกระดูกเป็นเพชร เหงื่อกลายเป็นฝน และเหลือบไรบนขนตามร่างกายกายไปเป็นปลาและสัตว์ต่าง ๆ บนแผ่นดิน ทุกสิ่งของผานกู่ได้กลายเป็นสิ่งต่าง ๆ บนโลกหมด จากนั้น เมื่อผ่านไปเนิ่นนาน เทพธิดาหนี่ว์วา แห่งดวงจันทร์ได้ลงเยี่ยมชมโลก นางได้เอาดินโคลนมาปั้นเป็นรูปมนุษย์ มนุษย์เหล่านี้ฉลาดหลักแหลมเพราะถูกประดิษฐ์ขึ้นทีละคน แต่ต่อมาหนี่ว์วาเหน็ดเหนื่อยในการสร้างทีละคน นางจึงเอาเชือกมาจุ่มน้ำโคลนและสะบัดออกไป โคลนเหล่านี้กลายเป็นมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ฉลาดเหมือนกลุ่มแรก [1]
นักเขียนคนแรกที่บันทึกปกรณัมผานกู่คือ สวีเจิ่ง (徐整) ในระหว่างยุคสามก๊ก
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%88

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-10-18 16:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องราวตำนานของผานกู่เบิกฟ้าแยกดิน  
มีเล่าขานว่า ในสมัยบุพกาล ฟ้ากับดินไม่ได้แยกออกจากกัน ทั่วทั้งจักรวาลเหมือนไข่ใบใหญ่ ข้างในเป็นมีแต่ความขุ่มมัวและมืดนิด ไม่มีการแบ่งสูงต่ำ ซ้ายขวา  ตะวันออกกับตะวันตกหรือเหนือกับใต้ แต่ในไข่ใบนี้มีวีระบุรุษที่ยิ่งใหญ่ คือผานกู่ ผู้เบิกฟ้าแยกดิน  ผานกู่อาศัยอยู่ในไข่ใบนี้เป็นเวลา18000 ปี จึงตื่นขึ้น เมื่อเขาลืมตาขึ้น เห็นแต่ความมืดมัว และรู้สึกร้อนจนทนไม่ไหว หายใจไม่ค่อยออก เขาอยากจะยืนขึ้น แต่เปลือกไข่แข็งได้ล้อมตัวเขาจนไม่สามารถยืดเท้ายืดมือแม้นิดหนึ่ง ผานกู่โกรธมาก จึงเอาขวานที่ติดตัวมาจามไปยังเปลือกไข่ ได้ยินเสียงกึกก้อง เปลือกไข่แตกออกทันที สิ่งข้างในที่เป็นของเบาก็ค่อยๆลอยตัวขึ้นกลายเป็นท้องฟ้า และสิ่งที่มีความหนักจึงค่อยๆจมลงและกลายเป็นแผ่นดิน
หลังจากผานกู่เบิกฟ้าแยกดินแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็กลัวว่า ฟ้ากับดินจะกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง จึงใช้ศีรษะทูนท้องฟ้า และใช้เท้าเหยียมไว้บนแผ่นดิน แสดงอิทธิฤทธิ์ และมีการเปลี่ยนแปลง 9 ครั้งต่อวัน  เขาจะเติบโตสูงขึ้นหนึ่งจ้าง(3.33 ม)ทุกวัน  ท้องฟ้าก็จะสูงขึ้นหนึ่งจ้าง แผ่นดินจะหนาขึ้นหนึ่งจ้างพร้อมๆกัน เป็นเช่นนี้ ถึงหนึ่งหมื่นแปดพันปี ผานกู่กลายเป็นคนยักษ์ที่ยันฟ้ายันดิน ร่างกายของเขามีความสูงถึง 9 หมื่นลี้ เมื่อเวลาผ่านไปนานอีกไม่รู้กี่หมื่นปี ฟ้ากับดินต่างอยู่ในสภาพถาวรแล้ว และไม่อาจจะเชื่อมต่อกันอีกแล้ว ผานกู่จึงรู้สึกวางใจ แต่วีรบุรุษที่เปิดฟ้าแยกแผ่นดินคนนี้ก็รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่อาจยืนด้ำต่อไปได้ ร่างกายที่ใหญ่โตของเขาจึงล้มลง
ก่อนผานกู่จะตาย ร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ตาซ้ายของเขากลายเป็นดวงอาทิตย์ที่แดงสด ตาขวากลายเป็นดวงจันทร์ที่มีสีน้ำเงิน  การหายใจออกเยือกสุดท้ายกลายเป็นลมและเมฆ สุ่มเสียงสุดท้ายกลายเป็นฟ้าร้อง เส้นผมและหนวดเคราของผานกู่กลายเป็นดองดาวในท้องฟ้า ศรีษะกับมือและเท้ากลายเป็นดินแดนและภูเขาที่อยู่รอบข้าง สายเลือดกลายเป็นแม่น้ำ ทะเลและทะเลสาบ เส้นชีพจรกลายเป็นทางถนน  กล้ามเนื้อกลายเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์  ผิวหนังและเส้นชนกลายเป็นต้นไม้ใบหญ้า ฟันและกระโหลกกลายเป็นแร่ธาตุเงินทองและเพชรพลอย  เหงื่อของเขากลายเป็นเม็ดตกและน้ำค้าง และตั้งแต่นั้นมาจึงมีโลกเกิดขึ้น

http://www.phuketvegetarian.com/borad/data/9/0008-1.html
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้