>> สีผึ้งสาริกาจำปาลิ้นทอง <<

Nujeab

มีเพียงน้อยนิด

majoy

Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2016-11-15 12:54
มีเพียงน้อยนิด

งั้นเอามาให้จอย จอยจะได้มีเพิ่ม มีนิดเดียวอย่าเก็บเลย

Nujeab

majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-11-18 08:12
งั้นเอามาให้จอย จอยจะได้มีเพิ่ม มีนิดเดียวอย่าเก็บเลย

ไม่ได้ๆ ผมต้องหาจากพี่มาเพิ่มจิ มะมะ

majoy

มีเหลือแค่ครึ่งตลับ มีใครจะปล่อยมะครับ

Nujeab

majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-12-20 21:58
มีเหลือแค่ครึ่งตลับ มีใครจะปล่อยมะครับ

ผมก็เหลือครึ่งตลับ ถ้าพี่อาร์ทให้ผมก็จะได้เต็มตลับพอดี

Nujeab

majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-12-22 06:37

มาม่ะ มาจอยกัน จอยกัน

majoy

น้ำตาปลาพยูน ท่านว่าเข้มขลังด้วยแรงเสน่ห์
อาจารย์ท่านให้เอามาผสมด้วย หายากมากๆ

และได้ข่าวว่า มีท่านผู้นึง พออาจารย์เผลอแป๊ป เทรวดเดียวหมดขวดจิ๋วเลย แถมระหว่างเท ปากยังถามว่าใส่ไหม แต่แอบใส่เสียไม่เหลือ เล่นเอาอาจารย์อึ้ง เพราะเขาใส่กันแค่ไม่กี่หยด นี่เททีเดียว เกลี้ยง 555

มิน่าหล่ะ จอยชอบสีผึ้งรุ่นนี้มาก ดี๊ดี กิกิกิ

kittiphob

ยืนยันเรื่องน้ำตาปลาพยูน เป็นสุดยอดแห่งเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ และก็สุดยอดแห่งความหายากด้วย ปกติอาจารย์โบราณที่ทำพิธีหุงสีผึ้งจะใช้แค่น้ำตาปลาพยูนแบบซับติดผ้าคือนิดเดียวจริง ๆ ใครมีสีผึ้งรุ่นนี้ขอให้รักษาไว้ให้ดีเถอะ คงจะหาน้ำตาปลาพยูนไม่ได้อีกแล้วละ ผมเองก็ไม่มีถามใครก็เงียบหมด คงไม่มีโอกาสจะได้แน่

majoy

kittiphob ตอบกลับเมื่อ 2016-12-26 09:51
ยืนยันเรื่องน้ำตาปลาพยูน เป็นสุดยอดแห่งเรื่องเมตตา ...

น้ำตาปลาพยูนนี่ ได้ยินว่าศิษย์ท่านนั้น เทซะเกลี้ยงลงในขันสำริดใบเล็กๆ  ที่ใช้หุงสีผึ้งนี้ เขาว่า ทำให้เหมือนใช้เอง(แล้วเขาก็ใช้อย่างหวงแหนจริงๆ 555)

รุ่นนี้หายากมากครับ เก็บไม่แบ่งเลย

Sornpraram

หากคุณเชื่อเรื่องกรรม ผลในปัจจุบันมาแต่เหตุในอดีต.  วัตถุต้นเรื่องของผมคือสีผึ้งที่ได้รับมอบมาจากวันปีใหม่ โดยส่วนตัวรู้ว่าสีผึ้งชนิดนี้แรง แต่ไม่เคยคิดจะนำไปใช้ในทางชู้สาวเลยเพราะปริมาณที่มีน้อยมาก.อีกทั้งไม่มีเหตุจะต้องนำไปใช้เลย ได้มาก็บูชาติดตัวเพียงอย่างเดียว.  แม้นเราไม่มีเจตนาไปในทางนั้น แต่เพราะพลาดพลั้งเผลอเลอ ผลที่ตามมาเกินความคาดหมาย.  

        ผมเองมีเพื่อนสมัยเรียนอยู่คนนึงเป็นเจ้าของกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ในจังหวัดระยอง ชื่อ ต.  และเค้ามีภรรยาชื่อ ม ผมเองสนิทสนมกับคนทั้งคู่ด้วยเคยเรียนกินเที่ยวมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนกับ ต.  ส่วน. ม. ภรรยาเค้าก็เป็นคนดีมีจิตใจฝักใฝ่ในบุญกุศล จึงคุยกันถูกคอ และผมเองก็คุ้นเคยกับเค้ามานานเป็นสิบปี รู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี. เนื่องจาก  ม  เป็นคนจิตอ่อน และมีความชอบเรื่องลี้ลับไสยศาสตร์.การดูหมอเป็นทุน. ผมเองก็มีสะสมอยู่จึง แนะนำและแบ่งปันกันอยู่เสมอ. เรื่องไม่น่าเป็นเรื่องเกิดขึ้นในวันที่ผมไปพักที่บ้านเค้าทั้งสอง และจะมาช่วยเค้าทำงานที่โรงงาน  ซึ่งเราก็สนทนากันเรื่องของวัตถุมงคลเหล่านี้เป็นปกติ

         จนผมเล่าและหยิบสีผึ้งมาอวดเพื่อนพร้อมสาธยายสรรพคุณ. พร้อมเปิดตลับ และดมกลิ่นหอมของสีผึ้งให้เค้าดู. ว่าหอมมากนะ และยื่นให้เค้าทั้งคู่ดู พร้อมกับดมตาม  ผมเองไม่ได้คิดเลยว่าการดมกลิ่นหอม แม้ไม่ได้สัมผัสก็เป็นทำให้คนมีอาการได้เช่นกัน จบจากการสนทนาผมเองก็ไม่คิดเลยว่าได้ทำให้เพื่อนผมรับผลอานุภาพของสีผึ้งไปแล้ว  เพราะไม่คิดและไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆเลยครับ   หลังจากนั้นมาไม่กี่วันเพื่อนผมเล่าว่าเค้ามีอาการนอนไม่หลับ คล้ายๆถูกของใส่. ย้อนไปนิดนึงว่าเพื่อนผม ม. คนนี้เค้าเล่าว่าเค้าเคยถูกของใส่ประเภทพรายมาก่อนเค้าเลยรู้ดีว่าอาการเค้าไม่ปกติ. ตอนแรกผมฟัง  ผมไม่เชื่อและบอกว่า. เค้าไม่ได้สัมผัสถูกเลยนิไม่น่าใช่มั้ง แต่เค้าว่าดมไปเต็มๆเลย.  ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากก็เคยให้คนอื่นดู และดมในลักษณะเดียวกัน. ก็ไม่มีใครมีอาการดังเพื่อนผมคนนี้เลย   จนเหตุการผ่านมาหลายวัน  ผมเองก็ยังนิ่งนอนใจ แต่เริ่มรู้สึกได้ว่าเพื่อนผมพยายามพูดคุย และอยู่ใกล้กันมากขึ้น  จนตัวผมเองรู้สึกว่าไม่ดีแน่ๆ  เพราะอาจทำให้ครอบครัวเพื่อนผมทะเลาะเบาะแว้งได้  อันมีสาเหตุมาจากผม  ผมจึงตัดสินใจกลับบ้าน และ ปฏิเสธที่จะมาทำงานให้เพื่อนที่โรงงาน   ดีอย่างนะที่เพื่อนผมมีสติรู้เท่าทัน   และกล้าเล่าให้เราฟัง ว่าเค้ารู้สึกผิดปกติ  อย่างเช่นมีจิตคิดนึกเห็นหน้าเราตลอด  อยากคุยด้วย  ผมเองเมื่อรับทราบข้อมูลเหล่านี้ยิ่งไม่สบายใจมากๆ พยายามไปแก้ไปล้าง หาอาจารย์ที่เพื่อนผมเค้านับถือ คือการล้างด้วยคลื่นเสียง crystal singing bowls ไปทำมาช่วงแรกเค้าก็ดีขึ้น แต่ไปๆมาๆก็ไม่หายขาด   หนักข้อขนาดว่าวันที่เราลากลับ เค้าโทรศัพท์มาร้องไห้จนผมตกใจ และบอกให้เค้ามีสติ ค่อยๆแก้ไขไป  จนวันนี้ได้มาปรึกษาอาจารย์ที่สำนัก  ผมและเพื่อนมาหาอาจารย์ถามข้อข้องใจหลายๆเรื่องและให้อาจารย์อาบน้ำมนต์ให้   

             เช่นการดมสีผึ้งหลายคนทำไมไม่ได้มีอาการเป็นเช่นเพื่อนผม ท่านว่าคนเรามีกรรมร่วมกันมาต่างกัน คนบางคนไม่ได้มีกรรมร่วมกันผลที่ได้จึงต่างกันออกไป     
             ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์ฟังท่านก็แนะนำว่า สมัยเรียนกับหลวงปู่เคยถามหลวงปู่ว่า หากว่าคนที่โดนของหลวงปู่ไปจะแก้ได้อย่างไร อันนี้เป็รทริกนะครับจำเอาไปใช้ได้  ท่านว่าให้เอาชายเสื่อที่เราสวมใส่อยู่ฟาดไปที่หัวของคนที่โดนสามครั้ง ให้ตั้งจิตคิดถึงหลวงปู่ให้ถอนออกให้หมด  ซึ่งผมก็ทดลองทำเช่นกัน   ท่านอาจารย์ว่าดีแล้วทีผมตัดสินใจออกมาห่างๆ จะได้ไม่เกิดปัญหา เพราะถึงเราบริสุทธิ์ใจ แต่หากต้องไปร่วมงานก็หนีไม่พ้นต้องอยู่ใกล้ๆกันอีก   และเราไม่สามารถห้ามความคิดของคนอื่นที่จะคิดกับเราได้   ผมจึงรับคำครูบาอาจารย์มาน้อมปฏิบัติ  เพื่อให้ผ่านพ้นวิบากกรรมนี้ไปได้ครับ  

      ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเล่ามาเพื่อเตือนสติและเป็นกรณีศึกษา   พี่น้องทุกท่านครับ อย่าประมาทอย่าคิดว่าแค่เล็กน้อย จงเป็นดั่งนศิษย์มีครูู มีสติระลึกถึงความดี ศีล หิริโอตัปปะ  ผมยังโชคดีที่รู้เท่าทันเหตุการณ์ และมีที่ปรึกษาให้คำแนะนำอย่างอาจารย์  ล้มเซไปก็ยังมีหลักให้เกาะ  เจอปัญหาเล็กบ้างใหญ่บ้างก็ไม่เขวงขว้าง      กราบขอบคุณอาจารย์กับพี่จ้ออีกครั้ง ครับ   

ที่มาบทความ

wind

http://www.baanjompra.com/webboard/thread-4967-11-1.html