Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ศิลปะแห่งความเป็นมนุษย์ [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:28
ชื่อกระทู้: ศิลปะแห่งความเป็นมนุษย์
ศิลปะแห่งความเป็นมนุษย์
โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)

ศิลปะแห่งความเป็นผู้นำ

คนที่มีความเจริญก้าวหย้าในชีวิตนั้น ล้วนเป็นคนที่รู้จักเอาชนะตนเอง ข่มใจตนเองไว้ได้ทั้งสิน คนเราจะเป็นอะไรได้สำเร็จย่อมอยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่เป็นเพราะใครมาทำให้เราเป็น หรือเพราะอะไรมาดลบันดาลให้เราเป็น ถ้าเราปรารถนาจะเป็นใหญ่ จงตั้งต้นจากจุดน้อยไปก่อน ถ้าท่านต้องการสร้างตึกจงนึกถึงรากตึกเสียก่อน ถ้าตึกมีความสูงเท่าไร รากมันก็ต้องลึกไปเช่นกัน การสร้างตนก็เป็นเช่นนั้น รากของความยิ่งใหญ่อยู่ที่การอ่อนน้อมถ่อมตน ความเชื่อฟัง และความมีวินัยนี่เอง

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:30
ศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต


ชีวิตเรามันต้องขึ้นอยู่กับธรรมะ ธรรมะต้องเป็นสิ่งหล่อเลี้ยง

และควบคุมจิตใจตลอดเวลาซึ่งก็เหมือนกับว่ามีเกราะเพชร 7 ชั้น

ป้องกันภัยอันตราย ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง ก็ไม่เกิดขึ้นในชีวิต

ของเรา สภาพของในนั้นเหมือนกระดาษซับ สามารถจะซับน้ำหมึกดำก็ได้

สามารถจะซับน้ำหมึกแดงก็ได้ เมื่อซับเข้ามันก็อยู่ในกระดาษนั้นตลอดเวลา

ฉันใด ใจคนก็เหมือนกันฉันนั้น รับทั้งส่วนดี ทั้งส่วนชั่ว เอามาไว้ในใจตัว

บุคคลใดที่รับเรื่องดีมาก จิตใจก็เป็นสุข ถ้ารับเรื่องชั่วมาก

จิตใจก็เป็นทุกข์ หาความสุขความเจริญไม่ได้

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:31
ศิลปะแห่งการครองใจคน

คนอ่อนแอสามารถเข้าถึงคนได้ทุกเหล่า และนำคนแข็งกระด้างมาใช้ได้ แต่...คนแข็งกระด้าง ไม่สามารถนำคนอ่อนโยนมาใช้ได้ มนุษย์เราต้องทำหน้าที่แผ่เมตตาให้คนอื่นมีสุข เพราะตัวเราก็ยังต้องการอย่างนั้น จึงควรทำในสิ่งที่เราปรารถนาให้ต่อผู้อื่นบ้าง ถ้าเรารักและปรารถนาดีต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ เขาก็จะรักและปรารถนาดีต่อเรา และไม่เกลียดเรา แต่ถ้าเราแสดงความเกลียดต่อเขา ผลก็คือ...เขาจะเกลียดตอบเรานั่นเอง
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:32
ศิลปะแห่งการงาน

"งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขในขณะทำงาน" "ตื่นตัว ว่องไว ก้าวหน้า ทำงานแข่งกับเวลา พัฒนาตนเองและสังคม" นิสัยอันไม่ดีของพวกเราอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นคนเลือกงาน ตีราคาของตัวเองสูงเกินไป จนไม่มีงานที่เหมาะสมทำเลย...อย่างนี้ไม่ดี จงนึกเสียใหม่ว่า... ไม่มีใครกระโดดขึ้นตึกได้โดยไม่มีบันได ทุกคนจะต้องเดินขึ้นำไปทีละขั้น จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:32
ศิลปะแห่งการคบมิตร

เวลาใดเราขาดความไว้วางใจต่อเพื่อน เรามีอะไรซ่อนอยู่ในใจ เกี่ยวกับความประพฤติ ความเห็นของเพื่อน และเรารู้สึกไม่ชอบใจ เก็บความไม่ชอบใจเอาไว้ มันจะประทุษร้ายใจตนเอง และอาจจะประทุษร้ายต่อเพื่อนด้วย แสดงว่าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน เราควรเปิดเผยต่อเพื่อนของเรา แสดงความรู้สึกต่อเพื่อนอย่างจริงใจ ถ้าเราเป็นคนหึงหวงและริษยา เราจะเป็นผู้ห่างเหินมิตรสหาย ถ้าเรามีมุทิตาในความสำเร็จของผู้อื่น เราจะเป็นที่รักของเพื่อนฝูง และจะมีความเจริญในมิตรภาพ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:33
ศิลปะแห่งการครองเรือน

ในครอบครัว ถ้าหากว่าได้ประพฤติธรรม พ่อแม่ประพฤติธรรม ลูกประพฤติธรรม ถ้ามีคนงานที่เราจ้างมาทำงาน ก็สอนให้เขาประพฤติธรรม ให้ประพฤติดี ประพฤติชอบ บ้านนั้นก็จะกลายเป็นบ้านธรรมะไป ทุกคนในบ้านก็จะมีความสุข มีความสงบ ไม่มีความยุ่งยากลำบากเดือดร้อน พ่อบ้านแม่เรือนนั้นต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรียกว่าคนใจเดียวกันไม่ใช่สองใจ จึงมีหลักว่า... หากจะอยู่กันด้วยความสุขนั้น ต้องมีความเชื่อเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน มีความเสียสละทัดเทียมกัน สามีภรรยาคู่นั้นก็ชื่อว่ามีใจเดียวกัน
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:33
ศิลปะแห่งความเป็นพ่อ

พ่อบ้านเป็นผู้มีความรับผิดชอบมากในครอบครัว ทุกคนอาศัยกำลังของพ่อบ้าน ถ้าพ่อบ้านอยู่ทุกคนก็อุ่นใจ ถ้าพ่อบ้านจากไปทุกคนก็เศร้าสร้อย พ่อบ้านก็ต้องคิดนึกให้รอบคอบ อย่าเห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้า ต้องคิดถึงอนาคตของครอบครัวไว้บ้าง คนที่นึกถึงอนาคตของครอบครัว ต้องเป็นคนรู้จักประหยัด อดออม ขยันหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ หาเงินได้ต้องเก็บไว้บ้าง เพราะในคราวที่หาไม่ได้จักไม่เดือดร้อน
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:34
ศิลปะแห่งความเป็นแม่

แม่ถ้าไปยุ่งกับงานนอกบ้านมากเกินไป จนเสียงานในครอบครัวก็ไม่ถูกต้อง งานสังคมสงเคราะห์ที่ถูกต้องคือ ต้องสงเคราะห์คนในครอบครัวก่อน สงเคราะห์ลูกให้เกิดด้วยคุณธรรม ด้วยการศึกษา ด้วยการประพฤดีประพฤชอบ อย่างนี้เป็นงานที่เราจะต้องเอาใจใส่ก่อน ไปที่ใดแล้วอย่าลืมบ้าน แม่ไปไหนอย่าลืมลูกลืมผัว ต้องรีบกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว ให้มีความอุ่นอกอุ่นใจ ได้รับประทานอาหารพร้อมกัน
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:35
ศิลปะแห่งความเป็นลูก

ในครอบครัวมีพระสองรูป คือ พระพ่อ พระแม่ พ่อแม่เป็นพระประจำบ้านของลูก เป็นพระที่อยู่ใกล้เราตลอดเวลา เราต้องเอาใจใส่ ดูแลรักษาให้ท่านสะดวกสบาย ถือว่าท่านเป็นพระ เป็นเทวดา เราต้องเคารพบูชา คนที่หมั่นนึกถึงบุญคุณพ่อแม่ มักไม่กล้าทำความชั่วความผิด เพราะกลัวพ่อแม่จะร้อนใจ กลัวพ่อแม่จะเป็นทุกข์ จึงไม่ทำความชั่วความเสียหาย

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:35
ศิลปะแห่งความเป็นข้าราชการ

ข้าราชการคือ ผู้ที่ทำงานให้ประชาชนชื่นใจ มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อหน้าที่ ต่อบุคคล มีน้ำใจเสียสละเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวม ทำงานอย่างทุ่มเท รู้จักข่มใจตนเอง ภูมิใจ สุขใจ เมื่อได้ทำงานสุจริต ข้าราชการต้องบำเพ็ญบารมีในฐานะเป็นราชการ คือต้องสำนึกว่า.... เราทำราชการเพื่อรับใช้ประชาชน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความทุกข์ยาก ยิ่งทำมากเท่าไรบารมีก็สูงขึ้น ความนิยมก็เพิ่มขึ้น ทำอะไรก็สำเร็จสมหมาย เพราะประชาชนเสื่อมใส จะทำอะไรก็ได้รับความร่วมมือร่วมใจ นั่นคือ...การบำเพ็ญบารมีที่ถูกต้องของข้าราชการ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:36
ศิลปะแห่งความคิด


ใจเป็นสิ่งบริสุทธิ์มาก่อน แต่จักเศร้าหมองเพราะความคิดชั่วที่จรมา และความคิดชั่วนี้หากมีความหมักหมมมากขึ้นเท่าใด ความเศร้าหมองของใจก็จะทวีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น เมื่อจิตเศร้าหมองไป การทำ การพูด รวมทั้งการแสดงออกต่างๆ ก็เสื่อมไปด้วย ไม่มีอะไรที่เป็นเนื้อแท้ ไม่มีอะไรที่เป็นตัวตนถาวร มันเป็นเพียงสิ่งที่รวมกัน เข้าแล้วไหลไปตามอำนาจของการปรุงแต่งเท่านั้น เมื่อมีอำนาจปรุงแต่งก็ทรงอยู่ได้ เมื่อหมดอำนาจปรุงแต่งก็แตกสลายไป ไม่มีอะไรอีกต่อไป

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:37
ศิลปะแห่งความสุข

เมื่อเราต้องการจะอยู่อย่างสงบสุขแล้ว ทำไมเราจึงไปคิดเรื่องให้มันมีความทุกข์ใจ คิดเรื่องให้เกิดความร้อนอกร้อนใจ นั่งกลุ้มใจอยู่ด้วยเรื่องปัญหาเล็กๆน้อยๆ ซึ่งมันเกิดขึ้นในชีวิตของเรา อย่างนี้ก็เรียกว่า... คิดเรื่องให้ตนเกิดความทุกข์นั่นเอง ไม่มีใครมาทำให้แก่เรา แต่เราทำให้แก่ตัวเราเอง การทำให้แก่ตัวเราเองก็คือว่า คิดเรื่องนั้นขึ้นมาในแง่ที่ไม่ถูกต้อง มองไม่ตรงตามสภาพที่เป็นจริง เลยเกิดปัญหา...
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:37
ศิลปะแห่งความสงบ


คนที่เข้าใจได้ว่าอะไรแล้วจะมีความสุขนั้น ยังเข้าใจไขว้เขวอยู่สักหน่อย ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง จิตใจที่สงบนั่นแหละคือความสุขที่แท้ แต่ส่วนมากไม่ค่อยเข้าใจในแง่นี้ เพราะสิ่งยั่วยวนในโลกนี้มีมากเหลือเกิน คอยหลอกให้เราหลงอยู่ตลอดเวลา หลอกให้เราพลั้งเผลออยู่ในอารมณ์นั้นตลอดเวลา ปัญญารอบรู้จึงไม่เกิดขึ้น เราต้องทำจิตใจของเราให้มั่นคง ไม่ให้ง่อนแง่นคลอนแคลน เราก็จะพบความสงบที่แท้จริงได้
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-9 08:39
ที่มา..http://www.baanjomyut.com/10000sword/art_of_human/12.html
โดย: Metha    เวลา: 2013-12-14 09:48
ขอบคุณน่ะขอรับ





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2