ฉัพพรรณรังสีที่ซ่านออกมาหลังจากทรงพิจารณาพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์มาถึงคัมภีร์มหาปัฏฐาน ในเบื้องต้นฉัพพรรณรังสีออกจากพระวรกายไปสู่เบื้องล่าง จากมหาปฐพีใหญ่ อันหนาถึงสองแสนสี่หมื่นโยชน์ รัศมีเหล่านั้นลอดทะลุแผ่นดิน ลงไปจับน้ำในแผ่นดินหนาถึงสี่แสนแปดหมื่นโยชน์ รัศมีเหล่านั้นเมื่อเจาะทะลุลมแล้ว แล่นลงไปสู่อัชฎากาส อากาศว่าง ๆ ภายใต้ลม ฉัพพรรณรังสีที่แผ่ไปสู่เบื้องบนแผ่ไปตั้งแต่มนุษย์และเทวภูมิ ๖ คือ จากนั้นแผ่ไปยังพรหมโลก ตั้งแต่ชั้นพรหมปาริสัชชา จนถึงชั้นสุทธาวาส ๕ แล้วแล่นไปสู่อัชฎากาส ฉัพพรรณรังสีที่ไปสู่เบื้องขวาอันหาที่สุดมิได้ ไม่มีรัศมีใด ๆ ที่เทียบเท่าได้เลย แม้รัศมีของพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว และเทวดาทั้งหลายก็สู้ไม่ได้ ฉัพพรรณรังสีที่ปรากฏในบรรดาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะให้ผู้อื่นมองเห็นหรือมองไม่ให้ก็ได้ แต่มีฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งพระนามว่า พระมังคละพุทธเจ้า มีพระรัศมีแผ่ไปมากกว่าพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ คือ มีรัศมีแผ่ไปแสนโกฏิโลกธาตุ (แสนโลกธาตุเท่ากับแสนจักรวาล จักรวาลหนึ่งเท่ากับ ๓๑ ภูมิ) ส่องสว่างเป็นรัศมีสีทองทั่วไปตลอดทั้งกลางวันกลางคืน กลบแสงจากดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จนสิ้น ประชาชนจะรู้ได้ว่าเป็นกลางวันจากเสียงนกร้อง เป็นเวลากลางคืนเมื่อดอกไม้บาน เหตุที่พระมังคละพุทธเจ้าทรงมีฉัพพรรณรังสีส่องสว่างโดยตลอดนั้น เพราะสมัยเมื่อเป็นพระโพธิสัตว์ ยักษ์ตนหนึ่งได้ปลอมตัวเป็นพราหมณ์ได้มาขอบุตรสองคนจากพระโพธิสัตว์ พระองค์ทรงบริจาคให้โดยถือว่าเป็นบารมีไปสู่โพธิญาณ พอยักษ์ได้เด็กแล้วก็กินเด็กทั้งสองต่อหน้าพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์เห็นแล้วไม่มีความเสียพระทัยแม้เพียงปลายผม กลับยังพระทัยให้เข้มแข็งปิติโสมนัสโดยเปล่งอุทานว่า "ทานอันใดที่ให้โดยดีแล้ว ยังผลให้สิ้นอาสวะกิเลสเป็นปัจจัยให้บรรลุพระนิพพาน" พระมังคละโพธิสัตว์ได้ทรงตั้งพระทัยปรารถนาว่า เมื่อพระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ขอให้รัศมีแผ่ไปแสนจักรวาลตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้พระองค์ทรงมีรัศมีแผ่ไปแสนจักรวาลคือ ในสมัยที่พระองค์ยังเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านได้เห็นเจดีย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วคิดว่า ควรสละชีพเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้พันกายของตนเป็นคบเพลิง และเอาเนยใสใส่ถาดทองคำสูงประมาณ ๑ ศอกเทินไว้บนศีรษะ แล้วจุดไส้ประทีปที่พันไว้ให้ลุกโพลงทั่วร่างกาย ทำประทักษิณเวียนขวารอบพระเจดีย์ตลอดราตรีจนส่วาง ด้วยอำนาจแห่งการบูชานี้ แม้ขุมขนสักเส้นหนึ่งก็ไม่ไหม้ไฟ ด้วยอำนาจแห่งพระธรรมที่ยอมสละชีพเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติให้เป็นสุข ด้วยผลกรรมนี้ จึงทำให้รังสีของพระมังคละพุทธเจ้าแผ่ไปถึงแสนจักรวาลเป็นนิจตลอดกาล ในสมัยของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงปรินิพพาน พระฉัพพรรณรังสีนี้ก็ดับไปพร้อมกันทั้งหมด |
ที่มา..http://board.postjung.com/m/665753.html |
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |