















ลักษณะความเชื่อการบูชาเทวดานพเคราะห์ ซึ่งเป็นลัทธิที่นิยมกันอยู่นี้ ความประสงค์อันยิ่งใหญ่ คือปรารถนาให้เทพยดาผู้มีมหิทธิฤทธิ์อำนานช่วยเหลือป้องกัน และปลดเปลื้องทุกข์ภัยพิบัติ ยังความเกษมสวัสดิ์ให้บังเกิดมี เป็นธรรมดาของมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง เมื่อได้ประสบทุกข์เข็ญแล้ว ก็พยายามหลีกเลี่ยง หรือแก้ไขทุกข์ภัยด้วยอุบายพิธีต่าง ๆ จึงได้ประกอบพิธีบูชาเทพเจ้าด้วยวรามิสอันวิจิตรบรรจงนานาประการ โดยวิธีทำให้ท่านชอบ และหวังผลตอบแทนคือ ความสุขสำราญนิราศภัย แต่การบูชาเทพดานพเคราะห์ อันเป็นลัทธิไสยศาสตร์ ซึ่งต้องอาศัยคติพุทธศาสตร์เข้าแทรกปนอยู่ด้วยนี้ ย่อมเป็นข้อนำให้สันนิษฐานว่า ผู้ที่จะได้เป็นเทวดานั้น ต้องอบรมคุณงามความดี จนบารมีแก่กล้าสิ้นกาลช้านานจึงเป็นเทวดาได้ เมื่อผู้ใดบูชาสักการะเทวดา ก็เป็นผู้ที่เคารพนับถือและบูชาผู้มีคุณงามความดีนั่นเอง และเป็นอันเชื่อได้ว่า ได้บำเพ็ญกรณีส่วนเทวดาพลี การบูชาผู้ทรงคุณงามความดีจะหาโทษมิได้ ย่อมให้ประสบแต่ผลดี คือความเจริญโดยส่วนเดียว โดยเหตุที่เทวดาพลีธรรมิกสักการเป็นอปริหานิยปฏิบัติ เป็นที่ตั้งแห่งสุขสวัสดิ์วิบูลย์ผลนี้แล เนื่องจากในตำรากล่าวไว้ว่า ดาวพระเคราะห์โคจรเปลี่ยนที่อยู่เสมอทุกดวง ต่างก็มีฤทธิ์อำนาจอันเกิดจากไฟฟ้า แม่เหล็ก ธาตุ แสง สี อากาศ ร้อนเย็นผิดแผกกัน เมื่อดวงใดโคจรมาใกล้ส่วนใดของโลก ก็สามารถบันดาลให้สรรพสิ่งทั่งหลายทั้งปวง เปลี่ยนสภาพไปตามฤทธิ์อำนาจ เป็นคุณหรือโทษของดวงดาวนั้น ๆ มนุษย์ผู้มีจิตใจสูงจึงได้ประกอบพิธีบูชาเทวดานพเคราะห์ หรือการบูชาเทวดาประจำวันเกิดของตน เพื่อความเจริญ ความสุขสำราญนิราศภัย รวมถึงให้ปกป้องคุมครองต่าง ๆ นานานั่นเอง| ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://www.baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |