การงานทางโลกไม่มีวันจบ
ก่อนที่พระอนุรุทธะจะออกบวชได้คุยกับพี่ชายถึงการงานทางโลกที่ต้องเป็นภาระ พี่ชายอธิบายเรื่องการทำนาเลี้ยงชีพว่า ชั้นต้นต้องให้ไถนา ครั้นแล้วให้หว่าน ให้ไขน้ำเข้า ครั้นไขน้ำเข้ามากเกินไป ต้องให้ระบายน้ำออก ครั้นให้ระบายน้ำออกแล้ว ต้องให้ถอนหญ้า ครั้นแล้วต้องให้เกี่ยว ให้ขน ให้ตั้งลอม ให้นวด ให้สงฟางออก ให้ฝัดข้าวลีบออก ให้โปรยละออง ให้ขนขึ้นฉาง ครั้นถึงฤดูฝนก็ต้องทำอย่างนี้อีก เป็นอย่างนี้ทุกปีพระอนุรุทธะฟังแล้วเกิดนิพพิทาญาณเบื้องต้นขึ้นมา คือความเบื่อหน่าย โดยพิจารณาว่า ต้องทำเช่นนี้วนไปวนมา เพื่อหาเลี้ยงชีพไม่ให้อดตายกระนั้นหรือ การงานทางโลกไม่มีวันจบสิ้นจริงๆฆราวาสทำงานทางโลกอย่างไม่มีวันจบ ไม่มีที่จะสิ้นสุด ตายไปแล้วยังต้องกลับมาทำใหม่อีก ทำแล้วทำเล่าทำซ้ำๆ โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ไม่เหมือนงานทางธรรมมีที่จบ มีที่สิ้นสุด มีที่พ้นพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิงและเหตุนี้พระอนุรุทธะจึงออกบวชในพระศาสนาและได้บรรลุอรหัตตผลอันเลิศและยังเป็นเอกในด้านตาทิพย์อีกด้วย
คำนี้ผมจำได้ว่า พระอริยะรูปนึงก็เคยเทศไว้ เห็นจริงตามนี้จริงๆ {:5_166:}{:5_166:}{:5_166:}
หน้า:
[1]