เราเป็นเนื้อนาบุญให้เขาได้หรือเปล่า???
ธรรมะของหลวงปู่หล้า วัดวังโพรงเข้ธรรมที่หลวงปู่เน้นอยู่เสมอคือ ..
ให้พากันหมั่นทำบุญสร้างกุศลให้ครบทั้งสามอย่าง
คือ ทาน ศีล ภาวนา
อย่าประมาทมัวเมาในวัยในชีวิต “ประมาทในวัย” คือ..
ไม่รู้จักวัยว่าวัยไหนควรทำอะไร..
ปฐมวัยคือวัยต้นควรศึกษาเล่าเรียนแสวงหาความรู้เพราะมีวิชาก็เหมือนมีทรัพย์
มัชฌิมะวัยคือวัยกลางควรสร้างฐานะประกอบสัมมาอาชีพด้วยความขยันหมั่นเพียร
ปัจฉิมะวัยคือวัยสุดท้ายควรแสวงหาโลกหน้าที่เป็นสุคติภูมิด้วยการทำบุญ
ให้ทาน รักษาศีลเจริญภาวนา
มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์อื่น ด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
อย่าเบียดเบียนกันรวมทั้งสัตว์อื่นด้วยและอย่าประมาทในชีวิต
ถ้าประมาทต่อสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตก็จะตายจากชีวิต
ประมาทต่อสิ่งที่ให้ความสุขความเจริญแก่ชีวิตคือบุญกุศล
ก็จะตายจากคุณงามความดีคนที่ประมาทแล้วเหมือนคนตายแล้ว ฯ
ส่วนพระเณรหลวงพ่อจะสอนให้มองดูชีวิตว่ามีสาระแก่นสารอะไรบ้างในชีวิตนี้
คนเราเกิดมาในโลกนี้กินแล้วก็ถ่าย ถ่ายแล้วก็กินเป็นอยู่อย่างนี้จนวันตาย
พอตายแล้วยังมีกิเลสอยู่ก็กลับมาเกิดอีก
มากินมาถ่ายอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่รู้จักจบสิ้น
ก่อนที่จะได้กินได้ถ่ายก็ต้องแสวงหาด้วยความทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญ
อย่างพวกเรากินข้าวชาวบ้านที่เขาเอามาทำบุญเอาข้าวเอากับ
ที่เขาแสวงหามาด้วยความเหนื่อยยากมาถวายเพื่อแลกกับบุญ
ดูเหมือนพวกเราไม่ลำบากในการแสวงหาการกิน
แต่ผู้ที่มีความละอายแก่ใจแล้วมันรู้สึกลำบากคือ..
ลำบากใจที่จะกินของเขาเขาให้เราเพราะเขาต้องการบุญ
เรากินของเขาแล้ว ให้บุญเกิดขึ้นกับเขาได้หรือไม่???
เราเป็นเนื้อนาบุญให้เขาได้หรือเปล่า???
ฉะนั้น..
การแสวงหาในการกินของพระเณรที่มีความละอายจึ
งยากลำบากไม่น้อยไปกว่าแสวงหาของฆราวาส
เพราะเราต้องบำเพ็ญเพียรภาวนารักษาวินัยรักษาใจ
ชำระใจให้บริสุทธิ์เป็นเนื้อนาบุญให้เขาได้
เป็นเนื้อนาบุญให้โลกได้เราจึงจะกินของเขาได้..
อย่างเอร็ดอร่อยไม่ตะขิดตะขวงใจ ฯ
{:6_196:}{:6_196:}{:6_196:}
ฉะนั้น..
การแสวงหาในการกินของพระเณรที่มีความละอายจึ
งยากลำบากไม่น้อยไปกว่าแสวงหาของฆราวาส
เพราะเราต้องบำเพ็ญเพียรภาวนารักษาวินัยรักษาใจ
ชำระใจให้บริสุทธิ์เป็นเนื้อนาบุญให้เขาได้
เป็นเนื้อนาบุญให้โลกได้เราจึงจะกินของเขาได้..
อย่างเอร็ดอร่อย
ไม่ตะขิดตะขวงใจ
{:6_200:}{:6_201:}{:6_202:} สาธุ ครับ
หน้า:
[1]