Metha โพสต์ 2013-12-9 08:36

**** การให้ ****

**** การให้ **** การให้เป็นการดำรงชีวิตในระดับสูงสุดผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของชนทั้งหลาย




การให้ทานที่ถูกต้องหรือการให้ทานด้วยความบริสุทธิ์ใจคือการให้ทานโดยไม่หวังผลใดๆ



สิ่งที่เราให้ออกไปคือสิ่งที่เราได้กลับมาถ้าคุณให้สิ่งที่ดีคุณก็จะได้รับสิ่งที่ดีกลับคืนมายิ่งคุณให้มากคุณก็ยิ่งได้รับมากหรือได้กลับคืนมาเป็นสิบเท่า


การให้ทานแก่ผู้อื่นควรทำแบบปิดทองหลังพระเมื่อเราให้โดยไม่หวังผลใดๆ เลยเราจะรู้สึกปลอดโปร่งและมีความสบายใจ


จงให้ทานหรือสื่งที่มีค่าแก่ผู้ที่รู้จักคุณค่าหรือผู้ที่สมควรได้รับ



การให้ทานแบ่งออกเป็นสามอย่างได้แก่

1. ให้ทานเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคทรัพย์และสิ่งของต่างๆ

2. ให้ความรู้เป็นทาน

3. ให้อภัยในความผิดของผู้อื่นที่กระทำต่อเราหรือ "อภัยทาน"


การให้อย่างแรก คือการให้สิ่งของเป็นทานเป็นการให้ที่ง่ายที่สุดแลสะดวกที่สุดเพราะเราเพียงแค่มีสิ่งของและมีผู้รับทานเราก็สำเร็จประโยชน์ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อเสียสละแบ่งปันช่วยเหลือสงเคราะห์ด้วยตัวเราเอง


การให้อย่างที่สองคือการให้ความรู้หรือวิทยาทานหรือให้ศิลปะวิทยาการแก่ผู้ขาดความรู้การให้ในข้อนี้ถือการให้ ธรรมทานเป็นการให้ที่เหนือกว่าการให้ทานทั้งปวงและเป็นการให้ที่ได้บุญกุศลสูงสุด


การให้อย่างที่สามคือ อภัยทานมีบุคคลอยู่สามประเภทที่คุณต้องให้อภัยได้แก่บิดามารดาคนอื่นๆ ทั้งหมดและตัวคุณเอง


***บิดามารดาของคุณเป็นบุคคลประเภทแรกที่คุณต้องให้อภัยไม่ว่าบิดามารดาหรือคนใดคนหนึ่งจะเคยทำร้ายคุณขนาดไหนไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางจิตใจหรือทั้งสองอย่างคุณก็ต้องให้อภัยแก่ท่านโดยยอมรับว่าท่านทำดีที่สุดแล้วจากสิ่งที่ท่านเป็นในหลายๆ กรณี ท่านไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าได้ทำอะไรลงไปจึงทำให้คุณไม่ชอบใจอยู่จนทุกวันนี้


***บุคคลประเภทที่สองที่คุณต้องให้อภัยคือคนอื่นๆ ทั้งหมดคุณต้องให้อภัยได้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ แก่คนทุกคนที่ล่วงเกินคุณโดยไม่มีข้อยกเว้นนี่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณชอบคนๆ นั้นสิ่งที่ต้องทำคือเพียงแค่ให้อภัยการให้อภัยเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเป็นที่สุดเพราะว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนๆ นั้นเลยแต่ทว่ามันเกี่ยวข้องกับความสงบสุขทางใจและความสุขของตัวคุณเอง


***บุคคลที่สามที่คุณต้องให้อภัยก็คือตัวคุณเองคุณต้องให้อภัยตัวเองสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณผิดพลาดซึ่งคุณเคยพูดเคยทำชายและหญิงที่มีปัญญาและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวล้วนแต่เคยทำผิดด้วยกันทั้งนั้นเพราะด้วยความผิดพลาดนั้นเองที่ทำให้พวกเขาได้กลายเป็นคนที่ฉลาดและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวมากขึ้นดังนั้นคุณต้องให้อภัยตังเองสำหรับทุกสิ่งที่คุณได้กระทำลงไป


>>>จงให้อภัยไม่ว่าคนที่คุณเกลียดชังคนที่คุณอาฆาตพยาบาทจะเป็นใครคนที่แบกภาระแห่งอารมณ์ลบไว้ในใจจะพูดเหมือนกันว่าพวกเขาไม่อาจลืมความเจ็บช้ำน้ำใจความขมขื่นความชอกช้ำระกำใจที่คนอื่นทำไว้กับพวกเขาได้พวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการที่พวกเขายังไม่ให้อภัยคู่กรณีเพราะบุคคลนั้นไม่มีความสำนึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไปไม่แม้แต่จะยอมรับหรือทำความเข้าใจว่าได้ทำสิ่งที่แสนเลวร้ายหลายคนพูดถึงคนที่เขาไม่ให้อภัยว่า"ผมให้อภัยเขาไม่ได้เพราะเขาไม่ได้สำนึกหรือเสียใจแม้แต่น้อยคนพวกนี้จึงไม่สมควรจะได้รับการให้อภัยจากผม"ถ้านั่นคือหลักการของการให้อภัยแล้วล่ะก็แน่นอนว่ามีหลายคนในโลกนี้ไม่มีสิทธิ์ได้รับการให้อภัย


มีหลายคนที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นเสียหายแบบถาวรโดยขาดความสำนึกผิดมีหลายคนที่ไม่สนแม้แต่นิดเดียวว่าได้ทำร้ายจิตใจใครบ้างอย่าว่าแต่ทำให้ชีวิตและจิตใจผู้อื่นพังทลายเลย


ขอให้คุณเข้าใจดังนี้ถ้าคุณยอมให้ผู้ใดทำให้คุณเกลียดชังเคียดแค้นชิงชังอาฆาตพยาบาทเขาได้เขาคนนั้นคือผู้ชนะส่วนคุณคือผู้แพ้จงอย่ายอมให้คุณเป็นผู้แพ้อีกแม้แต่วันเดียว


คุณมีความสามารถที่ให้อภัยได้ไม่ใช่เพื่อเป็นของขวัญสำหรับพวกเขาแต่เพื่อเป็นของขวัญสำหรับตัวคุณเอง


หากการให้อภัยของคุณจะทำให้เกิดผลพลอยได้ใดๆ แก่บุคคลนั้นก็ช่างมันเถอะคนที่คุณช่วยไว้คือตัวคุณเองคุณคือผู้ได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการทางอารมณ์นั้น


ตามที่กล่าวมานี้ถ้าคุณยังให้อภัยแก่ใครไม่ได้คุณลองสดับคำสอนของพระพุทธเจ้าต่อไปนี้ดูเผื่อว่าอาจจะช่วยดับความอาฆาตพยบาทลงได้พระธรรมนี้ว่าด้วยธรรมะดับความอาฆาตห้าประการคือ


ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด    พึงเจริญเมตตาในบุคคลนั้น

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด    พึงเจริญกรุณาในบุคคลนั้น

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด    พึงเจริญอุเบกขาในบุคคลนั้น

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด    พึงนึกถึงการไม่นึกไม่ใฝ่ใจในบุคคลนั้น

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด    พึงนึกถึงความเป็นผู้มีกรรมเป็นของๆ ตนให้มั่นในบุคคลนั้นว่าท่านผู้นี้เป็นผู้มีกรรมเป็นของๆ ตนเป็นทายาทแห่งกรรมมีกรรมเป็นกำเนิดมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์มีกรรมเป็นที่พึ่งจักทำกรรมใดดีชั่วก็ตามจักเป็นทายาท(ผู้รับผล)ของกรรมนั้น

พึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นด้วยประการฉะนี้



จงจำไว้ว่าการให้ทานอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างหรือทั้งสามอย่างที่ประกอบด้วยเมตตาเป็นการจรรโลงความรักให้เกิดขึ้น


จงจำไว้อีกว่าไม่มีใครได้รับเกียรติจากการเป็นผู้รับ
เกียรตินั้นเป็นรางวัลสำหรับผู้ให้และมือที่ให้ย่อมจะได้รับด้วยความจริงอย่างหนึ่งที่สำคัญเพื่อให้มีชีวิตอย่างมีความสุข คือคุณต้องให้เพื่อจะได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิตนี้


จงจำให้ขึ้นใจว่าจงให้ก่อนที่จะรับถ้าคุณให้อยู่เรื่อยๆ คุณก็จะมีเรื่อยๆ ไปยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับและหนึ่งในกฎของการมีชีวิตที่ประสบความ���ำเร็จก็คือการที่คุณให้โดยปราศจากความเห็นแก่ตัวแล้วคุณก็จะได้รับผลตอบแทนที่แท้จริงจงคิดถึงเรื่องการให้แทนที่จะคิดแต่เรื่องการรับจงให้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคุณไม่อาจทนที่จะไม่แบ่งปันได้เลย


จงจำไว้เสมอว่าทานที่ให้อย่างเปิดเผยจะให้การตอบแทนอย่างเร้นลับการทำทานไม่เคยเป็นสิ่งที่พอเพียงถ้าคุณคิดว่าคุณให้มากพอแล้วจงคิดอีกครั้งคุณสามารถให้ได้มากกว่านั้นและมีคนที่คุณสามารถให้ได้เสมอ


ที่มา http://www.gotoknow.org/posts/215961

Metha โพสต์ 2013-12-9 08:39

การให้ทาน คือการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนโดยหมายให้ผู้ได้รับได้พ้นจากทุกข์ แบ่งออกเป็น ๓ อย่างได้แก่๑.อามิสทาน คือการให้วัตถุ สิ่งของ หรือเงินเป็นทาน๒.ธรรมทาน คือการสอนให้ธรรมะเป็นความรู้เป็นทาน๓.อภัยทาน คือการให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร หรือพยาบาทกัน

การให้ทานที่ถือว่าเป็นความดี และได้บุญมากนั้นจะประกอบด้วยปัจจัย ๓ ประการอันได้แก่๑.วัตถุบริสุทธิ์ คือเป็นของที่ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ไปยักยอกมา โกงมา หรือได้มาด้วยวิธีแยบยล๒.เจตนาบริสุทธิ์ คือมีจิตยินดี ผ่องใสเบิกบาน ไม่รู้สึกเสียดายสิ่งที่ให้ ตั้งแต่ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้๓.บุคคลบริสุทธิ์ คือให้กับผู้รับที่มีศีลธรรม ตัวผู้ให้เองก็ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์

การให้ทานที่ถือว่าไม่ดี และยังอาจเป็นบาปกรรมถึงเราทางอ้อมอีกด้วยได้แก่๑.ให้สุรา ยาเสพย์ติด เป็นต้น (ถ้าเขาเมาแล้วขับรถชนตาย เราก็มีส่วนบาปด้วย)๒.ให้อาวุธ (ถ้าอาวุธนั้นถูกเอาไปใช้ประหัตประหาร บาปก็มาถึงเราด้วย)๓.ให้มหรสพ คือการบันเทิงทุกรูปแบบ๔.ให้สัตว์เพศตรงข้ามเพื่อผสมพันธุ์ อันนี้รวมถึงการจัดหาสาวๆ ไปบำเรอผู้มีอำนาจหรือผู้น้อยด้วยเป็นต้น๕.ให้ภาพลามก หรือสิ่งพิมพ์ลามก เพราะทำให้เกิดความกำหนัด เกิดกามกำเริบ (เมื่อดูแล้วเกิดไปฉุดคร่า ข่มขืนใคร บาปก็ตกทอดมาถึงเราด้วย)
ที่มาhttp://www.dhammathai.org/treatment/poem/poem15.php

Metha โพสต์ 2013-12-9 08:42

หลวงปู่กับอาจารย์ ก็มีแต่ให้ ให้ลูกศิษย์ได้สมหวัง

Sornpraram โพสต์ 2013-12-9 22:38

{:12_530:}{:12_530:}{:12_530:}

Metha โพสต์ 2013-12-10 00:19

ทำตากลมๆๆ ผมไปต่อไม่เป็นเลย

Sornpraram โพสต์ 2013-12-10 08:18

metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-10 00:19 static/image/common/back.gif
ทำตากลมๆๆ ผมไปต่อไม่เป็นเลย

โบราณท่านว่า..

บรรดาช้างสารงูเห่า อีกทั้งข้าเก่าเมียรัก

ท่านเปรียบไว้นัก อย่าได้วางใจ



mpLHl-xan_4

Metha โพสต์ 2013-12-10 15:38

Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-10 08:18 static/image/common/back.gif
โบราณท่านว่า..

บรรดาช้างสารงูเห่า อีกทั้งข้าเก่าเม ...

ภูมิบา่ถึงยากยั่งรู้

Sornpraram โพสต์ 2013-12-10 21:34

metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-10 15:38 static/image/common/back.gif
ภูมิบา่ถึงยากยั่งรู้

ตีปริศนาธรรม ไม่ออกแสดงว่า ภูมิทำ ยังไม่สูงพอ{:8_405:}

Metha โพสต์ 2013-12-10 23:59

Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-10 21:34 static/image/common/back.gif
ตีปริศนาธรรม ไม่ออกแสดงว่า ภูมิทำ ยังไม่สูงพอ ...

คงต้องหาที่รำเรียนฝึกภูมิทำซ่ะแล้ว

Sornpraram โพสต์ 2013-12-11 22:19

metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-10 23:59 static/image/common/back.gif
คงต้องหาที่รำเรียนฝึกภูมิทำซ่ะแล้ว ...

แล้วเสี่ยเมธ ให้อะไรเป็นทานบางขอรับ{:7_353:}
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: **** การให้ ****