สุเมธดาบส
ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้
http://www.npzmoon.com/wp-content/uploads/2013/05/1368528172-sumet1-o.jpg
ท่านสุเมธดาบสนอนทอดกายให้พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเหล่าพระอรหันตสาวกเหยียบดำเนินข้ามเลนตม
https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/s403x403/295218_489263004422779_1484595955_n.jpg
ท่านสุเมธดาบสนอนทอดกายให้พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเหล่าพระอรหันตสาวกเหยียบดำเนินข้ามเลนตม
ณ วันหนึ่งสุเมธดาบส ออกจากฌานสมาบัติ ประสงค์รสอาหารที่ต่างจากผลไ...ม้ จึงดำริที่จะบิณฑบาตในเมือง จึงเข้าอภิญญาเหาะไปในนภากาศ ซึ่งในขณะนั้น พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงเสด็จโปรดประชาสัตว์ มีผู้คนรอรับเสด็จมากมายเรียงรายกันเป็นทิวแถว เมื่อสุเมธดาบสเหาะมาทางอากาศ ก็ได้ยินเสียงกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาๆ และเห็นหมู่เหล่าเทพเทวดา ทำการพุทธบุชากันมากมายด้วยทิพย์จักษุ เมื่อได้ยินได้เห็นเหล่ามนุษย์และเทพเทวดาทำพุทธบูชา จึงบังเกิดความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เหาะลงบริเวณที่ฝุงชนเรียงแถวกันรอรับเสด็จ และแลเห็นฝูงชนกำลังทำทางดำเนินรับเสด็จให้ราบเรียบ แต่ละท่านก็แบ่งเป็นส่วนๆ สุเมธดาบสก็มีความประสงค์ที่จะสร้างบุญกุศลแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงขอแบ่งที่มาส่วนหนึ่ง ชาวบ้านก็แบ่งให้ที่ส่วนหนึ่ง สุเมธดาบสมีความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงนำดินขนทราย มาทำทางดำเนินให้ราบเรียบ แต่ตรงส่วนที่สุเมธดาบสทำนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อมีน้ำขัง สุเมธดาบสทำทางเกือบเสร็จแล้ว เหลือพืนที่เพียง 1 ช่วงตัว ที่ยังมีน้ำขังอยู่ และพระพุทธองค์ก็กำลังเสด็จมาพอดี ซึ่งถ้าจะขนดินทรายมาถมก็ไม่ทันการณ์ ท่านจึงเอาลำตัวนอนคว่ำปิดช่วงที่น้ำขังนั้น จิตก็จินตนาการด้วยความปีติยินดีไปว่า
"เราได้ทำมหากุศลนี้ แก่พระพุทธองค์ และเหล่าพระสาวก เพื่อประสงค์ให้ตรัสรู้ เป็นดังพระพุทธองค์ในภายหน้า "
ขณะนั้นพระทีปังกรพุทธเจ้าทรงเสด็จมาถึงเบื้องหน้า สุเมธดาบสก็กราบทูลว่า "ขอให้พระพุทธองค์ทรงดำเนินไปบนหลังข้าพระองค์ ไม่ให้พระบาทของพระองค์เปียกด้วยโคลนตม" ครั้นนั้นพระพุทธองค์ทรงพิจารณาด้วยพระสัพพัญญุตาญาณ แล้วตรัสพระวาจา แก่ชาวประชาพุทธบริษัททั้งหลายในที่นั้นว่า..
"ถ้าท่านทั้งหลายแคล้วคลาดจากอมตธรรม ไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพานในศาสนาของเรานี้ และยังต้องท่องเทียวในภพสงสาร นานไปในอนาคตกาลเบื้องหน้า ก็จงปรารถนาให้ใด้บรรลุในศาสนาของดาบสนี้เถิด ในอีก 4 อสังไขยแสนกัป ดาบสผู้นี้จะได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในโลก มีนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า" หลังจากนั้นทั้งมนุษย์และหลายเทพเทวดาก็กล่าวสาธุการ สนั่นดังไปทั่ว
ขณะนั้นก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งเข้ามากราบแทบพระบาทของพุทธองค์ แล้วกล่าววาจาว่า..
ข้าพระบาทได้แลเห็นท่านดาบส ลงมาจากนภากาศ ข้าพระบาทมีความศรัทธาในท่านดาบส เห็นท่านดาบสสร้างทางและทอดกายเป็นสะพาน ข้าพระบาทมีปีติและศรัทธายิ่งขึ้น และเมื่อพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ ท่านดาบสว่า จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ข้าพระบาทศรัทธาปิติยินดียิ่งขึ้น ก็มีใจรักปราถนาเป็นคู่สูขคู่ทุกข์คู่อยาก ช่วยสร้างสมบารมีให้สมบูรณ์
เมื่อพระพุทธองค์ตรวจสอบด้วยพระสัพพัญญูตาญาณแล้ว จึงตรัสวาจาพยากรณ์ว่า..
"ความปรารถนาของนาง จะสำเร็จตามปรารถนา จะได้เป็นพระชายาทรงนามว่า ยโสธารา" เหล่ามนุษย์และเทพยดาต่างสาธุการดังก้อง แล้วพระพุทธองค์ยกพระบาทเบื้องขวาดำเนินไปบนกายของสุเมธดาบส ตามด้วยพระอริยะสาวก เหยียบกายสะพานนั้นไป ถ้าในขณะที่สุเมธดาบสทอดกายเป็นสะพาน และดำริในใจก่อนที่ว่า "ปรารถนาละกิเลสบรรลุถึงนิพพานโดยเร็วพลัน"
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึง พระพุทธองค์ก็จะแสดงธรรมให้ฟังเพียงกึ่งบทคาถา สุเมธดาบสก็จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในทันที แต่เมื่อสุเมธดาบสปรารถนาในพระโพธิญาณอย่างไม่ย่อท้อ พระพุทธองค์จึงตรัสพุทธพยากรณ์
เมื่อพระภิกษุสงฆ์เดินไปหมดแล้ว นิยตโพธิสัตว์สุเมธดาบส (นิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตวที่เทียงแท้แน่นอน) ก็ลุกขึ้นแล้วเหาะไปที่สงบ แล้วนั่งพิจารณาตัวเองด้วยอภิญญา หามีมหาฤาษีใดเทียบได้ พิจารณาบารมีทั้ง 30 ที่เพียรได้บำเพ็ญมา เมื่อครบถ้วนสมบูรณ์ ก็บังเกิดแผ่นดินสั่นหวั่นไหว แล้วเหล่าเทพเทวดาทั่วหมื่นโลกธาตุก็ประชุมกันสักการะด้วยทิพย์สุคนธมาลัย แล้วกล่าวอำนวยพรว่า
" ท่านสุเมธดาบส วันนี้ท่านได้รับพุทธพยากรณ์แห่งองค์สมเด็จพระทีปังกรพุทธเจ้า ท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนในอณาคต คำตรัสพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้แน่นอนไม่มีเป็นสอง ขอให้ท่านดาบสทรงบำเพ็ญบารมีให้ถึงที่สุด เพื่อประโยชน์แก่เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย"
เมื่อสุเมธดาบสนิยตโพธิสัตว์ ได้เห็นหมู่มนุษย์และเทพเทวดาทำสักการะบูชา และกล่าวคำอวยพรเป็นอันมาก ก็มีความยินดีปรีดา จึงอธิษฐานมั่นด้วยวิริยะบารมี หน่วงเอาพุทธานุสติเป็นอารมณ์ นมัสการไปยังทิศ ซึ่งพระทีปังกรพุทธเจ้าเสด็จอยู่ แล้วเหาะไปยังอาศรมแห่งตน เจริญอภิญญาสมาบัติมิให้เสื่อมสิ้นอายุขัยไปอุบัติเกิดในพรหมโลก
พระสุเมธดาบส ก็คือ พระโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) เป็นองค์ที่ ๔ ในกัปล์นี้ ซึ่งได้รับพุทธพยากรณ์จากพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ในเบื้องหน้าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
http://i1091.photobucket.com/albums/i382/Lovely_Wee/33biography-of-Lord-Buddha.jpg
{:5_148:}{:5_148:}{:5_148:} {:6_200:}
หน้า:
[1]