อิจฉา
คุณอาจเคยอิจฉาคนรู้จักสักคนที่ได้ดิบได้ดีเกินหน้าเกินตาอิจฉาดาวเดือนประดับฟ้าอิจฉาคนมีชื่อเสียงที่คุณอาจไม่รู้จักเขาดีพออิจฉาได้แม้กระทั่งคนในสายเลือดเดียวกันอิจฉาศัตรูคู่แค้นอิจฉาคนใกล้ตัวหรือแม้กระทั่งแอบอิจฉาเพื่อนที่คุณคบหา สนิทสนมกว่าใครhttps://scontent-fbkk5-7.us-fbcdn.net/v1/t.1-48/1426l78O9684I4108ZPH0J4S8_842023153_K1DlXQOI5DHP/dskvvc.qpjhg.xmwo/w/data/783/783254-topic-ix-0.jpg
ที่สำคัญคุณคงไม่ค่อยพอใจกับความรู้สึกแบบนี้เท่าไหร่หลายครั้งอาจตำหนิตัวเองด้วยซ้ำ..ว่าทำไมเราถึงเป็นคนแบบนี้รู้สึกแย่ทุกครั้งที่คุณเกิดความรู้สึกอิจฉาใครสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอยากที่จะแข่งขันเอาชนะกับใครคนนั้น เพื่อเปลี่ยนให้เขามาเป็นฝ่ายอิจฉาคุณบ้างความอิจฉาเป็นเรื่องธรรมดาคุณไม่ผิดที่จะอิจฉาใครหลายๆคนแต่คุณจะเหนือธรรมดาถ้าเปลี่ยนการมองใครสักคนด้วยความอิจฉามาเป็นมองหาต้นสายปลายเหตุ และเอาแบบอย่างที่ดีของเขามาสร้างเหตุที่คุณจะเป็นแบบเขา หรือใกล้เคียงได้บ้างhttps://www.reunglaochaosiam.com/wp-content/uploads/2018/05/FB_IMG_1526118482482-300x200.jpgเมื่อก่อนฉันก็เป็นพวกอิจฉาริษยาคนนั้นคนนี้ไปทั่วโดยไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเองผลที่ได้คืออะไร..แน่นอน อย่างที่บอกคือความอิจฉาเป็นเรื่องธรรมดาและคุณก็ต้องยอมรับลักษณะที่เป็นธรรมดาของความอิจฉาทุกครั้งที่ความอิจฉาเกิดขึ้นในใจคุณจะค่อยๆทวีความหนักหน่วงรุ่มร้อน ไม่เป็นสุขไม่เบาสบายอันนี้เป็นเรื่องที่คุณคงปฏิเสธไม่ได้และเมื่อคุณไม่คิดจะทำอะไรได้มากไปกว่าการอิจฉาคนที่เข้ามาอยู่ในครรลองสายตา และทำให้คุณอิจฉาได้นั้นก็จะยิ่งทวีความร้อน ความหนัก ความทึบ ความไม่สบายขึ้นในจิตใจของคุณความทรมานที่คุณสร้างขึ้นเอง และเห็นได้ชัดน่าจะเป็นเหตุเพียงพอให้คุณอยากอยู่เหนือธรรมดาขึ้นมาได้บ้างบางคนพออิจฉา ริษยา ใครความรุ่มร้อนที่มีเป็นทุนเดิมจากการอิจฉาhttps://www.reunglaochaosiam.com/wp-content/uploads/2018/05/FB_IMG_1526118488019-300x199.jpg
ก็ยิ่งเพิ่มทวี จากการนินทา การใส่ร้าย การทำทุกทางให้เป้าหมายเสื่อมเสียด้วยปากของเขาหากคุณลองเปลี่ยน..มองในอีกมุมความดีงามที่น่าอิจฉาของใครคนนั้น มีสาเหตุมาจากลักษณะการคิด การพูด และการกระทำอย่างไรคุณลองมองด้วยความเป็นกลาง ว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่กับสิ่งที่เขาควรได้รับแทนที่จะเห็นใครแล้วได้แต่อิจฉา หมั่นไส้แต่คุณพยายามมองหาต้นเหตุ และสาเหตุของการได้มาเหล่านั้นคุณก็จะพบความงามของโลกที่ต่างออกไปและที่สำคัญคุณจะมีแก่ใจเริ่ม..ชื่นชมใครที่เคยทำให้คุณอิจฉาด้วยปากของคุณเองเพราะเห็นแล้วว่า สิ่งที่เขาคิด พูด ทำ สมควรแล้วกับสิ่งที่เขาได้ใครหลายๆคน อาจทำให้คุณอิจฉาและ รู้สึกขัดแย้งกับที่มาเพราะเขาอาจไม่เห็นจะทำอะไรที่ดีงามเพียงพอสำหรับสิ่งดีๆที่ได้รับตั้งมากมายอันนั้นคุณก็คงได้แต่มองความอิจฉาเป็นของร้อน ของไม่เที่ยง ที่แวะเวียนมาทักทายแล้วก็จากคุณไปประโยชน์อย่างยิ่งคือใจคุณเองไม่ต้องแช่อยู่กับความทุกข์ที่ตัวเองสร้างขึ้นแต่สำหรับใครบางคนที่คุณอิจฉา และเขามีดีสมควรแก่สิ่งที่คุณอิจฉาจริงคุณจะได้ประโยชน์จากการช่างสังเกตลักษณะการคิด พูด ทำ อันเป็นที่มาเหล่านั้นว่าคิดดีอย่างนี้นี่เอง ถึงมีแต่ความสุขแบบนั้นพูดดีอย่างนี้นี่เอง ถึงมีแต่คนอยากอยู่ใกล้ปรารถนาดีกับคนอื่นอย่างนี้นี่เอง ถึงมีแต่ความรักที่ได้รับจากใครๆทำดีอย่างนี้นี่เอง ถึงประสบความสำเร็จในชีวิตhttps://www.reunglaochaosiam.com/wp-content/uploads/2018/05/4-U1495404-635379439650450476-1-300x199.jpg
ถ้ามองอย่างนี้ นอกจากจะไม่ต้องแช่ใจไว้กับความร้อนแล้วคุณยังได้โอกาสในการพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเองได้เข้าใจว่าผลย่อมไหลมาแต่เหตุ ไม่มีอะไรที่ได้มาลอยๆ หรือด้วยความบังเอิญและหากสั่งสมนิสัยการรู้จักมองอย่างเป็นกลาง โดยปราศจากอคติเช่นนี้แล้วคุณจะเริ่มมองใครต่อใครด้วยสายตาเป็นมิตร มองใครต่อใครด้วยความชื่นชมจากใจจริงจะเริ่มเคยชินกับการพลอยยินดีในความสุขความสำเร็จของผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณชินแล้วกับการออกปากชื่นชมความดีของใคร ให้คนอื่นได้ร่วมรับรู้กระแสความเย็นสบายจากจิตใจที่ไม่เพ่งโทษผู้อื่นจะค่อยๆพยุงคุณขึ้นจากบ่อน้ำร้อนแห่งความอิจฉาริษยาคุณจะรู้สึกดีผิดธรรมดาที่รู้สึกอยากชื่นชมคนที่คุณเคยอิจฉาด้วยตัวเองและรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการทำเหตุให้ถึงพร้อมได้กำไรจากการมีชีวิตอยู่..จนกระทั่งสุดท้ายคุณนั่นแหละจะห่างหายจากธรรมดาของโลกแห่งการอิจฉา และสร้างโลกใหม่แห่งการยินดีในความดีให้กับผู้อื่นต่อไป…..#แชร์บอกต่อเป็นธรรมทานขอบพระคุณที่มา แดนพุทธะ
{:6_202:} {:5_166:}{:5_166:}{:5_166:}
หน้า:
[1]