oustayutt โพสต์ 2018-2-12 22:15

หลวงพ่อปุย วัดเกาะ สุพรรณบุรี

พระคณาจารย์ผู้มีเวทย์วิทยาคมแก่กล้า มีพลังจิตสูงสามารถกำราบปราบภูตผีต่างๆได้ (ไล่ผีได้) ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ ความเฉียบขาด ความดุ และวาจาศักดิ์สิทธิ์ประดุจพระร่วงของหลวงพ่อปุยเป็นที่กล่าวขานกันมากจนบรรดานักเลงใหญ่และเสือร้าย(โจร)ทั้งหลายของเมืองสุพรรณต่างเกรงกลัวบารมีของท่าน จนท่านได้รับสมญานามว่า "ปากพระร่วง"

หลวงพ่อมีนามว่า ปุย นามสกุล รักกูล เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๓๘ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะแม ณ.บริเวณศาลเจ้าพ่อพระปู่หมื่น บ้านบางงาม ตำบลวังหว้า อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ ฉลาด โยมมารดาชื่อ แรด มีอาชีพทำนา หลวงพ่อเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง๕ คนในวัยเยาว์อายุ๕ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากไว้กับหลวงปู่เฒ่าพราย วัดเกาะ พระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงยุครุ่นเดียวกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงลุงของหลวงพ่อปุยท่าน ให้เล่าเรียนหนังสือเพื่อจะได้มีความรู้เหตุที่เรียกหลวงปู่เฒ่า เป็นเพราะแรกเริ่มหลวงพ่อปุยท่านเป็นผู้เรียกก่อน และต่อมาชาวบ้านในยุคนั้นก็เรียกตามท่าน และด้วยหลวงปู่พรายท่านเป็นพระที่พรรษาสูง อายุมากถึง๙๐กว่าปีด้วยวัยเด็ก หลวงพ่อปุยท่านเป็นเด็กที่มีลักษณะเข้มแข็ง จะเล่นอะไรจะทำอะไรต้องเป็นหัวหน้าคน ติดจะเป็นคนจริง แต่ถือคติที่ว่า ไม่รังแกใครก่อน แต่ใครจะมารังแกไม่ได้ท่านอยู่วัดเกาะตั้งแต่วัยเด็กถึงเติบโตเป็นหนุ่ม ซึ่งนับเป็นระยะเวลาหลายปี ระหว่างที่อยู่วัดเกาะท่านได้ศึกษาอักขระไทยและขอม วิปัสสนากรรมฐาน แพทย์แผนโบราณและเวทมนต์คาถาอาคมต่างๆจากหลวงปู่เฒ่าพราย แล้วเวลาว่างท่านยังพายเรือไปตามแม่น้ำบ้านคอยเพื่อไปศึกษาวิชาต่างๆจากหลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบอีก(วัดตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก) จึงทำให้ท่านมีความรู้ในด้านต่างๆอย่างมากมายวัยหนุ่มมีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรงบึกบึน ใจคอกล้าหาญเฉียบขาด มีความเป็นผู้นำ ทั้งยังมีวิชาอาคม พรรคพวกนักเลงทั้งหลายจึงยกย่องให้เป็นลูกพี่ บิดามารดาเห็นว่าต่อไปสักวันอาจจะพลาดพลั้งเกเรไปเป็นเสือเป็นโจรได้ จึงให้กลับมาช่วยทำงานที่บ้านปีพุทธศักราช ๒๔๕๘ ท่านได้เข้ารับราชการประจำการเป็นทหารอยู่ ๒ ปี ซึ่งในยุคนั้นตรงกับช่วงวงครามโลกครั้งที่๑พอดีhttp://img.tnews.co.th/userfiles/images/19554113_1748781105420240_4108148531773352064_n.jpg


oustayutt โพสต์ 2018-2-12 22:16

เมื่อปลดจากประจำการแล้ว ท่านได้อุปสมบทเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาและผู้มีพระคุณทั้งหลายอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ เดือนพฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๖๑ ณ. พัทธสีมาวัดเกาะ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีหลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์หลวงพ่ออินทร์ วัดราษฎรบำรุง (หลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ปุญญสิริ”หลังจากอุปสมบท ก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดเกาะ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กันไปอีกหลวงพ่อปุยท่านเป็นผู้ใฝ่การศึกษา ( คนโบราณเรียกว่าผู้คงแก่เรียน ) จึงได้เพียรศึกษาหาวิชาความรู้จากพระอาจารย์หลายๆท่าน เช่น- ศึกษาอักขระไทยและขอม วิปัสสนากรรมฐาน แพทย์แผนโบราณ และวิชาอาคมต่างๆจาก หลวงปู่เฒ่าพราย วัดเกาะ และหลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ- ศึกษาการแสดงพระธรรมเทศนาแบบโบราณจากหลวงตาอ่วม วัดเกาะ ( การแสดงพระธรรมเช่นนี้หาได้ยากใกล้จะสูญหายแล้ว)- ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และวิชาอาคมต่างๆจากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา , หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว , หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์- แลกเปลี่ยนความรู้ด้านพุทธาคม แพทย์แผนโบราณ และด้านต่างๆกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย เป็นต้นอุปนิสัยอีกอย่างของท่านคือ เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี จึงทำให้ท่านมีสหธรรมิกและสนิทชิดชอบกับพระเกจิอาจารย์ดังมากมายหลายท่าน เช่นหลวงพ่อสด วัดปากน้ำท่านเจ้าคุณเมตตาวิหารี วัดคูหาสวรรค์หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอยหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์หลวงปู่แขก วัดหัวเขาหลวงพ่อปอ วัดบ้านบึงหลวงพ่อกอง วัดโพธารามหลวงพ่อแช่ม วัดราษฎรบำรุงหลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารีหลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย เป็นต้นhttp://img.tnews.co.th/userfiles/images/23261-1.jpg



oustayutt โพสต์ 2018-2-12 22:16

ครั้งหนึ่งสมเด็จพระสังฆราชป๋า วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม ทรงตรัสชมท่านเป็นพระบ้านนอกธรรมดาที่ไม่ธรรมดา พร้อมกับมอบปากกาด้ามทองในย่ามประทานให้ และบางครั้งหากสมเด็จพระสังฆราชท่านเสด็จเดินทางผ่านมาเมืองสุพรรณ ท่านก็มักจะเสด็จไปพบและพูดคุยกับหลวงพ่อปุยที่วัดเกาะด้วยอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นแหล่งที่มีพระภิกษุชั้นมหาเปรียญมากที่สุดในประเทศไทย(เป็นข้อมูลทีทางวัดปากน้ำภาษีเจริญได้บันทึกไว้) มีพระภิกษุสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยคหลายสิบท่าน ตั้งแต่สมัยอดีตจวบจนปัจจุบัน และพระภิกษุที่ได้รับเปรียญธรรม ๙ นั้น ส่วนใหญ่นั้นล้วนแต่เป็นศิษย์หลวงพ่อปุย วัดเกาะ จบการศึกษาจากสำนักเรียนวัดเกาะทั้งนั้น ทั้งๆที่หลวงพ่อปุยท่านก็ไม่ได้เป็นพระมหาเปรียญ เป็นเพียงพระที่จบนักธรรมตรีเท่านั้น แต่ท่านสามารถอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ท่านจนได้เป็นถึงพระมหาเปรียญหลวงพ่อปุยท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย อาทิ พระธรรมปัญญาภรณ์ ( เจ้าคุณสุชาติ )เลขานุการแม่กองบาลีสนามหลวงเจ้าคณะภาค๕ วัดปากน้ำ , หลวงพ่อเซ้ง วัดเกาะ ( มรณภาพแล้ว ), ดร.เสริม วงษ์จันทร์ , ศาสตราจารย์เชาวน์ มณีวงษ์ เป็นต้นวัตถุมงคลของหลวงพ่อปุย ท่านสร้างไว้หลายประเภท ได้แก่ ภาพถ่าย ตะกรุด แหวน เหรียญรูปเหมือน พระผงรูปเหมือน รูปหล่อ ล็อกเก็ต ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่นทุกชนิดล้วนแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น เคยมีผู้มีประสบการณ์จากวัตถุมงคลของท่านมากมาย อย่างเช่น- ( เหรียญรุ่นแรก , เหรียญรุ่นบล็อกแตก ) นายห่ง ศรีบานเย็น นักเลงขึ้นชื่อเมืองสุพรรณ ถูกยิง2ครั้ง ด้วยปืน เอ็ม.16 แต่ไม่เข้า , ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. แต่ไม่เข้า- ( ภาพถ่ายขนาดบูชารุ่นแรก ปี 2509 ) ภรรยานายห่ง ศรีบานเย็น ถูกยิงด้วยปืน เอ็ม.16 ( เหตุการณ์เกิดพร้อมกับนายห่ง ) แต่แคล้วคลาด ลูกกระสุนไม่โดนเลย- ( เหรียญรุ่น ๒ ) สองสามีภรรยาลูกบ้านวัดเกาะทั้งคู่คล้องเหรียญรุ่น 2 ไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางฝนตก ถนนลื่น รถเกิดตกเหวแต่ไม่ตายทั้งคู่- ( เหรียญรุ่น ๓ ) วัยรุ่นถูกฟันด้วยดาบไม่เข้า- ( เหรียญรุ่นบล็อกแตก ) วัยรุ่น4คนไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ ถูกฟัน3คน คนหนึ่งชื่อเล่นว่า นายโม นามสกุล โพธิ์หอม บ้านอยู่แถววัดละหาร อ.ศรีประจันต์ คล้องเหรียญบล็อกแตกองค์เดียว ถูกฟันด้วยมีดดาบเข้ากลางกะบาล แต่ไม่เข้า ส่วนเพื่อนที่เหลือไม่ได้คล้องพระอะไรเลย ถูกฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์เกิดเมื่อเดือนเมษายน ปีนี้เอง- ( เหรียญรุ่นพิเศษ ) ถูกมีดเหน็บแทงไม่เข้า- ( เหรียญรุ่นวัดหนองเพียร ) ถูกตีหัวไม่แตก , รถแหกโค้ง คนที่คล้องเหรียญหลวงพ่อปุยไม่มีแม้แต่แผล ส่วนคนที่ไม่ได้คล้องพระอาการสาหัส- รถเก๋งชนกับรถสิบล้อ สภาพยับเยินซ่อมไม่ได้ แต่คนขับไม่ตาย ( เหรียญรุ่นพระราชทานเพลิงศพ )หลวงพ่อปุยท่านละสังขารวันที่ ๘ เดือนกุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ สิริอายุ ๘๔ ปี ๖๑ พรรษา หลังจากมรณภาพแล้วทางวัดเก็บศพไว้หลายปี เมื่อเปิดดูปรากฏว่าศพท่านไม่เน่า แต่ต่อมาก็ได้พระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๐ ตามกำหนดการที่ทางหลวงกำหนดมา ซึ่งก็ต้องจัดตามกำหนดหลวงhttp://img.tnews.co.th/userfiles/images/1491093-19599.jpgขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพและที่มาเนื้อหาข้อมูล http://www.watkositaram.comศิษย์มีครู
เรียบเรียงโดยศักดิ์ศรี บุญรังศรีhttp://www.tnews.co.th/contents/333089



Sornpraram โพสต์ 2018-2-15 09:07

{:5_148:}
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: หลวงพ่อปุย วัดเกาะ สุพรรณบุรี